69 วิธีลองดี ปี 69 โลกเปลี่ยนเกม! แบรนด์เปลี่ยนคน! บริบทเปลี่ยนไป (bucket list)

บางคนพูดว่าปี 68 อาจเป็นปีที่เศรษฐกิจดีที่สุด เพราะตั้งแต่ปี 69 เป็นต้นไปอะไรๆจะแย่ยิ่งกว่านี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ได้ชัดเจน คนหรือธุรกิจที่ปรับตัวตามกระแสยุคใหม่ไม่ได้ มีโอกาสที่จะถูกกลืนหายไปอย่างรวดเร็ว และกว่าจะไปถึงจุดนั้นเราลองมาชะลอการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นด้วยการตั้ง “bucket list” กันดีกว่า

ซึ่ง “bucket list” เป็นคำที่มาจากภาพยนตร์เรื่อง “The Bucket List” ที่ออกฉายในปี 2007 ความหมายโดยรวมคือลิสต์รายการที่เราควรทำให้สำเร็จในช่วงเวลาหนึ่ง ยิ่งปี 2569 ที่จะถึงนี้มีหลายสิ่งที่ต้องเปลี่ยนไปมากไม่ว่าจะเศรษฐกิจ สังคม ไลฟ์สไตล์ และอีกหลายๆ เรื่อง

ถ้าเรามี bucket list ที่สอดคล้องและรองรับความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ก็น่าจะทำให้การใช้ชีวิตหรือการทำธุรกิจในปี 2569 เป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้น ในที่นี้เราจะแยกเป็น 3 หมวดหมู่คือ คน , แบรนด์ , และบริบท(สภาพแวดล้อม) ลองมาดูกันว่าจะมี bucket list อะไรที่น่าสนใจและนำไปปรับใช้ได้บ้าง

23 bucket list ในยุคที่ “โลกเปลี่ยนเกม”

โลกเปลี่ยนเกม
ภาพจาก https://app.envato.com

สำหรับคนในยุคนี้ต้องยอมรับให้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงทุกด้านที่เกิดขึ้นเร็วมาก โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีและ AI จึงควรเน้นการพัฒนาทักษะที่นำไปใช้กับโลกยุคใหม่ได้

  1. เรียนรู้เรื่อง AI และ Automaton ในการทำงานหรือการสร้างสรรค์ส่วนตัว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพชีวิตให้ดีขึ้น
  2. ฝึกทักษะด้าน Data Literacy โดยหัดอ่านและทำความเข้าใจข้อมูลพื้นฐาน เพื่อใช้ในการตัดสินใจในชีวิตประจำวันและการลงทุน
  3. สร้างตัวตนหรือทรัพย์สินบนโลกดิจิทัล ที่สามารถสร้างรายได้โดยอัตโนมัติ
  4. ฝึกทักษะการเรียนรู้ที่รวดเร็ว (Rapid Learning) เพื่อช่วยให้เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ได้มากขึ้น
  5. พัฒนาทักษะการ เล่าเรื่อง (Storytelling) ให้ดึงดูดใจ
  6. ฝึกทักษะ การเจรจาต่อรอง (Negotiation Skill) อย่างจริงจัง
  7. เรียนภาษาที่สาม หรือพัฒนาภาษาเดิมให้ดีขึ้น
  8. ฝึกทักษะการ ตั้งคำถามที่ทรงพลัง (Powerful Questioning)
  9. สร้างแหล่งรายได้สำรอง (Side Hustle) ที่เกี่ยวข้องกับทักษะใหม่
  10. เรียนรู้เรื่อง decentralized finance หรือ Blockchain พื้นฐานให้มากขึ้น
  11. กำหนดเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจน (SMART Goal)
  12. หา ที่ปรึกษา (Mentor) ใหม่ ในสายงานที่ต้องการเติบโต
  13. สามารถให้คำปรึกษาแก่ผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  14. ค้นพบและยอมรับ จุดบอด (Blind Spot) ของตัวเอง
  15. ฝึกการ นอนหลับอย่างมีคุณภาพ สม่ำเสมอ
  16. เรียน Coding พื้นฐาน (Python, HTML/CSS) เตรียมพร้อมสำหรับโลกดิจิทัล
  17. เขียนบันทึกทุกวันเพื่อทบทวนตัวเองและวางแผนอนาคต
  18. ตรวจสุขภาพประจำปีแบบละเอียด พร้อมตรวจเช็คความเสี่ยงที่สำคัญ
  19. อ่านหนังสือให้ได้ สัปดาห์ละ 1 เล่ม โดยเน้นหนังสือหลากหลายประเภท
  20. สร้าง Passive Income ก้อนแรกเริ่มต้นด้วยการลงทุนเล็กๆ
  21. จัดระเบียบการเงินทั้งหมด เคลียร์หนี้สินที่ไม่จำเป็นและตั้งเป้าหมายความมั่งคั่ง
  22. สร้างนิสัยการออมเงิน 10% ของรายได้ทั้งหมดให้เป็นวินัย
  23. ฝึกการพูดให้มีความน่าเชื่อถือและพัฒนาบุคลิกให้ดีมากขึ้น

23 bucket list ในยุคที่ “แบรนด์เปลี่ยนคน”

ภาพจาก https://app.envato.com

ปี 2569 ธุรกิจจะมีการเปลี่ยนโฉมไปเยอะมาก การสร้างแบรนด์ก็ไม่ได้อิงแค่การต้องหาลูกค้า แต่ต้องให้ลูกค้ารู้สึกว่าเป็นแบรนด์ที่มีคุณค่าและน่าเลือกซื้อ โดยมี bucket list น่าสนใจคือ

  1. กำหนด VISON ของแบรนด์ให้ชัดและตั้งเป้าว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้ไปถึง
  2. ออกแบบ Visual Identity หรือภาพลักษณ์ของแบรนด์ส่วนตัวให้สอดคล้องกับความต้องการ
  3. พัฒนา Elevator Pitch หรือคำพูดกระตุ้นการขายที่น่าจดจำ
  4. สร้าง Content Pilla หัวข้อหรือหมวดหมู่ของเนื้อหา ที่ต้องการสื่อไปยังกลุ่มเป้าหมาย
  5. พัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์/บริการใหม่ (Disruptive Product) ที่สร้างผลกระทบต่อตลาด
  6. เรียนรู้การใช้ LinkedIn หรือ Platform มืออาชีพอื่น ๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
  7. วัดผลและปรับปรุง Customer Journey (CJ) ให้ดีขึ้น
  8. ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในกลุ่มเป้าหมายใหม่ (New Target Segment)
  9. นำเทคโนโลยี AI/Automation มาใช้ในกระบวนการทำงาน เพื่อลดภาระงานซ้ำซ้อน
  10. ขยายตลาดไปยังต่างประเทศหรือต่างจังหวัดได้มากขึ้น
  11. จัดหลักสูตรพัฒนาทักษะ Up-skill/Re-skill ให้กับพนักงาน
  12. สร้าง Employee Well-being Program หรือการดูแลทางจิตใจและส่งเสริมความสบายใจของพนักงาน
  13. มอบอำนาจ การตัดสินใจให้กับพนักงานระดับปฏิบัติการเพื่อเพิ่มความคล่องตัว
  14. จัด Work-life Integration ที่เหมาะสมกับรูปแบบงาน
  15. เปิดโอกาสให้คนหลากหลายได้เข้ามาร่วมงาน Diversity & Inclusion (D&I)
  16. จัดกิจกรรม Team Building ที่เน้นการแก้ปัญหา
  17. สร้างกลยุทธ์ Content Marketing ที่เน้น คุณค่า ไม่ใช่แค่การขาย
  18. วัดผล มูลค่าแบรนด์ (Brand Equity) ก่อนและหลังการดำเนินงาน
  19. สร้าง Digital Product ฟรี เพื่อให้คุณค่าแก่ผู้อื่น
  20. ฝึกการเขียนบทความ/โพสต์ ที่เป็นประโยชน์เพื่อให้ถูกแชร์ได้มากที่สุด
  21. อัดวิดีโอ/พอดคาสต์สั้นๆ แบ่งปันความรู้ให้ผู้อื่น
  22. สร้าง Partnership กับองค์กร/แบรนด์อื่น
  23. สร้าง Community ลูกค้าที่แข็งแกร่ง ให้ลูกค้ารู้สึกเป็นเจ้าของแบรนด์

23 bucket list ในยุคที่ “บริบทเปลี่ยนไป”

โลกเปลี่ยนเกม
ภาพจาก https://app.envato.com

บริบทหรือสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปมีผลต่อความคิดความรู้สึก ธุรกิจหลังจากนี้แบรนด์จะถูกมองร่วมกับบริบททางสังคมด้วย จึงเป็นโจทย์ให้การทำธุรกิจยุคใหม่ต้องมี bucket list ในด้านนี้มากขึ้น

  1. เปลี่ยนมาใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในผลิตภัณฑ์หลัก
  2. ปลูกป่า/ฟื้นฟูพื้นที่สีเขียว จัดกิจกรรม CSR ที่พนักงานทุกคนเข้าร่วมได้
  3. ติดตั้ง Solar Rooftop หรือใช้พลังงานหมุนเวียนในพื้นที่การผลิต
  4. ร่วมมือกับองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมสนับสนุนโครงการอนุรักษ์ธรรมชาติในท้องถิ่น
  5. สร้างโครงการเพื่อสังคม (CSR) ที่มุ่งเน้นการแก้ปัญหาของสังคมเช่นสุขภาพ , การศึกษา
  6. ประกาศเป้าหมาย Net Zero และเริ่มลงมือทำอย่างจริงจัง
  7. ลดการใช้พลังงานในองค์กรให้ได้ 10% ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องมือและระบบ
  8. ส่งเสริมการเข้าถึงทรัพยากรพื้นฐาน เช่น น้ำสะอาด, พลังงานในพื้นที่ห่างไกล ผ่านโครงการของแบรนด์
  9. เลือกซื้อวัตถุดิบหรือสินค้าจากผู้ผลิตรายย่อยในราคาที่เป็นธรรม
  10. สร้างระบบที่พนักงานหรือบุคคลภายนอกสามารถรายงานการกระทำที่ผิดจรรยาบรรณหรือคอร์รัปชันได้
  11. ใช้สื่อดิจิทัลหรือวิดีโอเพื่อเล่าเรื่องราวความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการแก้ปัญหาสังคม
  12. จัดการอบรมทักษะดิจิทัลให้กับผู้สูงอายุ/กลุ่มเปราะบางในชุมชน
  13. บริจาค 1% ของกำไรให้การกุศลหรือสร้างกองทุนเพื่อสังคม
  14. จัดตั้งนโยบาย ต่อต้านคอรัปชั่น (Anti-Corruption) ที่เข้มงวด
  15. เผยแพร่องค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะในเรื่องสำคัญเช่น การเงิน หรือสุขภาพ
  16. เข้าร่วมหรือเป็นเจ้าภาพจัดเวทีเสวนา/สัมมนา ในระดับภูมิภาค
  17. สนับสนุนการทำงานแบบ Hybrid Workเพื่อลดการเดินทางและเพิ่มคุณภาพชีวิต
  18. สร้างแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงกับชุมชนเพื่อให้การช่วยเหลือในยามจำเป็น
  19. จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม (Cultural Exchange)โดยเฉพาะธุรกิจที่มีพนักงานจากหลายเชื้อชาติ
  20. ตรวจสอบและปรับปรุงสิทธิแรงงาน (Labor Rights) ตามมาตรฐานสากล
  21. ผลักดันนโยบายสาธารณะ (Advocacy) ที่เป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมและสังคม
  22. ฝึกการคิดเชิงอนาคต (Foresight Thinking) ในทีมผู้บริหารเพื่อเตรียมรับมือการเปลี่ยนแปลงใน 5 ปีข้างหน้า
  23. สรุปและฉลอง ผลลัพธ์ที่เห็นผล เพื่อเป็นแรงบันดาลใจสำหรับปีถัดไป

bucket list ทั้ง 69 วิธีนี้คือการพัฒนาตัวเองและแบรนด์ให้ก้าวตามกระแสโลกยุคใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะได้ผลดีมากแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับการนำเอาวิธีเหล่านี้ไปใช้ อาจจะไม่ต้องทำครบหมดทุกวิธีแต่อย่างน้อยก็ขอให้มี bucket list ที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลง เคล็ดลับความสำเร็จของธุรกิจในยุคใหม่ไม่ได้เน้นเพียงคุณภาพหรือบริการแต่อยู่ที่ว่าใครจะปรับตัวได้เร็วกว่าด้วย

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด