ธุรกิจคาร์แคร์มาแรง! แฟรนไชส์ เจวอช ซิสเท็ม ชูจุดเด่น “เครื่องล้างรถอัตโนมัติ” ลงทุนได้กำไรมากขึ้น

ในปี 2565 คาดว่าธุรกิจบริการจะมาแรงและเป็นเทรนด์ที่น่าลงทุนอย่างมาก หนึ่งในนั้น www.ThaiSMEsCenter.com มองว่าธุรกิจคาร์แคร์เป็นธุรกิจหนึ่งที่มีความนิยมและแพร่หลายในผู้ประกอบการอย่างมาก แต่โดยส่วนใหญ่ใช้แรงงานคนเป็นหลัก ทำให้ผู้ประกอบการต้องเจอกับปัญหาแรงงาน และการบริหารต้นทุนที่ไม่คงที่

อีกทั้งผู้ใช้บริการยังมีปัญหาเรื่องระยะเวลาในการรอคอย การล้างแต่ละคัน ค่อนข้างนาน ด้วยเหตุนี้หากมีสุดยอดแฟรนไชส์ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการก้าวผ่านปัญหาเหล่านี้ไปได้จะกลายเป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่สร้างกำไรได้อย่างดี

ซึ่งแฟรนไชส์ เจวอช ซิสเท็ม เป็นหนึ่งในแฟรนไชส์ที่หลายคนรู้จักและต้องการลงทุน เพราะเครื่องล้างรถอัตโนมัติ J Wash ได้เข้ามาตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการ ในการทดแทนแรงงาน สามารถควบคุมต้นทุน และตอบสนองเรื่องความเร็วในการล้างได้เป็นอย่างดี

ทางบริษัท เจวอช ซิสเท็ม ได้เปิดดำเนินการ ธุรกิจคาร์แคร์สาขาแรกที่ถนนสาทร ในนาม J wash Carcare เพื่อให้ลูกค้าที่มีความสนใจ สามารถดูและทดสอบวิธีการใช้งานเครื่องล้างรถ ประกอบกับการดำเนินธุรกิจ ทำความสะอาดรถ ด้วยเครื่องล้างรถอัตโนมัติ มีผลตอบรับที่ดี และมีลูกค้าสนใจ ทำธุรกิจคาร์แคร์ ในรูปแบบใหม่ เป็นจำนวนมาก

ยุคนี้เป็นยุคที่ลูกค้าต้องการประหยัดทั้งเงินและเวลา การล้างรถที่รวดเร็ว ทันใจ ราคาไม่แพง เจวอช คาร์แคร์ถือเป็นแฟรนไชส์ที่โดดเด่นในเรื่องการดูแลรักษาทำความสะอาดรถยนต์ ที่เต็มเปี่ยมด้วยคุณภาพมาตรฐานจากประเทศญี่ปุ่น

เจวอช ซิสเท็ม

ทำไมต้อง Jwash Carcare ?

  1. เป็นนวัตกรรมการล้างรถจากประเทศญี่ปุ่น ล้างรถได้รวดเร็ว
  2. เป็นผู้นำอันดับ 1 ในด้านการล้างรถ ด้วยเครื่องล้างรถอัตโนมัติ
  3. ใช้พนักงานน้อยลงรับลูกค้าได้มากขึ้น
  4. ต้นทุนการล้างต่อคันต่ำกว่าการล้างปกติ 3 เท่า
  5. มีทีมซ่อมบำรุงและบริการหลังการขาย พร้อมดูแลคุณในระยะยาว
  6. ควบคุมด้วยระบบอัตโนมัติ มีมาตรฐานในการบริการ

วิธีการดำเนินการ

  1. ขั้นตอนการเริ่มต้นกับ J Wash Carcare
  2. รับเอกสารข้อมูลทางธุรกิจ
  3. ตรวจสอบความพร้อมในการลงทุน
  4. ไขข้อสงสัยเกี่ยวกับ Business Model
  5. ตรวจสอบ Location
  6. เซ็นสัญญาแฟรนไชส์และชำระค่าธรรมเนียม
  7. เตรียมการก่อสร้างและตกแต่งพื้นที่
  8. เข้าร่วมกิจกรรม Training Program
  9. เปิดดำเนินการเริ่มสัญญาแฟรนไชส์

สิ่งที่ได้รับ

  • เครื่องล้างรถอัตโนมัติจากประเทศญี่ปุ่น
  • Priority Maintenance Service
  • การรับประกันเครื่องล้างรถ และอุปกรณ์ ระยะเวลา 1 ปีและบริการหลังการขายตลอดอายุสัญญา
  • ตรวจเช็คเครื่องทุก 6 เดือน
  • ส่วนลดค่าอะไหล่ 20%
  • ส่วนลดค่าน้ำยา 15%
  • ระบบ POS
  • Training Program
  • การตลาดและการส่งเสริมการขาย

ลักษณะทำเลที่เหมาะสม

  • พื้นที่ขนาด 200 ตารางเมตรขึ้นไป
  • อยู่ในสถานีบริการน้ำมัน
  • ใกล้พื้นที่ประชากรที่พักอาศัย คอนโดมิเนียม ตลาดชุมชน สถานประกบการต่าง ๆ
  • พื้นที่เส้นทางหลักผู้คนสัญจรไปมา

สาขาต้นฉบับ

1.เจวอช คาร์แคร์ สาขาสาทร

เจวอช ซิสเท็ม

2.เจวอช คาร์แคร์ สาขาเหม่งจ๋าย-ประชาอุทิศ

3.เจวอช คาร์แคร์ สาขาจรัญสนิทวงศ์

สาขาแฟรนไชส์ปัจจุบัน

1.เจวอช คาร์แคร์ สาขาอุดรธานี

2.เจวอช คาร์แคร์ สาขาน่าน

3.เจวอช คาร์แคร์ สาขาราชพฤกษ์-นนทบุรี

4.เจวอช คาร์แคร์ สาขาบ้านค่ายระยอง

5.เจวอช คาร์แคร์ สาขาสามชัย-หาดใหญ่

6.เจวอช คาร์แคร์ สาขาศรีนครินทร์

ภาพจาก แฟรนไชส์ เจวอช ซิสเท็ม

และกำลังรอทำการเปิดร้านสาขาแฟรนไชส์อีก จำนวน 20 กว่าสาขา ในปี 2022 นี้

 

 

สนใจลงทุนแฟรนไชส์
เจ วอช ซิสเต็ม
โทร. 02-107-0777-9, 061-417-9966

 

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3KbAZQn


8 ขั้นตอน การพัฒนาระบบแฟรนไชส์

1. การวางแผนธุรกิจ ก่อนทำแฟรนไชส์

  • กำหนดรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ให้มีความชัดเจน โดนใจลูกค้า
  • ชื่อกิจการ (Brand)
  • การสร้างผลการดำเนินธุรกิจที่ดี ได้ผลกำไร มีความมั่นคง (Good ROI)
  • การสร้างแบรนด์ ตราสินค้า ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักผู้บริโภค
  • การพัฒนาสินค้าบริการ ให้มีคุณภาพมาตรฐาน และระบบการจัดการที่เป็นมาตรฐาน
  • การพัฒนาระบบบริการจัดการ จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
  • วางโครงสร้างองค์กรใหม่ รวมถึงการพัฒนาบุคลากร ทีมงาน สนับสนุนระบบแฟรนไชส์
  • การวางแผน และกำหนดเป้าหมายการขยายธุรกิจ การขยายสาขา ทั้งในและต่างประเทศ
  • การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธุรกิจ ทำเลที่ตั้ง และรูปแบบของร้านค้า
  • การเลือกใช้สื่อต่างๆ ช่องทางต่างๆ ในการจัดกิจกรรม เพื่อสร้างแบรนด์แฟรนไชส์

2. การรวบรวมข้อมูลธุรกิจ

  • ระบบการปฏิบัติงาน วิธีการบริหารจัดการธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
  • ระบบการเงิน การบัญชี
  • งบประมาณในการลงทุนธุรกิจ การขยายสาขา
  • รูปแบบของร้านค้า รูปแบบของตราสินค้า ที่เป็นเอกลักษณ์
  • ระบบการสต็อกสินค้า จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
  • แผนงานการตลาด การส่งเสริมการขายต่างๆ
  • กระบวนการพัฒนาบุคลากร ทีมงานด้านต่างๆ

3. การวิเคราะห์ธุรกิจแฟรนไชส์

  • ธุรกิจเปิดมานานหลายปี จำนวนไม่น้อยกว่า 1สาขา
  • แบรนด์มีชื่อเสียงได้รับความนิยม เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในวงกว้าง
  • สินค้าและบริการ มีคุณภาพมาตรฐาน เป็นที่ต้องการของตลาด
  • เป็นธุรกิจที่มีความมั่นคง ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ มีผลกำไร ต่อเนื่อง เป็นที่น่าพอใจ
  • มีระบบการทำงาน การปฏิบัติงาน แผนการทำงานที่ชัดเจน สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นได้
  • มีระบบการพัฒนาบุคลากร และสร้างทีมงานที่แข็งแกร่ง เป็นมาตรฐาน
  • ประสบความสำเร็จทางด้านการตลาด การสร้างแบรนด์ การส่งเสริมการขายต่างๆ
  • แผนกลยุทธ์การขยายสาขา และเติบโตต่อเนื่อง เป็นรายเดือน หรือ รายปี

4. การวางโครงสร้างของระบบแฟรนไชส์

  • กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักของผู้บริโภค
  • การสร้างองค์ความรู้ ระบบปฏิบัติงานต่างๆ ที่พร้อมถ่ายทอดให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • วางระบบการปฏิบัติงานของแต่ละขั้นตอนธุรกิจ ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ง่าย
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย แต่ละแผนกให้ชัดเจน รวมถึงขั้นตอนการอบรม ระบบตรวจสอบ เพื่อสร้างมาตรฐานธุรกิจแฟรนไชส์
  • สร้างระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซี หรือผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • การกำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ ในการขยายสาขาแฟรนไชส์ ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้า (ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์)
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม พร้อมที่จะเป็นพี่เลี้ยงแก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ช่วงเริ่มต้นได้
  • เงื่อนไขการเปิดสาขาในด้านต่างๆ

5. การวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจแฟรนไชส์

  • แผนการขยายแฟรนไชส์
  • ระบบการเงิน
  • ค่าธรรมเนียมต่างๆ
  • ข้อเสนอแฟรนไชส์ซี
  • การจดทะเบียนแฟรนไชส์
  • เรื่องกฎหมาย อายุสัญญาแฟรนไชส์
  • ระบบปฏิบัติงาน รูปแบบการให้สิทธิ
  • การตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์
  • แพ็คเกจต่างๆ ระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซีอย่างต่อเนื่อง
  • การจัดทำคู่มือแฟรนไชส์ หรือโปรแกรมแฟรนไชส์
  • การจัดทำสัญญาแฟรนไชส์ รวมถึงเครื่องหมายการค้า

6. การวางแผนเพื่อขยายสาขาธุรกิจแฟรนไชส์

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ เจ้าของแฟรนไชส์จะบริหารจัดการเองทุกอย่าง เพื่อสร้างความโดดเด่น สร้างความเด่นชัดให้แก่นักลงทุน ได้เห็นภาพของร้านที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การลงทุนเปิดสาขาแฟรนไชส์ในภายหลัง
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟนไชส์ คือ เมื่อสาขาแรกมีความแข็งแกร่ง มั่นคง มีผลกำไรต่อเนื่อง เป็นที่ยอมรับของลูกค้าในพื้นที่นั้นๆ แล้ว ก็ทดลองขยายสาขาเพิ่มอีก เพื่อทดสอบสาขาที่ 2 เป็นอย่างไร โดยนำเอาระบบการปฏิบัติงานทุกอย่างของร้านสาขาแรกมาปฏิบัติ ถ้าประสบความสำเร็จ ก็ค่อยขยายสาขาตัวเองเพิ่มอีก 2-3 สาขา ถ้าประสบความสำเร็จเหมือนสาขาแรก ก็ค่อยคิดขายแฟรนไชส์ให้กับคนอื่น

7. กระบวนการพัฒนาและปรับปรุงระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น (ระบบการบริหารจัดการในร้าน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน)วิเคราะห์ระบบการเงิน การลงทุน ในแต่ละสาขาที่เปิดทดลอง
  • พิจารณาปรับปรุงระบบงาน ระบบการทำงานต่างๆ ให้เหมาะสม
  • ระบบการพัฒนาทีมงานรองรับการขยายงาน ขยายสาขา
  • การวางแผนงานขยายสาขาแฟรนไชส์
  • เก็บข้อมูลรายละเอียดต่างๆ กลุ่มลูกค้า ผลประกอบการ การดำเนินงาน ของสาขาแรก หรือสาขาต้นแบบ เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด ก่อนเปิดสาขาที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และขายแฟรนไชส์
  • จัดวางงบประมาณ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการขยายธุรกิจแฟรนไชส์

8. แผนการตลาดของธุรกิจแฟรนไชส์

  • การจัดทำคู่มือต่างๆ เพื่อแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์
  • กระบวนการขายแฟรนไชส์ การคัดเลือกผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • กระบวนการติดตามลูกค้าเป้าหมาย
  • การนำเสนอธุรกิจแฟรนไชส์ในงานแสดงธุรกิจแฟรนไชส์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
  • การจัดงาน สัมมนาการขายธุรกิจ แฟรนไชส์
  • การเปิดเยี่ยมชมธุรกิจ ร้านต้นแบบแฟรนไชส์
  • กระบวนการคัดเลือกแฟรนไชส์ซีที่เหมาะสม ตามหลักมาตรฐานแฟรนไชส์สากล
  • กระบวนการถ่ายทอดความรู้ การอบรม และให้คำปรึกษาแก่แฟรนไชส์ซี

สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

กองบรรณาธิการเว็บไซต์

ยินดีสนับสนุน SMEs ไทยทุกแบรนด์ ที่ต้องการสร้างความเข้มแข็ง อยากเรียนรู้ พัฒนาธุรกิจ ส่งเสริมความเข้าใจในการตลาด มีความคิดสร้างสรรค์ แบ่งปันเพื่อสังคม ต่อยอดธุรกิจ ให้ประสบความสำเร็จในอนาคต