แฟรนไชส์ฟาสต์ฟู้ดซาอุดีอาระเบีย ไก่ทอด AlBaik (อัลเบก) รสชาติอาหรับ เอาชนะ KFC ในตะวันออกกลาง

ถ้าพูดถึงแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดไก่ทอดที่ครองใจชาวมุสลิมทั่วโลก หนึ่งในแบรนด์ที่หลายคนนึกถึงเป็นอันดับแรก ก็คือ Al Baik (อัลเบก) แบรนด์ไก่ทอดสัญชาติซาอุดีอาระเบีย มีต้นกำเนิดในเมืองเจดดาห์ มีความโดดเก่นในเมนู “ไก่ทอด” และ “ชิกเก้น ไบต์ส์” ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ ด้วยเครื่องเทศลับเฉพาะ 18 ชนิด ทำให้ไก่ทอดมีความรอบนอกนุ่มในที่ลงตัว

ไม่เพียงเท่านี้ยังให้คามสำคัญในเรื่องและมาตรฐานฮาลาลที่เคร่งครัด Al Baik ไม่ได้เป็นเพียงร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดไก่ทอด แต่เป็นไอคอนของวัฒนธรรมอาหารในโลกมุสลิม ด้วยจุดเด่นด้านรสชาติ คุณภาพ และการใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอน

จากความนิยมของ แฟรนไชส์ฟาสต์ฟู้ดซาอุดีอาระเบีย ไก่ทอด Al Baik ถึงขั้นแซงหน้าแบรนด์ไก่ทอดยักษ์ใหญ่อย่าง KFC ในหลายประเทศมุสลิม ด้วยราคาเข้าถึงง่าย ปริมาณคุ้มค่า และรสชาติที่หลายคนบอกว่า “ไม่มีใครเหมือน” ทำให้แฟรนไชส์ไก่ทอด Al Baik เป็นแบรนด์ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดซาอุดีอาระเบียที่โด่งดังที่สุดในตะวันออกกลาง

เรื่องราวความเป็นมาและกลยุทธ์ธุรกิจของแฟรนไชส์ไก่ทอด Al Baik มีความน่าสนใจอย่างไร ทำไมถึงครองใจชาวมุสลิม

จุดเริ่มต้นแฟรนไชส์ Al Baik

แฟรนไชส์ฟาสต์ฟู้ดซาอุดีอาระเบีย
ภาพจาก https://bit.ly/44SuZpU

แฟรนไชส์ไก่ทอด All Baik มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่ปี 1974 ที่เมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดย Shakour Abu Ghazalah (ชะกัร อัล-บาเกาะห์) ผู้ประกอบการเชื้อชาติปาเลสไตน์-ซาอุดีอาระเบีย โดยเขาต้องการทำธุรกิจร้านอาหารนำเสนอเมนูที่มีคุณภาพสูงในราคาจับต้องได้ และเป็นร้านฟาสต์ฟู้ดที่ใส่ในเรื่องของสุขภาพ ในบรรยากาศร้านที่สะอาด น่ารับประทาน นับว่าเป็นผู้นำรายแรกๆ ในการเปิดตัวแนวคิดไก่ทอด Broasted ในประเทศซาอุดีอาระเบีย

ปี 1976 Shakour Abu Ghazalah (ชะกัร อัล-บาเกาะห์) ผู้ก่อตั้งร้านไก่ทอด Al Baik ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็ง หลังจากเปิดสาขาแห่งที่ 2 ได้ไม่นาน

ต่อจากนั้นลูกชายของ Ghazalah คือ อิซาน (Ihsan) เพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัยพอดี ได้กลับไปดูแลธุรกิจต่อจากคุณพ่อของเขา โดยปล่อยให้น้องชายของเขา คือ รามี (Rami) เรียนหนังสือต่อให้จบ

ช่วงแรกๆ ที่ อิซาน (Ihsan) ไปสานต่อธุรกิจไก่ทอดต่อจากพ่อเขาที่เสียชีวิต ต้องขายทรัพย์สินเพื่อใช้หนี้ มีการปรับปรุงธุรกิจใหม่ พร้อมทั้งลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจทุกอย่าง ที่สำคัญก็คือมีร้านอาหารกว่า 400 แห่งในเมืองเจดดาห์เลียนแบบร้านอาหารของเขาทุกอย่าง จึงจำเป็นต้องสร้างความแตกต่างจากร้านอื่น ยึดหลักคุณภาพและมูลค่า

ปี 1982 เมื่อน้องชายของเขา รามี (Rami) เรียนจบก็ได้มาช่วยกันพัฒนาร้านอาหารให้เติบโต แม้ว่าพวกเขาทั้ง 2 จะเรียนจบวิศวกรมา แต่ก็ทุ่มเททำธุรกิจร้านอาหารอย่างเต็มความสามารถ ทั้งทำงานหลังเตาน์เตอร์ ปรุงอาหาร เสิรืฟอาหาร ทำความสะอาด หลังจากนั้นสองพี่น้องได้คิดค้นสูตรสมุนไพรและเครื่องเทศ 18 ชนิด โดยใช้เวลาเกือบ 3 ปี ทำงานดึกทุกวัยเพื่อเตรียมสูตรสำหรับปรุงอาหารในหลายสาขา

แฟรนไชส์ฟาสต์ฟู้ดซาอุดีอาระเบีย
ภาพจาก https://bit.ly/4mykX3p

ปรับภาพลักษณ์ร้านอาหารใหม่ ทั้งฝึกอบรมพนักงาน เปลี่ยนแปลงบรรจุภัณฑ์ การบริหารงานในร้าน กระบวนการผลิต เพื่อสร้างความแตกต่างไปจากร้านอาหารคู่แข่ง จนกระทั่งปี 1986 สองพี่น้องได้เปลี่ยนมาใช้ชื่อแบรนด์ AL Baik ซึ่งในสมัยรุ่นพ่อของพวกเขายังเป็นร้านไก่ทอดแนว Broast ยังไม่มีโลโก้และชื่อแบรนด์ที่ชัดเจน หลังจากนั้นลูกค้าก็แห่กันมาใช้บริการที่ร้าน Al Baik เพราะเป็นร้านที่ปลกและกต่างจากร้านไก่ทอดอื่นๆ

All Baik มีจุดเริ่มต้นจากร้านขายไก่ทอดเล็กๆ และอาหารทะเล ก่อนเติบโตและขยายสาขาไปทั่วประเทศซาอุดิอาระเบีย รวมถึงข้ามชายแดนต่างประเทศ อาทิ เจดดาห์ เมดินา ริยาด มักกะห์ มะดีนะฮ์ ดูไบมอลล์ และอื่นๆ อีกมากมายทั่วซาอุฯ

ปี 2018 Al Baik เปิดสาขาแรกในประเทศบาห์เรน

ปี 2021 Al Baik ขยายตลาดไปยังประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) เปิดสาขาแรกที่ห้างสรรพสินค้าดูไบมอลล์ ก่อนจะขยายสาขาเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทั่วประเทศ

ชื่อ All Baik มาจากคำว่า البيك (Al-Baik) แปลว่า “ผู้ดี” หรือ “สิ่งที่ดีเลิศ”

ปัจจุบัน Al Baik กลายเป็นแบรนด์ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดไก่ทอดชื่อดังของซาอุดีอาระเบีย ถือเป็นแบรนด์ไก่ทอดที่โด่งดังที่สุดในโลกมุสลิม ถ้าเป็นไก่ทอดในโลกตะวันตกก็จะเป็น KFC ของสหรับอเมริกา
มีจำนวนสาขาในซาอุดีอาระเบีย 153 สาขา

  • ยูเออี 23 สาขา
  • บาห์เรน 4 สาขา
  • คูเวต 1 สาขา

เอกลักษณ์ไก่ทอด Al-Baik

แฟรนไชส์ฟาสต์ฟู้ดซาอุดีอาระเบีย
ภาพจาก www.albaik.com

เอกลักษณ์ของ Al-Baik ไม่ใช่แค่ร้านไก่ทอดธรรมดา แต่เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงออกถึง “วัฒนธรรม” ของชาวซาอุดีอาระเบีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองศักดิ์สิทธิ์อย่าง “มักกะฮ์และมะดีนะฮ์” ที่ผู้แสวงบุญทุกคนมักจะไปแวะกินให้ได้ เรียกได้ว่าถ้าไม่ได้ไปกินไก่ทอด Al Baik ถือว่ายังไปไม่ถึงซาอุดีอาระเบีย

มีรายงานจากสื่อมุสลิมเชียงใหม่ระบุว่า ร้านไก่ทอด Al Baik เวลาลูกค้าไปใช้บริการจะต้องต่อคิวยาวเหยียดนานหลายชั่วโมง บางทีรอจนถึงเที่ยงคืน โดยไก่ทอด Al Baik รสชาติจะหอมด้วยเครื่องเทศสนไตล์ตะวันออกกลาง แตกต่างจากไก่ทอด KFC สไตล์ตะวันตก ไก่ทอด Al Baik จะกรอบนอกนุ่มใน ลูกค้าที่ได้ลองชิมแล้วต้องติดใจ ที่สำคัญราคาไม่แพงสบายกระเป๋า ได้ปริมาณเยอะ

สำหรับร้านไก่ทอด Al Baik ในประเทศซาอุดีอาระเบีย สาขาที่ลูกค้าใช้บริการจนแน่นร้านมากที่สุด คือ มักกะฮ์, มะดีนะฮ์ และเจดดาห์ เมนูที่ได้รับความนิยม ได้แก่ Broasted Chicken, Chicken Nuggets (ไบต์ส์), และซอสกระเทียมที่เป็นซิกเนเจอร์สูตรเด็ดของทางร้าน

สาเหตุที่ทำให้ไก่ทอด Al Baik ได้รับความนิยมมากที่สุดอาหรับ

  • ฮาลาล 100% ผ่านมาตรฐานอาหารของซาอุดีอาระเบีย
  • สูตรลับ ที่ผสมผสานด้วยเครื่องเทศอาหรับ เช่น กระเทียม พริกไทยดำ และเครื่องเทศอื่นๆ
  • บริการเร็ว แม้ว่าลูกค้าจะต่อคิวยาว แต่ทางร้านมีระบบการจัดคิวได้ดี
  • กินง่าย เหมาะสำหรับผู้แสวงบุญที่ต้องการความรวดเร็ว
ภาพจาก www.albaik.com

ตัวอย่าง…เมนู

  • ไก่กรอบ 4 ชิ้น 8 ชิ้น
  • เบอร์เกอร์เนื้อปลา
  • ฮัมมัส สลัดกะหล่ำปลี
  • ข้าวโพดอบเนย
  • นักเก็ตไก่
  • ไก่ไร้กระดูก
  • กุ้งจัมโบ้ 12 ชิ้น
  • แซนด์วิชเนื้อปลา-กุ้ง
  • เฟรนซ์ฟรายส์
  • เครื่องดื่ม น้ำผลไม้
  • อื่นๆ

กลยุทธ์ตลาดไก่ทอด Al Baik ในต่างประเทศ

ภาพจาก www.albaik.com

1. ให้ผู้บริโภคในพื้นที่ได้ลองชิมรสชาติ กลยุทธ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงปี 2021 ก่อนที่แบรนด์ไก่ทอด Al Baik จะขยายตลาดต่างประเทศไปในยูเออี ได้มีการทดลองเปิดร้านชั่วคราวในงาน ExPo 2020 Dubai เพื่อให้ผู้บริโภคในยูเออีได้ลองชิมรสชาติไก่ทอด ปรากฏว่าได้ผลตอบรับดีเกินคาด มีผู้คนเข้าแถวต่อคิวยาวเหยียดในวันเปิดงาน พอปี 2021 เปิดสาขาแรกที่ดูไบ ทำให้ Al Baik ได้รับความนิยมตั้งแต่วันแรก

2. ไก่ทอด Al Baik พัฒนารสชาติให้เข้ากับคนตะวันออกกลาง โดยได้พัฒนาเครื่องเทศและสมุนไพรที่เป็นสูตรลับกว่า 18 ชนิด ทำให้ได้รสชาติแตกต่างจากไก่ทอดทั่วไป มีเมนูยอดนิยมอย่าง ไก่ทอด (Broast Chicken) และ Chicken Bites ได้รับคำชมในเรื่องของ “กรอบนอก นุ่มใน” มีกลิ่นเครื่องเทศที่เข้มข้น

3. ขยายสาขาแบบแฟรนไชส์ แม้จะเป็นเบอร์ 1 ร้านไก่ทอดในซาอุดีอาระเบีย แต่ในตลาดต่างประเทศต้องเผชิญคู่แข่งมากมาย เช่น McDonald’s, Burger King, Pizza Hut, KFC, Domino’s และ Hardee’s ทำให้ไก่ทอด Al Baik ตัดสินใจขยายสาขาแบบแฟรนไชส์ เพื่อลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่า ค่าจ้างพนักงาน ใบอนุญาตต่างๆ และอื่นๆ

4. พัฒนาศักยภาพนักงานเพื่อลดการลาออก เพราะการลาออกของพนักงานส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ บริษัทต้องเสียเวลาและเงินลงทุนในการหาพนักงานใหม่ เพื่อลดการลดออกของพนักงาน แฟรนไชส์ไก่ทอด Al Baik จึงมุ่งเน้นพัฒนาศักยภาพทีมงานในทุกระดับ เข้าร่วมโปรแกรมฝึกอบรมเสริมสร้างความรู้และทักษะ เพื่อให้ประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน ด้วยการพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมมากกว่า 150 หลักสูตรเพื่อให้พนักงานเติบโตเป็นผู้นำและผู้บริหารในอนาคต

5. แฟรนไชส์ไก่ทอด Al Baik ขายไก่ทอดราคาถูก รสชาติแตกต่างจากคู่แข่งแบรนด์ตะวันตกอย่าง KFC และ McDonald’s โดยเฉพาะในภูมิภาคตะวันออกกลาง ทำให้ลูกค้ารู้สึกได้รับคุ้มค่ากับปริมาณและคุณภาพอาหารที่ได้รับ

6. ทำกิจกรรมการตลาดเพื่อสังคม หรือ CSR โดยแฟรนไชส์ไก่ทอด Al Baik ให้การสนับสนุนกิจกรรมทางสังคมต่างๆ เพื่อช่วยเหลือและตอบสนองความต้องการของคนในสังคม โดยเฉพาะการสนับสนุนด้านการศึกษาให้กับเยาวชนในชุมชนต่างๆ ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งให้กับแบรนด์ เพิ่่มการรับรู้ต่อแบรนด์ในกลุ่มลูกค้าเป้าหมายใหม่
โอกาสของ Al Baik ในตลาดไทย

ภาพจาก www.albaik.com

แม้ยังไม่มีแผนชัดเจน แต่หากแฟรนไชส์ไก่ทอด Al Baik ตัดสินใจเข้ามาเปิดสาขาในประเทศไทย โอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็อาจมีสูงอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะในพื้นที่มุสลิมหนาแน่นอย่างชายแดนภาคใต้ เช่น ปัตตานี, ยะลา, นราธิวาส รวมถึงกรุงเทพฯ ที่มีชุมชนมุสลิมและนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม หากแฟรนไชส์ไก่ทอด Al Baik เข้ามาเปิดตลาดในไทย ต้องเผชิญกับแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดไก่ทอดในตลาดเมืองไทยมากหน้าหลายตา ทั้งจากอเมริกา เกาหลีใต้ จีน ไต้หวัน รวมถึงไทย ที่สำคัญผู้บริโภคในไทยส่วนใหญ่ยังนิยมไก่ทอดรสชาติตะวันตกและเอเชีย จึงอาจทำให้การเข้ามาเปิดตลาดในไทยของ Al Baik ที่ได้รับความนิยมในตะวันออกกลาง เจออุปสรรค

เช่นเดียวกับกรณีแฟรนไชส์ไก่ทอด Marrybrown สัญชาติมาเลเซีย ที่เข้ามาเปิดสาขาแรกในไทยที่ชั้น 1 ห้างโคลีเซี่ยมยะลา วันที่ 8 มี.ค. 2015 ต่อจากนั้นไปเปิดที่ห้างบิ๊กซีปัตตานี ต้นปี 2019 และสาขาปั๊มน้ำมั้น ปตท.สะเตง ก.ย. 2019

Marrybrown ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคชาวมุสลิมในช่วงแรกๆ จากนั้นไม่กี่ปีค่อยๆ ทยอยปิดสาขาทั้งหมดในไทย

แหล่งข้อมูล

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช