“ไวไว” ธุรกิจบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยอดฮิต รายได้กว่า 7 พันล้านบาท

ถ้าบอกว่าอาหารยอดฮิตของคนไทยคือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็คงไม่ใช่คำพูดที่เกินจริง เพราะเราเชื่อว่าทุกคนต้องเคยกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและทุกบ้านต้องมีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่ในครัว ยิ่งวิถีชีวิตที่เร่งรีบของคนเมืองทำให้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกลายเป็นของที่จำเป็นต้องมี

หนึ่งในแบรนด์ที่อยู่คู่คนไทยมานานกว่า 50 ปี ต้องยกให้ “ไวไว” แม้ไม่ใช่แบรนด์แรกสุดที่เปิดตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแต่ www.ThaiSMEsCenter.com มั่นใจว่า “ไวไว” คือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่คนไทยทั่วประเทศต้องรู้จัก ไม่น่าแปลกใจที่ธุรกิจสุดฮิตแบบนี้จะสามารถสร้างรายได้มากกว่า 7 พันล้านบาทเลยทีเดียว

สถิติคนไทยกับการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

ธุรกิจบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

ภาพจาก www.facebook.com/waiwaiinstantnoodle/

ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ในประเทศไทย ถึงมีมูลค่าสูงถึง 17,000 ล้านบาท สถิติที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือ คนไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่บริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก เป็นรองเพียงแค่เกาหลีใต้และเวียดนามเท่านั้น เจาะลึกเข้าไปอีกพบว่าเฉลี่ยแล้วคนไทย 1 คนบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 53.2 ซอง/ปี

สำหรับประวัติของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในประเทศไทยพบว่าเริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ.2514-2515 บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อแรกในประเทศคือ “ซันวา” ที่มีต้นแบบมาจากบะหมี่ญี่ปุ่นที่ต้องต้มก่อนกิน ตามมาด้วย แบรนด์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปต่างๆ อีกมากมาย พร้อมการพัฒนารูปแบบให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น จนทุกวันนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแทบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะคนในเมืองที่เร่งรีบ และไม่ค่อยมีเวลาในการรับประทานอาหารมากนัก

จุดเริ่มต้นของ “ไวไว” ธุรกิจที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 50 ปี

6

ภาพจาก www.facebook.com/waiwaiinstantnoodle/

เริ่มต้นจากคุณชาญ แต้มคงคา ที่ก่อนหน้านี้ทำธุรกิจด้านนำเข้า-ส่งออก โดยมีสินค้าหลักในขณะนั้นคือหมากฝรั่งและลูกอม แต่สิ่งที่มองเห็นคือกระแสนิยมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจากญี่ปุ่น ที่มองว่าเป็นโอกาสที่ท้าทายและมีความต้องการของลูกค้ามาก ด้วยเหตุนี้จึงได้เริ่มต้นการไปดูงานในต่างประเทศเพื่อศึกษากระบวนการผลิตต่างๆ หลังจากนั้นในปี 2515 จึงได้ลงทุนร่วมกับเพื่อนๆ ก่อตั้งบริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด เพื่อผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบรนด์ไวไว ออกสู่ตลาด

สำหรับสินค้าที่ออกจำหน่ายชิ้นแรกก็คือ ไวไว รสปรุงสำเร็จ หรือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปซองสีแดง ด้านหลังซองมีรูปเด็กใส่เสื้อสีแดงเป็นพรีเซ็นเตอร์ และเพื่อต่อยอดความสำเร็จ และขยายธุรกิจให้เติบโตไปอีก บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จึงได้แตกแบรนด์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปใหม่ อย่าง “ไวไว ควิก” ในปี พ.ศ. 2540 นอกจาก ไวไวและควิก แล้วบริษัทยังมีแบรนด์ “ซือดะ” บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่มีเครื่องหมายฮาลาลสำหรับเจาะลูกค้ากลุ่ม ชาวมุสลิม โดยเฉพาะใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และมีผลิตภัณฑ์ ผงปรุงสำเร็จ ภายใต้แบรนด์ “รสเด็ด” อีกด้วย

5 กลยุทธ์การตลาดของ “ไวไว” ครองใจลูกค้า

5

ภาพจาก www.facebook.com/waiwaiinstantnoodle/

1.เจาะตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ

นอกจากในประเทศแล้ว บริษัทยังส่งสินค้าออกไปจำหน่ายในต่างประเทศอีกด้วย โดยส่งออกกว่า 20 ประเทศทั่วโลก เช่น สหรัฐฯ, ยุโรป, ออสเตรเลีย, จีน, ญี่ปุ่น และประเทศเพื่อนบ้าน

2.แตกไลน์ธุรกิจที่ตอกย้ำแบรนด์ “ไวไว”

นอกจากสินค้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เพื่อตอกย้ำแบรนด์ให้เป็นภาพจำของคนได้มากขึ้น ในปี 2558 ได้เปิดร้านอาหารชื่อ “ควิก เทอเรส” มีเป้าหมายเพื่อขยายธุรกิจใหม่ ๆ ด้วยการนำสินค้าที่มีอยู่แล้วของบริษัทมาต่อยอดผ่านการเพิ่มมูลค่าของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่กลายเป็นเมนูอาหารต่าง ๆ เช่น ยำ, สปาเกตตี, ก๋วยเตี๋ยว เป็นต้น

4

ภาพจาก www.facebook.com/waiwaiinstantnoodle/

3.ทุ่มงบการตลาดเพื่อเข้าถึงลูกค้าได้มากที่สุด

นอกจากกลยุทธ์ด้านสินค้าและคุณภาพ ด้านการตลาดก็เป็นสิ่งที่ “ไวไว” เน้นมากเช่นการทุ่มงบการตลาด 50 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปน “ทำวันนี้ ทำไวไว”เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคน ได้รีบลุกขึ้นมาทำตามความฝัน ด้วยกลยุทธ์ Music Marketing ผ่านเพลง “ทำวันนี้ ทำไวไว”

3

ภาพจาก www.facebook.com/waiwaiinstantnoodle/

4.สร้างรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองได้ชัดเจน

ภาพจำที่คุ้นเคยกันดีคือการที่นำไวไวมาเทใส่เครื่องปรุงกินกันแบบไม่ต้องเทน้ำร้อน แต่ก็อร่อยมาก สิ่งเหล่านี้กลายเป็นภาพจำที่ชัดเจน ไม่นับรวมเรื่องกลิ่นที่หอมมากของไวไว และยังมีการพัฒนารสชาติอื่นมาเรื่อยๆ เช่น ไวไวรสหอยลายผัดฉ่า, ไวไวรสหมูสับต้มยำ เป็นต้น

2

ภาพจาก www.facebook.com/waiwaiinstantnoodle/

5.เน้นการใช้วัตถุดิบ “ข้าวเจ้า100%”

คีเวิร์ดสำคัญที่ทำให้ “ไวไว” ประสบความสำเร็จอย่างมากคือวัตถุดิบที่ใช้ ข้าวเจ้า 100% ไม่มีการผสมแป้ง และเน้นการตลาดที่เข้าถึงครัวเรือนเป็นหลัก รวมถึงจุดเด่นในเรื่องผงปรุงรสที่ช่วยสร้างรสชาตให้บะหมี่ไวไวเป็นแบรนด์ที่มีน้ำซุปรสชาติกลมกล่อมอย่างมาก

รายได้ของ “ไวไว” มากกว่า 7 พันล้านบาท

1

ภาพจาก https://bit.ly/3HA68cO

ภาพรวมของ “ไวไว” ยังมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง ยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบันที่ต้นทุนวัตุดิบแพงขึ้นทุกอย่าง ทำให้ “ไวไว” เองก็ต้องมีการปรับขึ้นราคาตามกลไกตลาด ถึงกระนั้นความต้องการสินค้าก็ยังมีมากต่อเนื่อง มีส่วนแบ่งการตลาดกว่า 24% ที่สามารถสร้างรายได้ในปี 2562 กว่า 7,059 ล้านบาท รายได้เติบโตจากปีก่อนหน้านี้กว่า 8.2% และกำไรเติบโต 26.1%

สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือ “ไวไว” ไม่เคยหยุดนิ่งกับที่ตลอดเวลาของการทำธุรกิจมุ่งมั่นและพัฒนาสินค้าตัวเองอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการจับกระแสความต้องการของลูกค้าได้อย่างถูกจุด สามารถสร้างคอนเทนต์ที่โดนใจผู้บริโภคได้อย่างมาก แม้ชื่อเสียงของแบรนด์จะเป็นที่จดจำ แต่ “ไวไว” ยังต้องการสร้างฐานลูกค้ารุ่นใหม่ให้ขยายต่อเนื่องมากขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจว่าธุรกิจนี้จะยังเติบโตได้อีกมากและคาดว่าจะประสบความสำเร็จได้อย่างมหาศาล


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/335phDi
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/3tNEza2 , https://bit.ly/3N1YFEl , https://bit.ly/3b6xuLj , https://bit.ly/3xHZKf7

อ้างอิงจาก https://bit.ly/39IWXKz

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด