เปิดร้าน “ฮ็อป ชาเฟ่” ไม่ยาก! สอนทุกขั้นตอน! พร้อมสมัครเดลิเวอรี่ให้ ฟรี!

ถ้าให้เลือกมีกิจการของตัวเอง คำตอบส่วนใหญ่มักเลือก “เปิดร้านเครื่องดื่ม” เพราะถือเป็นสินค้าที่ขายง่าย ขายดี ขายได้แน่นอน แถมยังเป็นสินค้าไม่มีวันตกเทรนด์อีกด้วย แต่ปัญหาที่ทำให้หลายคนยังเริ่มต้นเปิดร้านไม่ได้สักที เหตุผลแรคือไม่มีประสบการณ์ ไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไร และยุคนี้คู่แข่งก็เยอะมาก การเป็นมือใหม่ในธุรกิจนี้จึงเป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่กังวล

อย่างไรก็ดี www.ThaiSMEsCenter.com มีทางเลือกทางรอดที่น่าสนใจกับการลงทุนในแฟรนไชส์ “ฮ็อป ชาเฟ่” ที่นอกจากมีแพคเกจลงทุนราคาเบาๆ สิ่งสำคัญกว่าคือทีมงานมืออาชีพของฮ็อป ชาเฟ่ พร้อมสอนทุกเทคนิค ทุกขั้นตอนการทำ ตรงไหนไม่เข้าใจ ตรงไหนยังสงสัย จะสอนจนกว่าจะทำเป็น จนกว่าจะมั่นใจ และยิ่งกว่านั้น ฮ็อป ชาเฟ่ ยังสมัครเดลิเวอรี่ให้ ฟรี! เพิ่มโอกาสให้คนลงทุนขายง่าย ขายดีมีกำไรได้เร็วยิ่งขึ้น

ฮ็อป ชาเฟ่ขยายสาขากว่า 350 แห่งทั่วประเทศ

เรียกว่าเป็นสุดยอดแฟรนไชส์ได้อย่างแท้จริงสำหรับ “ฮ็อป ชาเฟ่” ที่แม้จะเริ่มขายแฟรนไชส์ได้แค่ 1 ปี แต่ก็ได้ใจลูกค้าและผู้ลงทุนทั่วประเทศ ถึงตอนนี้มีสาขากว่า 350 แห่ง กระจายอยู่ทุกภูมิภาค เหตุผลที่คนนิยมลงทุน “ฮ็อป ชาเฟ่” กันอย่างคึกคักมีด้วยกันหลายปัจจัยเช่น

  1. สินค้าราคาไม่แพงเป็นแฟรนไชส์ชานมไข่มุก 20 บาททุกแก้ว
  2. แบรนด์มีเอกลักษณ์มีจุดเด่นเป็นที่น่าสนใจของลูกค้า
  3. วัตถุดิบนำเข้าจากต่างประเทศ มั่นใจในเรื่องคุณภาพรสชาติได้อย่างดี
  4. ใช้งบในการลงทุนน้อย เริ่มต้นแค่ 39,000 บาท ก็สามารถเปิดร้านได้
  5. ไม่บังคับผู้ลงทุนในการซื้อวัตถุดิบและอุปกรณ์อื่นๆ มีเพียง ชา,ผงโกโก้ ,แก้ว ,ม้วนซีล เท่านั้นที่ให้ซื้อกับทางแฟรนไชส์
  6. ไม่กำหนดรูปแบบร้าน จัดตกแต่งได้ตามความต้องการ
  7. กำไรกว่า 50% จากราคาขาย โอกาสคืนทุนภายใน 3 เดือน (ขึ้นอยู่กับทำเลเป็นสำคัญ)

แถมยังเป็นแฟรนไชส์ที่ไม่เก็บค่าธรรมเนียมรายปี ไม่หักเปอร์เซ็นต์จากยอดขาย ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจให้หลายคนที่อยากมีธุรกิจของตัวเอง เลือกลงทุนกับ “ฮ็อป ชาเฟ่” ที่พร้อมเป็นแฟรนไชส์สร้างอาชีพให้กับคนสนใจทั่วประเทศ

ก่อนเปิดร้าน! สอนทุกเทคนิค สอนทุกสูตร เรียนรู้เหมือนเพื่อนสอนเพื่อน

จะเรียกว่าเป็นความน่ารักของแบรนด์ “ฮ็อป ชาเฟ่” ที่ใครไม่ได้สัมผัสจะไม่มีทางเข้าใจเด็ดขาด นอกจากเหตุผลทั่วไปที่ทำให้คนตัดสินใจลงทุน คนที่ได้ลงทุนแล้วก็ยังไปบอกเพื่อนๆ หรือคนรู้จัก ว่า “ฮ็อป ชาเฟ่” เทคแคร์ ดูแลดีมาก เพราะพื้นฐานของคนที่อยากเปิดร้านเครื่องดื่ม บางคนไม่รู้พื้นฐานใดๆมาก่อน ซึ่งฮ็อป ชาเฟ่ จะเริ่มจากปรับความเข้าใจของผู้ลงทุนอธิบายถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้เห็นชัดเจน เมื่อทัศนคติในการทำธุรกิจเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทีนี้ก็มาถึงการเรียนรู้สูตรเมนูเครื่องดื่มต่างๆ โดยฮ็อป ชาเฟ่ ให้ลูกค้าเลือกได้เลยว่าจะอบรมที่สำนักงานใหญ่ หรือใครไม่สะดวกก็สามารถอบรมผ่านระบบออนไลน์ ได้

ซึ่งการสอนของฮ็อป ชาเฟ่ ไม่ใช่แค่การให้คู่มือแล้วไปศึกษาเอง แต่ฮ็อป ชาเฟ่ สอนชนิดที่เรียกว่าแทบจะจับมือเพื่อให้ลูกค้าทุกคนได้ทำเป็นในทุกอย่าง ตั้งแต่การชั่ง ตวง วิธีการชง การต้มชา และอื่นๆ รวมไปถึงเทคนิคเคล็ดลับในการทำเมนูเครื่องดื่มที่เป็นการเอาประสบการณ์มาสอนให้ผู้ลงทุนได้เรียนรู้เทคนิคแบบหมดเปลือก ไม่ต้องไปลองผิดลองถูกเอาเอง และตรงไหนที่สอนแล้วไม่เข้าใจ ยังทำไม่เป็น ยังทำไม่ได้ สามารถเรียนซ้ำจนกว่าจะเข้าใจ ให้ผู้ลงทุนได้ฝึกอบรมจนช่ำชองและมีความพร้อมที่จะไปเปิดร้านของตัวเองได้

ข้อดีของการสอนเหมือนเพื่อนสอนเพื่อน คือผู้เรียนก็ไม่เครียด รู้สึกสนุกไปกับการสอน ซึ่งเป็นสไตล์ของ ฮ็อป ชาเฟ่ ที่อยากให้คนลงทุนเปิดร้านเครื่องดื่มแบบมีความสุข ไม่รู้สึกว่ากดดัน เมื่อความรู้สึกเราผ่อนคลายสบายใจจะทำให้สมองเปิดรับความรู้ใหม่ๆ ได้มาก อันเป็นผลดีต่อการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตได้มากขึ้นด้วย

เพิ่มพลังการขาย! ด้วยช่องทาง “เดลิเวอรี่”

และนอกจากการสอนที่ให้หมดแบบไม่มีกั๊ก เพื่อให้คนลงทุนเปิดร้านได้อย่างมั่นใจ ฮ็อป ชาเฟ่ ยังส่งเสริมการขายให้มีพลังมากขึ้นด้วยการสมัครเดลิเวอรี่ ให้ ฟรี! เป็นการลดขั้นตอนของผู้ลงทุนไม่ต้องมายุ่งยากวุ่นวายกับเรื่องนี้ แต่เป็นหน้าที่ของฮ็อป ชาเฟ่ จะจัดการให้ แถมยังจะสอนเทคนิคเคล็ดลับว่าจะขายผ่านเดลิเวอรี่อย่างไรให้มีกำไรแบบปัง ๆ ซึ่งก็คือการสอนทุกเทคนิคว่าจะรีบออร์เดอร์อย่างไร บริหารจัดการออร์เดอร์ระหว่างขายหน้าร้านกับเดลิเวอรี่อย่างไรเพื่อให้มีประสิทธิภาพได้สูงสุด

ซึ่งต้องยอมรับว่าปัจจุบันเครื่องดื่มของ ฮ็อป ชาเฟ่มีความหลากหลาย มีการพัฒนาเมนูใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง และเป็นสินค้าที่ขายดีทั้งหน้าร้านและผ่านระบบเดลิเวอรี่ ยกตัวอย่างแฟรนไชส์ซีที่ประสบความสำเร็จสาขาหนึ่ง เลือกลงทุนกับ ของ ฮ็อป ชาเฟ่ ลงทุนทำร้านประมาณ 300,000 บาท (งบในการทำร้านขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ลงทุน) โดยทำเลของ แฟรนไชส์ซีรายนี้อยู่ในย่านที่คนไม่ได้พลุกพล่าน ต้องอาศัยการขายในช่องทางเดลิเวอรี่เป็นหลัก แต่สามารถขายได้เฉลี่ยถึงวันละ 300 แก้ว มีรายได้ต่อวันประมาณ 6,000 – 8,000 บาท (ยังไม่หักค่าใช้จ่าย)

ภาพจาก แฟรนไชส์ฮ็อป ชาเฟ่

นั่นหมายความว่าหากเป็นสาขาที่อยู่ในทำเลที่ดี มียอดขายหน้าร้านที่ดีร่วมด้วยจะทำให้การลงทุนยิ่งประสบความสำเร็จได้เร็วมากขึ้น ด้วย และนอกจากสาขาตัวอย่างที่ยกมาอธิบาย ยังมีอีกหลายสาขาที่สร้างรายได้ดีไม่แพ้กัน ซึ่งในปี 2565 นี้ ฮ็อป ชาเฟ่ ก็มีแผนที่จะพัฒนาสินค้า พัฒนารูปแบบการตลาดให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น อันเป็นผลดีต่อผู้ลงทุนทั่วประเทศด้วย

สำหรับคนที่สนใจ หรือใครที่อยากมีธุรกิจของตัวเองแต่ยังตัดสินใจไม่ได้ ขอแนะนำว่า ฮ็อป ชาเฟ่ เป็นแฟรนไชส์ที่ให้มากกว่าคำว่าธุรกิจ เพราะนี่คือการลงทุนที่เสมือนคนในครอบครัวดูแลกันอย่างดี มีอะไรสามารถปรึกษาได้ เพื่อให้ทุกคนได้เติบโตไปพร้อมกัน การบริหารของฮ็อป ชาเฟ่ เน้นให้ทุกแฟรนไชส์มีความสุข มีความสบายใจ เพื่อให้ถ่ายทอดความรู้สึกดีๆ เหล่านี้ไปถึงลูกค้าทุกคนด้วย

 

สนใจลงทุนแฟรนไชส์ Hop Chafe
โทร: 02-0219120 ต่อ 1-2
อีเมล์: Hopchafe.store@gmail.com
Instagram: hop_chafe
Facebook: www.facebook.com/HOPChafe

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3RKHiMd


8 ขั้นตอน การพัฒนาระบบแฟรนไชส์

1. การวางแผนธุรกิจ ก่อนทำแฟรนไชส์

  • กำหนดรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ให้มีความชัดเจน โดนใจลูกค้า
  • ชื่อกิจการ (Brand)
  • การสร้างผลการดำเนินธุรกิจที่ดี ได้ผลกำไร มีความมั่นคง (Good ROI)
  • การสร้างแบรนด์ ตราสินค้า ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักผู้บริโภค
  • การพัฒนาสินค้าบริการ ให้มีคุณภาพมาตรฐาน และระบบการจัดการที่เป็นมาตรฐาน
  • การพัฒนาระบบบริการจัดการ จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
  • วางโครงสร้างองค์กรใหม่ รวมถึงการพัฒนาบุคลากร ทีมงาน สนับสนุนระบบแฟรนไชส์
  • การวางแผน และกำหนดเป้าหมายการขยายธุรกิจ การขยายสาขา ทั้งในและต่างประเทศ
  • การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธุรกิจ ทำเลที่ตั้ง และรูปแบบของร้านค้า
  • การเลือกใช้สื่อต่างๆ ช่องทางต่างๆ ในการจัดกิจกรรม เพื่อสร้างแบรนด์แฟรนไชส์

2. การรวบรวมข้อมูลธุรกิจ

  • ระบบการปฏิบัติงาน วิธีการบริหารจัดการธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
  • ระบบการเงิน การบัญชี
  • งบประมาณในการลงทุนธุรกิจ การขยายสาขา
  • รูปแบบของร้านค้า รูปแบบของตราสินค้า ที่เป็นเอกลักษณ์
  • ระบบการสต็อกสินค้า จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
  • แผนงานการตลาด การส่งเสริมการขายต่างๆ
  • กระบวนการพัฒนาบุคลากร ทีมงานด้านต่างๆ

3. การวิเคราะห์ธุรกิจแฟรนไชส์

  • ธุรกิจเปิดมานานหลายปี จำนวนไม่น้อยกว่า 1สาขา
  • แบรนด์มีชื่อเสียงได้รับความนิยม เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในวงกว้าง
  • สินค้าและบริการ มีคุณภาพมาตรฐาน เป็นที่ต้องการของตลาด
  • เป็นธุรกิจที่มีความมั่นคง ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ มีผลกำไร ต่อเนื่อง เป็นที่น่าพอใจ
  • มีระบบการทำงาน การปฏิบัติงาน แผนการทำงานที่ชัดเจน สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นได้
  • มีระบบการพัฒนาบุคลากร และสร้างทีมงานที่แข็งแกร่ง เป็นมาตรฐาน
  • ประสบความสำเร็จทางด้านการตลาด การสร้างแบรนด์ การส่งเสริมการขายต่างๆ
  • แผนกลยุทธ์การขยายสาขา และเติบโตต่อเนื่อง เป็นรายเดือน หรือ รายปี

4. การวางโครงสร้างของระบบแฟรนไชส์

  • กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักของผู้บริโภค
  • การสร้างองค์ความรู้ ระบบปฏิบัติงานต่างๆ ที่พร้อมถ่ายทอดให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • วางระบบการปฏิบัติงานของแต่ละขั้นตอนธุรกิจ ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ง่าย
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย แต่ละแผนกให้ชัดเจน รวมถึงขั้นตอนการอบรม ระบบตรวจสอบ เพื่อสร้างมาตรฐานธุรกิจแฟรนไชส์
  • สร้างระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซี หรือผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • การกำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ ในการขยายสาขาแฟรนไชส์ ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้า (ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์)
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม พร้อมที่จะเป็นพี่เลี้ยงแก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ช่วงเริ่มต้นได้
  • เงื่อนไขการเปิดสาขาในด้านต่างๆ

5. การวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจแฟรนไชส์

  • แผนการขยายแฟรนไชส์
  • ระบบการเงิน
  • ค่าธรรมเนียมต่างๆ
  • ข้อเสนอแฟรนไชส์ซี
  • การจดทะเบียนแฟรนไชส์
  • เรื่องกฎหมาย อายุสัญญาแฟรนไชส์
  • ระบบปฏิบัติงาน รูปแบบการให้สิทธิ
  • การตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์
  • แพ็คเกจต่างๆ ระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซีอย่างต่อเนื่อง
  • การจัดทำคู่มือแฟรนไชส์ หรือโปรแกรมแฟรนไชส์
  • การจัดทำสัญญาแฟรนไชส์ รวมถึงเครื่องหมายการค้า

6. การวางแผนเพื่อขยายสาขาธุรกิจแฟรนไชส์

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ เจ้าของแฟรนไชส์จะบริหารจัดการเองทุกอย่าง เพื่อสร้างความโดดเด่น สร้างความเด่นชัดให้แก่นักลงทุน ได้เห็นภาพของร้านที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การลงทุนเปิดสาขาแฟรนไชส์ในภายหลัง
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟนไชส์ คือ เมื่อสาขาแรกมีความแข็งแกร่ง มั่นคง มีผลกำไรต่อเนื่อง เป็นที่ยอมรับของลูกค้าในพื้นที่นั้นๆ แล้ว ก็ทดลองขยายสาขาเพิ่มอีก เพื่อทดสอบสาขาที่ 2 เป็นอย่างไร โดยนำเอาระบบการปฏิบัติงานทุกอย่างของร้านสาขาแรกมาปฏิบัติ ถ้าประสบความสำเร็จ ก็ค่อยขยายสาขาตัวเองเพิ่มอีก 2-3 สาขา ถ้าประสบความสำเร็จเหมือนสาขาแรก ก็ค่อยคิดขายแฟรนไชส์ให้กับคนอื่น

7. กระบวนการพัฒนาและปรับปรุงระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น (ระบบการบริหารจัดการในร้าน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน)วิเคราะห์ระบบการเงิน การลงทุน ในแต่ละสาขาที่เปิดทดลอง
  • พิจารณาปรับปรุงระบบงาน ระบบการทำงานต่างๆ ให้เหมาะสม
  • ระบบการพัฒนาทีมงานรองรับการขยายงาน ขยายสาขา
  • การวางแผนงานขยายสาขาแฟรนไชส์
  • เก็บข้อมูลรายละเอียดต่างๆ กลุ่มลูกค้า ผลประกอบการ การดำเนินงาน ของสาขาแรก หรือสาขาต้นแบบ เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด ก่อนเปิดสาขาที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และขายแฟรนไชส์
  • จัดวางงบประมาณ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการขยายธุรกิจแฟรนไชส์

8. แผนการตลาดของธุรกิจแฟรนไชส์

  • การจัดทำคู่มือต่างๆ เพื่อแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์
  • กระบวนการขายแฟรนไชส์ การคัดเลือกผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • กระบวนการติดตามลูกค้าเป้าหมาย
  • การนำเสนอธุรกิจแฟรนไชส์ในงานแสดงธุรกิจแฟรนไชส์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
  • การจัดงาน สัมมนาการขายธุรกิจ แฟรนไชส์
  • การเปิดเยี่ยมชมธุรกิจ ร้านต้นแบบแฟรนไชส์
  • กระบวนการคัดเลือกแฟรนไชส์ซีที่เหมาะสม ตามหลักมาตรฐานแฟรนไชส์สากล
  • กระบวนการถ่ายทอดความรู้ การอบรม และให้คำปรึกษาแก่แฟรนไชส์ซี

สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

กองบรรณาธิการเว็บไซต์

ยินดีสนับสนุน SMEs ไทยทุกแบรนด์ ที่ต้องการสร้างความเข้มแข็ง อยากเรียนรู้ พัฒนาธุรกิจ ส่งเสริมความเข้าใจในการตลาด มีความคิดสร้างสรรค์ แบ่งปันเพื่อสังคม ต่อยอดธุรกิจ ให้ประสบความสำเร็จในอนาคต