เดินหน้าปิด! ค้าปลีกใหญ่สุดในอังกฤษ Boots ส่อแววปิด 200 สาขาใน 2 ปี

ดูเหมือนว่าสถานการณ์ค้าปลีก โดยเฉพาะในต่างประเทศจะอยู่ในอาการที่เรียกว่า “โคม่า” ก็ว่าได้ เมื่อมีร้านค้าปลีกชื่อดังหลายแบรนด์ทยอยโบกมือลาไปเรื่อยๆ ด้วยเหตุผลคือการโดน Disruption จากออนไลน์ที่ไม่สามารถทัดทานได้

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จะนำเสนออีกหนึ่งร้านค้าปลีกที่กำลังจะปิดตัวลงกว่า 200 สาขาในอีก 2 ปีข้างหน้า นั่นก็คือ Boots ถือเป็นแบรนด์ร้านค้าปลีกสัญชาติอเมริกันที่คนไทยน่าจะรู้จักเป็นอย่างดี เรื่องราวเป็นอย่างไรติดตามดูครับ

q4

ภาพจาก bit.ly/2W1fPHM

ข่าวรายงานว่า Boots ร้านค้าปลีกด้านสุขภาพ และความงามสัญชาติอเมริกัน เตรียมปิดสาขา 200 แห่งทั่วสหราชอาณาจักร หลังรายได้ลดลงมาตลอด ขณะนี้ผู้บริหารกำลังมองหาโมเดลทางออกให้บริษัท

โดย Walgreens ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Boots กำลังพิจารณาถึงการปิดสาขาที่ไม่ทำรายได้ ซึ่งในสหราชอาณาจักรมีร้านค้าทั้งหมด 2,485 สาขา มีพนักงานรวม 56,000 คน

q3

ภาพจาก bit.ly/2I8j1fN

เหตุผลที่ Boots ต้องทำการปิดสาขานั้น เพราะต้องทำการต่อสู้กับรายได้ที่ลดลงต่อเนื่อง ซึ่งทางบริษัทได้บอกว่าในช่วงที่ผ่านมาเป็นไตรมาสที่ยากที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัทเลยทีเดียว

ซึ่งตอนนี้ Boots ยังไม่มี Project ใหม่ๆ แต่อยู่ในขั้นตอนพิจารณาถึงสาขาที่มีประสิทธิภาพต่ำ ยอดขายตก รวมไปถึงมองโอกาสในการควบรวมกิจการด้วย

ถ้าย้อนกลับไปไม่นานมานี้ Walgreens มีแผนการลงทุนในธุรกิจเครื่องสำอาง มีแผนที่จะเปิดร้านที่เป็น Flagship store ในชื่อ Covent Garden โดยเมื่อเดือน กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา ทางสำนักงานใหญ่ได้ประกาศลดค่าใช้จ่ายในส่วนของพนักงาน 20% ทำให้พนักงานจำนวน 350 คนอยู่ในภาวะเสี่ยงในการโดนปลด หรือตกงานนั่นเอง

q2

ภาพจาก bit.ly/2MhsqH2

อีกทั้งเมื่อเดือนที่ผ่านมา Walgreens ได้ประกาศว่าต้องการลดค่าใช้จ่ายของบริษัทอย่างจริงจัง ถึงขั้นใช้คำว่าเด็ดขาด ทำให้เกิดการพิจารณาถึงการปิดสาขาของ Boots ในอนาคต เป็นการปรับตัวเพื่อความคล่องตัวของธุรกิจ

ต้องยอมรับว่า ตลาดธุรกิจร้านสุขภาพและความงามในยุคปัจจุบัน มีการแข่งขันที่สูงมาก โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ สาวๆ ชอบช้อปปิ้งออนไลน์มากขึ้น ทำให้ร้านค้าปลีกกลุ่มนี้เริ่มดำเนินธุรกิจยากมากขึ้น และเริ่มปิดตัวในที่สุด

q1

ภาพจาก bit.ly/2QvIaVA

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาหลายคนอาจจะได้ทราบข่าวการปิดตัวของร้านค้าปลีกในสหราชอาณาจักรจำนวนมาก หนึ่งในนั้นก็คือTopshop และ Topman ซึ่งเป็นแบรนด์แฟชั่นเครื่องแต่งกายจากประเทศอังกฤษ โดยบริษัทได้ประกาศปิดร้านค้าในสหรัฐฯ และร้านค้าในเครืออีก 200 สาขาในสหราชอาณาจักร เพื่อหลีกเลี่ยงการล้มละลายเช่นกัน

ขณะที่แบรนด์ค้าปลีกอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจาก Disruption ไปก่อนหน้านี้ในสหราชอาณาจักร มีหลายแบรนด์ เช่น Carpetright, Toys R’ Us, Maplin, Mothercare, Poundworld, Homebase, Marks & Spencer, Orla Kiely, HMV และ L.K Bennett ถือว่าน่ากลัวจริงๆ สำหรับธุรกิจที่ปรับตัวไม่ทันการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคดิจิทัล


คุณผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

01

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/document
เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี เปิดร้าน www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php

อ้างอิงข้อมูล
dailym.ai/2KdV7SE

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3gVnd58

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช