5 เรื่องใหม่ที่ต้องเจอแน่บน Facebook 2018

รายได้ของเฟสบุ๊คในปี 2017 นั้นอยู่ที่ประมาณ 8.8 พันล้านดอลลาร์ ในจำนวนนี้เป็นรายได้ที่มาจากโฆษณามากถึง 8.6 พันล้านดอลลาร์ โดยในอเมริกาและแคนาดาคือแหล่งรายได้หลักที่มากกว่าครึ่งตามมาด้วยรายได้จากฝั่งยุโรปและเอเชียปัจจุบันเฟสบุ๊คมีผู้ใช้งานจริงต่อเดือน จำนวน 1,860 ล้านราย 

ถ้าเราดูจากตัวเลขรายได้ดังกล่าวก็ถือว่ามากโขอยู่แต่ในความเป็นจริงโลกของดิจิทัลนี้มีการแข่งขันสูงมากรายได้ของเฟสบุ๊คเองก็มีแนวโน้มที่จะลดลงเช่นกันดังนั้นเพื่อให้แบรนด์ยังคงความเป็นอันดับหนึ่ง

และให้เฟสบุ๊คยังเป็นช่องทางออนไลน์ทางธุรกิจที่สำคัญจึงต้องมีการพัฒนาลูกเล่นใหม่ๆออกมา ซึ่ง www.ThaiSMEsCenter.com ได้นำเอา5สิ่งที่น่าจะได้เห็นบนเฟสบุ๊คในปี 2018 มาฝากกันดูซิว่าจะมาครบเหมือนที่เราพูดหรือไม่

1.จริงจังกับการพัฒนา VR มากขึ้น

2018

Facebook ให้ความสำคัญเรื่องนี้มาหลายปี เริ่มด้วยการซื้อกิจการบริษัท Oculus เจ้าของแว่น VR แบรนด์ Oculus Rift แต่ก็ยังดันเรื่องนี้ให้ฮอตฮิตไม่ได้ติดอยู่ที่ราคาของแว่นที่สูงถึง 599 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 20,000 บาท)

ทางเฟสบุ๊คใช้วิธีลดราคาลงมาเรื่อยๆ จนแว่นVRของเฟสบุ๊คตอนนี้รุ่น Oculus Go ราคาเหลือแค่ 199 เหรียญสหรัฐ หากคนรับได้กับแว่นVRในราคานี้ก็เชื่อว่าปี 2018 นี้เราน่าจะได้เห็นฟีเจอร์ใหม่ๆเกี่ยวกับ VR บนเฟซบุ๊ก จากเดิมที่มีแต่ภาพหรือคลิป 360 องศา และการทดลองรายงานข่าวผ่านตัวอวาตาร์ 3 มิติ เป็นต้น

2.พัฒนา AR ให้ตามคู่แข่งได้ทัน

5989563232

เพื่อให้เป็นโลกแห่งดิจิทัลอย่างแท้จริง เฟสบุ๊คปีนี้จะเน้นเทคโนโลยีอย่าง AR (Augmented Reality) ด้วยเพราะบริษัทยักษ์ใหญ่ไฮเทคอื่นๆ ต่างก็ก้าวหน้าทางนี้กันหมดแล้ว เช่น Google มีระบบ Tango สำหรับซ้อนภาพวัตถุลงบนสถานที่จริงได้เนียนสนิท

แถมยังมี AR sticker ออกมาให้ซ้อนสติกเกอร์สามมิติลงบนฉากจริงแบบเนียนๆแล้ว, ส่วน Apple ก็มี ARkit เพื่อเป้าหมายเดียวกัน และยังใช้ซ้อนหน้ากากลงบนหน้าจริงได้เนียนสนิท ถึงจะส่ายหน้าก็ไม่หลุด, หรือแม้แต่เกมอย่าง Pokemon Go ก็มี AR mode ไว้ให้ดูหรือถ่ายรูปสัตว์ประหลาดซ้อนลงบนฉากจริง ได้เช่นกัน

3.หารายได้จาก Messenger มากขึ้น

95985562323223

เฟซบุ๊กทำเงินจากโฆษณาได้ news feed ได้มากมาย แต่กลับยากจะทำเงินได้ในแอปพลิเคชั่นแชทอย่าง Messenger แนวทางที่เฟซบุ๊กพยายามพัฒนาและผลักดันอยู่ก็คือ chat bot โดยทั้งผลิตเองและทำตลาดกลาง

ให้มีการจำหน่ายขาย bot กันคล้ายกับการขายแอปพลิเคชั่นใน App Store ของ iOS หรือ Play store ของ Android และถ้าหากเป็นไปตามที่เฟสบุ๊คคิดก็หมายถึงช่องทางในการสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่งเช่นกัน

4.เพิ่มลูกเล่นให้กับร้านค้าด้วย Store Visits

7623366

ร้านค้าที่อาศัยช่องทางเฟสบุ๊คในอดีตจะนึกถึงแต่เรื่องยอดไลน์ ยอดแชร์ แต่เฟสบุ๊คจะเริ่มมีการพัฒนาเรื่องนี้โดยสร้างเครื่องมือให้ธุรกิจสามารถได้ประโยชน์มากขึ้น เช่นเครื่องมือใหม่อย่าง Store Visits เป็นเครื่องวัดที่ช่วยให้รู้ได้ว่าคนที่มาเห็นโฆษณาในเฟสฯ

แล้วไปเข้าร้านค้าจริงมากน้อยแค่ไหน โดยใช้เทคโนโลยี beacon ช่วยตามติด หรือแม้แต่การพัฒนาระบบ QR reward เพื่อให้แต่ละโฆษณาในเฟซบุ๊กสามารถออก QR code ได้ง่ายๆ ให้ลูกค้านำไปใช้เป็นส่วนลดหรือรับของแถมที่ร้านค้า

5.เปลี่ยนระบบ Watch ให้เสิร์ชรูปแบบ IG

56232565989565

เป็นความพยายามที่เราเห็นมาตั้งแต่ปี 2017 กับการที่เฟสบุ๊คสร้างเมนู Watch ที่รวมเอาการไลฟ์และคลิปที่เพื่อนๆ และเพจต่างๆ โพสต์มาไว้ที่เดียว ซึ่งปีนี้ก็น่าจะยังเห็นเฟซบุ๊กผลักดันตรงนี้ต่อไป

แต่ที่จะต่อยอดก็คือฟีเจอร์ใหม่ๆในการเสิร์ชรูป เพื่อให้หนึ่งคำค้นหาที่เราพิมพ์ลงไปนั้นสามารถโชว์รูปที่อยู่ในโพสต์ทั้งหลาย ซึ่งระบบอย่างนี้ทางเฟซบุ๊กกำลังทดลองใน Instagram อยู่แล้วด้วย

สิ่งที่เราเห็นได้ชัดเจนเกี่ยวกับการทำธุรกิจคือการพัฒนาที่เดินไปข้างหน้าตลอดเวลาหากหยุดหรือคิดว่าดีแล้วจะกลายเป็นการถูกคู่แข่งแซงหน้า และด้วยการเป็นแบรนด์ใหญ่อย่างเฟสบุ๊คที่เคยเติบโตแบบก้าวกระโดด

จนหลายคนมองว่ามาสุดทางแล้วเฟสบุ๊คก็ต้องพยายามแสดงให้เห็นว่ายังมีอีกหลายอย่างที่พัฒนาต่อยอดได้และความเป็นเบอร์หนึ่งนี้จะไม่มีวันยกให้ใครได้ง่ายๆ แน่นอน

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก goo.gl/8hA6iH

กองบรรณาธิการเว็บไซต์

ยินดีสนับสนุน SMEs ไทยทุกแบรนด์ ที่ต้องการสร้างความเข้มแข็ง อยากเรียนรู้ พัฒนาธุรกิจ ส่งเสริมความเข้าใจในการตลาด มีความคิดสร้างสรรค์ แบ่งปันเพื่อสังคม ต่อยอดธุรกิจ ให้ประสบความสำเร็จในอนาคต