10 บริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใหญ่ที่สุดในโลก

แม้จะมีการชะลอตัวของเศรษฐกิจแต่ สินค้าอุปโภค บริโภคของโลก ได้ทำการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงสินค้าอย่างรวดเร็ว ในแต่ละประเทศทั่วโลกสินค้าอุปโภคบริโภค มียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 4.4% โดยเฉพาะในประเทศจีนที่มีผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อมากมาย ที่สำคัญผู้บริโภคชาวจีนให้ความสำคัญในเรื่อง “คุณภาพสินค้า” เป็นอันดับแรก 

ตามรายงาน Global 50 ของบริษัทที่ปรึกษาทั่วโลก OC and C Strategy Consultants รายงานว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของแบรนด์ในประเทศจีนทั้งหมด มียอดขายเพิ่มขึ้นซึ่งคิดเป็น 80% ของการเติบโตโดยรวม

ในประเทศไทยก็ใช่ย่อย ผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน แม้ว่าเศรษฐกิจภายในประเทศจะเป็นอย่างไร กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคก็ยังมียอดขายเพิ่มขึ้น เพราะถือเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน เรียกได้ว่าเป็นสินค้า “ของกิน ของใช้” ที่ทุกคนทั่วโลกต้องมีไว้ในบ้าน

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com ขอพาคุณผู้อ่านไปส่องดูว่า บริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ที่สุดในโลก เป็นใครมาจากไหน โดยอ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ chinadaily.com.cn ซึ่งบริษัทเหล่านี้ได้รับการจัดอันดับจากความมั่นคงและประสิทธิภาพทางเงินที่ดีที่สุดในโลก มาดูพร้อมกันเลยว่า บริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคที่เราใช้ทุกวันนี้ มีบ้างไหมคับ

1. Nestle AG

y10

เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจทางด้านโภชนาการและสุขภาพ ก่อตั้งเมื่อ ค.ศ. 1905 โดยการรวมตัวของบริษัท Anglo-Swiss Milk กับบริษัท Farine Lactée Henri Nestlé มีสำนักงานใหญ่ที่เมืองเวอเว (Vevey) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผลิตสินค้าประเภทอาหารหลายชนิด เช่น กาแฟ เครื่องดื่มช็อกโกแลต ชา นมผง ฯลฯ มีพนักงานทั้งหมดประมาณ 280,000 คน โรงงาน 449 แห่งใน 86 ประเทศทั่วโลก

อาณาจักรธุรกิจของ Nestle ไม่ได้ประกอบขึ้นด้วยกาแฟแต่เพียงลำพังเท่านั้น หากแต่บริษัท ผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ที่สุดของโลก จากเมือง Vevey สวิตเซอร์แลนด์ รายนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับนม, Cereal, ไอศกรีม และขนมขบเคี้ยวอีกจำนวนมาก

Nestle ครอบครองส่วนแบ่งการตลาดในสินค้าหมวดอาหารอย่างหลากหลาย โดยมี Nestle เป็นสินค้าธงนำอยู่ในระดับโลก ขณะที่ผลิตภัณฑ์นมทั้งในแบบนมข้นหวานและนมผงสำหรับใช้เลี้ยงทารก ก็เป็นที่รู้จักในหมู่ผู้บริโภคเป็นอย่างดี

2. Procter & Gamble

y9

พีแอนด์จี (P&G) เป็นบริษัทข้ามชาติผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคจากสหรัฐอเมริกา มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองซินซินแนติ รัฐโอไฮโอ พีแอนด์จีได้รับการจัดอันดับโดยนิตยสารฟอร์จูน ติดอันดับห้า จาก “10 บริษัทที่ได้รับการยกย่องสูงสุด” ประจำปี 2011 เลื่อนขึ้นจากอันดับหกในปี 2010

บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี1837 โดยนายวิลเลียม พรอคเตอร์ ช่างทำเทียนไขชาวอังกฤษ และนายเจมส์ แกมเบิล ช่างทำสบู่ชาวไอร์แลนด์ ชายทั้งคู่อพยพเข้ามาอาศัยที่เมืองซินซินแนติ แต่งงานกับพี่น้องชื่อโอลิเวียร์ และเอลิซาเบท นอริส และได้รับคำแนะนำจากนายอะเล็กซานเดอร์ นอริส ที่เป็นพ่อตาของคนทั้งสองให้ร่วมดำเนินธุรกิจ ก่อตั้งกิจการ พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล ขึ้นเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ. 1837

ในปี 2005 พีแอนด์จีได้ควบรวมกิจการกับยิลเลตต์ และกลายเป็นบริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่มียอดขายอันดับ 1 ของโลก มียอดขายแซงหน้ายูนิลีเวอร์ โดยมียอดขายทั่วโลก 82.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี ค.ศ. 2011

ในปี 2012 พีแอนด์จีได้ถอนตัวออกจากธุรกิจอาหาร ด้วยการขายแบรนด์พริงเกิลส์ ซึ่งเป็นแบรนด์ของมันฝรั่งทอดกรอบที่มีวางจำหน่ายอยู่ทั่วโลกให้กับ เคลลอกส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอาหารและขนมรายใหญ่ของโลก

3. Pepsico

y8

เป๊ปซี่ โคล่า คือ เครื่องดื่มอัดลมที่ผลิตโดยบริษัทเป๊ปซี่ ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่งรายสำคัญของโคคา โคล่า เป๊ปซี่ โคล่ากำเนิดขึ้นครั้งแรกโดยการคิดค้นของเภสัชกรคาแร็ป แรดแฮมที่นิวเบิร์น นอร์ทแคโรไลนา ในช่วงทศวรรษ1800-1900 แรกเริ่มเครื่องดื่มชนิดนี้ถูกตั้งชื่อว่า “เครื่องดื่มของแบรด (Brad’s drink)”

โดยมีเจตนาจะผลิตเครื่องดื่มชนิดนี้ขึ้นเพื่อช่วยรักษาอาการปวดท้อง ต่อมาแรดแฮมจึงตั้งชื่อเครื่องดื่มนี้ว่าเป๊ปซี่จากอาการปวดท้องที่เรียกว่า ไดเป๊ปเซีย ชื่อเป๊ปซี่นั้นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 1903 ส่วนผสมของเป๊ปซี่ถือเป็นความลับทางการค้าเช่นเดียวกับสูตรผสมของ โค้ก เคเอฟซี และแม็คโดนัลด์

4. Unilever

y7

ยูนิลีเวอร์ (Unilever) เป็นบริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค เป็นผู้ผลิตอาหาร เครื่องดื่ม ผงซักฟอก และสินค้าเพื่อสุขอนามัยส่วนบุคคล เป็นผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่มียอดขายสูงสุดเป็นอันดับสองของโลกรองจากพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล มียอดขาย 44.3 พันล้านยูโร ในปี 2010

ยูนิลีเวอร์เป็นบริษัทข้ามชาติสัญชาติอังกฤษและเนเธอร์แลนด์ โดยเกิดจากการควบรวมกิจการของบริษัทลีเวอร์บราเธอร์ ผู้ผลิตสบู่สัญชาติอังกฤษ และบริษัทมาร์การีน ยูนี ผู้ผลิตเนยเทียมสัญชาติเนเธอร์แลนด์ เมื่อปีค.ศ.1930

ปัจจุบันยูนิลีเวอร์เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แบบสองตลาด โดยมีสำนักงานใหญ่ที่ลอนดอน สหราชอาณาจักร ใช้ชื่อว่า ยูนิลีเวอร์ พีแอลซี (Unilever PLC) และสำนักงานใหญ่ที่รอตเทอร์ดัมประเทศเนเธอร์แลนด์ ใช้ชื่อว่า ยูนิลีเวอร์ เอ็น.วี.(Unilever N.V.)

5. JBS SA

y6

บริษัท JBS S.A.เป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในบราซิล ซึ่งเป็นบริษัทแปรรูปเนื้อสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีโรงงานผลิตเนื้อสัตว์แปรรูปจากเนื้อ ไก่ เนื้อหมู และจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากกระบวนการแปรรูปเนื้อสัตว์เหล่านี้ มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ São Paulo ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2496 ใน Anápolis, Goias บริษัทมีโรงงานอุตสาหกรรมทั่วโลก 150 แห่ง

J & F Investimentos เป็นผู้ถือหุ้นทางอ้อมใน JBS S.A. 42% และ J & F Investimentos ถือหุ้นทั้งหมดโดย Joesley Batista และ Wesley Batista โดยเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2560 JBS S.A. ยังคงเป็นผู้ผลิตเนื้อสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

6. Coca Cola Company

y5

บริษัทโคคา-โคล่า เป็นบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำอัดลมที่ใหญ่ที่สุดในโลกในแบรนด์สินค้า “โค้ก” ก่อตั้งบริษัทขึ้นที่ แอตแลนตา รัฐจอร์เจีย เมื่อปี ค.ศ. 1892

โดย อาซา แคนด์เลอร์ ที่ได้ซื้อสิทธิบัตร จากนายแพทย์ จอห์น สติธ เพมเบอร์ตัน ซึ่งได้ เปิดบริษัทผลิตน้ำอัดลมยี่ห้อ โคคา-โคล่า โดยปัจจุบันบริษัทได้ผลิตโค้กออกมาจัดจำหน่ายวันละ 1,600,000 ขวดต่อวันและจัดจำหน่ายมาก กว่า 200 ประเทศทั่วโลก

7. AB Inbev

y4

เป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มและเครื่องดื่มระดับนานาชาติของประเทศเบลเยี่ยม มีสำนักงานใหญ่ในเมือง Leuven ประเทศเบลเยี่ยม และมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองใหญ่ทั่วโลกเช่น กรุงลอนดอน มหานครนิวยอร์ก เซาเปาลูเซนต์หลุยส์ เม็กซิโกซิตี้ โจฮันเนสเบิร์ก โตรอนโต บัวโนสไอเรส และอื่นๆ

บริษัทมีการเติบโตอย่างมาก เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2559 เมื่อ AB InBev ซื้อ SABMiller เพื่อรวมกิจการของทั้ง 2 บริษัท กลายเป็นผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่ที่สุดของโลก ก่อนการเข้าซื้อกิจการของ SABMiller และเป็นหนึ่งในบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ที่สุดในโลก ยอดขายโดยประมาณของบริษัทในปี 2560 ประมาณ 55 พันล้านเหรียญสหรัฐ

8. Tyson Foods

y3

เป็นบริษัทสัญชาติอเมริกัน ที่ตั้งอยู่ในเมือง Springdale รัฐอาร์คันซอ อเมริกา ซึ่งดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมอาหาร บริษัทเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเนื้อไก่ เนื้อ และหมูที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองแค่ JBS S.A. และเป็นผู้ส่งออกเนื้อวัวที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ อีกด้วย

9. Mondelez

y2

Mondelez International, Inc. เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจผลิตเค้ก และเครื่องดื่มในอเมริกา มีพนักงานประมาณ 107,000 คนทั่วโลก ประกอบด้วยขนมขบเคี้ยวและแบรนด์อาหารของโลก บริษัทที่มีสำนักงานใหญ่ในย่านชานเมืองชิคาโกของ Deerfield รัฐอิลลินอยส์ ผลิตช็อคโกแลต บิสกิต หมากฝรั่ง ขนม และเครื่องดื่มผง

ปัจจุบัน Mondelez International มีสินค้าหลายแบรนด์ มูลค่าหลายพันล้านเหรียญสหรัฐ เช่น Belvita, Chips Ahoy !, Nabisco, Oreo, Ritz, TUC, Triscuit, LU, Club Social, Barni และ Peek Freans (คุกกี้และแคร็กเกอร์); Milka, Terry’s, Côte d’Or, Toblerone, Cadbury, Marabou, Lacta (ช็อกโกแลต), Trident, Dentyne, Chiclets, Halls, Stride (หมากฝรั่งและไอลดลง) และ Tang (เครื่องดื่มผง)

10. L’Oreal

y1

L’Oreal หรือ ลอรีอัล ก่อตั้งเมื่อปี 1907 โดยนักเคมีชื่อ Eugene Schueller สินค้าตัวแรกเป็นผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม แบรนด์ L’Aureole จากนั้นก็ขยายสู่ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพผม (Hair care)

ผลิตภัณฑ์เด่นคือ แชมพู Elseve ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว (Skin Care) แบรนด์ Plenitude ในอดีต หรือ Demo Expertise ในปัจจุบันมี Laura Makeup มี Men Expert Body Expertise และ Styling ของ Studio Line กล่าวได้ว่า มีครบทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์

L’Oreal ถือเป็นบริษัทความงามอันดับ 1 ของโลก มีอายุมากกว่า 100 ปีของความเชี่ยวชาญด้านความงาม ยอดขายรวมมากกว่า 20,300 ล้านยูโรในปี 2011 มีผลิตภัณฑ์มากกว่า 27 แบรนด์ระดับโลก วางจำหน่ายในกว่า 130 ประเทศ มีพนักงาน 68,900 คน จดสิทธิบัตร 613 ฉบับในปี 2011 และเป็นแบรนด์ที่มียอดขายสูงกว่า 50 ล้านยูโรต่อปี

จากทั้ง 10 อันดับข้างต้น จะรู้ได้ว่าบริษัทแต่ละบริษัทเป็นผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่ได้รับความนิยมจากผู้บิโภคทั่วโลก อาจเรียกได้ว่าสินค้าแต่ละแบรนด์ของบริษัทเหล่านี้ ครองใจคนทั่วโลก อย่างกรณีของแป็บซี่และโค้ก ก็เป็นคู่แข่งกันมาตลอด บางประเทศทั้งสองแบรนด์นี้อาจแพ้กันราบคาบ แต่ถ้าทั้งโลกอาจสูสีกัน

แต่ที่แน่ๆ ทั้ง 10 แบรนด์ มีสินค้าที่ครองใจผู้บริโภค และเป็นแบรนด์ในดวงใจของผู้บริโภคแต่ละคนอย่างแน่นอนคับ แม้แต่ในเมืองไทย แบรนด์ที่คุณนึกถึงอันดับแรก ถ้าอยากจะใช้….เชื่อว่ามีอยู่ในใจของทุกคนคับ

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ http://www.thaifranchisecenter.com/home.php
อ้างอิงข้อมูลและรูปภาพจาก goo.gl/mBkoyX

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช