รวม 7 แฟรนไชส์ปลาหมึกย่าง ยิ่งขาย ยิ่งรวย!

ถ้าพูดถึงเมนูสายปิ้งย่างหลายคนจะนึกถึง “ปลาหมึกย่าง” เป็นอันดับแรกๆ จุดเด่นของปลาหมึกย่างคือ กลิ่นของหมึกที่เมื่อกระทบความร้อน กลิ่นหอมลอยฟุ้ง ปลาหมึกย่างมีทั้งแบบตัวเล็ก ตัวใหญ่ บางทีไม่กินตัวก็มีหนวดปลาหมึกให้เลือก

มาพร้อมกันน้ำจิ้มสูตรเด็ดของแต่ละร้าน และการลงทุนเบื้องต้นแบบคิดเองทำเอง คาดว่าใช้ต้นทุนเริ่มต้นประมาณ 5,000 บาท เป็นค่าอุปกรณ์การขาย เช่น เตาย่าง ตะแกรง ไม้เสียบปลาหมึก รถเข็นสำหรับขาย รวมถึงเป็นค่าวัตถุดิบในการเริ่มต้น

โดยต้นทุนปลาหมึกที่นิยมใช้กันอย่าง หมึกกระดอง หมึกกล้วย หมึกหอม ต้นทุนประมาณ กิโลกรัมละ 100 – 200 บาท หากตัวขนาดฝ่ามือจะได้ประมาณ 10 ตัว/กิโลกรัม ราคาขายตัวละ 60 – 100 บาท หนวดปลาหมึกและไข่ปลาหมึก กิโลละ 100 – 200 บาท (เป็นราคาเฉลี่ยของปลาหมึกที่อาจแพงกว่านี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมหลายอย่าง) ส่วนใหญ่เริ่มต้นขายไม้ละ 10 บาท กำไรเบื้องต้นขึ้นอยู่กับปริมาณลูกค้า ค่าเช่าสถานที่

อย่างไรก็ดี www.ThaiSMEsCenter.com เอาใจคนที่อยากเปิดร้านปลาหมึกย่างแต่ไม่อยากเริ่มต้นเอง เรามีแฟรนไชส์ปลาหมึกย่างมาให้ลองพิจาณา ข้อดีของการลงทุนกับแฟรนไชส์คือ มีอุปกรณ์พร้อมเปิดร้าน มีการสอนเทคนิคปิ้งย่างต่าง ๆรวมถึงหลายแฟรนไชส์มีฐานลูกค้าตัวเองจำนวนมาก แค่เราเริ่มต้นก็ต่อยอดสร้างกำไรให้ตัวเองได้ทันที

1. ปลาหมึกย่างมหาชัย

แฟรนไชส์ปลาหมึกย่าง

ภาพจาก bit.ly/3gJ21gt

ท่าเรือมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร เป็นจุดที่มีสะพานปลาสำหรับการซื้อขายอาหารทะเลจากชาวประมง เป็นแหล่งตลาดอาหารทะเลที่ขึ้นชื่อและรู้จักกันเป็นอย่างดี โดยปลาหมึกย่างมหาชัยก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่อาศัยจุดเด่นในเรื่องพื้นที่รับเอาปลาหมึกทะเลหลากหลายขนาด และหลายหลายชนิดทั้ง หมึกกล้วย หมึกไข่ ทำเป็นร้านขายปลาหมึกย่างที่มีน้ำจิ้มรสเด็ด อีกทั้งยังขยายธุรกิจให้เติบโตแบบแฟรนไชส์ คนที่ลงทุนจะได้อุปกรณ์การขายครบชุด พร้อมวัตถุดิบเป็นปลาหมึกสด งบกาลงทุนในแฟรนไชส์ราคาเริ่มต้น 35,000 บาท โดยรูปแบบการลงทุนและรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อกับทางแบรนด์ได้โดยตรง

2. หมึกยักษ์ย่างเกาหลี

15

ภาพจาก bit.ly/2TVBVgy

จากประสบการณ์ที่ขายปลาหมึกย่างมานานกว่า 8 ปี นำมาสู่การพัฒนาสู่ระบบแฟรนไชส์ จุดเด่นคือปลาหมึกสด สะอาด คัดเกรดคัดไซส์ แล้วนำมาเสียบไม้พร้อมขาย ซึ่งมีให้เลือกหลายส่วน อาทิ หนวดหมึก เนื้อปลาหมึก คางหมึก ไข่ปลาหมึก เป็นต้น ที่สำคัญคือสูตรน้ำจิ้มรสเด็ด โดยผู้ลงทุนสามารถนำไปเปิดร้านพร้อมย่างขายได้เลยทันที ราคาขายเริ่มต้นไม้ละ 10 บาท สามารถทำกำไร 80% ของต้นทุนการลงทุนมี 2 รูปแบบ คือ ชุดตั้งตัว งบลงทุนแฟรนไชส์ 14,900 บาท เหมาะสำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่เริ่มขายใหม่ หรือออกงานต่างๆ สามารถผับเก็บได้ ชุดขายแล้วรวย งบลงทุนแฟรนไชส์ 49,000 บาท เป็นชุดเคาน์เตอร์ใหญ่ เหมาะสำหรับลงขายตามที่ประจำตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ

3. ร้านจัมโบ้ปลาหมึกย่าง ตลาดกรีนเดย์ไนท์

14

ภาพจาก bit.ly/2Ax67HV

จุดเด่นที่น่าสนใจของจัมโบ้ปลาหมึกย่าง นอกจากน้ำจิ้มรสแซ่บ และความสดของปลาหมึก จัมโบ้ปลาหมึกย่างเป็นอีกหนึ่งร้านสตรีทฟู้ดสำหรับคนชอบเดินตลาดกลางคืนจะรู้จักเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีวัตถุดิบสำหรับขายส่งให้ผู้สนใจเอาไปเปิดร้านขายต่อได้เอง โดยราคาในการขายส่ง อย่างเช่น หมึกไม้เล็ก ราคา 6.5 บาท ขายไม้ละ 10-12 บาท กำไร4-5 บาท , ปลาหมึกสายไม้เล็ก ราคาส่ง 7 บาท ขายไม้ละ 10-12 บาท กำไรประมาณ 3-5 บาท , หมึกกระดอกไม้เล็ก ราคาส่ง 18 บาท ราคาขายไม้ละ 30 บาท กำไรประมาณ 12 บาท หรือหมึกกล้วยราคาส่งไม้ละ 12 บาท ราคาขาย 20-25 บาท กำไร 10-13 บาท ถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งวัตถุดิบน่าสนใจหรือใครจะไปลองหาชิมที่ร้านก่อนค่อยตัดสินใจก็ได้

4. ไอ้ตูดหมึก by เจคิว ปูม้านึ่ง Delivery

13

ภาพจาก bit.ly/3dnzwD8

แบรนด์ปลาหมึกย่างของคุณสุรีรัตน์ ศรีพรหมคำ ผู้ก่อตั้งธุรกิจแบรนด์ร้านอาหาร เดลิเวอรี่ “เจคิว ปูม้านึ่ง Delivery ที่เพิ่มธุรกิจปลาหมึกย่างเป็นทางเลือกให้คนสนใจลงทุน โดยแฟรนไชส์ไอ้ตูดหมึก by เจคิว ปูม้านึ่ง Delivery จะมีวัตถุดิบ ทั้งปลาหมึกเสียบไม้ และเตา รวมถึงน้ำจิ้มซีฟู้ด สาขาแรกอยู่ที่สถานีบริการน้ำมัน ปตท. ที่สถานทูตลาว ค่าแฟรนไชส์เริ่มต้นที่ 5,990 บาท โดยจะเป็นชุดร้านเล็กๆ พร้อมอุปกรณ์ หรือหากสนใจรูปแบบคีออส ค่าแฟรนไชส์ในการลงทุนเริ่มที่ 35,000 บาท ได้อุปกรณ์การขายแบบครบชุด และวัตถุดิบในการเปิดร้าน หรือหากท่านใดสนใจสามารถสอบถามรูปแบบการลงทุน และรายละเอียดเพิ่มเติมกับทางแบรนด์ได้โดยตรง

5. หมึกย่างปันปัน

12

ภาพจาก bit.ly/3cpb2bc

สาขาเบื้องต้น ได้แก่ สาขาตะวันนาบางกะปิ สาขาเพียวเพลส สัมมากร รามคำแหง 110 และสาขา Crystal Market ตั้งอยู่ในโครงการ The Crystal Park เอกมัย-รามอินทรา เคล็ดลับความอร่อยที่เป็นที่ติดใจลูกค้าอยู่ที่การเลือกใช้วัตถุดิบที่สดสะอาดและมีคุณภาพดี โดยจะเน้นใช้หมึกกระดองสด นำมาลอกหนังฟอกด้วยเกลือสมุทรเพื่อล้างเมือกและกลิ่นคาว ก่อนที่จะนำไปแยกชิ้นส่วนเสียบไม้ย่างเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม 2 รส 2 แบบ มีทั้งน้ำจิ้มเปรี้ยวรสจัดจ้านและน้ำจิ้มหวาน และยังมีบริการเดลิเวอรี่โดยทางร้านคิดราคา หมึกกระดองกล่องละ 280 บาท คอปลาหมึก 150 บาท หรือถ้าใครชอบทานไข่ปลาหมึกกระดองแบบเน้นๆ กล่องเล็ก 250 บาท กล่องใหญ่ 400 บาท

6. O.K. ปลาหมึกย่าง น้ำจิ้มรสเด็ด

10

ภาพจาก FB : O.K. ปลาหมึกย่าง น้ำจิ้มรสเด็ด

เป็นอีกหนึ่งร้านปลาหมึกย่างที่มีชื่อเสียงและเชื่อว่าหลายคนรู้จักเป็นอย่างดี มีการขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ ผู้ลงทุนได้อุปกรณ์พร้อมเปิดร้าน และวัตถุดิบเบื้องต้น ซึ่งผู้สนใจสามารถสอบถามรูปแบบการลงทุน และรายละเอียดในส่วนของราคาลงทุนกับทางแบรนด์ได้โดยตรง แต่ถือเป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์ปลาหมึกย่างที่เราพบเห็นได้ทั่วไป

7. หมึกกังนัม By ย่างให้

9

ภาพจาก FB : ย่างให้

เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ปิ้งย่างที่มีจุดเด่นและสไตล์ในตัวเอง เป็นแฟรนไชส์ยอดฮิตที่เอาในคนรักปิ้งย่าง กับอีกแฟรนไชส์ในเครือเดียวกันคือ หมึกกังนัม ที่เป็นหมึกย่างเกาหลีรสชาติแบบไทยๆ มาพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด ราคาแฟรนไชส์เริ่ม 49,999 บาท สิ่งที่จะได้รับคือเคาน์เตอร์ปิ้งย่าง เตาย่าง (เลือกได้ว่าแบบไฟฟ้าหรือแก๊ส) , ป้ายลิขสิทธิ์ , อุปกรณ์ปิ้งย่างต่างๆ , ผ้ากันเปื้อน , น้ำจิ้มชุดแรก สามารถตั้งราคาขายได้ไม้ละ 20-25 บาท คุ้มค่าคุ้มราคาการลงทุน และเป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์ที่มีการส่งเสริมการตลาให้เป็นอย่างดี สนใจรูปแบบการลงทุนและรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อกับทางแบรนด์ได้

8

ภาพจาก bit.ly/2BjjdZL

การตั้งราคาขายของร้านปลาหมึกย่างส่วนใหญ่อิงตามราคาของวัตถุดิบที่มีการปรับขึ้นลงในแต่ละวัน รวมถึงต้องดูกำลังซื้อของคนในพื้นที่ด้วย เช่นปลาหมึกปิ้งไม้ละ 10-15 บาทอาจเหมาะกับตลาดแถวหน้าโรงงาน โรงเรียน ชุมชนต่างๆ

ซึ่งหากเอาปลาหมึกที่ราคาแพงแล้วขายไม้ละ 70-80 บาท อาจไม่เหมาะกับกำลังซื้อในย่านนั้น หรือบางทีร้านปลาหมึกปิ้งที่เป็นแบบ รถเคลื่อนที่อาจได้เปรียบที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายและมีสินค้าหลายแบบให้เลือกตั้งแต่ราคาไม้ละ 10 บาท 15 บาท ไปจนถึงราคาไม้ละ/ตัวละ 100 -150 บาท

ทั้งนี้หากพิจาราตามสูตรการตั้งราคาจะเป็นดังนี้

7

หมายถึงว่าพ่อค้าต้องรู้ราคาวัตถุดิบหลักว่าจ่ายไปเท่าไหร่ และในปริมาณวัตถุดิบนี้จะสามารถเอามาทำหมึกปิ้งได้มากน้อยแค่ไหน จะทำให้ทราบราคาต่อไม้โดยเฉลี่ย และเอามารวมกับราคาต้นทุนวัตถุดิบอื่นๆ เช่นพริก กระเทียม ต่างๆ หรือรวมกับต้นทุนค่าเช่าในแต่ละวันแต่ละเดือนเอามาเฉลี่ยรวมเป็นราคาขายต่อไม้ที่จะทำให้มองเห็นภาพชัดเจนว่าควรขายในราคาเท่าไหร่เพื่อป้องกันไม่ให้ขาดทุน


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

ขอบคุณข้อมูล
https://bit.ly/36McYJI , https://bit.ly/2XRuDvo , https://bit.ly/2ZWBpmy , https://bit.ly/2ZWAMcC , https://1th.me/n7rR2

อ่านบทความเพิ่มเติม https://bit.ly/2XqKAKi

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด