เลิกให้รางวัลซะ ! แล้วคนจะขยันขึ้นทันตา
เรื่องของการทำงานทุกคนย่อมคาดหวังถึงสิ่งตอบแทน ในระดับองค์กรเองก็ดูจะตอบสนองสิ่งนี้ทฤษฏีการจูงใจหลายอย่างมีเรื่องของการให้ของรางวัลเป็นสิ่งตอบแทนแทบทั้งสิ้นและดูเหมือนว่าเรื่องเหล่านี้จะหยั่งลึกลงในความรู้สึกแบบไม่รู้ตัว
www.ThaiSMEsCenter.com ก็มองว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นหลักธุรกิจสำคัญที่ทำให้พนักงานมีความกระตือรือร้นมากขึ้น แต่บางครั้งสิ่งที่เราคิดอาจไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องเสมอไป ในโลกของการเปลี่ยนแปลงนี้มีพัฒนาการหลายอย่างที่อยู่เหนือการคาดเดาจนบางครั้งเราอาจคิดว่าไม่ใช่หรือบางทีมองว่าเป็นไปไม่ได้แต่สุดท้ายนั้นคือความจริงที่อาจมีประโยชน์กว่าการบริหารคนในรูปแบบเดิมๆที่เราเคยใช้กันมา
“เลิกให้รางวัลซะ! แล้วคนจะขยันขึ้นทันตา” ของ Daniel H. Pink พูดถึงทฤษฏีเดิมว่าคนส่วนใหญ่เชื่อว่า ถ้าอยากกระตุ้นให้ใครทำอะไร ก็ต้องเสนอสิ่งตอบแทนเพื่อเป็นการจูงใจเช่นถ้าช่วยพ่อแม่ทำงานบ้านจะได้ของเล่นชิ้นใหม่ หรือ ถ้าตั้งใจทำงานจะได้ขึ้นเงินเดือนและมีโบนัส
หนังสือเล่มนี้กล่าวอย่างชัดเจนผ่านการทดลองและเก็บข้อมูลในรูปแบบต่างๆมานานกว่า 13 ปีว่าสิ่งที่เราคุ้นเคยกันมาเนิ่นนานเป็นวิธีการที่ “ผิดถนัด” Daniel กล่าวว่า “เพราะยิ่งให้รางวัลมากเท่าไหร่ คนเราจะยิ่งหมดไฟมากเท่านั้น” หนังสือ“เลิกให้รางวัลซะ! แล้วคนจะขยันขึ้นทันตา” จะเผยความจริงที่คาดไม่ถึงของวิธี “การให้ของรางวัล”
ตลอดจนผลกระทบที่อาจจะบั่นทอนแรงจูงใจและทำให้คนหมดไฟได้อย่างรวดเร็วพร้อมกันนี้ยังแนะนำความลับ 3 ข้อที่จะช่วยคุณกระตุ้นให้คนลงมือทำได้มากขึ้นโดยไม่ต้องหาสิ่งใดมาล่อใจอีกเลย
เนื้อหาในเล่มจะแบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกจะพูดถึงช่องโหว่ของระบบการให้รางวัลและการลงโทษซึ่งที่ผ่านมาทุกองค์กรจะยึดมั่นกับทฤษฏีนี้ Daniel มองว่าไม่ใช่เรื่องที่ผิดทฤษฏีแรงจูงใจยังเป็นสิ่งสำคัญเพียงแต่ในรูปแบบของการตอบแทนที่แท้จริงนั้นไม่อาจดึงประสิทธิภาพของการทำงานให้เกิดขึ้นมาได้อย่างสูงสุด
โยงไปสู่เนื้อหาส่วนที่ 2 คือองค์ประกอบ 3 ประการของพฤติกรรม ที่เอาไปปรับใช้เพื่อให้คนทำงานได้รู้สึกถึงความพึงพอใจโดยที่ไม่ต้องมีรางวัลใดมาเป็นสิ่งตอบแทนสุดท้ายของเนื้อหาคือกระบวนการที่เรียกว่าเป็นชุดเครื่องมือสำหรับการสร้างบรรยากาศในการทำงานให้พนักงานได้มีความรู้สึกและมีแรงจูงใจมากพอที่จะสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้อย่างเต็มที่
ทั้งนี้ทุกทฤษฏีที่ Daniel กล่าวไว้เป็นความจริงที่บางทีเราเองก็ต้องยอมรับและมองย้อนกลับไปว่าแท้ที่จริงเราดึงประสิทธิภาพของพนักงานออกมาได้มากน้อยแค่ไหน ทั้งนี้แม้การทำงานสิ่งสำคัญคือการตอบแทนแต่การตอบแทนยังสามารถแฝงสาระสำคัญที่น่าสนใจไว้ได้อีกมาก
ผลตอบแทนของการทำงานอาจไม่ใช่รางวัลหรือสิ่งของแต่คุณเชื่อหรือไม่ว่าแรงจูงใจที่เราไม่เคยคาดคิดจะผลักดันให้คนสามารถทำงานได้อย่างมีความสุขเกิดประโยชน์ทั้งธุรกิจและผู้เกี่ยวข้องทุกคนอย่างยุติธรรม
นี่คือหนังสือที่จะทำให้คุณได้ปฏิวัติความคิดเนรมิตระบบการบริหารบุคลากรยุคใหม่เพื่อทำให้ธุรกิจคุณเดินหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุณจะรู้ว่าการใช้ศิลปะทางจิตวิทยามีคุณค่ากว่าการใช้เงินรางวัลมากมายนัก