7 เรื่องน่ารู้ของ “โอสถสภา” ที่เข้าสู่ตลาดหุ้นเรียบร้อย

7 เรื่องน่ารู้ของ “โอสถสภา” ที่เข้าสู่ตลาดหุ้นเรียบร้อย  ถ้าพูดถึงธุรกิจเก่าแก่อายุเกินกว่า 100 ปีในเมืองไทยมีอยู่ไม่กี่ราย ที่พอจะนึกได้ก็มีบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) อายุ 105 ปี แก่กว่านั้นอีกหน่อยก็เป็นธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ที่อายุธุรกิจปาเข้าไป 112 ปี แต่ที่อยู่มานานกว่านั้นอายุถึง 127 ปี ก็คือบริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน)

www.ThaiSMEsCenter.com เชื่อว่าเราทุกคนรู้จักสินค้าของโอสถสภา อย่างดีที่ชัดเจนก็คือ ยาทัมใจที่เห็นกันมาตั้งแต่เนิ่นนาน หรือสินค้ายุคใหม่ที่เด็กยุคใหม่ก็ต้องรู้จักอย่าง M-150 และลิโพวิตัน-ดี , เครื่องดื่มบำรุงกำลัง Shark และ เอ็ม-สปอร์ต

484

นอกจากนี้ยังมีสินค้าที่เป็นข้าวของเครื่องใช้เช่น เบบี้มายด์ ,ทเวลฟ์พลัส ,โบตันมิ้นท์บอล, โอเล่ ฯลฯ ซึ่งหากพิจารณาตัวเลขรายได้ของโอสถสภาถือว่ามั่นคงแข็งแรงแต่อย่างที่ทราบว่าเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา โอสถสภาได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลหรือไฟลิ่ง ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อนำบริษัทเข้าสู่ตลาดหุ้นโดยตั้งเป้าระดมทุนจากการเข้าตลาดหุ้นครั้งนี้ 1.5 หมื่นล้านบาท

เป็นคำถามน่าสนใจว่าโอสถสภาต้องการระดมทุนเพื่ออะไรเพราะในช่วงที่ผ่านมาสินค้าของโอสถสภาก็ขายดีติดลมบนและบริษัทก็มีกำไรต่อเนื่องดังนั้นเราลองมาดู 7 เรื่องน่ารู้ของ โอสถสภา หลังจากที่เข้าสู่ตลาดหุ้นว่ามีอะไรบ้าง

1.ผู้บริหารของโอสถสภาปัจจุบันอยู่ใน Generationที่5

485

ผู้บุกเบิกธุรกิจนี้คือ คุณแป๊ะ แซ่ลิ้ม (โอสถานุเคราะห์) ที่เริ่มจากการเปิดร้านขายยาและสินค้าเบ็ดเตล็ดที่ชื่อว่า ร้านเต็กเฮงหยู จากนั้นก็มีรุ่นลูกเข้ามาสานต่อกิจการ และสืบทอดกิจการพร้อมขยายธุรกิจมาอย่างต่อเนื่องจนปัจจุบันที่เป็นรุ่นที่ 5 คือคุณเพชร โอสถานุเคราะห์ ,คุณรัตน์ โอสถานุเคราะห์ และคุณนิติ โอสถานุเคราะห์

2.โอสถสภามีที่ปรึกษาทางการเงินคือ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) จำกัด (มหาชน)

479

การเข้าสู่ตลาดหุ้นนี้ทางโอสถสภามีที่ปรึกษาทางการเงินคือบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ BLS และบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ PHATRA ซึ่งโอสถสภาด้ใช้เวลาเตรียมตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์มาเป็นเวลาพักใหญ่ก่อนที่จะปรากฏเป็นข่าวตามที่ได้รับทราบ

3.มีหุ้นพร้อมจำหน่ายให้ประชาชนกว่า 600 ล้านหุ้น

คนที่สนใจลงทุนในตลาดหุ้นกับโอสถสภาสามารถเลือกซื้อหุ้นที่พร้อมจำหน่ายหุ้นสามัญ(IPO) ให้แก่ประชาชนมีจำนวนหุ้นทั้งหมด 603,750,000 หุ้น โดยเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดยบริษัท จำนวนไม่เกิน 506,750,000 หุ้น และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย Orizon Limited จำนวนไม่เกิน 67,000,000 หุ้น รวมถึงหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย Y Investment Ltd จำนวนไม่เกิน 30,000,000 หุ้น

4.โอสถสภามีกำไรในปี 2560 เกือบ 3,000 ล้านบาท

487

จากที่โอสถสภามีสินค้าหลายชนิดและสินค้าเหล่านี้บางส่วนก็เป็นผู้นำทางการตลาดทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิที่ดีเสมอมาเช่น ปี 2558 กำไรสุทธิ 2,336 ล้านบาท
ปี 2559 กำไรสุทธิ 2,980.5 ล้านบาท
ปี 2560 กำไรสุทธิ 2,939 ล้านบาท
โดยบริษัทมีสินทรัพย์รวมเมื่อสิ้นปี 2560 อยู่ที่ 15,197.6 ล้านบาท

5.คาดการณ์ระดมทุนเพื่อขยายกิจการในต่างประเทศ

488

ตามแบบของไฟลิ่งที่ยื่นกับก.ล.ต. นั้น โอสถสภา ระบุว่า เพื่อเป็นเงินทุนสำหรับการขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น การก่อสร้างโรงงานผลิตเครื่องดื่มแห่งใหม่ในเมียนมา รวมถึงการพัฒนาปรับปรุงการผลิต การจัดจำหน่ายสินค้า ประสิทธิภาพสินค้าและการดำเนินธุรกิจภายในของบริษัท ทั้งนี้เป็นไปตามแผนการพัฒนาธุรกิจที่ต้องแข่งขันกันมากขึ้นและเพื่อให้รักษาความเป็นสินค้าชั้นนำของประเทศต่อไป

6.ผู้บริหารของยุคใหม่ของ “โอสถสภา” คือเซียนหุ้นตัวจริง

489

หนึ่งในผู้บริหารยุคใหม่ของโอสถสภาอย่าง คุณ นิติ โอสถานุเคราะห์ ถือเป็นเซียนหุ้นหมื่นล้านที่มีมูลค่าพอร์ตลงทุนในตลาดหุ้นกว่า 30,000 ล้านบาท ด้วยการเข้าไปถือหุ้นบริษัทต่างๆ เช่น MINT HMPRO CENTEL และ CPN ฯลฯ และจากการเข้าตลาดหุ้นล่าสุดของโอสถสภาทำให้คุณนิติ ถูกจัดอันดับให้เป็น “เศรษฐีหุ้น” อันดับ 5 ของประเทศไทย ด้วยการถือครองหุ้นมูลค่ารวม 28,897.84 ล้านบาท

7. M-150 คือสินค้าตัวนำที่จะดึงราคาหุ้นให้สูงขึ้น

 

490

ผลงานของบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) จำกัด (มหาชน) นอกจากเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับโอสถสภาแล้ว ก่อนหน้านี้ก็เคยมีผลงานนำบริษัทดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD ที่มีสินค้าอย่าง “สเนลไวท์” เข้าสู่ตลาดหุ้นและได้รับความนิยมจนราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นมาก โดยการนำโอสถสภาเข้าตลาดหุ้นครั้งนี้ มองว่าสินค้าตัวนำอย่าง เอ็ม-150 จะมีส่วนสำคัญผลักดันให้โอสถสภาก้าวขึ้นมาเป็นหุ้นชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์ได้ไม่ยาก

สิ่งที่เราเห็นและเรียนรู้จากการเข้าสู่ตลาดหุ้นของโอสถสภาครั้งนี้คือกลยุทธ์การบริหารที่แข็งแกร่งมาทุกยุคสมัย และการพัฒนาธุรกิจที่มีความต่อเนื่องแต่คงเอกลักษณ์ของตัวเองไว้เป็นอย่างดี จนวันนี้โอสถสภาก้าวไปอีกขั้นในด้านธุรกิจและเชื่อว่าจากธุรกิจระดับประเทศอาจยกตัวเป็นธุรกิจระดับโลกต่อไปได้ในอนาคต


SMEs Tips

  1. ผู้บริหารของโอสถสภาปัจจุบันอยู่ใน Generationที่5
  2. โอสถสภามีที่ปรึกษาทางการเงินคือ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) จำกัด (มหาชน)
  3. มีหุ้นพร้อมจำหน่ายให้ประชาชนกว่า 600 ล้านหุ้น
  4. โอสถสภามีกำไรในปี 2560 เกือบ 3,000 ล้านบาท
  5. คาดการณ์ระดมทุนเพื่อขยายกิจการในต่างประเทศ
  6. ผู้บริหารของยุคใหม่ของ “โอสถสภา” คือเซียนหุ้นตัวจริง
  7. M-150 คือสินค้าตัวนำที่จะดึงราคาหุ้นให้สูงขึ้น

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S

ขอบคุณรูปภาพจาก www.osotspa.com

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด