8 วิธีขึ้นราคาสินค้าโดยไม่เสียลูกค้า

เชื่อว่าเจ้าของสินค้า พ่อค้าแม่ค้า มีเหตุผลเป็นล้านเวลาที่จะ ขึ้นราคาสินค้า ไม่ว่าจะเป็น การใช้วัสดุใหม่ที่มีคุณภาพมากขึ้นแต่ต้นทุนก็แพงขึ้นเช่นกัน การปรับเปลี่ยนดีไซน์สินค้าหลัก

หรือเปลี่ยนโรงงานผลิต ปัญหาทางเศรษฐกิจ ค่าครองชีพสูง ค่าแรงของคนงาน เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นเหตุผลที่จะนำมาอธิบายใจลูกค้ารับทราบถึงความจำเป็นในการปรับขึ้นราคาสินค้า แต่จะทำอย่างไรให้ลูกค้าประจำที่ใช้บริการซื้อสินค้าของคุณเข้าใจ และไม่หนีหายไปเสียก่อน

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มี 8 วิธีขึ้นราคาสินค้า โดยที่ไม่ให้สูญเสียลูกค้าไป อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ inc.com มาฝากผู้ประกอบการธุรกิจ เจ้าของแบรนด์สินค้าและบริการ รวมถึงบรรดาพ่อค้าแม่ค้าทุกๆ ท่านครับ

ขึ้นราคาสินค้า

1.แสดงความซื่อสัตย์

เพราะความลับไม่มีในโลก เมื่อคุณมีแผนที่จะขึ้นราคาสินค้าบริการของตัวเอง สิ่งที่ต้องทำก็คือแจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้าก่อน เพื่อแสดงความซื่อสัตย์และจริงใจ อีกทั้งคุณอาจมอบส่วนลดพิเศษ หรือของสมนาคุณ เพื่อให้พวกเขารู้สึกมีขวัญและกำลังใจที่ดีจากการขึ้นราคา

2.ขอบคุณลูกค้าและอธิบายตรงๆ

หลังจากเพิ่มราคาสินค้าแล้ว สิ่งที่ต้องทำก็คือกล่าวขอบคุณลูกค้า ต่อการสนับสนุนที่ผ่าน รวมถึงอธิบายเหตุผลของการขึ้นราคาในครั้งนี้ว่าเพราะเหตุผลอะไร และไม่ลืมที่จะการันถึงคุณภาพ ผลประโยชน์ในสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับเพิ่มเติม เพื่อให้พวกเขาเกิดความสบายใจ และยินดีที่จะจ่ายเงินเพิ่มแบบไม่ลังเล

yy2

3.เพิ่มมูลค่าให้สินค้า

เพื่อให้การปรับขึ้นราคา เป็นที่พอใจและไม่กระทบต่อการใช้สินค้าของลูกค้าที่เป็น Brand loyalty มากนัก การเพิ่มฟีเจอร์บางอย่างลงไป หรือการปรับปรุงพัฒนาตัวผลิตภัณฑ์ เช่น ขนมรสชาติใหม่ ยาสีฟันสูตรใหม่ เป็นต้น ซึ่งจะให้ลูกค้ารู้สึกว่าจำนวนเงินที่จ่ายเพิ่มไปนั้นคุ้มค่าต่อการที่จะเสียให้กับคุณ

4.แสดงให้เห็นว่าราคาที่เพิ่มคุ้มค่า

ก่อนที่จะทำการเพิ่มราคา ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า สินค้าสามารถแสดงให้ลูกค้าเห็นได้ว่ามีมูลค้าเหมาะสมกับราคาที่ตั้งใหม่ ตั้งแต่ตัวบรรจุภัณฑ์ ตัวสินค้ารวมถึงวัตถุดิบส่วนผสมที่เลือกใช้ และมีการนำเสนอขายที่ดีด้วย เพราะมิเช่นนั้นแล้ว ลูกค้าของคุณจะไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน

yy1

5.ยื่นข้อเสนอพิเศษให้ลูกค้า

วิธีนี้หากคุณต้องการเพิ่มราคาสินค้า แต่ไม่อยากปรับปรุงตัวสินค้ามากนัก อาจทำได้โดยการมอบสิทธิข้อเสนอพิเศษต่างๆ ให้กับลูกค้า หรือตั้งราคาที่เพิ่มขึ้นโดยพ่วงบริการจัดส่งฟรี

เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าการจ่ายเพิ่มเงินอีกสักนิด แต่ได้บริการจัดส่งฟรีมาถือว่าเป็นเรื่องที่คุ้มค่า หรือหากคุณมีลูกค้าเป็นธุรกิจขายปลีก สั่งซื้อสินค้ากับคุณ คุณอาจยื่นข้อเสนอในเรื่องของการ Order จำนวนมาก เพื่อได้ในราคาที่ถูกลง เป็นต้น

6.เพิ่มบริการพร้อมกับเพิ่มราคา

เทคนิคนี้เป็นเทคนิคที่ได้ผลมากที่สุด สมมติคุณซื้อมะม่วง 1 ลูกราคา 10 บาท อีก 1 อาทิตย์ถัดมา อยู่ดี ๆ ร้านที่ขายมะม่วงเพิ่มราคาเป็น 12 บาท ทั้ง ๆ ที่เป็นมะม่วงแบบเดิม คุณจะรู้สึกยังไงครับ ซึ่งแน่นอนว่าคนส่วนใหญ่จะรู้สึกแพงขึ้น แต่ถ้าร้านมะม่วงเหมือนเดิมบอกว่า ถ้าคุณจ่าย 12 บาท เราจะมีบริการปลอกเปลือกและเฉาะมะม่วงให้ด้วย

yy4

7.ให้ของสมนาคุณเล็กๆ น้อยๆ

คุณอาจพิจารณาให้ของสมนาคุณแก่ลูกค้าเก่า อาจจะเป็นของขวัญเล็กๆ น้อยๆ หรือคูปองส่วนลดสำหรับการสั่งซื้อปกติในครั้งต่อไป ในส่วนนี้ก็จะต้องระวังเช่นกัน การใช้คูปองต้องระบุให้ชัดเจนสำหรับสินค้าที่ร่วมรายการหรือสินค้าที่มีการปรับขึ้นราคา เพราะไม่อย่างนั้นแล้วอาจจะสร้างผลกระทบอย่างมากให้แก่คุณก็เป็นได้

8.เปลี่ยน Branding

คุณอาจจะต้องทำการปรับเปลี่ยนหน้าเว็บไซต์ใหม่ รวมถึงบรรจุภัณฑ์และลักษณะทั่วไปของสินค้าให้มีความสวยงามมากขึ้น ปรับเปลี่ยนให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น มีความทันสมัยมากขึ้น อาจจะกระทำไปพร้อมๆ กันกับการปรับขึ้นราคา ไม่ว่าจะเป็นป้ายฉลากใหม่ โลโก้ใหม่ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ในระดับที่สูงขึ้นและดูมีความเป็นเมื่อชีพ น่าเชื่อถือยิ่งขึ้น

ทั้งหมดเป็น 8 วิธีการในการขึ้นราคาสินค้า โดยที่ไม่ทำให้ลูกค้าสูญหายไปไหน ผู้ประกอบการท่านใด หรือเจ้าของแบรนด์สินค้าที่กำลังจะเพิ่มราคาสินค้าให้สูงขึ้น เพื่อผลกำไร ก็ลองแนวทางข้างต้นไปเป็นแบบอย่างเพื่อไม่ให้ลูกค้าหายไปไหน

อ่านบทความเกี่ยวกับธุรกิจอื่นๆ คลิก goo.gl/aXWyVb


Tips

  1. แสดงความซื่อสัตย์
  2. ขอบคุณลูกค้าและอธิบายตรงๆ
  3. เพิ่มมูลค่าให้สินค้า
  4. แสดงให้เห็นว่าราคาที่เพิ่มคุ้มค่า
  5. ยื่นข้อเสนอพิเศษให้ลูกค้า
  6. เพิ่มบริการพร้อมกับเพิ่มราคา
  7. ให้ของสมนาคุณเล็กๆ น้อยๆ
  8. เปลี่ยน Branding

อ้างอิงข้อมูล goo.gl/iqD35v

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช