ธุรกิจการค้าใน กัมพูชา “กำลังซื้อ” ของคนยุคใหม่ที่น่าลงทุนเป็นอย่างยิ่ง

เมื่อหลุดพ้นจากภาวะสงครามและความอดอยากที่ยาวนานนับสิบปี คน กัมพูชา จำนวน 14 ล้านคนต่างก็พยายามที่จะก้าวให้ทันโลกยุคปัจจุบัน คนภายนอกจะมองว่าประชากรในประเทศยังยากจนอยู่ แต่ถ้าได้เข้าไปสัมผัสกับตลาดในกัมพูชาจริงๆ คนที่นี่มีกำลังในการซื้อสูงมากเช่นกัน

ในฐานะที่เป็นประเทศเพื่อนบ้านและนักธุรกิจไทยจำนวนไม่น้อยก็นิยมเข้าไปลงทุนในกัมพูชาเพิ่มมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จึงขอสำรวจตลาดกัมพูชาว่าปัจจุบันธุรกิจการค้าของที่นี่มีจุดไหนที่แข็งแกร่งและหลังการพัฒนาอย่างต่อเนื่องกัมพูชาในวันนี้มีบทบาทน่าสนใจในการเข้าไปลงทุนมากน้อยแค่ไหน

กัมพูชา

ภาพจาก http://goo.gl/nJAV2K

ธุรกิจการค้าปลีกในกัมพูชาเฟื่องฟูเป็นอย่างมาก

กรุงพนมเปญในปัจจุบัน เริ่มมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่เกิดขึ้นหลายโครงการ ทั้งที่เป็นโรงแรม และคาสิโน อย่างเช่น Naga World , อาคาร Canadia Tower และอาคาร Vattanac Capital ซึ่งโครงการนี้ เป็นอาคารแบบ Mixed Use ที่มีทั้งศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน และอพาร์ทเม้นท์ ในย่านสำนักงานใจกลางกรุงพนมเปญ

แสดงให้เห็นถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจและธุรกิจในประเทศกัมพูชา จึงเริ่มมีการก่อสร้างอาคารเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น ทั้งพื้นที่สำนักงาน ที่อยู่อาศัย และพื้นที่ค้าปลีก

การค้าปลีกนี้มีโครงการก่อสร้างศูนย์การค้าแห่งใหม่เกิดขึ้นด้วย โดยล่าสุดกลุ่มฮ่องกงแลนด์และ อีออนกรุ๊ป (Aeon) ได้ซื้อที่ดินกว่า 160 ไร่ ใกล้กับโรงแรมโซฟิเทล โภคีธรา เพื่อพัฒนาเป็นศูนย์การค้าอีออนมอลล์ในอนาคต แต่ปัจจุบันศูนย์การค้าที่ได้รับความนิยมสูงสุดในพนมเปญคือ ห้างโสรยา (Sorya Shopping Centre)

จากการสำรวจพื้นที่พบว่า ภายในห้างโสรยามีศูนย์อาหาร โรงภาพยนตร์ ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านค้าร้านอาหารมากมาย โดยร้านอาหารจำนวนหนึ่งเป็นร้านอาหารสมัยใหม่ หรือร้านประเภท แฟรนไชส์ทั้งจากต่างประเทศ และของกัมพูชาเอง เช่น ร้านพิซซ่า, ร้านไก่ทอด, ร้านไอศกรีม และได้รับความนิยมจากชาวกัมพูชาโดยทั่วไป

โดยเฉพาะร้านอาหารแฟรนไชส์ต่าง ๆ ที่จะพบเห็นชาวกัมพูชาใช้บริการอย่างหนาแน่น อย่างไรก็ดี ปัจจุบันกรุงพนมเปญยังไม่มีไฮเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ อย่าง เทสโก้ หรือ บิ๊กซี รวมทั้งยังไม่มีร้านค้าสะดวกซื้อสมัยใหม่ มีเพียงแต่ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านค้าแบบดั้งเดิมเท่านั้น

p3

ภาพจาก http://goo.gl/W9cXo3

ร้านสะดวกซื้อในกัมพูชา เป้าหมายใหญ่ของนักธุรกิจต่างประเทศ

แต่ถ้าใครอยากแสวงหา “ร้านสะดวกซื้อ” ในกัมพูชาก็ใช่ว่าจะหาไม่ได้เพียงแต่ในรูปแบบของแฟรนไชส์นั้นยังไม่มีกลุ่มธุรกิจที่เข้าไปดำเนินการอย่างเป็นเรื่องเป็นราว แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามนักท่องเที่ยวก็สามารถพบเจอร้านสะดวกซื้อในกัมพูชาได้หลายแห่งโดยส่วนใหญ่มีลักษณะเป็น convenience stores ที่เปิดทำการขึ้นมาเองตามแต่ความสามารถ

แต่ทว่าก็มีความเป็นสมัยใหม่แม้เรื่องระบบการจัดการทั้งหลายจะยังไม่สามารถเทียบเท่าร้านสะดวกซื้อในประเทศอื่นๆ แต่รูปแบบร้านสะดวกซื้อในกัมพูชานี้ก็มีความน่าสนใจเพราะบริการบางอย่างก็สร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้ดีเช่น

p5

ภาพจาก http://goo.gl/N1jHhF

1.อัธยาศัยของพนักงานและเจ้าของร้าน

ด้วยความที่เป็นธุรกิจส่วนตัวทั้งพนักงานและเจ้าของร้านสะดวกซื้อมีมิตรไมตรีที่ดีต่อผู้ใช้บริการเป็นอย่างมากเรียกได้ว่าเดินเข้าร้านสะดวกซื้อที่กัมพูชาเหมือนกับการเดินเข้าครัวที่บ้านกันเลยทีเดียว

สินค้าที่นี่มีความหลากหลายตามแต่ความต้องการของผู้บริโภค คอนเซปต์ของร้านไม่ต่างจากร้านสะดวกซื้อทั่วโลกคือ “หิวเมื่อไหร่ก็แวะเข้าร้านสะดวกซื้อได้”

p4

ภาพจาก http://goo.gl/Fdi090

2.มีมุมนั่งทานบริการแบบไม่จำกัดเวลา

และนี่ก็คือจุดแตกต่างที่ผู้ใช้บริการมองว่าเป็นเรื่องที่ดีมากเทียบได้กับร้านสะดวกซื้อในหลายๆประเทศที่มีบริการแบบนี้เช่นกัน ลักษณะจะเป็นเหมือนเก้าอี้บาร์ที่สำคัญบริการแบบนี้มีแทบทุกร้านในกัมพูชา

ตัวอย่างของร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ในกัมพูชาที่ถือว่าเป็น convenience stores สัญชาติขะแมร์โดยแท้คือร้าน Angkor Market บริหารงานโดยคุณ Hour Seakpheng ผู้มีมุมมองเชิงธุรกิจล้ำลึกจากที่เคยเปิดร้านสะดวกซื้อในกรุงพนมเปญแต่จากการเริ่มหลั่งไหลเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ทำให้ขยายสาขามาเปิด Angkor Market ที่เสียมเรียบปัจจุบันมี 2 สาขาในเมืองนี้ถือเป็นรายใหญ่ที่มีสินค้าจากทั่วทุกมุมโลกไม่ว่าจะอเมริกา สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ยุโรป และประเทศไทย มูลค่าสินค้าที่สั่งมาแต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า 3,000 ดอลล่าร์ มีสินค้าภายในร้านให้ผู้บริโภคได้เลือกใช้ไม่ต่ำกว่า 4,000 รายการ

ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่มีการหมุนเวียนไปเรื่อยๆเพื่อให้มีความแปลกใหม่และไม่ค้างสต็อครวมถึงกลไกการตั้งราคาที่ไม่สูงนักเอากำไรต่อชิ้นต่ำทำให้ศักยภาพของ Angkor Market พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วจนมีการตั้งเป้าให้เทียบเท่าซุปเปอร์มาเก็ตในประเทศไทยในระยะเวลาไม่เกิน 2 ปีต่อจากนี้

ยุ

ภาพจาก http://goo.gl/aBpqVZ

กลุ่มสินค้าแห่งอนาคตที่นักธุรกิจมองว่าทำกำไรได้ดีแน่นอน

ปัญหาส่วนหนึ่งที่ทำให้ร้านสะดวกซื้อในกัมพูชายังไม่มีการลงทุนจากต่างชาติทั้งที่ศักยภาพภายในมีกำลังการซื้อที่น่าสนใจเกิดจากกฏหมายที่ยังไม่เปิดเสรีการค้าให้ชาวต่างชาติเข้ามาทำกิจการได้อย่างสะดวก ซึ่งในกลุ่มธุรกิจร้านสะดวกซื้อจำนวนไม่น้อยก็หมายตากัมพูชาไว้เป็นฐานการขยายตัวที่น่าสนใจรอแค่จังหวะที่ดีซึ่งคาดว่าหลังการเปิดกลุ่มAEC น่าจะทำให้ปัญหาเรื่องกฎหมายผ่อนปรนลงไปได้บ้าง

ซึ่งกลุ่มสินค้าที่นักธุรกิจทั้งไทยและเทศมองว่ากำลังเป็นที่นิยมในกัมพูชาคือกลุ่มสุขภาพที่คนกัมพูชาได้รับอิทธิพลจากสื่อโฆษณาทางทีวีของประเทศไทย หลายบริษัทไม่ว่า Unicity, คังเซน, Neolife, Aimstar, Giffarine ที่เข้ามาเปิดตลาดในกัมพูชาและสามารถทำยอดขายได้เดือนละหลายสิบล้านบาท

p6

ภาพจาก http://goo.gl/EZCj46

นอกจากนี้ในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มก็ยังเป็นโจทย์ใหญ่ที่คนกัมพูชาให้ความสนใจโดยคนกัมพูชาเองมองว่าสินค้าอุปโภคบริโภคจากประเทศไทยมีคุณภาพที่ดีกว่าจากเวียดนามและจีน

รายได้ต่อหัวของคนกัมพูชาจากการสำรวจล่าสุดนั้นพัฒนาขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 2,500 ดอลล่าร์/คน/ปี ถ้านับในกลุ่มพัฒนาเรื่องรายได้ถือว่ามีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจนเชื่อได้ว่าในอนาคตอีกไม่นานกัมพูชาจะกลายเป็นประเทศที่มีนักลงทุนเข้าไปเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะในกลุ่มค้าปลีกที่ตอนนี้มีการวางแผนรองรับล่วงหน้ารอแค่จังหวะและโอกาสที่เหมาะสมเพื่อเริ่มต้นสู่การทำธุรกิจที่ดีต่อไป

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด