16 ระบบ LMS พัฒนาธุรกิจ Learning Management System ปี 2025

LMS (Learning Management System) เป็นซอฟต์แวร์หรือแพลตฟอร์มที่ใช้ในการจัดการการเรียนการสอนออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างคอร์สเรียน การจัดการ การติดตามผล การประเมินผล รวมถึงการสร้างคอมมูนิตี้การเรียนรู้ ประโยชน์ของ LMS มีทั้งการลดต้นทุนทั้งเงินและเวลาในการฝึกอบรม

เพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้และการฝึกอบรม ช่วยติดตาม ประเมิน และวิเคราะห์การพัฒนาทักษะของพนักงาน ซึ่งถือว่าเป็นระบบที่มีความสำคัญในการพัฒนาธุรกิจปี 2025 อย่างมาก อย่างไรก็ดีจำเป็นต้องเลือก LMS ให้ตรงกับความต้องการชององค์กรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ธุรกิจได้อย่างสูงสุด ปัจจุบันมี LMS ที่น่าสนใจได้แก่

1. Teach me Biz

แพลตฟอร์มสร้าง แชร์ และจัดการคู่มือการทำงาน SOP พร้อมมี AI ช่วยสร้างคู่มืออัตโนมัติลดเวลาในการสร้างได้กว่า 93% ช่วยให้การสื่อสารภายในองค์กรเป็นเรื่องง่าย ด้วยภาพถ่ายและ VDO ที่มาในโครงสร้างแบบ Step by Step ที่แค่ “ดู” ก็เข้าใจ พนักงานทุกระดับทำงานอยู่บนมาตรฐานเดียวกัน

2. TalentLMS

ซอฟแวร์ ช่วยจัดการการเรียนการสอนผ่านเครือข่าย สร้างหลักสูตรได้ง่ายๆ ในแบบที่ต้องการ มาพร้อมเครื่องมือที่จำเป็น ได้แก่ ระบบจัดการรายวิชา ระบบสร้างเนื้อหา ระบบบริหารจัดการผู้เรียน ระบบจัดการข้อมูลบทเรียน เครื่องมือที่ใช้จัดการด้านการสื่อสาร เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดี ระหว่างผู้สอนและผู้เรียนโดยสามารถสื่อสารผ่าน Chat, E-mail, Web-Board

3. Conicle

เป็นขั้นกว่าของ LMS บริการให้คำปรึกษาสำหรับการสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้ ที่เข้าใจไลฟ์สไตล์ผู้เรียนและวัดผลได้ มีผู้ใช้งานมากกว่า 1 ล้านคน มีผู้ลงทะเบียนเรียนคอร์สออนไลน์กว่า 150,000 คน ให้บริการแก่ธุรกิจชั้นนำมากกว่า 250 องค์กร มีหลากหลายฟังก์ชั่นให้เลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสมของแต่ละธุรกิจ

4. Skooldio TECH

รับออกแบบและพัฒนาระบบคอร์สเรียนออนไลน์ ขายคอร์สออนไลน์ สำหรับองค์กร โรงเรียน สถาบันกวดวิชา โค้ช เจ้าของธุรกิจ เพื่อสร้างและขายคอร์สออนไลน์ของตัวเอง มีหลากหลายฟังก์ชั่นน่าสนใจเช่นการใช้งาน Google Sheets และเขียนโปรแกรมได้ในห้องเรียน โดยไม่ต้องเปลี่ยนหน้าจอ , รองรับการสร้าง Coupon Code สำหรับทำการตลาด เป็นต้น

5. FROG GENIUS

ซอฟต์แวร์ หรือ Learning Solution ที่ใช้ในการวางแผน ดำเนินการ และประเมินกระบวนการเรียนรู้ แบบ Online ผู้ใช้งานมากกว่า 2 ล้านคน สร้างคอร์สเรียนมากกว่า 5,000 คอร์ส มีหลากหลายฟังก์ชั่นน่าใช้งานเช่น Manage Content & Group Managementจัดเก็บสื่อการเรียนการสอน และเผยแพร่ ไปตามกลุ่มต่างๆ โดยมอบหมายหลักสูตรให้ผู้เรียนเป็นกลุ่มหรือรายบุคคล และแจ้งเตือนให้ผู้เรียนที่ได้รับมอบหมายแบบอัตโนมัติ

6. Docebo

เป็นแพลตฟอร์มการเรียนรู้อันดับ 1 สำหรับธุรกิจ ใช้เพื่ออบรมพนักงาน เทรนนิ่งพนักงานใหม่ พัฒนาบุคคลากร ส่งเสริมการขาย ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม AI ออกแบบหลักสูตรง่ายด้วยระบบอัตโนมัติ สร้างหลักสูตรได้ง่ายและมีเทมเพลตที่ออกแบบไว้ล่วงหน้าถือเป็นแพลตฟอร์มที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วย

7. Levelup LMS

Levelup LMS ออกแบบมาสำหรับการเรียนรู้ การเทรนนิ่งในองค์กร สร้างหลักสูตร AI มาพร้อมฟีเจอร์หลากหลาย รองรับการปรับแต่งที่ยืดหยุ่น มีแบบทดสอบ เล่นเกม รายงาน และการเรียนรู้ส่วนบุคคล เพิ่มประสิทธิภาพในการอบรมได้เป็นอย่างดี มีหลายฟังก์ชั่นให้เลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสม

8. Adobe Learning Manager

โปรแกรมจัดการการเรียนรู้ ช่วยสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่สนุกสนาน ใช้งานง่าย สามารถดูเนื้อหาทั้งหมดได้ครบวงจรในแดชบอร์ดเดียว มาพร้อมการวิเคราะห์ รายงานความคืบหน้า ติดตามผลเพื่อง่ายต่อการวางแผน ปรับเปลี่ยน นำไปสู่การรู้เรียนที่มีประสิทธิภาพ

9. CodexLearn HRD

ระบบ LMS สำหรับบริษัท องค์กร ระบบ LMS ที่ครบวงจร ระบบใช้งานง่าย รองรับการวัดผล KPI สร้างการเรียนรู้ที่ทันสมัย การันตีความสำเร็จด้วยจำนวนผู้เรียนในระบบกว่า 2 ล้านคน และมีกว่า 12,000 คอร์สที่สร้างในระบบ จุดเด่นคือสามารถสร้าง LMS สำหรับองค์กรภายใต้โดเมนที่เลือกเองได้ และมีการพัฒนาฟังก์ชั่นให้อย่างต่อเนื่อง

10. HumanSoft

โปรแกรมที่ทำให้ HR ทำงานง่ายยิ่งขึ้น เพื่อให้ HR และเจ้าของธุรกิจ SME มีเวลามากขึ้น ในการพัฒนาพนักงาน และการเติบโตของธุรกิจ มีหลายฟังก์ชั่นให้เลือกใช้งานทั้งระบบการสร้างเอกสารและการอนุมัติ , ระบบจัดหาบุคลากร , การคำนวณเงินเดือนอัตโนมัติ และมี AI and Insight ระบบการแจ้งเตือนอัจฉริยะที่ช่วยลดโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดได้

11. FutureSkill for Business

ระบบ e-Learning (LMS) แบบครบวงจร สามารถออกแบบเฉพาะสำหรับธุรกิจได้ มีฟีเจอร์ที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่ายทั้งในมุมของผู้เรียนและผู้ดูแล สามารถ สร้างหลักสูตรการเรียนได้ครบครัน ทั้งแบบทดสอบ Pre/Post-Test, Quiz พร้อมการอัปโหลดเอกสารประกอบการเรียนได้อย่างอิสระ มีระบบสำหรับติดตามผลการเรียนรู้ที่ดูผลลัพธ์ได้ง่ายผ่าน Real-time Tracking Dashboard

12. Empeo

โปรแกรมบริหารงานบุคลากรครบวงจร เหมาะสำหรับทุกองค์กร เพื่อการพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ มีหลากหลายฟีเจอร์ให้เลือกใช้งานเช่นการจัดการข้อมูลพนักงาน , ระบบคำนวณเงินเดือนอัตโนมัติ , ระบบลางานและการขอเอกสาร , ระบบการบันทึกการทำงาน ซึ่งจะมีการรายงานผลอย่างถูกต้องและแม่นยำ ลดขั้นตอนในการทำงานได้มาก

13. Skilljar

เป็นแพลตฟอร์มการจัดการการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นที่ลูกค้าและให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของธุรกิจหรือการฝึกอบรมลูกค้าทำให้มีส่วนร่วมกับแบรนด์ เหมาะสมกับการนำไปใช้งานในอุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ รวมถึงธุรกิจด้านสุขภาพด้วย

14. Moodle

เป็นโซลูชัน LMS แบบโอเพ่นซอร์สที่ปรับขนาดตามธุรกิจและช่วยสร้างเนื้อหาหลักสูตรที่ปรับแต่งได้ซึ่งเหมาะสำหรับวิธีการสอนหรือการฝึกอบรมพนักงาน การฝึกอบรมเบื้องต้น และการจัดการการปฏิบัติตามข้อกำหนด มีเครื่องมือที่ใช้งานง่ายสามารถกำหนดเหตุการณ์ในปฏิทินเพื่อให้ตรงกับตารางเวลางานที่ต้องการได้

15. WOW LMS

เครื่องมือที่เสริมสร้างการฝึกอบรมและการพัฒนาความรู้ในธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ธุรกิจสามารถเติบโตและพัฒนาไปในทิศทางเป้าหมายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ มีระบบExtensive Course Builderสร้างหลักสูตรสอนได้ง่าย ทำได้ทั้งลงคลิปและไลฟ์สด เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างคอร์สออนไลน์ได้ง่ายขึ้นด้วย

16. 360 Learning

ระบบการจัดการการเรียนรู้ (LMS) ที่สามารถออกแบบหลักสูตรได้รอบด้านแบบ 360 องศา สร้างหลักสูตรได้ทันที ปรับแต่งได้ตามความต้องการ ระบบการจัดการหลักสูตรใช้งานง่ายมากด้วยโมดูล ลากและปล่อยวาง หรือสร้างหลักสูตรด้วย AI ผู้ช่วยสร้างหลักสูตรภายใน 10 นาที โดยบริษัทมากกว่า 2,300 แห่งเลือกใช้โปรแกรมนี้ เป็นแพลตฟอร์มที่มีความน่าเชื่อถือ ได้รับการรับรองจาก ISO 27001

การเลือก LMS ให้เหมาะสมกับกับธุรกิจคือสิ่งสำคัญมาก ต้องเริ่มจากวิเคราะห์ตัวเองก่อนว่าต้องการแบบไหน อะไรคือวัตถุประสงค์ที่จะเลือกใช้งาน จากนั้นควรมีการเปรียบเทียบและทดลองใช้ LMS จากหลายแพลตฟอร์ม จึงค่อยนำไปสู่การตัดสินใจและสร้างสรรค์เนื้อหาใน LMS

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

• อยากสร้างแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Ive14C
• อยากทำเป็นแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3IrrH0k
• รู้เรื่องกฎหมาย สัญญาแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Iu5WNu
• รวมความรู้แฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Pe0m5s

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่

---

สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

• เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
• ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
• มอบหมายงานและติดตามงาน
• อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

• ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
• ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
• การปฏิบัติงาน
• เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

• การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
• การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
• การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
• การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

• การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
• สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
• กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
• มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

• แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
• แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

• รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
• ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
• ปรับปรุงแก้ไข
• พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

• การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)