อยากสร้างอาชีพ “ชีสซี่ฟราย สแน็ค” จัดให้ ลงทุนง่าย เปิดร้านได้ทันที!
จะขายอะไรดี? จะลงทุนอะไรดี? ยุคนี้ที่หลายคนตกงาน ว่างงาน รวมถึงหลายคนที่ต้องการสร้างอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับตัวเอง แต่โจทย์ใหญ่คือไม่รู้จะลงทุนอะไร ที่ใช้งบน้อย แต่มีโอกาสคืนทุนไว เป็นสินค้ายอดฮิตขายง่ายขายดี
ด้วยเหตุนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จึงพร้อมนำเสนออีกหนึ่งแฟรนไชส์น่าสนใจที่พร้อมสร้างอาชีพให้กับคนไทยได้อย่างแท้จริง โดย ชีสซี่ฟราย สแน็ค เป็นแฟรนไชส์ขนมทานเล่น แต่กำไรไม่ใช่เล่นๆ ตอกย้ำความเป็นแฟรนไชส์ยอดฮิตด้วยสาขาทั่วประเทศกว่า 39 แห่งและยังพร้อมเดินหน้าขยายสาขาได้เพิ่มมากขึ้นด้วย
“ชีสซี่ฟราย สแน็ค” จุดเด่นคือ เฟรนฟรายด์ราดชีส ขายง่าย ขายดี
การลงทุนในยุคนี้ต้องหาจุดเด่นให้กับสินค้าและบริการ ต้องสวยสะดุดตาและดึงดูดลูกค้าได้อย่างดี โดย ชีสซี่ฟราย สแน็คเน้นรูปแบบของคีออสสีสันสดใส มองเห็นแต่ไกล สินค้าโดดเด่นคือเฟรนฟรายด์ทอดราดชีส โดยเป็นชีสที่นำเข้าจากนิวซีแลนด์ รับประกันเรื่องรสชาติและความอร่อยแบบสุดๆ ที่เด็ดยิ่งกว่านั้นคือกลิ่นของชีสที่หอมแบบยั่วๆ รวมถึงใช้มันฝรั่งเกรด A และมีผงรสเพิ่มรสชาติที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้านทั้งสไปซี่ชีส , วาซาบิชีส และอีกหลายรสชาติที่เพิ่มเสน่ห์ให้กับเฟรนฟรายด์ทอดอร่อยมากขึ้น
โดยผงซิกเนเจอร์ของชีสซี่ฟรายสแน็คถือเป็นสูตรเฉพาะหาซื้อที่ไหนไม่ได้ รสชาติจะอมเผ็ดนิดหน่อย เข้มข้นอร่อย และยังมีผงเขย่าสูตรเฉพาะที่เป็นสูตรลับของแบรนด์อีกเช่นกัน และยังมีการพัฒนาสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นสุดยอดขนมทานเล่นขวัญใจวัยรุ่นที่ยิ่งกินยิ่งติดใจ และขายง่าย ขายดี ขอแค่มีทำเลที่หน้าสนใจเช่นหน้าโรงเรียน โรงงาน ตลาดนัด หรือย่านชุมชนต่างๆ สามารถสร้างรายได้ที่ดีให้กับผู้ลงทุนได้อย่างแน่นอน
5 ข้อน่าสนใจทำไมควรเลือกลงทุนกับ “ชีสซี่ฟราย สแน็ค”
แน่นอนว่าหลายคนคงคิดว่านอกจากสินค้าโดดเด่น และอร่อยแบบสุดๆ แล้ว สิ่งที่จะเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ลงทุนได้มากยิ่งขึ้นมีอะไรบ้าง
1.ไม่เก็บค่าการตลาด
โดยชีสซี่ฟราย มุ่งเน้นให้ผู้ประกอบการสามารถสร้างกำไรจากการลงทุนได้อย่างสูงสุดจึงมีนโยบายไม่เก็บค่าการตลาดจากผู้ลงทุนเพื่อให้มีกำไรได้มากขึ้น
2.ไม่เก็บเปอร์เซ็นต์จากยอดขาย
ผู้ลงทุนทุกคนมุ่งหวังว่าการขายทุกบาททุกสตางค์จะกลายเป็นรายได้ของร้านและเป็นกำไรให้กับตัวเอง ซึ่งชีสซี่ฟรายก็เข้าใจในจุดนี้จึงไม่เก็บเปอร์เซ็นต์จากยอดขาย มีรายได้เท่าไหร่ หักลบต้นทุนตัวเองก็เป็นรายได้ให้กับผู้ลงทุนทั้งหมด
3.มีหลายแพคเกจให้เลือกลงทุนตามต้องการ
ค่าแฟรนไชส์ในการลงทุนเริ่มต้นเพียง 29,900 บาท และยังมีอีกหลายแพคเกจลงทุนให้เลือกตามต้องการโดยทุกแพคเกจมีอุปกรณ์และวัตถุดิบให้พร้อมเปิดร้าน (ตามแพคเกจที่เลือก)
4.บริหารจัดการอย่างมืออาชีพ
ด้วยประสบการณ์ในวงการยาวนาน ผู้ลงทุนมั่นใจในความเป็นมืออาชีพทั้งการจัดส่งวัตถุดิบ การอบรมก่อนเปิดร้าน สอนทุกขั้นตอนและทุกเทคนิคในการขาย สอนวิธีการบริหารจัดการร้านเพื่อให้ผู้ลงทุนเปิดร้านได้อย่างมืออาชีพ
5.มีการพัฒนาสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง
ชีสซี่ฟรายมีการพัฒนารูปแบบการลงทุน และสินค้าใหม่ๆ ให้อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความหลากหลายและความน่าสนใจให้กับลูกค้าและเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับผู้ลงทุนได้มากขึ้นด้วย
5 แพคเกจลงทุนน่าสนใจของชีสซี่ฟราย สแน็ค
สำหรับคนที่สนใจลงทุนสามารถเลือกแพคเกจลงทุนจากชีสซี่ฟรายที่มีให้เลือก 5 แพคเกจดังต่อไปนี้
1. Set A ราคา 29,900 บาท เหมาะสำหรับพื้นที่ชั่วคราว ออกอีเว้นท์ ตลาดนัด ที่ต้องเก็บของทุกวัน พื้นที่เล็ก 2 x 2 เมตร ไม่มีป้ายบน เป็นโต๊ะพับหน้าขาวติดป้าย 3 ด้าน พร้อม สแตนดี้ อุปกรณ์ และวัตถุดิบ เคลื่อนย้ายสะดวก
2. Set Double A ราคา 32,900 บาท เป็น Set เล็กกระทัดรัด เหมาะกับพื้นที่ชั่วคราว ออกอีเว้นท์ ตลาดต่างๆ เซตนี้มีป้ายบน เป็นโครงเหล็กตกแต่งด้วยกันสาดเล็กๆ เพิ่มความน่าสนใจให้กับร้านเป็นอย่างมาก มีสแตนดี้ อุปกรณ์ และวัตถุดิบพร้อมขายให้ด้วย
3.Set B ราคา 65,000 บาท เป็นเคาเตอร์ตั้งในห้างหรือในพื้นที่เล็ก ขนาด 2×2 เมตร ที่ไม่ต้องเคลื่อนย้ายบ่อย มีเคาเตอร์ กว้าง 1.8 เมตร ลึก 2 เมตร สีสันสดใส สามารถเพิ่มมูลค่าให้สินค้าได้ เนื่องจากเป็นเคาเตอร์ค่อนข้างสวย ซึ่งทำให้ร้านโดดเด่น
4.Set B (Kiosk) ราคา 89,000 บาท เป็นเซตที่ออกแบบใหม่ล่าสุด ลักษณะเป็นKiosk หรือซุ้มเคาน์เตอร์ขนาด 2×2 เมตร เหมาะสำหรับพื้นที่กลางแจ้ง เซตนี้มาพร้อมอุปกรณ์และวัตถุดิบ
5.Set C ราคา 180,000 บาท เหมาะกับ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ หรือ ห้างที่ให้พื้นที่ขนาด 3 x 2 เมตร (หรือ 3×3 เมตร) ในเซทนี้ผู้ลงทุนจะได้รับ ตัวดูดควัน และวัตถุดิบต่างๆพร้อมขาย ตัวร้านตกแต่งโดดเด่น สามารถดึงดูดลูกค้า และเพิ่มมูลค่าของสินค้าได้ดีมาก
ขั้นตอนการเริ่มลงทุน และรายได้จาก “ชีสซี่ฟราย สแน็ค”
โดยหลังจากเลือกแพคเกจลงทุน มีทำเลการขายที่ชัดเจน ทางชีสซี่ฟราย สแน็คจะจัดส่งอุปกรณ์ วัตถุดิบ ให้ผู้ลงทุนโดยในการสั่งวัตถุดิบนั้นไม่จำกัดขั้นต่ำ ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีใดๆ ทั้งสิ้น โดยพร้อมสอนทุกขั้นตอน ทุกเทคนิค ซึ่งผู้ลงทุนต้องวางมัดจำ 10,000 บาท และอุปกรณ์พร้อมวัตถุดิบต่างๆจะถูกจัดส่งตามคิว หรือภายใน 1 สัปดาห์หลังจากมัดจำ ยอดชำระที่เหลือจ่ายในวันส่งของ พร้อมทีมงานไปสอนขั้นตอนการขาย
และหากคำนวณต้นทุนกำไรจะพบว่าต้นทุนต่อ 1 กล่อง ประมาณ 29 บาท ถ้าขายในราคา 59 บาท กำไรต่อหน่วยเท่ากับ 29 บาท นอกจากนี้ราคาสินค้ายังมีให้ลูกค้าเลือกตามต้องการ โดยซอสชีส 1 กิโลกรัม สามารถราดเฟรนฟรายด์ได้ 25-30 กรวย และเฟรนฟรายด์ 2.5 กิโลกรัม ทำเป็นสินค้าได้ประมาณ 13-14 ที่ เฉลี่ยแล้วผู้ลงทุนจะมีกำไรจากการขายประมาณ 80-100% (คำนวณจากต้นทุนวัตถุดิบ) ดังนั้นกำไรต่อวันจึงถือว่าดีมาก ทั้งนี้กำไรดังกล่าวยังไม่ได้หักค่าเช่า ค่าแรง ค่าไฟฟ้า และยอดขายในแต่ละทำเลอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับพื้นที่แต่ละแห่งด้วย
ซึ่งปัจจุบันชีสซี่ฟราย สแน็ค มีการขยายสาขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีการพัฒนารูปแบบการลงทุน รูปแบบสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะการออกแบบเซต B (Kiosk) เพื่อมุ่งตอบโจทย์กับสถานการณ์ COVID ช่วงนี้ที่ผู้บริโภคไม่สามารถเดินห้างสรรพสินค้าได้ โดยเซตใหม่ของชีสซี่ฟรายสแน็คนี้สามารถเปิดร้านกลางแจ้งได้ทั่วไป สะดวกสบายแก่ลูกค้า และยังมีเมนูแบบเดลิเวอรี่ ช่วยเพิ่มยอดขายให้กับผู้ลงทุนในยุคนี้ได้อีกด้วย
ทั้งนี้ชีสซี่ฟรายสแน็คได้ตั้งเป้าว่าในระยะเวลา 3 ปีจะสามารถขยายสาขาได้อย่างน้อย 100-200 สาขา ให้สมกับเป็นสุดยอดแฟรนไชส์ที่สร้างอาชีพให้กับคนที่อยากลงทุนมีรายได้ ไม่ต้องการเสี่ยง อยากลงทุนแฟรนไชส์ขายดีมีกำไรแน่ๆ ซึ่งการลงทุนกับชีสซี่ฟราย คือทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดในยุคนี้
สนใจลงทุนแฟรนไชส์ ชีสซี่ฟราย สแน็ค
โทร: 063-5929929
อีเมล์: cheekymonkey.6368@gmail.com ,
cheesyfried@hotmail.com
Facebook: https://bit.ly/3YwmGte
อ้างอิงจาก https://bit.ly/3Yw2WpI
8 ขั้นตอน การพัฒนาระบบแฟรนไชส์
1. การวางแผนธุรกิจ ก่อนทำแฟรนไชส์
- กำหนดรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ให้มีความชัดเจน โดนใจลูกค้า
- ชื่อกิจการ (Brand)
- การสร้างผลการดำเนินธุรกิจที่ดี ได้ผลกำไร มีความมั่นคง (Good ROI)
- การสร้างแบรนด์ ตราสินค้า ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักผู้บริโภค
- การพัฒนาสินค้าบริการ ให้มีคุณภาพมาตรฐาน และระบบการจัดการที่เป็นมาตรฐาน
- การพัฒนาระบบบริการจัดการ จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
- วางโครงสร้างองค์กรใหม่ รวมถึงการพัฒนาบุคลากร ทีมงาน สนับสนุนระบบแฟรนไชส์
- การวางแผน และกำหนดเป้าหมายการขยายธุรกิจ การขยายสาขา ทั้งในและต่างประเทศ
- การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธุรกิจ ทำเลที่ตั้ง และรูปแบบของร้านค้า
- การเลือกใช้สื่อต่างๆ ช่องทางต่างๆ ในการจัดกิจกรรม เพื่อสร้างแบรนด์แฟรนไชส์
2. การรวบรวมข้อมูลธุรกิจ
- ระบบการปฏิบัติงาน วิธีการบริหารจัดการธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
- ระบบการเงิน การบัญชี
- งบประมาณในการลงทุนธุรกิจ การขยายสาขา
- รูปแบบของร้านค้า รูปแบบของตราสินค้า ที่เป็นเอกลักษณ์
- ระบบการสต็อกสินค้า จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
- แผนงานการตลาด การส่งเสริมการขายต่างๆ
- กระบวนการพัฒนาบุคลากร ทีมงานด้านต่างๆ
3. การวิเคราะห์ธุรกิจแฟรนไชส์
- ธุรกิจเปิดมานานหลายปี จำนวนไม่น้อยกว่า 1สาขา
- แบรนด์มีชื่อเสียงได้รับความนิยม เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในวงกว้าง
- สินค้าและบริการ มีคุณภาพมาตรฐาน เป็นที่ต้องการของตลาด
- เป็นธุรกิจที่มีความมั่นคง ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ มีผลกำไร ต่อเนื่อง เป็นที่น่าพอใจ
- มีระบบการทำงาน การปฏิบัติงาน แผนการทำงานที่ชัดเจน สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นได้
- มีระบบการพัฒนาบุคลากร และสร้างทีมงานที่แข็งแกร่ง เป็นมาตรฐาน
- ประสบความสำเร็จทางด้านการตลาด การสร้างแบรนด์ การส่งเสริมการขายต่างๆ
- แผนกลยุทธ์การขยายสาขา และเติบโตต่อเนื่อง เป็นรายเดือน หรือ รายปี
4. การวางโครงสร้างของระบบแฟรนไชส์
- กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักของผู้บริโภค
- การสร้างองค์ความรู้ ระบบปฏิบัติงานต่างๆ ที่พร้อมถ่ายทอดให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- วางระบบการปฏิบัติงานของแต่ละขั้นตอนธุรกิจ ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ง่าย
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย แต่ละแผนกให้ชัดเจน รวมถึงขั้นตอนการอบรม ระบบตรวจสอบ เพื่อสร้างมาตรฐานธุรกิจแฟรนไชส์
- สร้างระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซี หรือผู้ซื้อแฟรนไชส์
- การกำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ ในการขยายสาขาแฟรนไชส์ ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้า (ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์)
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม พร้อมที่จะเป็นพี่เลี้ยงแก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ช่วงเริ่มต้นได้
- เงื่อนไขการเปิดสาขาในด้านต่างๆ
5. การวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจแฟรนไชส์
- แผนการขยายแฟรนไชส์
- ระบบการเงิน
- ค่าธรรมเนียมต่างๆ
- ข้อเสนอแฟรนไชส์ซี
- การจดทะเบียนแฟรนไชส์
- เรื่องกฎหมาย อายุสัญญาแฟรนไชส์
- ระบบปฏิบัติงาน รูปแบบการให้สิทธิ
- การตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์
- แพ็คเกจต่างๆ ระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซีอย่างต่อเนื่อง
- การจัดทำคู่มือแฟรนไชส์ หรือโปรแกรมแฟรนไชส์
- การจัดทำสัญญาแฟรนไชส์ รวมถึงเครื่องหมายการค้า
6. การวางแผนเพื่อขยายสาขาธุรกิจแฟรนไชส์
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ เจ้าของแฟรนไชส์จะบริหารจัดการเองทุกอย่าง เพื่อสร้างความโดดเด่น สร้างความเด่นชัดให้แก่นักลงทุน ได้เห็นภาพของร้านที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การลงทุนเปิดสาขาแฟรนไชส์ในภายหลัง
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟนไชส์ คือ เมื่อสาขาแรกมีความแข็งแกร่ง มั่นคง มีผลกำไรต่อเนื่อง เป็นที่ยอมรับของลูกค้าในพื้นที่นั้นๆ แล้ว ก็ทดลองขยายสาขาเพิ่มอีก เพื่อทดสอบสาขาที่ 2 เป็นอย่างไร โดยนำเอาระบบการปฏิบัติงานทุกอย่างของร้านสาขาแรกมาปฏิบัติ ถ้าประสบความสำเร็จ ก็ค่อยขยายสาขาตัวเองเพิ่มอีก 2-3 สาขา ถ้าประสบความสำเร็จเหมือนสาขาแรก ก็ค่อยคิดขายแฟรนไชส์ให้กับคนอื่น
7. กระบวนการพัฒนาและปรับปรุงระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น (ระบบการบริหารจัดการในร้าน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน)วิเคราะห์ระบบการเงิน การลงทุน ในแต่ละสาขาที่เปิดทดลอง
- พิจารณาปรับปรุงระบบงาน ระบบการทำงานต่างๆ ให้เหมาะสม
- ระบบการพัฒนาทีมงานรองรับการขยายงาน ขยายสาขา
- การวางแผนงานขยายสาขาแฟรนไชส์
- เก็บข้อมูลรายละเอียดต่างๆ กลุ่มลูกค้า ผลประกอบการ การดำเนินงาน ของสาขาแรก หรือสาขาต้นแบบ เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด ก่อนเปิดสาขาที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และขายแฟรนไชส์
- จัดวางงบประมาณ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการขยายธุรกิจแฟรนไชส์
8. แผนการตลาดของธุรกิจแฟรนไชส์
- การจัดทำคู่มือต่างๆ เพื่อแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์
- กระบวนการขายแฟรนไชส์ การคัดเลือกผู้ซื้อแฟรนไชส์
- กระบวนการติดตามลูกค้าเป้าหมาย
- การนำเสนอธุรกิจแฟรนไชส์ในงานแสดงธุรกิจแฟรนไชส์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- การจัดงาน สัมมนาการขายธุรกิจ แฟรนไชส์
- การเปิดเยี่ยมชมธุรกิจ ร้านต้นแบบแฟรนไชส์
- กระบวนการคัดเลือกแฟรนไชส์ซีที่เหมาะสม ตามหลักมาตรฐานแฟรนไชส์สากล
- กระบวนการถ่ายทอดความรู้ การอบรม และให้คำปรึกษาแก่แฟรนไชส์ซี
สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น
ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี
ลักษณะงาน
- เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
- ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
- มอบหมายงานและติดตามงาน
- อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ
1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้
- ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
- ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
- การปฏิบัติงาน
- เป้าหมายในอนาคต
2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ
- การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
- การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
- การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
- การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)
3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)
- การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
- กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม
4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์
5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
- ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
- ปรับปรุงแก้ไข
- พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง
การปฎิบัติงาน
- สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
- ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา
เงื่อนไขอื่นๆ
- การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์
อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้
สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)