ลงทุนขายอะไรดี! 10 สินค้าขายดี คนไทยแห่ซื้อทุกวัน

ในยุคข้าวยากหมากแพงแบบนี้มองไปทางไหนก็มีแต่รายจ่ายที่สูงขึ้น สวนทางกับรายได้ที่ลดลงหรือเท่าเดิม ใครที่มีรายได้ทางเดียวอาจต้องคิดหนัก ด้วยเหตุนี้ www.ThaiSMEsCenter.com เชื่อว่าคนจำนวนไม่น้อย

ต้องการหาอาชีพและวิธีการลงทุนที่จะเพิ่มรายได้ให้ตัวเองมากขึ้น ภายใต้เงื่อนไขว่าต้องใช้เงินลงทุนไม่มากแต่เป็นสินค้าที่ขายง่าย ขายดี และมีคนสนใจชนิดที่จำเป็นต้องซื้อบ่อยๆ หรือซื้อทุกวัน ลองมาดูไอเดีย ลงทุนขายอะไรดี ที่น่าสนใจบ้าง

1.ขายลูกชิ้นปิ้ง/ลูกชิ้นทอด

18

ภาพจาก https://bit.ly/3GT61bS

สินค้าที่ขายง่าย ขายดียุคนี้ต้องราคาไม่แพง ดังนั้นพวกลูกชิ้นปิ้ง ลูกชิ้นทอด ตอบโจทย์การขายได้อย่างดี ที่สำคัญไม่จำเป็นต้องลงทุนสูง อาจใช้งบในการเริ่มต้นประมาณ 2,000 -3,000 บาทสำหรับการเปิดร้านเล็ก เงินจำนวนนี้ก็คือค่าวัตถุดิบและอุปกรณ์ในการขายที่จำเป็นต่างๆ และถ้าใครมีทำเลหน้าบ้านอยู่ในย่านชุมชนคนพลุกพล่านยิ่งได้เปรียบและไม่ต้องเสียค่าเช่าพื้นที่ด้วย คิดคำนวณง่ายๆ ขายวันละ 100-200 ไม้ ราคาไม้ละ 10 บาท รายได้ต่อวันประมาณ 1,000 –2,000 บาท

17

ภาพจาก https://bit.ly/3GPSH8d

อาจจะไม่ใช่เงินจำนวนมาก แต่ถ้าในแต่ละเดือนเราขายทุกวันรายได้ต่อเดือนแตะ 10,000 –20,000 ได้เช่นกัน ก็ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการ เทคนิคการขาย กลยุทธ์การตลาดต่างๆ หรือถ้าบอกว่าลงทุนเองไม่มีประสบการณ์จะลองเลือกลงทุนแบบแฟรนไชส์ก็มีหลายแบรนด์ให้เลือกเช่น อู้ฟู่ ลูกชิ้นปลาเยาวราช , ไจแอ้นลูกชิ้นปลาระเบิดเถิดเทิง , ซูโม่ ลูกชิ้นปลาระเบิด 1 บาท โดยแฟรนไชส์เหล่านี้มีแพคเกจลงทุน มาพร้อมอุปกรณ์และวัตถุดิบให้พร้อมขายได้ทันที งบลงทุนเริ่มต้นประมาณ 2,000 บาท ก็เปิดร้านขายได้

16

ภาพจาก https://bit.ly/3xcBcuc

2.ขายหมูปิ้ง / เนื้อปิ้ง / ไก่ย่าง

7

ยังอยู่ในสายปิ้งย่างเพราะน่าจะเป็นเมนูลงทุนน้อยและขายง่าย ขายดีที่สุด เมนูสุดฮิตที่ขายดีแน่คือ หมูปิ้ง ไก่ย่าง เนื้อปิ้ง เป็นต้น ปกรณ์ในการขายหลักๆคือ เตาย่าง , โต๊ะวางหรือรถเข็น จุดเด่นคือใช้พื้นที่น้อยโต๊ะตัวเดียวก็เพียงพอเปิดร้านได้ ทำเลก็ทั่วไปทั้งหน้าบ้านตัวเอง ตลาดนัด ป้ายรถเมล์ ริมถนนต่างๆ

15

ภาพจาก https://bit.ly/3xhfYg1

งบลงทุนเบื้องต้นประมาณ 2,000 – 3,000 บาท ก็เปิดร้านได้ ในเรื่องของรายได้ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณการขาย เช่นถ้าขายหมูปิ้งไม้ละ 10 บาท ถ้า 1 วันขายได้ 100 ไม้ รายได้ประมาณ 1, 000 บาท เป็นต้น หรือถ้าใครคิดว่าลงทุนเองมันยากสามารถเลือกลงทุนรูปแบบแฟรนไชส์ได้ ยกตัวอย่าง ต.เนื้อย่าง ที่ลงทุนแค่ 3,000 บาท ได้อุปกรณ์เนื้อพร้อมย่างกว่า 500 ไม้ ขายไม้ละ 10 บาท ขายวัตถุดิบชุดนี้หมด กำไรทันที 2,000 บาท หรือจะเลือกลงทุนแฟรนไชส์ดือจุ่นหมุนไก่ บาย ส.โภชนา ที่ตอนนี้มีโปรโมชั่น ค่าแฟรนไชส์เพียง 3,900 บาท ได้อุปกรณ์และวัตถุดิบพร้อมนำไปปิ้งขายได้ทันที

3.กล้วยทอด/มันทอด / ถั่วทอด / ข้าวโพดต้ม

14

อาหารทานเล่นอย่างกล้วยทอด มันทอด ถั่วทอด ข้าวโพดต้ม เป็นสตรีทฟู้ดส์ที่หากินได้ง่าย ทำไม่ยาก อย่างข้าวโพดต้มมีให้เลือกตั้งแต่ฝักละ 10 บาทหรือขายเป็นกองละ 3 ฝัก (กองละ 20 บาท) หรือจะเป็นถั่วทอดที่เป็นอาหารกินเล่นทานเล่นได้อย่างเพลินๆ หรือแม้แต่กล้วยทอดก็ขายดีไม่แพ้กัน

ที่สำคัญมีหลายแฟรนไชส์ให้เลือกลงทุนเปิดร้านขายได้ ถ้าเรามีงบในการลงทุนไม่เกิน 5,000 บาท ถือว่าเริ่มต้นได้ทันที อาจจะเริ่มจากร้านขนาดเล็ก อุปกรณ์ไม่ต้องเยอะ เอาจากในครัวมาใช้ได้ วัตถุดิบอย่าลงทุนมาก เปิดร้านให้มีลูกค้ารู้จักและค่อยๆ นำกำไรที่ได้มาพัฒนาขยายร้านต่อไป

4.ร้านข้าวไข่เจียว

13

ในยุคที่อะไรก็แพงแสนแพง คนส่วนใหญ่เน้นประหยัดไว้ก่อน อะไรที่อิ่มท้อง ราคาไม่แพงมักจะขายดี ซึ่งข้าวไข่เจียวก็เป็นเมนูง่ายๆ ลงทุนไม่มาก อุปกรณ์น้อย ต้นทุนหลักคือวัตถุดิบ สำหรับผสมไข่เจียว (หมูบด , ปูอัด , หมูยอ ฯลฯ) และข้าว กับไข่ ข้าว 1 ถังเอาแบบดีราคา ถังละ 450-500 บาท หุงได้หลายรอบ ไข่เบอร์2 แผงละ 115-120 บาท (30ใบ) ต้นทุนเบ็ดเสร็จพร้อมเปิดร้านประมาณ 2,000 – 3,000 ขายข้าวไข่เจียวจานละ 20-25 บาท แค่ 100 จานก็ได้เงิน 2,500 บาท

ซึ่งอาจจะไม่ได้คืนทุนในทีเดียว แต่ใช้เวลาในการคืนทุนไม่นาน และหากขายดีมีลูกค้ามากๆ อาจเพิ่มเมนูให้หลากหลาย หรืออาจเพิ่มช่องทางการขายแบบเดลิเวอรี่ ก็จะทำให้มีรายได้มากขึ้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับรสชาติอาหาร คุณภาพในการบริการเป็นสำคัญด้วย

5.ขายหมูสะเต๊ะ

12

หมูสะเต๊ะ อาหารยอดฮิตกินง่าย ซื้อง่าย และซื้อกันทีละหลายๆไม้ การลงทุนหลักหลักๆ คือเตาปิ้งย่างตัวละประมาณ 300-400 บาท เนื้อหมู กิโลกรัมละประมาณ 150-200 บาท กะทิ ผงกระหรี่ แตงกวา พริก ถั่วลิสง รวมต้นทุนและอุปกรณ์เบื้องต้นประมาณ 1,000 – 2,000 บาท (ขึ้นอยู่กับราคาวัตถุดิบขณะนั้น) ราคาขายของหมูสะเต๊ะมักขายเป็นชุดชุดละ 30-35 บาท กำไรโดยเฉลี่ยประมาณ 50% จากยอดขาย ขึ้นอยู่กับทำเลและความอร่อยเป็นสำคัญ

6.ไอศกรีม

11

ภาพจาก https://bit.ly/3x1Zw1K

เมนูของหวานอย่างไอศกรีมก็ขายง่าย ขายดีและเป็นสินค้ายอดฮิตเช่นกัน แต่แนะนำว่าการขายไอศกรีมที่จะทำให้ประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้นควรเลือกลงทุนกับแฟรนไชส์เพราะมีอุปกรณ์ และมีไอศกรีมพร้อมขายให้เราสร้างรายได้ทันที

10

ภาพจาก https://bit.ly/3mgwbM3

ซึ่งปัจจุบันมีหลายแฟรนไชส์ให้เลือกลงทุนเช่น คุณพล ไอศกรีม สามารถเลือกลงทุนได้ถึง 6 แบบคือ ไอศกรีมขายก่อนจ่ายทีหลัง, ไอศกรีมแบบถ้วย, ไอศกรีมแบบตัก, แบบไอศกรีมตักเซ็ตพร้อมขาย, แบบไอศกรีมตักเซ็ตอาชีพ, แบบไอศกรีมตัก เซ็ต เดลลี่เวอรี่ งบลงทุนเริ่มต้น 1,500 บาท หรือ ภัทรินทร์ฟู้ดส์ ศูนย์รวมแฟรนไชส์ไอศกรีม มีจุดเด่นคือสินค้าหลากหลายให้เลือกลงทุนเช่น Hello icecream ไอติมเผา , I-Mochi โมจิไอศกรีม , Happy ไอติมทอดไซส์จัมโบ้ ,ไอติมทอดดอทคอม , ภัทรินทร์ไอศกรีม ไอศกรีมกะทิสด ,ชะลอมไอศกรีม ไอศกรีมผลไม้แบบแท่ง ทุกรูปแบบสินค้าของภัทรินทร์ฟู้ดส์ ใช้งบการลงทุนน้อย เริ่มต้น 2,999 บาท

7.เครื่องดื่มชา/กาแฟ/น้ำผลไม้

9

ภาพจาก https://bit.ly/3zjLSdm

แม้ร้านเครื่องดื่มจะเป็นธุรกิจยอดฮิตที่มีคู่แข่งจำนวนมาก แต่ลูกค้าก็มีความต้องการสูงมากเช่นกัน การเลือกลงทุนเปิดร้านชา กาแฟ น้ำผลไม้ ที่ดีที่สุดแนะนำให้เลือกลงทุนกับแฟรนไชส์ที่มีให้เลือกหลายแบรนด์ ข้อดีของแต่ละแฟรนไชส์คือมีสูตรเด็ดเคล็ดลับของตัวเอง เป็นสินค้าที่ลูกค้ารู้จักอย่างดี พร้อมทีมงานมมืออาชีพที่จะสอนให้ทุกเทคนิคการขาย

8

ภาพจาก https://bit.ly/38Rcfwf

รวมถึงมีแพคเกจลงทุนที่มาพร้อมอุปกรณ์และวัตถุดิบต่างๆ ให้เราเริ่มเปิดร้านได้ทันที ในช่วงแรกอาจเลือกแพคเกจราคาเบาๆ แล้วเมื่อมีกำไรมากขึ้นค่อยเพิ่มขนาดร้านให้ใหญ่ขึ้นได้

7

ภาพจาก https://bit.ly/3GT5zKK

6

ภาพจาก https://bit.ly/3NQ74vi

ปัจจุบันมีหลายแฟรนไชส์เครื่องดื่มให้เลือกเช่น โมโม่ฉะชานมไข่มุกไต้หวัน ราคาลงทุนเริ่มต้น 39,000 บาท , เอชเจ เฟรชมิลค์ ปังหยา-นมสด เงินลงทุนเริ่มต้น 15,900 บาท , โคโคฟุกุ เงินลงทุนเริ่มต้น 29,800 บาท , ฮ็อปชาเฟ่ ใช้เงินลงทุนเริ่มต้น 39,000 บาท หรือ ชิกกี้ มังกี้ คาเฟ่ เงินลงทุนเริ่มต้น 45,000 บาท เป็นต้น

5

ภาพจาก https://bit.ly/3GUtCsL

8.อุปกรณ์การแพทย์และเวชภัณฑ์ต่างๆ

4

แม้สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด 19 จะคลี่คลายไปมาก แต่พฤติกรรมคนไทยนับจากนี้ก็จะเปลี่ยนแปลงไปสิ้นเชิง สินค้าเพื่อสุขอนามัย เช่น หน้ากากอนามัย , เจลแอลกอฮอล์ , สเปรย์แอลกอฮอล์ , เครื่องตรวจวัดไข้ ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้กลายเป็นสินค้าที่ขายดีและมีแนวโน้มจะเติบโตมากขึ้น ข้อมูลระบุว่า อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์และสุขภาพในประเทศไทยนั้น มีมูลค่ากว่า 230,000 ล้านบาท อัตราเฉลี่ยเติบโตประมาณ 4% ต่อปี แน่นอนว่าการลงทุนในสินค้าด้านสุขภาพเหล่านี้อาจต้องใช้ไอเดียในการขาย มีช่องทางการจำหน่ายที่ดี รู้จักใช้การตลาดออนไลน์เข้าร่วมด้วย จะช่วยทำให้มียอดขายที่สร้างรายได้ให้เราได้มากขึ้น

9.ขายแซนด์วิช

3

แซนด์วิชทำง่ายและใส่ไอเดียในสินค้าได้มาก ที่สำคัญต้นทุนไม่สูงเทคนิคสำคัญคือต้องตั้งราคาขายคำนวณ ให้มากกว่าต้นทุนประมาณชิ้นละ 5-10 บาท สมมติเราขายแซนด์วิชชิ้นละ 25 บาท วันหนึ่งขายเฉพาะช่วงเช้าได้วันละ 50 – 100 ชิ้น ก็ได้เงินแล้ว 1,000 – 2,000 บาท หักต้นทุนออกไปแม้กำไรอาจจะไม่มาก แต่ก็ได้เงินมาพอหมุนเวียน และแซนด์วิชไม่จำเป็นต้องขายอยู่ที่ใดที่หนึ่ง โต๊ะตัวเดียว อุปกรณ์เล็กน้อย เคลื่อนที่ไปตามตลาดต่างๆ ได้ หรือจะเพิ่มช่องทางในตลาดออนไลน์ ก็จะช่วยทำให้มียอดขายมากขึ้น

10.เครป / เฟรนฟรายด์ / เบเกอรี่

2

ภาพจาก https://bit.ly/3metiM1

ตอนนี้สถานศึกษาทุกแห่งกลับมาเปิดทำการเรียนการสอนอย่างเต็มรูปแบบ นั่นหมายความว่าทำเลหน้าโรงเรียนจะกลับมาคึกคักอย่างมาก สินค้าขายดีจึงอยู่ในกลุ่มอาหารทานเล่นเช่น เครป หรือเฟรนฟรายด์ รวมถึงเบเกอรี่ ที่ได้รับความสนใจจากนักเรียนและผู้ปกครองอย่างมาก วิธีที่ง่ายสุดคือการเลือกลงทุนกับแฟรนไชส์ที่มีจุดเด่นคือเมนูที่คิดค้นมาอย่างดี มีแพคเกจลงทุนที่มาพร้อมอุปกรณ์และวัตถุดิบ การสอนเทคนิคการขายต่างๆ การส่งเสริมด้านการตลาด โดยปัจจุบันมีหลายแฟรนไชส์ที่น่าสนใจเช่น ชีสซี่ฟรายสแน็ค ใช้งบในการลงทุนเริ่มต้น 29,900 บาท หรือมารุวาฟเฟิล ที่ใช้งบลงทุนเริ่มต้น 43,000 บาท เป็นต้น

1

ภาพจาก https://bit.ly/3metpqV

อย่างไรก็ตาม สินค้าเหล่านี้แม้จะมีความต้องการของลูกค้าจำนวนมาก เป็นสินค้าขายดีที่คนต้องซื้อบ่อยๆ หรือซื้อทุกวัน แต่ต้องไม่ลืมว่าสินค้าเหล่านี้ก็มีคู่แข่งจำนวนมาก ดังนั้นหากคิดจะลงทุนจึงควรโฟกัสเรื่องการตลาด กลยุทธ์การขาย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการค้าขายให้ได้กำไรมากขึ้น


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/335phDi
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3xsnC7h

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด