ล้ำหน้าอีกขั้น! ปรากฏการณ์ KFC จีน ที่โลกต้องจับตามอง

นับตั้งแต่ Yum Brands บริษัทแม่ของ KFC และ Pizza Hut ได้ทำสัญญาขายกิจการสาขาในประเทศจีนให้แก่บริษัทไพรมาเวลา แคปปิทัล และบริษัทแอนท์จินหรง ซึ่งเป็นบริษัทประกอบธุรกิจการเงินการลงทุนภายใต้อาณาจักรอาลีบาบาของ “แจ็ค หม่า” ด้วยมูลค่า 460 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมูลค่าราว 15,000 ล้านบาท ทำให้บริษัททั้ง 2 กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท Yum Brands จีน ด้วยหุ้นจำนวน 4% และ 6% ตามลำดับ

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มองว่าหลังจาก KFC จีน ตกเป็นของ “แจ็ค หม่า” ได้สร้างปรากฏการณ์ต่างๆ ชวนให้โลกต้องจับตามองต่อเนื่อง นำเอาเทคโนโลยีความก้าวหน้าต่างๆ มาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจ เริ่มจากการเปิดสาขา “ระบบหุ่นยนต์อัจฉริยะ” แห่งแรกในกรุงปักกิ่ง

 KFC จีน

โดยได้นำหุ่นยนต์ที่พัฒนาโดย “ไป๋ตู้” บริษัทผู้ให้บริการเว็บสืบค้นยักษ์ใหญ่ของจีนมาใช้ให้บริการลูกค้า หุ่นยนต์ดังกล่าว จะช่วยแนะนำเมนูอาหารให้ลูกค้า โดยการสแกนใบหน้า ก่อนจะนำข้อมูลไปประมวลผลวิเคราะห์ และให้คำแนะนำว่าลูกค้าควรจะกินเมนูใด

ในเวลาต่อมา ได้ใช้โอกาสพิเศษของการเปิดตัวทำตลาดไก่ทอด KFC ในแดนมังกรครบรอบ 30 ปี แฟรนไชส์ดังระดับโลกได้จัดการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นพิเศษร่วมกับทาง Huawei ตกแต่งในโอกาสสีแดง ปั๊มโลโก้ผู้พันบนฝาหลัง เช่นเดียวกับวอลเปเปอร์เป็นรูปของ พันเอก ฮาร์แลนด์ แซนเดอร์ส

ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2560 ร้านไก่ทอด KFC ในเมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน เมืองที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ Alibaba ได้นำร่องเพิ่มวิธีการชำระเงินแบบใหม่สำหรับลูกค้า โดยใช้การรู้จำใบหน้าในการยืนยันตัวตนเพื่อชำระเงิน

ccff2

ร้าน KFC สาขานี้เป็นร้านคอนเซ็ปต์ในชื่อ KPRO ที่เน้นเมนูสุขภาพ อาหารคลีนต่างๆ รวมถึงสามารถบริการลูกค้าด้วยสลัดต่างๆ รวมถึงบริการคั้นน้ำผลไม้สดๆ ใหม่ๆ กาแฟสด และคราฟต์เบียร์ และใส่เทคโนโลยีเข้าไปในร้าน

ซึ่งทั้งหมดเป็นไปได้ เนื่องจาก Ant Financial เจ้าของ Alipay ที่เป็นบริษัทเครือ Alibaba เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ KFC จีนอยู่แล้ว โดยระบบชำระเงินนี้ ตั้งชื่อว่า Smile to Pay โดยลูกค้ายืนให้เครื่องสแกนใบหน้าในการตรวจสอบ จากนั้นต้องยืนยันอีกขั้นโดยใส่หมายเลขโทรศัพท์ลงไป การสั่งซื้อจึงจะสมบูรณ์

ทั้งนี้ ตู้ชำระเงิน Smile to Pay ถือเป็นเจ้าแรกที่ให้บริการชำระเงินผ่านระบบสแกนใบหน้า พัฒนาระบบโดยบริษัทอาลิบาบา ร่วมมือกับ บริษัท แอนท์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิส กรุ๊ป โดยมี “แจ็ค หม่า” แห่งอาลีบาบา ได้เป็นผู้เปิดตัวระบบทดลองไปเมื่อปี 2015 นอกจากนั้นบริษัทผู้พัฒนาระบบชำระเงินเจ้าอื่นๆอย่าง ซัมซุง, เพย์พอล, มาสเตอร์การ์ด และ เอ็นอีซี ก็กำลังพัฒนาการชำระเงินผ่านระบบสแกนใบหน้านี้อยู่เช่นกัน

ccff3

อาลีบาบา ผู้นำอีคอมเมิร์ซจีน นับว่าเป็นผู้นำเอาเทคโนโลยีจดจำใบหน้ามาใช้ในการทำธุรกิจแบบเชิงพาณิชย์ครั้งแรกของโลกกับ KFC สาขาเมืองหางโจว เพียงลูกค้ากดสั่งเมนูที่บริเวณทางเข้า จากนั้นเข้าสู่เครื่องสแกนใบหน้า และระบบจะทำการจับคู่ใบหน้าจากภาพถ่ายที่ลงเบียนไว้ ก่อนจะหักเงินผ่านบัญชีของ Alipay

วันนี้ Yum China ยังครองตำแหน่งเชนอาหารฟาสต์ฟู้ดที่ใหญ่ที่สุดในตลาดจีน มีสาขามากกว่า 7,685 สาขา ยอดขายร้านค้าปลีกในประเทศจีนของบริษัทมีการปรับตัวดีขึ้น เห็นได้ชัดในไตรมาสที่ 2 ของปีที่แบรนด์ KFC แข็งแกร่งกว่าเดิม

เห็นได้ว่า KFC เมืองหางโจวได้สร้างปรากฏการณ์ที่ก้าวล้ำไปอีกขั้น นอกจากจะนำเอาเทรนด์ผู้บริโภคชาวจีน ที่หันมาใส่อาหารสุขภาพมากขึ้นแล้ว ยังนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการชำระเงินด้วยการสแกนใบหน้า

ccff4

อีกทั้งยังสามารถชำระเงินผ่านสมาร์ทโฟนแบบเดิมได้อีก มาปรับใช้ในร้านแห่งนี้ ที่ต้องการมุ่งเน้นนำเสนออาหารสุขภาพแก่ผู้บริโภคชาวจีน ถือเป็นประสบการณ์ที่ผู้บริโภคชาวจีนที่เป็นแฟนคลับของร้านไก่ทอด KFC จีนได้รับเกินคุ้มจริงๆ

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/home.php

อ้างอิงจาก https://bit.ly/33VQRR4

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช