“รับจ้างหิ้ว” สร้างรายได้ดีแค่ไหน!

กระแส “รับจ้างหิ้ว” เคยโด่งดังเมื่อ 1-2 ปีก่อน ถึงตอนนี้กระแสจะไม่แรงแต่คนทำอาชีพนี้ก็มีอยู่ ในช่วงบูมๆ ใครๆ ก็อยากเข้ามา “รับจ้างหิ้ว” ด้วยคิดว่าทำง่าย หาเงินง่าย วิธีไม่ยุ่งยาก แค่ไปซื้อของตามที่ลูกค้าอยากได้ แค่นั้น!

แต่ความจริง ยิ่งกว่านั้น! หลายคนที่เข้ามาทำอาชีพ “รับจ้างหิ้ว” ต้องบอกเลิกอาชีพนี้กันไป ด้วยเหตุผลหลายอย่างเช่น หิ้วแล้วลูกค้าไม่จ่ายเงิน , หิ้วแล้วลูกค้าบอกของไม่ใช่ตามออร์เดอร์ , ไปหิ้วไม่ทันของหมดซะก่อน เป็นต้น

www.ThaiSMEsCenter.com มองว่า “รับจ้างหิ้ว” คืออีกหนึ่งไอเดียของการสร้างรายได้ เพียงแต่เราต้องรู้จักและเข้าใจหลักการในการทำอาชีพนี้ หากบริหารจัดการถูกต้องอาชีพนี้ “รายได้ดีมาก”

จุดเริ่มต้นของ “รับจ้างหิ้ว”

รับจ้างหิ้ว

ภาพจาก bit.ly/2CjV2rv

ในอดีตการ “หิ้วของ” มักเป็นที่คุ้นเคยในกลุ่มสินค้าต่างประเทศ ฮิตสุดไม่พ้นการหิ้วสินค้าจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้จากอดีตมักเป็นการหารายได้เสริมของคนที่ทำงานด้านการบิน เช่น แอร์โฮสเตสหรือสจ๊วต ที่หิ้วสินค้ายอดฮิต ส่วนใหญ่เป็นเครื่องสำอางจากประเทศผู้ผลิต แล้วนำมาขายให้ลูกค้าที่สั่งจอง

จนเมื่อการสื่อสารออนไลน์ได้รับความนิยมมากขึ้นทำให้การค้าลักษณะ “พรีออเดอร์” แพร่หลายในวงกว้าง เริ่มมีบุคคลทั่วไปที่เดินทางไปท่องเที่ยว รับหิ้วของกลับมาให้ผู้ซื้อ และนอกจากรับพรีออเดอร์ก่อนเดินทางไปแล้ว เมื่อเดินทางไปถึงจุดหมาย หากเห็นสินค้าใดน่าสนใจ ก็สามารถถ่ายภาพแล้วโพสต์ลงไอจีหรือเฟซบุ๊กของตัวเอง เพื่อรอรับออเดอร์จากลูกค้าที่ติดต่อกลับมาได้ทันที

มาถึงปัจจุบัน “รับจ้างหิ้ว” ไม่ได้จำเพาะว่าต้องเป็นสินค้าจากต่างประเทศในเมืองไทยก็มีการ “หิ้วของ” กลุ่มแบรนด์เนม หรือสินค้าลดราคาตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ เรียกว่าเป็นอาชีพที่ต่อยอดและเปิดกว้างจนกลายเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่สร้างรายได้ดีสำหรับคนที่ทำได้

กระแส “รับจ้างหิ้ว” ไม่แรงแต่ยังน่าสนใจอยู่

45

ภาพจาก bit.ly/2K0wHeG

ตอนเปิดตัวอาชีพนี้กันใหม่ๆ ก็ฮือฮามาก แม้ตอนนี้กระแสจะซาลงไปแต่คนที่ใจรักและทำอาชีพนี้จริงๆ ก็ยังมีมาก อย่างตอนที่ร้าน “LOUIS VUITTON” สาขาในเมืองไทย เปิดตัวสินค้าใหม่ที่ร่วมกับ “Supreme” ผลิตออกมาเป็นคอลเล็กชั่นพิเศษ มีคนจำนวนมากแห่แหนไปรอตั้งแต่กลางดึก

เพื่อเข้าไปเลือกซื้อในตอนเปิดร้าน หรือก่อนหน้านี้ที่Adidas ออกรองเท้ารุ่นพิเศษ คนก็แห่กันไปแย่งซื้อกันร้านแทบถล่ม คาดว่าคนส่วนหนึ่งในการซื้อสินค้าเหล่านี้ไม่ใช่เพื่อใช้เอง แต่เป็น “รับจ้างหิ้ว” มากกว่า และไม่ใช่แค่ในเรื่องสินค้าเสื้อผ้า รองเท้า เดี๋ยวนี้แม้แต่อาหาร ก็มี “รับจ้างหิ้ว” เหมือนกัน

44

ภาพจาก facebook.com/afteryumbangna

ยกตัวอย่าง ร้าน “After Yum” ร้านยำชื่อดังในพัทยาที่มีจุดเด่นคือของทะเลสดใหม่และการันตีความอร่อยจากบล็อกเกอร์มากมายก่อให้เกิดกระแส คนต่อคิวล้นร้านตั้งแต่ยังไม่เปิด จุดนี้ก็เป็นช่องทางให้เกิดอาชีพ “รับจ้างหิ้ว” ขึ้นมา

ข้อมูลเบื้องต้นของการหิ้วจากร้าน After Yum ระบุว่าคนรับจ้างหิ้วจะคิดราคา 1 กล่อง/เมนู เริ่มต้น 50 บาท รับหิ้วสูงสุด 20 กล่อง/วัน เท่ากับมีรายได้ 1,000 บาท/วัน หากได้หิ้วทุกวันรายได้สูงสุดคือ 22,000 บาท/เดือน

“รับจ้างหิ้ว” รายได้ดีแค่ไหน

43

ภาพจาก bit.ly/2NsagkN

เมื่อกี้ยกตัวอย่างในส่วนของ After Yum ที่เป็นการหิ้วอาหาร ลองมาดูสินค้าอื่นๆ บ้างว่า “ราคาเป็นอย่างไร” เราต้องแยกประเภทสินค้าเป็นเครื่องสำอาง เสื้อผ้า รองเท้า เรทราคาในการรับจ้างหิ้วจะต่างกันออกไป

โดยส่วนใหญ่สินค้าเหล่านี้จะมาจากงาน Sale งาน Event กลุ่มลูกค้าคือคนที่สนใจสินค้าในงานเหล่านี้แต่ไม่มีเวลาไปร่วมงาน เรทราคารับจ้างหิ้ว หากเป็นเครื่องสำอาง อาจหิ้วได้ถึง 100 ชิ้น/วัน เพราะสินค้ามีขนาดเล็ก ราคาหิ้วเริ่มต้น 20บาท/ชิ้น รายได้ต่อวันประมาณ 2,000 บาท

รับจ้างหิ้วเสื้อผ้า เป็นสินค้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมา อาจรับจ้างหิ้วได้ไม่เกินวันละ 50 ชิ้น/วัน ราคาเริ่มต้นที่ 50 บาท/ชิ้น รายได้ต่อวันเริ่มต้นที่ 2,500 บาท รายได้สูงสุดใน 1 เดือนคือ 12,500 บาท

รับจ้างหิ้วรองเท้า เนื่องด้วยเป็นสินค้าที่มีน้ำหนักและชิ้นค่อนข้างใหญ่ คนแย่งกันซื้อก็เยอะ การรับจ้างหิ้วเฉลี่ยทำได้ประมาณ 20คู่/วัน ราคาหิ้วเริ่มต้น 100 บาท/คู่ รายได้ต่อวันสูงสุด 2,000 บาท สูงสุดต่อเดือน 10,000 บาท

นี่คือเรทเบื้องต้นโดยประมาณของการรับจ้างหิ้ว ที่ไม่ได้การันตีหรือโฟกัสตายตัวว่าจะต้องราคานี้หรือรายได้เท่านี้เป็นแค่การประมาณการณ์ บางคนอาจมีรายได้ดีกว่านี้หรือบางคนอาจมีรายได้น้อยกว่านี้ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของคนรับจ้างหิ้วแต่ละบุคคล

ขั้นตอนการ “รับจ้างหิ้ว”

42

ภาพจาก bit.ly/2JY1Lf7

  1. หาออร์เดอร์ลูกค้า ด้วยการไปเม้นต์รับหิ้วตามเพจต่างๆ ถ้าลูกค้าสนใจจะอินบ็อกซ์เข้ามาเพื่อฝากหิ้ว
  2. รับออร์เดอร์ และรวบรวมออร์เดอร์จากลูกค้าให้ได้มากที่สุด แล้วไปหิ้วทีเดียว ก่อนไปหิ้วจะแจ้งลูกค้าก่อนว่ากำลังจะไปหิ้ว เพื่อให้ลูกค้าตอบและตัดสินใจซื้อของ
  3. ตกลงกับลูกค้า และคิดเงินค่าสินค้า ค่าหิ้ว และค่าส่งไปรษณีย์
  4. รอลูกค้าโอนเงินให้เรียบร้อย จากนั้นจึงจะแพ็กของส่ง

ต้นทุนการรับจ้างหิ้ว

41

ภาพจาก bit.ly/2JVh6ge

ต้นทุนเริ่มต้นโดยประมาณ 2,000-3,000 บาท ก็สามารถเริ่มอาชีพรับหิ้วสินค้าได้แล้ว โดยส่วนใหญ่จะใช้ไปเป็นค่าน้ำมันรถ และค่าจัดส่ง ส่วนต้นทุนที่เหลือจะเป็นต้นทุนในส่วนของการลงแรงและต้นทุนเรื่องเวลา

ผลกำไรโดยเฉลี่ยของการรับจ้างหิ้ว

40

ภาพจาก bit.ly/32mVS1d

ผลกำไรเฉลี่ยจะอยู่ที่ 1,000-2,000 บาท / วัน (หากคำนวนต่อเดือนก็จะมีรายได้เฉลี่ยประมาณ 20,000-50,000 บาท) หักลบต้นทุนแล้วก็ยังเหลือไม่ต่ำกว่า 30,000 บาท หากขยันๆหน่อยตัวเลขที่เห็นนี้ไม่ใช่เรื่องยาก หรืออาจจะได้มากกว่าด้วยซ้ำไป แต่ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในการหิ้วของแต่ละบุคคล ที่ไม่ได้ยืนยันชัดเจนว่าต้องมีรายได้แค่ไหนใน 1 เดือน

“รับจ้างหิ้ว” ถือเป็นอาชีพทีเกิดมากับยุคเทคโนโลยีที่เชื่อว่านี่จะไม่ใช่อาชีพสุดท้ายที่แปลกแหวกแนว แต่ในอนาคตจะต้องมีอีกหลายอาชีพที่สอดรับกับการพัฒนามากขึ้นทางเทคโนโลยี ที่จะทำให้เราเห็นความแปลกใหม่ของอาชีพที่เราก็ไม่เคยคิดว่าจะมีแบบนี้มาก่อน มารอคอยและลองดูกันว่าจะมีอาชีพอะไรบ้างที่น่าสนใจแบบนี้


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ bit.ly/2E885O9

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด