20 งานแฮนด์เมดทำที่บ้านก็รวยได้

รวม 20 งานแฮนด์เมดทำที่บ้านก็รวยได้ การจะระบุเจาะจงว่า งานแฮนด์เมด มีเท่าไหร่ มีอะไรบ้าง เป็นเรื่องที่ยากจะพูดถึง เพราะงานแฮนด์เมดก็คืองานที่ใช้ไอเดีย และอาจพลิกแพลงเป็นชิ้นงานได้หลากหลาย บางคนอาจมองว่านี่คืองานอดิเรกทำเป็นรายได้หลักไม่ได้

แต่เชื่อหรือไม่ว่ามีคนที่เข้าคิดต่าง ตั้งหน้าทำงานแฮนด์เมดเป็นรายได้หลัก วิธีการก็ไม่ยากแต่ใช้ช่องทางออนไลน์ทำตลาด บางคนเติบโตดีมีการฝากขายตามร้านของที่ระลึก

หรือแม้กระทั่งคนที่เก่งโซเชี่ยล เก่งภาษาอังกฤษ ก็ผลิตงานแฮนเมดด์ขายในเว็บไซต์ของคนต่างชาติมีออร์เดอร์จากต่างประเทศเข้ามา สร้างรายได้ที่ดีแบบที่ไม่ต้องง้องานประจำกันเลยทีเดียว

www.ThaiSMEsCenter.com มองว่างานแฮนด์เมดคือหนึ่งการลงทุนที่เราเริ่มต้นได้แบบไม่ต้องมีเงินทุนมากมายอาศัยฝีมือและไอเดียเป็นสำคัญ ซึ่งงานแฮนด์เมดดีๆ ที่เราเห็นก็มีมากมายแต่ในที่นี้เรารวบรวมมา 20 ชนิดที่เรียกว่าเป็น 20 อันดับแรกของงานแฮนเมดด์ยอดฮิตที่ขายดีถ้ามีไอเดียเจ๋งๆเข้าไปผสมด้วย

งานแฮนด์เมดทำที่บ้านก็รวยได้

และสำหรับทุกท่านที่กำลังมองหาแฟรนไชส์เพื่อสร้างรายได้ สร้างอาชีพ สามารถเลือกดูรายละเอียดได้ตามเหมาะสมทาง www.ThaiFranchiseCenter.com หรือเลือกดูตามหมวดหมู่ได้ดังนี้เลย!!

1.เทียนหอม

y1

ภาพจาก pixabay.com

ใครที่มองหาอาชีพเสริมที่ทำเป็นสินค้าแล้วคนนิยม มักจะนึกถึงเทียนหอมอันดับแรก ด้วยว่าอาชีพนี้เราคุ้นเคยและได้ยินกันมานานแต่การจะทำให้เป็นรายได้จำเป็นต้องฝึกฝีมือในการทำมากพอสมควร รวมถึงควรมีไอเดียใหม่ๆ ใส่ในสินค้าด้วย

การขายเทียนหอมหรือเจลหอมมีต้นทุนและกำไรที่ค่อนข้างน่าสนใจ ตัวสินค้าสามารถนำไปใช้เองก็ได้หรือซื้อเป็นของขวัญก็ได้เช่นกัน และนอกจากตลาดทั่วไปสินค้าอย่างเทียนหอมยังขายได้ดีในสปาและร้านนวดแผนโบราณต่างๆ รวมถึงชาวต่างชาติก็นิยมเทียนหอมเพราะถือเป็นงานไอเดียที่ใส่จินตนาการลงไปแล้วทำกำไรได้มากขึ้น

อุปกรณ์ของการทำเทียนหอมหลักๆ ก็จะมี พาราฟิน , สเตียริน , ไมโครแวกซ์ , ไส้เทียน , น้ำมันหอมระเหย , สีเทียนสำเร็จรูป ต้นทุนโดยรวมจะอยู่ประมาณ 2,500-6,000 บาท สำหรับการเปิดร้านขายเทียนหอมเล็กๆ มีกำไรของการขายเทียนหอมเริ่มต้นที่ 60% ของต้นทุน หากทำลวดลายที่ค่อนข้างแปลกใหม่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง อาจทำกำไรได้หลายเท่าตัว

ต้นทุน-กำไร : ต้นทุนโดยเฉลี่ยประมาณ 2,500-6,000 บาท มีกำไรประมาณ 1,000-2,000 บาทขึ้นอยู่กับฝีมือเป็นสำคัญ 


2.สบู่แฮนด์เมด

y2

ภาพจาก pixabay.com

การฝึกทำสบู่น่าจะเป็นสิ่งที่หลายคนเคยทำ อาจจะแค่คิดทำเล่นๆ แต่การพัฒนามาเป็นงานแฮนด์เมดได้นั้นจำเป็นต้องใส่รายละเอียดในงานโดยเฉพาะเรื่องคุณภาพสินค้าที่ใช้แล้วลูกค้าต้องติดใจ

ส่วนใหญ่เน้นเป็นสบู่สมุนไพรธรรมชาติที่คนไทยก็นิยมคนต่างชาติก็ชอบ อุปกรณ์หลักๆ ก็มี สารสกัดพืชธรรมชาติ ,กลีเซอรีน, ซอฟเบส(สารตั้งต้นในการทำสบู่), แม่พิมพ์, หัวน้ำหอม, หม้อสเตนเลส, กะละมังสเตนเลส, มีด, แรปพลาสติก เป็นต้น

ส่วน ทุนวัสดุ อยู่ที่ประมาณ 60% จากราคาขาย โดยราคาขายนั้น ขึ้นกับชนิดและขนาดของสบู่ ซึ่งมีตั้งแต่ขนาด 10-100 กรัม ราคาขายเริ่มตั้งแต่ 10-80 บาท ซึ่งในตลาดออนไลน์มีคนสนใจทำสบู่แฮนด์เมดขายเป็นจำนวนมาก ส่วนจะขายดีหรือไม่อย่างไรก็ขึ้นอยู่กับวิธีการทำตลาดว่าจะสามารถเจาะกลุ่มลูกค้าได้ตรงจุดมากน้อยแค่ไหน

ต้นทุน-กำไร: ต้นทุน/ก้อนขึ้นอยู่กับรูปแบบสบู่ แบบทั่วไปอาจประมาร  5-6 บาท (ขาย 10 บาทกำไร 4-5 บาท) แต่หากเป็นพิเศษสวยงาม ต้นทุนประมาณ 60บาท ขาย 80 บาทกำไร/ ก้อนประมาณ 20 บาท


3.สวนในขวดแก้ว

y2

จัดเป็นงานแฮนด์เมดในแบบศิลปะ ว่ากันว่าการจัดสวนแก้วต้องใช้สมาธิพอสมควร ซึ่งราคาขายก็จะขึ้นอยู่กับไอเดียและขวดที่นำมาใช้ เป็นงานที่ขายได้ดีในยุคออนไลน์เฟื่องฟูแบบนี้

อีกหนึ่งงานศิลปะที่เรียกว่าขายได้ราคาดี ส่วนจะขายได้แพงแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับไอเดียและวัสดุที่นำมาใช้ ต้นทุนส่วนใหญ่จะอยู่ที่ขวดแก้ว ซึ่งมีทั้งแบบธรรมดา ทรงกลม ทรงสูง ยิ่งเป็นขวดที่แปลกใหม่ก็ยิ่งขายได้ราคา

ทั้งนี้อุปกรณ์หลักๆ ส่วนใหญ่เช่นมอส ,พีทมอส(ดินสำหรับปลูกมอส), สแฟกนั่มมอส (คั่นระหว่างพีมมอสและกรวดรอง) , กรวดสี , ผงถ่าน (กันกลิ่นและเชื้อโรค) ต้นทุนเฉลี่ยขั้นต้นมีตั้งแต่หลักร้อยไปถึงหลักพันขึ้นอยู่กับความยากง่ายและการใช้อุปกรณ์

ซึ่งมีเทคนิคการจัดสวนขวดมากมายให้เราได้ศึกษาขอย้ำว่านี่คืองานแฮนเมดด์ที่เราขายได้ราคาอาจจะตั้งแต่ หลักร้อยไปถึงหลักพันกันเลยทีเดียว

ต้นทุน-กำไร: ต้นทุน/ขวด ขึ้นอยู่กับความยากง่ายและอุปกรณ์ที่ใช้ โดยเฉลี่ยประมาณ 40-50 บาท หากขายในราคา 100 บาทก็จะมีกำไร 40-50 บาท 


4.ผลไม้แปรรูป

y4

เป็นการถนอมอาหารที่เพิ่มมูลค่าให้กับอาหารได้อย่างดี และเป็นอีกหนึ่งอาชีพเสริมที่เกิดจากการคิดดัดแปลงทำให้สินค้ามีความน่าสนใจมากขึ้นซึ่งหากคิดจะทำให้ขายดีก็ควรฝึกฝีมือให้ชำนาญและมีการตลาดที่ดีด้วย

เข้าสู่โหมดอาหารกันบ้าง ยิ่งถ้าเป็นอาหารที่ทำจากมือ ไม่ยุ่งยาก ใช้ผลไม้ที่มีตามฤดูกาลมาแปรรูป ไม่ว่าจะเป็นการดองผลไม้ หมักผลไม้ ผลไม้แช่อิ่ม ผลไม้อบแห้ง ฯลฯ นับว่าเป็นสินค้าที่สามารถทำเงินได้ไม่น้อยยิ่งถ้าคุณเป็นคนทำอาหารที่อยู่ในเกณฑ์ดี ไม่มีสารกันบูด ปลอดภัย สะอาด แค่ขายออนไลน์ ลูกค้าก็สั่งออเดอร์แน่นอน

ทั้งนี้ต้นทุนของผลไม้แปรรูปก็ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้ผลไม้อะไร และราคาผลไม้ในขณะนั้นแพงมากน้อยแค่ไหน แต่เมื่อแปรรูปแล้วแน่นอนว่าเราสามารถตั้งราคาขายได้มากขึ้น โดยปกติราคาผลไม้แปรรูปที่เห็นกัน

เช่น สตอเบอรี่อบแห้ง 100 กรัม ราคา 50 บาท ,ทุเรียนอบกรอบขนาด 210 กรัมราคา270 บาท หรือผลไม้รวมอบแห้งที่ขายได้ตั้งแต่ 200-240 บาท เป็นต้น

ต้นทุน-กำไร: ขึ้นอยู่กับว่าใช้ผลไม้อะไรมาแปรรูปแต่ส่วนใหญ่แปรรูปเสร็จน้ำหนักจะลด แต่ราคาขายจะเพิ่ม ยกตัวอย่างทุเรียนกิโลกรัมละ 300 ทำทุเรียนอบแห้งได้ประมาณ 4-5 ถุงขายถุงละ 100  ขายได้ 400-500 กำไร 100-200 บาท


5. กระเป๋าแฮนเมดด์

ww12

เป็นอีกหนึ่งงาน DIY ที่ใช้ไอเดียของผู้ผลิตเป็นสำคัญ ส่วนใหญ่สามารถจำหน่ายได้ในแหล่งท่องเที่ยวหรือขายตามอินเทอร์เนต หากพัฒนาฝีมือให้ดีอาจทำเป็นแบรนด์ของตัวเองได้ด้วย

งานแฮนด์เมดที่ถือว่าเป็นแฟชั่นได้ด้วย กลุ่มลูกค้าเน้นที่คุณผู้หญิงเป็นสำคัญ จะขายได้ราคาดีแค่ไหนสำคัญที่การดีไซน์ วัสดุที่นำมาใช้ ส่วนใหญ่เริ่มต้นจากเศษผ้า หรือบางทีก็นำเอาวัสดุจากธรรมชาติอย่างผักตบชวามาสานทำเป็นกระเป๋า

อย่างไรก็ดีในโลกออนไลน์มีคนที่จับเอาธุรกิจมาทำเป็นจริงเป็นจัง ถึงขั้นที่ส่งขายไปต่างประเทศสร้างรายได้ปีละหลายล้านบาท แต่สำหรับคนที่อยากเริ่มต้นก็ลองฝึกฝีมือการเย็บกระเป๋า ให้ประณีตให้มีความแปลกใหม่ ราคาขายอาจตั้งได้ตั้งแต่หลัก 100 หลักพันขึ้นอยู่กับฝีมือเรา

ต้นทุน-กำไร: ขึ้นอยู่กับใช้วัสดุอะไรในการทำหากใช้วัสดุเหลือใช้หรือวัสดุในธรรมชาติที่หาได้เอง ต้นทุนกระเป๋าก็ไม่แพงเฉลี่ยใบละ 40-50 บาท ขายใบละ 100 บาทก็มีกำไรใบละ 40-50 บาท


6. โคมไฟจากวัสดุเหลือใช้

ww1

ภาพจาก goo.gl/uVm6Ek

คือการเปลี่ยนของเหลือให้มาเป็นรายได้ ไม่จำเพาะเจาะจงว่ามีรูปแบบใดตายตัว ใช้ไอเดียเป็นตัวสำคัญยิ่งงานมีความแปลกใหม่ก็ยิ่งขายได้ราคามากขึ้น

อย่าดูถูกของเหลือใช้ว่าไม่มีคุณค่าหลายคนรวยเป็นเศรษฐีก็เพราะรู้จักเอาของเหลือใช้มาประดิษฐ์เป็นสินค้าใหม่ๆ วางขายได้ราคาดี โดยเฉพาะการผลิตโคมไฟที่ดูจะได้รับความนิยมมาก มีวัสดุเหลือใช้ที่เอามาประดิษฐ์ได้เช่น ขวดน้ำอัดลม ,กะลามะพร้าว

ยกตัวอย่างโคมไฟที่ผลิตจากขวดน้ำอัดลม ที่มีอุปกรณ์หลักๆคือ ขวดน้ำอัดลม ขนาด 2 ลิตร , หัวแร้ง , สีเพ้นท์แก้ว , มีด , ปากกาเคมี , แม่พิมพ์ , ทินเนอร์ ต้นทุนโดยรวมต่อชิ้นประมาณ 150 บาท แต่ตั้งราคาขายได้ตั้งแต่ 250-300 บาทขึ้นอยู่กับฝีมือ มีกำไรขั้นต่อ 100 บาท/ชิ้น ซึ่งถือว่าน่าสนใจมาก

ต้นทุน-กำไร: ต้นทุนโดยรวมต่อชิ้นประมาณ 150 บาท แต่ตั้งราคาขายได้ตั้งแต่ 250-300 บาทขึ้นอยู่กับฝีมือ มีกำไรขั้นต่อ 100 บาท/ชิ้น ซึ่งถือว่าน่าสนใจมาก


7. ขนมเค้ก เบเกอรี่

ww2

เป็นสายของหวานที่ต้องเรียกว่าเป็นงานแฮนด์เมดเพราะต้องใช้ฝีมือในการทำพอสมควร ผู้ที่คิดจะทำเบเกอรี่เป็นรายได้เสริมต้องฝึกฝนให้ชำนาญยิ่งมีสูตรเด็ดเคล็ดลับเป็นของตัวเองได้ยิ่งดี

หากเราเป็นคนชอบการทำขนมไม่ว่าจะเป็น เค้ก คุ้กกี้ เบเกอรี่ต่างๆ สามารถเอาความถนัดด้านนี้มาเปลี่ยนเป็นเงินได้ ซึ่งเราสามารถทำขนมนอกจากขายหน้าบ้าน ยังสามารถเปิดตัวตามงานอีเว้นท์ หรือขายออนไลน์ เทคนิคคืออย่าลืมทำแพคเกจ และมีแบรนด์ของตัวเองให้คนจดจำได้

และถ้าหัวการค้ามีไอเดียในการทำขนมจะพลิกแพลงให้ขนมดูแปลกตาหรือทำขนมตามเทศกาลอย่างปีใหม่ วาเลนไทน์ จะช่วยทำให้คนสนใจขนมฝีมือเราได้มาก ราคาขายนั้นขึ้นอยู่กับว่าเราทำขนมอะไร แบบไหน แต่รับรองได้ว่าเป็นงานที่ทำอยู่กับบ้านแล้วมีลูกค้าวิ่งเข้าหาเราแน่นอน

ต้นทุน-กำไร: ราคาทุนเค้กค่อนข้างสูงจากวัตถุดิบที่ต้องใช้ประกอบกันหลายอย่างโดยเฉลี่ยประมาณ 50-60 บาทต่อปอนด์ทั้งนี้ก็ไม่ได้ตายตัวและขึ้นอยู่กับชนิดของเค้กด้วย ซึ่งกำไรเฉลี่ยต่อปอนด์ประมาณ 70-80 บาท ซึ่งเป็นการคำนวณโดยประมาณเท่านั้น


8.ตุ๊กตาดินปั้น

i4

ปัจจุบันมีเปิดสอนทำตุ๊กตาดินปั้นจากดินน้ำมันญี่ปุ่น แม้จะดูว่าเป็นสินค้าขนาดเล็กแต่หากร้อยเรียงตุ๊กตาเหล่านี้ให้เป็นเรื่องราวจัดวางได้อย่างเหมาะสมนอกจากขายคนไทยได้แล้วยังขายชาวต่างชาติได้ด้วย

ตุ๊กตาดินปั้นที่เป็นสินค้าขายดีมี 4 กลุ่มใหญ่คือ ปั้นเป็นตัวอักษรภาษาไทย-อังกฤษ , งานปั้นที่เป็นตัวการ์ตูนชื่อดังต่างๆ , งานปั้นตุ๊กตาหน้าเหมือน , งานปั้นที่เป็นโมเดลจำลองต่างๆ ซึ่งนอกจากจะได้ลูกค้าจากคนทั่วไปที่เห็นสินค้า

เรายังสามารถขายงานแฮนเมดด์ลักษณะนี้ให้กับงานมงคลเพื่อเป็นของชำร่วยต่างๆ ราคาขายนั้นขึ้นอยู่กับความยากง่ายในการปั้น เริ่มตั้งแต่ตัวละ 5-500 หรืออาจขายได้แพงกว่านั้นขึ้นอยู่กับความพอใจของลูกค้า โดยช่องทางออนไลน์คือตลาดที่สำคัญในการเปิดตัวให้คนรู้จักเราได้ง่ายที่สุด

ต้นทุน-กำไร: ยกตัวอย่างดินปั้นที่ทำเป็นเคสโทรศัพท์ต้นทุนประมาณ 150-200 บาท สามารถขายได้ตั้งแต่ 300-400 บาทกำไรประมาณ 150-200 บาท


9.พวงกุญแจแฮนเมดด์

y1

สามารถทำขายเป็นของที่ระลึก หรือรับทำตามออร์เดอร์จากลูกค้าที่สนใจ การเพิ่มมูลค่าได้มากน้อยไหนก็ขึ้นอยู่กับวัสดุที่นำมาใช้และไอเดียที่ผสมผสานลงไป

ราคาของพวงกุญแจแฮนเมดด์ขึ้นอยู่กับไอเดียและวัสดุที่นำมาใช้ วัสดุที่ใช้ได้มีตั้งแต่ไม้ , ผ้า , ของเหลือใช้ต่างๆ หรือแม้แต่ไหมพรม กับลูกปัดก็ยังเอามาทำเป็นพวงกุญแจสวยๆได้ การจะขายได้มากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับว่าฝีมือในการทำของเราสวยงาม

และน่าสนใจแค่ไหน เทคนิคการตลาดก็เป็นสิ่งสำคัญเราอาจรับทำตามออร์เดอร์ที่ลูกค้าต้องการหรือจะทำเป็นพวงกุญแจแบบตามกระแส หรือเทศกาล ก็ล้วนแต่น่าสนใจ ที่สำคัญสร้างรายได้ที่ดีให้กับเราแบบที่ไม่ต้องลงทุนอะไรมากมายด้วย

ต้นทุน-กำไร: ต้นทุนขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ถ้าเป็นของเหลือใช้ต้นทุนก็จะประมาณ 10-20 บาท  แต่สามารถขายได้ตั้งแต่ 30-40 บาทกำไรต่อชิ้นขั้นต่ำก็ประมาณ 10-20 บาท


10.ดอกไม้ประดิษฐ์จากหลอดกาแฟ

ww14

ภาพจาก goo.gl/xhHSA4

ใครที่คิดจะทำดอกไม้ประดิษฐ์จากหลอดกาแฟก็ต้องมีการฝึกฝนให้ชำนาญแม้ดูเหมือนง่ายแต่ความจริงแล้วมีขั้นตอนปลีกย่อยให้ศึกษาจำนวนมาก หากทำจนชำนาญสามารถขายได้ในตลาดออนไลน์และร้านขายของที่ระลึก

การทำดอกไม้ประดิษฐ์มีวัสดุที่เลือกใช้ได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นหลอดกาแฟ ผ้าใยบัว หรือแม้แต่พลาสติกก็นำมาทำเป็นดอกไม้ได้ ส่วนใหญ่ดอกไม้ประดิษฐ์เหล่านี้จะใช้ในการตกแต่งบ้านหรือมอบเป็นของขวัญให้กันในเทศกาลสำคัญต่างๆ

รวมถึงเป็นของขวัญสำหรับการขึ้นบ้านใหม่ ต้อนรับปีใหม่ ต่างๆ ต้นทุนของดอกไม้ประดิษฐ์ขึ้นอยู่กับวัสดุที่นำมาใช้บวกกับฝีมือในการทำ ราคาขายมีตั้งแต่ 100 ไปจนถึงหลัก 1,000 ขึ้นอยู่กับความยากง่ายเป็นสำคัญ

ต้นทุน-กำไร: ต้นทุนส่วนใหญ่มาจากอุปกรณ์เสริมที่ต้องใช้ โดยเฉลี่ยดอกไม้จะมีต้นทุนอยู่ประมาณ 30-40 บาทขึ้นอยู่กับรูปแบบการทำและความประณีต ราคาขายก็ตามผลงานตั้งแต่ 100-300 บาท กำไรค่อนข้างดีประมาณ 100-200 บาท


11.ภาพวาดศิลปะ

i5

จำเป็นต้องมีพรสวรรค์ในงานด้านนี้อยู่พอสมควร คนที่มีหัวศิลปะจะได้เปรียบเพราะสามารถเปลี่ยนความสามารถตัวเองเป็นเงินได้ทั้งการวาดภาพเหมือน ภาพวิว  ซึ่งอาจทำให้เรามีชื่อเสียงในด้านนี้ด้วย

สำหรับใครที่มีพรสวรรค์ด้านการวาดภาพ งานปั้น แกะสลัก สามารถงัดเอามาใช้แบบไร้ต้นทุนที่เป็นเงินแต่สามารถใส่ราคาไอเดียบลงไปในชิ้นงาน สร้างราคาให้สูงขึ้นได้ เราสามารถเลือกวาดภาพวิวทิวทัศน์ ภาพเหมือน หรือจะทำงานปั้น งานแกะสลัก

ซึ่งช่องทางการขายก็มีทั้งแบบเอาไปวางขายตามตลาดหรือจะขายผ่านอินเทอร์เนตก็ไม่ใช่เรื่องยาก และหากฝีมือดีจริงเราอาจได้ออร์เดอร์จากโรงแรม หรือชาวต่างชาติที่มักชอบเก็บสะสมหรือเอาไปประดับตกแต่งบ้านตัวเองให้สวยงาม

ต้นทุน-กำไร: ขึ้นอยู่กับว่าเราทำงานศิลปะประเภทไหน หากเป็นงานวาดภาพต้นทุนก็คือสีโปสเตอร์ กระดาษ พู่กัน ดินสอ โดยรวมๆแล้วไม่น่าจะเกิน 10 บาท/ชิ้น (ซื้อมาทีเดียวแต่ใช้ได้หลายครั้ง) ซึ่งราคาขายแน่นอนว่าแล้วแต่ฝีมือขั้นต่ำก็ประมาณ 100 บาทขึ้นไปกำไรเรียกว่าเกิน 100%


12.คัพเค้กผ้าขนหนู

yy1

ภาพจาก goo.gl/b22gNA

คือการดัดแปลงเอาผ้าขนหนูจากราคาไม่กี่บาทให้กลายมาเป็นสินค้าน่ารักๆที่นอกจากใช้ตกแต่งบ้านยังใช้เป็นของชำร่วยหรือของที่ระลึกได้อีกด้วย

สินค้าแฮนด์เมดที่เหมาะแก่การให้ของขวัญเนื่องในโอกาสต่าง ๆ ซึ่งสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยนำผ้าขนหนูที่มีสีสันสวยงาม และอุปกรณ์ถ้วยคัพเค้ก พร้อมท็อปปิ้งน่ารัก ๆ

เพียงเท่านี้ก็สามารถสร้างชิ้นงานที่สวยงามแถมยังเป็นสินค้าที่ดูดี มีราคา มีคนสนใจต้องการสินค้าจำนวนมาก ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์การทำตลาดของเราเป็นสำคัญด้วย

ต้นทุน-กำไร: ขึ้นอยู่กับว่าเราจะทำแบบขายส่งหรือขายเป็นสินต้าชิ้นเดียวต้นทุนก็จะต่างกัน หากเป็นสินค้าชิ้นเดียวต้นทุนคือค่าผ้าขนหนู (สวยงาม) ถ้วยคัพเค้ก และอุปกรณ์ตกแต่ง ต้นทุนเฉลี่ยประมาณ 40-50 บาท แต่จะขายได้ชิ้นละไม่ต่ำกว่า 100 บาทกำไรประมาณ 50 บาท


13.นาฬิกาจากวัสดุเหลือใช้

r3

ภาพจาก goo.gl/Zxqkqc

เป็นการเอาของใช้ที่เหลือรอบตัวมาดัดแปลงเพิ่มมูลค่า ต้นทุนสำคัญอยู่ที่ชุดนาฬิกาซึ่งมีราคาไม่แพงแต่คนส่วนใหญ่นิยมซื้อนาฬิกาแบบแฮนด์เมดเพราะดูมีเสน่ห์น่าสนใจกว่านาฬิกาธรรมดาทั่วไป

การเปลี่ยนองเหลือใช้มาเป็นสินค้าทำให้ประหยัดต้นทุนได้มาก โดยเฉพาะคนที่สนใจทำนาฬิกาจากวัสดุเหลือใช้ แค่มองหาสิ่งของที่ไม่ใช้แล้วจากรอบบ้าน บวกกับไอเดียของเราก็ทำชิ้นงานดีๆ

ออกมาวางขายหรือจะขายทางอินเทอร์เนตก็ยังได้ ที่เห็นกันส่วนใหญ่จะเป็นนาฬิกาจากแผ่นซีดี นาฬิกาจากแผ่นไม้ นาฬิกาจากขวดพลาสติก เป็นต้น

ต้นทุน-กำไร: ต้นทุนหลักมาจากชุดประกอบนาฬิกาที่หาซื้อได้ตามตลาดทั่วไปชุดละประมาณ 30-40 บาท รวมกับวัสดุตกแต่งต่างๆต้นทุนเฉลี่ยประมาณ 50 บาท ตั้งราคาขายได้ตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป กำไรเฉลี่ยประมาณ 50 บาท/ชิ้น


14.จานรองแก้วจากเชือก

r2

ภาพจาก goo.gl/L3Tyvh

ดูเป็นงานง่ายๆ หลายคนมองข้ามว่าไม่สร้างรายได้แต่สำหรับคนที่มีทำเลดีๆ อยู่ในย่านออฟฟิศ สินค้านี้จะขายดีเพราะเป็นที่ต้องการของคนทำงานทั้งหลายเอาไปตั้งไว้ในที่ทำงานก็สวยไปอีกแบบ

ไอเดียดีๆที่สามารถ สร้างรายได้พิเศษ เพียงแค่มีไอเดียในการจัดวางสี โดยสามารถใช้เชือกเกลียวหนา ๆ ที่มีสีสันสดใส หรือ เชือกไหมพรมเส้นใหญ่ มาดัดแปลงทำเป็นที่รองแก้วได้

แต่หากใช้เชือกไหมพรมเส้นใหญ่ แนะนำให้พ่นเคลือบเงาเพื่อกันชื้น ส่วนช่องทางการขายก็แนะนำขายออนไลน์ ฝากขาย หรือ แหล่งรับซื้อของชำร่วย ต่างๆ

ต้นทุน-กำไร: หากใช้ด้ายไหมพรมเส้นใหญ่ขายเป็นม้วน (ก้อน) ละประมาณ 60 บาท หรือหากซื้อเป็นชุดเซตที่มีหลายสีอาจจะประมาณ 200-250 บาท สามารถทำจานรองแก้วได้หลานชิ้นต้นทุนเฉลี่ยต่อชิ้นจึงประมาณ 10-15 บาท ขายในราคาประมาณ 25-30 บาทกำไรต่อชิ้นประมาณ 10-20 บาทสบายๆ


15.เพ้นท์กระถางต้นไม้

r1

ภาพจาก goo.gl/KHLmKa

งานศิลปะอีกแขนงที่เปลี่ยนกระถางธรรมดาๆให้ดูมีราคามากขึ้น ส่วนใหญ่จะขายได้ดีกับคนที่ชอบจัดและตกแต่งบ้าน ส่วนราคาขายจะมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับความสวยงามเป็นสำคัญ

ไม่ว่าจะเป็นเพ้นท์กระถางต้นไม้ เพนท์ถังสังกะสี ซึ่งเป็นงานที่ทำไม่ยาก ใช้เวลาฝึกฝนไม่นานก็สามารถทำได้ สำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานความรู้เรื่องศิลปะก็สามารถฝึกทำได้

โดยเริ่มจากการหาแบบมาวาดตาม เช่น วาดดอกไม้ การ์ตูน ต้นไม้ สัตว์ต่าง ๆ หรือใช้วิธีลอกลายแล้ววาดตามก็ได้ ขอแค่มีใจรัก ไม่ย่อท้อง่าย ๆ รายได้ก็จะเข้ามา

ต้นทุน-กำไร: ต้นทุนกระถางเปล่าขึ้นอยู่กับชนิดเริ่มต้นตั้งแต่ 60-500 สำหรับเพ้นท์ซื้อในราคาประมาณ 60 บาทกำลังดี มาเพ้นท์ลายขายอัพราคาได้ตั้งแต่ 200-300 บาท กำไรต่อชิ้นมากกว่า 150 บาท แต่ก็ขึ้นอยู่กับฝีมือเป็นสำคัญด้วย


16.กรอบรูปแฮนด์เมด

y7

ภาพจาก goo.gl/TjHKpB

เสน่ห์ของกรอบรูปแฮนด์เมดคืองานที่ทำจากความรู้สึก ให้ความประทับใจแก่ผู้รับ แตกต่างจากกรอบรูปวิทยาศาสตร์หรือกรอบไม้ธรรมดาที่เห็นได้ทั่วไป

กรอบรูปแฮนด์เมดมีหลากหลายรูปแบบ เช่น กรอบรูปจากไม้ กรอบรูปจากกระดาษ กรอบรูปพลาสติก เป็นต้น ซึ่งวิธีการทำไม่ใช่เรื่องยาก เรียนรู้เพิ่มเติมจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ หรือค้นหาจาก Google ได้เลย

ส่วนราคาขายค่อนข้างสูง อย่างต่ำ 40 บาท ถึง หลักพันบาทเลยทีเดียว ขึ้นอยู่กับไอเดียของแต่ละคนด้วย ส่วนต้นทุนใช้ไม่มากแค่หลักร้อยก็เอาอยู่

ต้นทุน-กำไร: ขึ้นอยู่กับวัสดุที่เลือกมาใช้ซึ่งถ้าใช้จากของที่เหลือใช้ต้นทุนก็จะไม่บานปลาย รวมกับวัสดุอุปกรณ์อื่นๆ แล้วน่าจะประมาณ 10-20 บาทถ้าเป็นกรอบรูปง่ายๆ แต่หากเป็นกรอบรูปที่ประณีตต้นทุนก็จะประมาณ 100 บาทสามารถขายได้ตั้งแต่ 150-200 กำไรขันต่ำประมาณ 50 บาท


17.แต่งเคสโทรศัพท์มือถือ

y6

ภาพจาก goo.gl/f7tZRf

ในยุคที่โทรศัพท์มือถือเป็นปัจจัยที่ 5 ของคนยุคนี้ การแต่งเคสมือถือก็เป็นอีกงานแฮนด์เมดที่สร้างรายได้อย่างดีโดยเฉพาะในอินเทอร์เนตเราจะเห็นคนสนใจสั่งซื้อกันเยอะมาก ขึ้นอยู่กับความสวยงามในการทำของแต่ละคนด้วย

ยุคนี้โทรศัพท์เป็นปัจจัยที่ 5 ของมนุษย์ที่ขาดไม่ได้ เป็นโอกาสที่เราจะทำงานแฮนด์เมดอย่างการตกแต่งเคสมือถือรุ่นต่างๆ แล้วจำหน่าย

ซึ่งมีเคสเปล่าที่ให้เราเลือกซื้อมาแต่งเป็นลายการ์ตูน ลายสัตว์น่ารัก ลายกราฟฟิค รวมถึงการใช้กากเพชร ผสมสีทำเป็นสีสันต่างๆ ราคาจะขายได้มากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับฝีมือในการทำเป็นสำคัญ

ต้นทุน-กำไร: ราคาเคสเปล่าในท้องตลาดมีหลายรุ่นหลายยี่ห้อ เฉลี่ยต้นทุนอันละประมาณ 15-20 บาท รวมกับค่าวัสดุที่นำมาตกแต่งก็จะมีต้นทุนรวมเฉลี่ย 25-30 บาท ตั้งราคาขายได้ตั้งแต่ 50-100 บาทกำไรก็ประมาณ 50-80 บาท/ชิ้น


18.กำไลข้อมือแฮนด์เมด

i1

เป็นสินค้าแฟชั่นที่ทำให้คนสวมใส่รู้สึกมีเสน่ห์มากขึ้น คุณค่าของกำไลแฮนด์เมดคือความแปลกใหม่ที่แตกต่างจากกำไลธรรมดาทั่วไป  ยิ่งใส่ไอเดียเข้าไปยิ่งขายดีมากขึ้น

ถือเป็นสินค้าแฟชั่นที่ขายได้ง่ายขอเพียงมีไอเดียเก๋ทำออกมาแล้วสวยถูกใจคนซื้อโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นวัยเรียน อุปกรณ์ที่ใช้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นลูกปัดทั้งขนาดเล็กหรือใหญ่รวมถึงอุปกรณ์ทั่วไปที่หาซื้อได้ตามตลาด เป็นงานแฮนด์เมดที่ไม่ได้มีข้อจำกัดว่าต้องทำแบบไหน อย่างไร แต่ทำแล้วให้คนซื้อรู้สึกชอบใจก็ขายได้ราคาแน่นอน

ต้นทุน-กำไร: ยกตัวอย่างราคาลูกปัดคละสีรูใหญ่ จำนวน 50 อันราคา 130 บาท ต้นทุนกำไลข้อมือต่อเส้นประมาณ 20 บาทแต่ขายได้ตั้งแต่ 30-40 บาทกำไรก็ถือว่าดีพอตัวทีเดียว


19.ตุ๊กตาถักไหมพรม

i2

จำเป็นที่ต้องมีทักษะด้านนี้พอสมควร ใครที่คิดจะถักตุ๊กตาไหมพรมจำต้องฝึกฝนมากสักหน่อยกว่าจะได้ตุ๊กตาสวยๆ สักตัว แต่ก็คุ้มค่าสามารถขายได้ในราคาที่สูงพอสมควร

การถักตุ๊กตาไหมพรมอาจต้องมีทักษะและมีความละเอียดอ่อนในการทำพอสมควร ซึ่งก็มีหลายเว็บไซต์ที่สอนการถักไหมพรมในรูปแบบต่างๆ

ถือเป็นงานฝีมือที่ต้องใช้ประสบการณ์ผสมสานกับไอเดียในการผลิตสินค้าที่สามารถส่งมอบให้แก่คนรัก ญาติสนิท หรือใช้เป็นของขวัญในเทศกาลงานต่างๆได้ด้วย

ต้นทุน-กำไร: ต้นทุนหลักคือไหมพรมและสำลีหรือผ้านิ่มสำหรับยัดเข้าไปในตัวตุ๊กตา ไหมพรมสำหรับถักม้วนละประมาณ 90 บาทส่วนใหญ่มักใช้หลายสีคละกัน ซื้อมาทีเดียวก็ใช้งานได้หลายครั้ง ต้นทุนเฉลี่ยประมาณ 30-40 ขึ้นอยู่กับชนิดงานและขนาดของงานที่ถัก ราคาขายตั้งแต่ 100-200 บาท กำไรประมาณ 80-100 บาท ขึ้นอยู่กับฝีมือเป็นสำคัญ


20.สมุดทำมือ

y5

ภาพจาก goo.gl/XGF1qK

ตามถนนคนเดินเราจะเห็นสมุดทำมือที่เกิดจากไอเดียอันบรรเจิด ซึ่งเราสามารถฝึกทำในแบบฉบับของตัวเราเองได้ ไม่มีคำว่าผิดถูก ส่วนจะสวยถูกใจใครแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล

เป็นงานDIYที่ต้นทุนส่วนใหญ่คืออุปกรณ์ที่เอามาตกแต่ง สำหรับตัวสมุดสามารถใช้ของเก่าที่เหลืออยู่เอามาดัดแปลงให้เป็นสมุดทำมือได้ ราคาขายจะอยู่ที่ความสวยงามของชิ้นงาน ซึ่งไอเดียนั้นเป็นสิ่งสำคัญ สามารถใช้เป็นของขวัญ แก่คนรู้จักตามเทศกาลต่างๆ ได้อย่างดี

ต้นทุน-กำไร: ต้นทุนหลักมาจากวัสดุที่ใช้ตกแต่งซึ่งก็แล้วแต่ว่าจะเลือกใช้อะไรไม่ว่าจะเป็นริบบิ้น กาวสี ลูกปัด ฯลฯ ซึ่งต้นทุนต่อเล่มไม่น่าจะเกิน 15 บาท แต่ถ้าทำออกมาสวยดูดีสามารถขายเล่มละ 20-30 บาทกำไร5-10 บาท


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

TFC2022-1

TFC2022-2

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

อ้างอิงจาก  https://bit.ly/38T63iA

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด