กฎใหม่ โอนเงินข้ามประเทศ! แฟรนไชส์ Go Inter ต้องรู้

จากกรณีคณะรัฐมนตรีลงมติเห็นชอบ การปรับปรุงหลักเกณฑ์การตรวจสอบลูกค้าโอนเงินข้ามประเทศเกิน 5 หมื่นบาท ต้องโดนตรวจสอบ เพื่อตัดช่องทางการฟอกเงิน สนับสนุนผู้ก่อการร้าย รวมถึงยกระดับกฎหมายไทยให้ทัดเทียมกับมาตรฐานสากล

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มีข้อมูลจะมานำเสนอให้ทราบ โดยเฉพาะธุรกิจแฟรนไชส์ที่ทำธุรกรรมกับต่างประเทศ ที่มาที่ไปของกฎใหม่ สืบเนื่องจากประเทศไทยได้เข้ารับการประเมินการปฏิบัติตามมาตรฐานสากล

ด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย มาตรฐานสากลด้าน AML/CFT ผลปรากฏว่า ประเทศไทยยังมี 17 ประเด็นที่ต้องปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล เช่น

โอนเงินข้ามประเทศ

ภาพจาก bit.ly/2o1Syul

1.ข้อกำหนดเกี่ยวกับความเสี่ยงและมาตรการอย่างเข้มข้น เพื่อบรรเทาความเสี่ยงด้านการฟอกเงิน และการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย และการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง ใช้บังคับกับสถาบันการเงินเท่านั้น แต่ไม่ครอบคลุมกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจอื่นที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน

2.ข้อกำหนดที่ให้สถาบันการเงินดำเนินการตรวจสอบ เพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้าอย่างเข้มข้น สำหรับลูกค้าที่เป็นบุคคลที่มีสถานภาพทางการเมือง ยังไม่ได้รวมถึงการกำหนดให้ต้องดำเนินมาตรการ เพื่อให้ทราบถึงแหล่งที่มาของความมั่งคั่งของลูกค้า

3.ยังไม่มีข้อกำหนดห้ามสถาบันการเงินทำธุรกรรม หากสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน หรือการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย

โดยสาระของร่างกฎกระทรวงมีประเด็นสำคัญ อาทิ การกำหนดให้สถาบันการเงินและผู้ประกอบอาชีพตามมาตรา 16 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เช่น ผู้ค้าอัญมณี ผู้ค้าหรือเช่าซื้อรถยนต์ นายหน้าซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ต้องดำเนินการประเมิน บริหาร บรรเทาความเสี่ยงด้านการฟอกเงินและการสนับสนุนทางการเงินแก่ผู้ก่อการร้าย และการแพร่ขยายอาวุธ

หากตรวจสอบข้อมูลแล้ว พบลูกค้าที่มีความเสี่ยงสูงว่าเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินฯ สถาบันการเงินและผู้ประกอบอาชีพตามมาตรา16 ต้องไม่ทำธุรกรรมกับลูกค้าดังกล่าว และรายงานเป็นธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัยต่อสำนักงาน ปปง.

36

ภาพจาก bit.ly/2nbriJw

มากไปกว่านั้น กรณีที่มีการให้บริการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ข้ามประเทศที่มีมูลค่าตั้งแต่ 5 หมื่นบาทขึ้นไป สถาบันการเงินผู้สั่งคำสั่งโอนและสถาบันการเงินผู้รับคำสั่งโอน ต้องดำเนินการส่งและรับข้อมูลของผู้โอน และผู้รับโอนพร้อมคำสั่งโอนเงิน โดยคำสั่งโอนเงินต้องมีข้อมูลของผู้โอนและผู้รับโอน นั่นแสดงว่า ใครก็ตามที่มีการโอนเงินตั้งแต่ 5 หมื่นบาทต้องโดนตรวจสอบ

โดยภาพรวมแล้วกฎหมายเกี่ยวกับการตรวจสอบลูกค้าของไทยนั้น ยังไม่ครอบคลุมเพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นเรื่องการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ข้ามประเทศ กฎหมายใหม่ที่จะออกมาบังคับใช้ จึงได้วางหลักเกณฑ์ว่า

หากมีการโอนเงินข้ามประเทศทางอิเล็กทรอนิกส์ที่มีมูลค่า 5 หมื่นขึ้นไป สถาบันการเงินผู้โอนและผู้รับโอนจะต้องรายงานข้อมูลผู้โอนและผู้รับโอน พร้อมคำสั่งโอนเงินด้วยซึ่งต้องมีข้อมูลของทั้งสองฝ่าย ซึ่งต่อไปคิดว่าช่องทางการโอนเงินอื่นๆ น่าจะเกิดขึ้น

35

ภาพจาก bit.ly/2o63W8m

จะเห็นได้ว่ากฎหมายใหม่ที่หากมีการโอนเงินข้ามประเทศเกิน 5 หมื่นบาทจะถูกตรวจสอบ ซึ่งมองในข้อดี คือ มันอาจจะช่วยป้องกันการฟอกเงินได้ส่วนหนึ่ง

เพราะมีการตรวจแหล่งที่มาของเงิน และแหล่งปลายทางของเงินอย่างชัดเจนว่า มีการโอนไปให้ใคร เท่ากับว่าผู้ประกอบการหรือใครก็ตามที่ทำการโอนเงินข้ามประเทศ จะถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดขึ้นมากกว่าเดิม


คุณผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

01

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/document
เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี เปิดร้าน www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php

แหล่งข้อมูลบทความจาก https://bit.ly/3vQ7DMz

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช