ขายอะไรดี 2022 สินค้ามาแรง ขายง่าย ขายเร็ว!

ปี 2022 เป็นจุดเปลี่ยนของหลายสิ่งหลายอย่าง เทรนด์ของรถพลังงานไฟฟ้ากำลังจะมา รวมถึงการแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปสิ้นเชิง

ดังนั้น www.ThaiSMEsCenter.com จึงให้ความสำคัญกับการก้าวตามกระแสที่เปลี่ยนแปลงซึ่งหมายถึงความต้องการในสินค้าที่แตกต่างด้วย การเจาะจงว่าจะขายอะไรดีในปี 2022 นี้ต้องเน้นสินค้าที่คนส่วนใหญ่มีความต้องการ จึงจะทำให้ขายง่าย ขายเร็ว ลองไปดูว่ามีอะไรบ้าง

1.อุปกรณ์ของใช้ / ของตกแต่ง ภายในบ้าน

สินค้ามาแรง

นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดโควิด 19 พฤติกรรมของคนไทยก็เปลี่ยนไปสิ้นเชิง เราได้รู้จัก Work From home กันมากขึ้น แม้ในระยะหลังมาตรการต่างๆ จะผ่อนคลาย แต่ดูเหมือนว่าเราจะคุ้นชินกับการอยู่บ้านมากขึ้น ด้วยเหตุนี้สินค้าเกี่ยวกับบ้านพวกของใช้ ของตกแต่ง หรืออุปกรณ์ต่างๆ ในบ้านจึงเป็นสินค้าที่หลายคนนิยมซื้อ เช่น ชุดเครื่องนอน , ตู้เก็บของ , ตู้เสื้อผ้า , ชั้นวางของ ,ผ้าม่าน ฯลฯ เป็นต้น

เหตุผลของการจัดและตกแต่งบ้านคือเพื่อให้น่าอยู่ ดูแล้วสบายใจ ซึ่งจากตัวเลขระบุชัดเจนว่าความต้องการซื้อของแต่งบ้านจะเพิ่มขึ้น 4.8% ต่อปี ทุกปีตั้งแต่ปี 2021 – 2026 นั่นหมายความว่า ช่วงเวลานี้เป็นช่วงขาขึ้นเริ่มต้นของตลาดขายของแต่งบ้านที่น่าสนใจที่สุด

2.อาหาร

12

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประมาณการณ์ว่าการขายอาหารในปี 2565 จะเติบโต 5.0% – 9.9% มีมูลค่ารวมประมาณ 3.78 – 3.96 แสนล้านบาท สอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของ Food Delivery ที่มีมูลค่าประมาณ 7.9 หมื่นล้านบาท หรือขยายตัว 4.5% แต่ถึงแม้ว่า อาหารจะเป็นสินค้าที่คาดการณ์ว่าจะขายง่าย ขายดี แต่ต้องยอมรับว่าคู่แข่งก็มีเยอะมากไม่นับรวมพ่อค้าแม่ค้าทั่วไป แม้แต่ในภาคธุรกิจก็พัฒนาช่องทางการขายออนไลน์ตัวเอง ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้น

ดังนั้นอาหารที่จะขายดีต้องเน้นที่ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า มีคุณภาพ บริการที่ดี ต้องควบคุมต้นทุนไม่ให้สูงเกินไป ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องยากในภาวะที่ราคาวัตถุดิบต่างๆ ปรับสูงขึ้นมาก นอกจากนี้ต้องมีการตลาดที่ดี ซึ่งหากแก้โจทย์เหล่านี้ได้อย่างถูกต้อง การขายอาหารในปี 2565 นี้มีอนาคตที่สดใสรออยู่

3.อาหารเสริมจากธรรมชาติ

35

การแพร่ระบาดของโควิด ทำให้เทรนด์สุขภาพมาแรงมากสินค้าที่เป็นอาหารเสริมจากธรรมชาติมีแนวโน้มจะขายดีมากขึ้นเรื่อยๆ ยกตัวอย่าง ชีสวีแกนที่คาดว่าจะมียอดขายมูลค่ากว่า 147,395 ล้านบาท ภายในปี พ.ศ. 2570 หรือเพิ่มขึ้น 15.5% จากปี พ.ศ. 2564 หรือผลิตภัณฑ์เนื้อที่ทำจากพืชทั่วโลกมีมูลค่า 69,075 ล้านบาทและเติบโตขึ้นทุกวัน

คาดว่าตลาดนี้จะขยายตัวจนแตะ 118,463 ล้านบาทภายในปี พ.ศ. 2570 รวมถึงสินค้าที่ทำจากเห็ดต่างๆ ที่คาดว่าจะมีมูลค่าเกิน 34,050 ล้านบาทภายในปี พ.ศ. 2566 สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นข้อมูลที่ฟันธงชัดเจนว่าสินค้าเหล่านี้จะมียอดขายที่ดีขึ้นเรื่อยๆนับแต่นี้

4.อุปกรณ์ออกกำลังกาย

31

ตลาดอุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้านมีมูลค่า 11.16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2561 และคาดว่าจะถึง 23.27 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2568 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 13.1% อันเป็นผลจากการแพร่ระบาดโควิด 19 ที่ทำให้คนหันมาสนใจเรื่องออกกำลังกายมากขึ้น

อุปกรณ์ออกกำลังกายที่น่าสนใจเช่น เสื้อ กางเกง บราออกกำลังกาย , อุปกรณ์ออกกำลังกายทั่วไปอย่าง เชือก บล็อก เบาะ ดัมเบล รวมถึงอุปกรณ์ออกกำลังกายในบ้านต่างๆ เช่นลู่วิ่ง , จักรยาน แต่ถึงแม้ลูกค้าจะสนใจในสินค้าเหล่านี้เพิ่มขึ้น แต่สิ่งที่ต้องการด้วยก็คือคุณภาพ บริการหลังการขาย เป็นเรื่องที่คนขายต้องใส่ใจในรายละเอียดเหล่านี้ให้มาก

5.เครื่องประดับ / เสื้อผ้า

25

ถือเป็นสินค้ายอดฮิตที่ขายดีในทุกช่วงเวลา ทั้ง สร้อย แหวน ต่างหู กำไล เสื้อ กางเกง กระโปรง หมวก รองเท้า ฯลฯ เครื่องนุ่มห่ม เครื่องแต่งตัว ยิ่งในยุคนี้การตลาดออนไลน์มีบทบาทมาก เพราะคนส่วนใหญ่ไม่ได้ออกไปช็อปปิ้งตามแฟชั่นมอลล์ต่างๆ

และการซื้อสินค้าเสื้อผ้า เครื่องประดับจากตลาดออนไลน์ อาจได้ราคาที่ถูกกว่า และมีการจัดส่งถึงบ้าน เป็นความสะดวกสบายของลูกค้าที่เคยชินกับพฤติกรรมเหล่านี้มากขึ้น ข้อมูลระบุชัดเจนว่า คนไทยมีการช็อปปิ้งออนไลน์มูลค่ารวมกว่า 75,000 ล้านบาทต่อเดือน และพบว่ากลุ่มเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมซื้อออนไลน์สูงสุด

6.Gadged / อุปกรณ์ไอที

27

การเติบโตของโลกออนไลน์แบบก้าวกระโดด ทำให้สินค้าด้านไอที ขายดีแบบสุดๆ เพราะทุกวันนี้คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ คือปัจจัยที่ 5 ในการดำรงชีวิตของเราอย่างชัดเจน สินค้าจำพวกหูฟังไร้สาย , สมาร์ทวอชส์ , ลำโพงบลูทูธ , แท่นชาร์จไร้สาย , ขาตั้งกล้องมือถือ ฯลฯ กลายเป็นสินค้าที่คนให้ความนิยมมาก สอดคล้องกับมูลค่าการเติบโตในธุรกิจนี้ที่ทุกบริษัทก็มีความต้องการในสินค้าไอทีเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ตัวเลขถือว่าน่าสนใจมาก

ยกตัวอย่าง ซอฟต์แวร์ระดับองค์กรเติบโตขึ้นสูงสุด 13.6% หรือคิดเป็น 45,937 ล้านบาท รองลงมา คือ ดาต้าเซ็นเตอร์ เติบโต 10.9% หรือ 27,517 ล้านบาท ขณะที่ อุปกรณ์ดีไวซ์ เติบโต 9.5% หรือคิดเป็น 176,975 ล้านบาท รวมถึงคาดการณ์ว่าในปี 2565 นี้มูลค่าใช้จ่ายไอทีไทยจะเพิ่มขึ้นเป็น 703,576 ล้านบาท

7.เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ

26

สินค้าในกลุ่มเครื่องดื่มก็นับว่ามีความต้องการของลูกค้าอย่างมาก แต่ด้วยพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไป แม้ว่าเครื่องดื่มอย่าง ชาไข่มุก กาแฟ จะยังเป็นสินค้ายอดนิยม แต่ที่มองข้ามไม่ได้คือกลุ่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ อันได้แก่ น้ำวิตามิน น้ำสมุนไพร เครื่องดื่ม และบรรดาน้ำผลไม้ต่างๆ

จากที่ผ่านมาเราจะเห็นว่าธุรกิจยักษ์ใหญ่จำนวนไม่น้อยที่กระโดดลงมาพัฒนาสินค้าเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและวางจำหน่ายสินค้าเหล่านี้เพิ่มมากขึ้น สอดคล้องกับตัวเลขการเติบโตในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 51,252 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 4.9 อย่างไรก็ดีคู่แข่งสินค้ากลุ่มนี้ก็ถือว่ามีจำนวนไม่น้อย ดังนั้นหากต้องการขายดี จำเป็นที่ต้องมีกลยุทธ์การตลาดที่ดีร่วมด้วย

8.สินค้าเพื่อแม่และเด็ก

32

แม้ประเทศไทยจะได้ชื่อว่ากำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย แต่ตลาดสินค้าแม่และเด็กยังมาแรง ถึงการแพร่ระบาดโควิด 19 จะทำให้จำนวนเด็กเกิดใหม่ลดลง แต่ความต้องการในสินค้ากลุ่มนี้ยังถือว่าสูงมาก ข้อมูลระบุว่าตลาดสินค้า “แม่และเด็ก” ในไทยมีมูลค่าแตะ 40,300 ล้านบาท และปี 2564 กลายเป็นตลาดที่น่าจับตามองเพราะมูลค่าตลาดเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากพ่อแม่ยุคใหม่มีการวางแผนเตรียมตัวก่อนมีลูกมากขึ้น

มีการวางงบประมาณเลี้ยงดูบุตร จึงทำให้ครอบครัวยุคใหม่พร้อมจ่ายสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ดีและมีเทคโนโลยีสูงสำหรับเด็ก โดยมีสินค้ายอดนิยมเช่น เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายเด็ก , อาหารและขนมเด็ก , ของเล่นเสริมพัฒนาการ , สินค้าเพื่อความปลอดภัยสำหรับเด็ก เป็นต้น

9.ผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง

30

ในช่วงแพร่ระบาดโควิด 19 ทำให้เกิดปรากฏการณ์ Pet Humanization หรือพฤติกรรมการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเสมือนหนึ่งสมาชิกในครอบครัว ดันธุรกิจนี้ให้มีการเติบโตโดยมูลค่าตลาดของธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงในไทยคาดว่าจะเติบโตสูงกว่า8.4% อยู่ที่ 66,748 ล้านบาท ในปี 2026

นอกจากนี้สินค้าสัตว์เลี้ยงแต่ละอย่าง มักเป็นสิ่งที่ต้องซื้อซ้ำ ไม่เปลี่ยนยี่ห้อบ่อย การขายของสัตว์เลี้ยงจึงเป็นการจับเทรนด์ขายของออนไลน์ที่ดีมาก สินค้าน่าสนใจเช่น กระเป๋าหรือตะกร้า , รถเข็นสัตว์เลี้ยง , ที่นอนสัตว์เลี้ยง , เสื้อผ้าสัตว์เลี้ยง , อาหารสัตว์เลี้ยง , ของเล่นสำหรับสัตว์เลี้ยง เป็นต้น

10.อุปกรณ์การแพทย์และเวชภัณฑ์ต่างๆ

23

ในช่วงที่ผ่านมาคนไทยทั้งประเทศได้ตื่นตัวหันมาสนใจอุปกรณ์การแพทย์และเวชภัณฑ์ต่าง ๆมากขึ้น ทั้งหน้ากากอนามัย , เจลแอลกอฮอล์ , สเปรย์แอลกอฮอล์ , เครื่องตรวจวัดไข้ ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้กลายเป็นสินค้าที่ขายดีและมีแนวโน้มจะเติบโตมากขึ้น ข้อมูลระบุว่า อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์และสุขภาพในประเทศไทยนั้น มีมูลค่ากว่า 230,000 ล้านบาท อัตราเฉลี่ยเติบโตประมาณ 4% ต่อปีในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

หากไม่นับรวมบรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ที่หันมาลงทุนในธุรกิจนี้กันมากขึ้น ผู้ค้าขายรายย่อยส่วนใหญ่ในตลาดออนไลน์ต่างก็มีสินค้าที่เกี่ยวข้องในกลุ่มนี้จำนวนมาก และในอนาคตหากการแพร่ระบาดโควิด 19 ผ่านพ้นไปแต่สังคมไทยก็ยังจะตื่นตัวในเรื่องนี้ไปอีกนาน ไม่นับรวมเรื่องการที่เราได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัวด้วย

คำว่าสินค้าขายง่าย ขายเร็ว ขายดี ต้องขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของลูกค้าที่แต่ละปีมีการปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ หากไม่มีการแพร่ระบาดโควิด อาจจะมีสินค้าในกลุ่มอื่นที่ขายดีเข้ามาแทนที่ และเชื่อได้ว่าในอนาคตข้างหน้า สินค้าขายดีที่เรานำเสนอเหล่านี้ก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้อีก ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในช่วงเวลานั้น ๆ


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/335phDi
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/36lSrQr , https://bit.ly/3tyE9oc , https://bit.ly/3iwTwYd , https://bit.ly/352qkVM , https://bit.ly/3NfsfHK , https://bit.ly/3Lch7tD , https://bit.ly/3Iznpl0 , https://bit.ly/3L5x4l5 , https://bit.ly/3JtTxb8 , https://bit.ly/3L9S1vs

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3NzWRUu

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด