5 วิธีคุยธุรกิจ ที่ทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นได้สุดๆ

การทำธุรกิจที่ดีนั้นไม่ใช่จะมีแค่เรื่อง แผนการตลาด การบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ สิ่งสำคัญที่มีบทบาทไม่แพ้กันคือการที่จะทำอย่างไรเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกเชื่อมั่น การสร้างความรู้สึกนี้ให้เกิดกับลูกค้านั้นเป็นเรื่องที่ยากมากที่สำคัญคือเราไม่สามารถจะทำเรื่องนี้ได้ด้วยตัวคนเดียว

ในบริษัทหรือธุรกิจที่มีทีมงานมีลูกน้องมีฝ่ายขาย ทุกคนต่างมีบุคลิก มีภาษากายที่แตกต่างกันไป แต่สิ่งที่เชื่อมโยงกันคือทุกคนทำงานภายใต้แบรนด์เดียวกันดังนั้นการแสดงออกอะไรก็ตามย่อมสัมพันธ์กับความรู้สึกของลูกค้าว่าจะเชื่อมั่นแบรนด์เราได้มากน้อยแค่ไหน

เราไม่ถือว่าเรื่องนี้เป็นงานของฝ่ายขายอย่างเดียวเท่านั้นแต่ทุกคนในองค์กรต่างก็มีส่วนที่จะรับผิดชอบในเรื่องนี้เหมือนกันโดยการไปพบปะลูกค้าหรือเมื่ออยู่ในที่ชุมชนใหญ่ๆ การวางตัวให้เหมาะสมจะยกระดับแบรนด์ให้ดูดีมีราคาขึ้นมาได้บางครั้งไม่จำเป็นต้องอาศัยเครื่องมืออะไรมากมายแค่การแสดงออกของเราแบบมืออาชีพเท่านั้นก็ทำให้คนรู้สึกได้ว่าเราเป็นแบรนด์ที่มีอัตราความน่าไว้วางใจ

www.ThaiSMEsCenter.com จึงได้นำเอา5วิธีแสดงออกที่บอกว่าคุณเป็นมืออาชีพแท้จริงมาบอกกล่าวเพื่อว่าใครที่ทำธุรกิจตอนนี้อาจใช้เป็นวิธีลัดในการสร้างความเชื่อใจแบบไม่ต้องลงทุนมากนัก

1.สะกดลูกค้าด้วยการใช้สายตา

วิธีคุยธุรกิจ

เราเคยเรียนกันมาตั้งแต่สมัยประถมเรื่องการสบตาผู้พูดและเรื่องนี้ก็นำมาใช้กับการทำธุรกิจได้ดีเช่นกันด้วย ใครที่เป็นเจ้าของธุรกิจแต่ยังไม่มีสกิลด้านการพูดโดยเฉพาะเขินอายยามที่ต้องสบตาต้องรีบปรับเปลี่ยนเรื่องนี้เป็นการด่วนคำว่า Eye Contact เป็นทฤษฏีง่ายๆแต่หลายคนทำไม่ได้ แต่หารู้ไม่ว่าการพูดที่ไม่สบตาคนฟังนั้นจะทำให้คนฟังรู้สึกได้ว่าผู้พูด ไม่มีความจริงใจ

ยิ่งถ้าเป็นการพรีเซนต์สินค้ายิ่งต้องสบตาลูกค้าสะกดคนดูด้วยสายตาของเราให้ได้ การเริ่มต้นด้วยการใช้สายตานี้เป็นก้าวแรกที่สำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นหากทำได้ภาษากายอื่นๆ ก็จะใช้ได้ง่ายขึ้นด้วย

2.การเคลื่อนไหวในการแสดงออก

u21

การออกบูธแสดงสินค้าหรือการพรีเซนต์สินค้าตามที่ชุมนุมชนต่างๆ การพูดเพียงอย่างเดียวยังไม่น่าสนใจมากพอ หากสังเกตให้ดีการใช้ท่วงท่าประกอบการพูดจะดึงดูดคนให้สนใจได้มากกว่าแต่ทั้งนี้การแสดงท่าท่าเหล่านั้นก็ต้องสมเหตุสมผลและพอดีกับการพูดไม่ใช่เป็นแอคชั่นโอเวอร์หรือยืนนิ่งเป็นตอไม้

การใช้การเคลื่อนไหวที่พอดีๆจะทำให้แบรนด์เราดูมีความน่าเชื่อถือมีความเป็นมืออาชีพหากยังนึกภาพไม่ออกให้ดูตัวอย่างจากบรรดานักพูดต่างๆ กับลักษณะการใช้มือ ใช้น้ำเสียงโทนต่างๆ ที่ถือเป็นการสะกดคนดูให้รู้สึกดีร่วมไปกับแบรนด์เราได้ด้วย

3.รอยยิ้มมีพลังเสมอ

u23

รอยยิ้มมักเปลี่ยนให้ทุกอย่างกลายเป็นด้านบวกได้ดีเสมอ คำว่ายิ้มอาจจะดูว่าทำง่ายๆ แต่เชื่อหรือไม่ว่าหลายคนยิ้มไม่เป็น การยิ้มในที่นี้ไม่ใช่แค่การเผยอปากให้ห่างกันแต่การยิ้มที่ดีต้องเป็นการยิ้มที่รู้สึกมาจากข้างในซึ่งคนดูเขาจะรับรู้ได้ว่าเราเสแสร้งแกล้งยิ้มหรือไม่ การเป็นเจ้าของธุรกิจหรือเป็นพ่อค้าแม่ค้านั้นการยิ้มสำคัญมาก

หลายครั้งที่เราไปเดินตลาดเจอพ่อค้าแม่ค้าหน้าบึ้งเราก็ยังบ่นกระปอดกระแปดว่าแม่ค้าร้านนี้มันยิ้มไม่เป็นหรืออย่างไร ดังนั้นรอยยิ้มจึงมีพลังในการสร้างความรู้สึกที่ดีเสมอ หากเราต้องการให้ลูกค้ารู้สึกไว้ใจและอยากใช้สินค้าของเราใครที่ยังยิ้มไม่เป็นแนะนำให้ไปฝึกยิ้มกันก่อนไม่ต้องลงทุนอะไรมากแต่ผลที่ได้นั้นมีค่ามากทีเดียว

4.ควบคุมมือตัวเองให้ได้

u22

เรื่องการควบคุมมือกับการแสดงท่าทางในการพูดนั้นต่างกัน การพูดให้คนฟังหรือการพรีเซนต์ใดๆก็ตามคนที่ประหม่ามักจะมีปัญหาสำคัญคือไม่รู้ว่าจะเอามือตัวเองไปอยู่ที่ไหน มือของเราก็จะพันไปทั่วแกว่งบ้าง อ้อมหลังบ้าง เกาโน่นนี่นั่น ซึ่งบุคลิกเหล่านี้ถือเป็นด้านลบในการนำเสนอสินค้าหรือการพูดคุยกับลูกค้า เพราะเขาจะรู้สึกว่ายุกยิกๆ ไม่นิ่ง

รวมถึงบางคนแก้ปัญหาเอามือล้วงกระเป๋าแต่นั่นก็เป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ถูกต้องเพราะทำให้คนฟังรู้สึกว่าไม่เป็นกันเอง เรื่องการควบคุมมือตัวเองให้อยู่ในจุดที่เหมาะสมนั้นเราสามารถฝึกฝนกันได้ รวมถึงเรื่องการจับมือกับลูกค้าในตอนท้ายที่ต้องใส่ความจริงใจลงไปด้วยเช่นกัน

5.ทำตัวให้เป็นกระจกสะท้อนคนฟัง

u25

เป็นทฤษฏีง่ายๆที่เรียกว่าใช้อารมณ์ร่วมไปกับผู้ฟัง ซึ่งการเป็นผู้พูดที่ดีก็ต้องเป็นผู้ฟังที่ดีร่วมด้วย ในการนำเสนอนสินค้าหรือการพูดคุยกับลูกค้าย่อมต้องมีช่วงที่ลูกค้าเองก็ต้องการแสดงความคิดเห็นหน้าที่ของเราในฐานะเจ้าของธุรกิจคือรับฟังอย่างสนใจทำตัวเหมือนเป็นกระจกมีอากัปกิริยาโต้ตอบกับเรื่องที่ลูกค้าพูดเช่นการพยักหน้าเห็นด้วย

การใช้สายตาที่บอกว่าเราตั้งใจฟังจริงๆ การเคลื่อนไหวร่วมไปกับอารมณ์ของลูกค้า สิ่งเหล่านี้จะทำให้ลูกค้ารู้สึกได้ว่าความคิดของตัวเองนั้นน่าสนใจและสำคัญก็มีผลทำให้เขารู้สึกว่าแบรนด์ของเรานั้นน่าสนใจขึ้นมาได้เช่นกัน

5 เรื่องที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่ายๆ แต่บางทีก็กลายเป็นเรื่องยากและหลายคนก็ละเลยที่จะทำเรื่องเหล่านี้ แม้ว่าการแสดงออกที่ว่านี้จะไม่ได้การันตีว่าจะสร้างยอดขายหรือทำรายได้ที่ดีเพิ่มขึ้นให้กับแบรนด์ของเราได้มากน้อยแค่ไหน

แต่อย่างน้อยภาพลักษณ์ที่ปรากฏในสายตาลูกค้าก็มองแบรนด์เราแบบมีระดับมากขึ้น ดูน่าเชื่อถือมากขึ้นในระยะยาวอาจกลายเป็นการสร้างความทรงจำที่ดีให้ลูกค้าว่าสินค้าหรือธุรกิจของเรานั้นดูดีมีค่ามากแค่ไหน

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S

ขอบคุณข้อมูลจาก goo.gl/EPLj9r

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด