แฟรนไชส์ชาจีน Good Me 古茗 ดังจนถูกก๊อป 600 สาขา

ต้องยอมรับว่ากระแสชานมและชาผลไม้ (ชารูปแบบใหม่) ในประเทศจีนมาแรง และมีการแข่งขันกันในประเทศจนล้นออกมาในหลายๆ ประเทศทั่วโลก หลายๆ แบรนด์ได้สร้างโมเดลธุรกิจในรูปแบบที่เหมือนกัน

นั่นคือ การขายแฟรนไชส์ และนำแบรนด์เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง เพื่อระดมเงินทุนไปขยายธุรกิจให้เติบโตต่อไป เรียกได้ว่าสร้างความมั่งคั่งให้เจ้าของแบรนด์ชานมจากจีนในชั่วข้ามคืน

หนึ่งในแบรนด์ชานมจีนที่เข้าตลาดหุ้นฮ่องกง ก็คือ Good me ตามรายงานข่าวบริษัท Guming Holdings เจ้าของแบรนด์ชานม Good Me ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเมื่อช่วงเดือน ก.พ. 2025 สามารถระดมทุนได้ประมาณ 233 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ Wang Yun’an ผู้ก่อตั้งกลายเป็นเศรษฐีมีมูลค่ากว่า 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ส่วนแบรนด์ชานมจากจีนอื่นๆ ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกงและสหรัฐอเมริกา ดังนี้

1.Nayuki (Naixue Holdings)

บริษัทแรกที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ในกลุ่มชารูปแบบใหม่ premium จากจีน โดย IPO วันที่ 30 มิ.ย. 2021 ระดมทุนได้ประมาณ 656 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

2.ChaPanda (Sichuan Baicha Baidao / Chabaidao)

แฟรนไชส์ชาจีน Good Me

เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง วันที่ 23 เม.ย. 2024 สามารถระดมทุนได้ประมาณ 331 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

3.Mixue Group (Mixue Ice Cream & Tea)

แฟรนไชส์ชาจีน Good Me

เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง วันที่ 3 มี.ค. 2025 สามารถระดมทุนได้ประมาณ 3.45 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือราว 444 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้หุ้นพุ่งขึ้นราว +43‑47% ในวันแรก ปัจจุบันมีสาขามากกว่า 45,000 แห่งทั่วโลก

4.Auntea Jenny

แฟรนไชส์ชาจีน Good Me

เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง วันที่ 8 พ.ค. 2025 สามารถระดมทุนได้ประมาณ 273 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือราวๆ 35 ล้านดอลลาร์สหรัฐและมีสาขามากกว่า 9,000 แห่งทั่วโลก

5.Chagee

แฟรนไชส์ชาจีน Good Me

แบรนด์ชานมจากจีนรายแรก ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (Nasdaq / NYSE) โดยตรงได้สำเร็จ ทำ IPO ในตลาด Nasdaq เมื่อวันที่ 17 เม.ย. 2025 สามารถระดมทุนได้ประมาณ 411 ล้านดอลาร์สหรัฐ

สำหรับมูลค่าตลาดชานมไข่มุกในประเทศจีนปี 2024 อยู่ที่ประมาณ 300 พันล้านหยวน หรือราวๆ 45-50 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนมูลค่าตลาดชารูปแบบใหม่ (ชาผลไม้) อยู่ที่ 150 ล้านล้านหยวน หรือราว ๆ 14 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

แบรนด์ชานมและชาผลไม้จีนที่เป็นผู้เล่นหลักๆ ในประเทศจีนและหลายๆ ประเทศทั่วโลก อาทิ Auntea Jenny, Mixue, GoodMe, Chagee, Chabaidao, Modern China Tea, Shuyi Shaoxiancao, Xinshiqi, HeyTea, Nayuki, Chapanda, Naixue ฯลฯ

ในส่วนของแฟรนไชส์ชานม Good Me มีจุดเริ่มต้นและมีความน่าสนใจอย่างไร ทำไมถูกลอกเลียนแบบถึง 600 สาขา

จุดเริ่มต้น Good Me

ภาพจาก www.gumingnc.com

Gu Ming หรือ Good Me ก่อตั้งในปี 2010 โดย Wang Yun’an หลังจากที่เขาเรียนจบปริญญาตรี สาขาวิทยาศาสตร์วัสดุและวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง เปิดสาขาแรกในเมือง Daxi เมืองเล็กๆ ใน Taizhou, Zhejiang ซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากรไม่ถึง 200,000 คน โดยยอดขายวันแรกไม่ค่อยดีได้เพียงราวๆ 100 หยวน และในวันที่ยอดขายได้เพียง 98 หยวน

ช่วง 6 เดือนแรก Good Me ขาดทุนต่อเนื่อง จนถึงช่วงตรุษจีนของปีถัดไป ธุรกิจจึงเริ่มฟื้นตัวทำยอดขายได้ดีขึ้น จากการที่ Wang ได้ปรับสูตรชานมให้มีรสชาติดีขึ้น ผ่านการให้เพื่อนบ้านและชาวบ้านแถวๆ นั้นได้ลิ้มลองรสชาติ

ปี 2011 Good Me เปิดขายแฟรนไชส์ครั้งแรก เน้นการควบคุมคุณภาพมาตรฐานอย่างเข้มข้น ตั้งแต่การเลือกทำเลเปิดร้าน ให้คำแนะนำผู้ซื้อแฟรนไชส์จนกระทั่งถึงวันเปิดร้านแฟรนไชส์

กลยุทธ์การขยายสาขาของ แฟรนไชส์ชาจีน Good Me ในช่วงแรกๆ เป็นลักษณะ “ชนบทล้อมเมือง” เน้นขยายสาขาไปยังเมืองเล็กๆ ในมณฑลต่างๆ ที่ยังไม่มีการแข่งขันกันมาก เช่น Zhejiang, Fujian, Guangdong, Jiangxi, Anhui, Hubei, Sichuan, ฯลฯ โดยยึดหลักแนวคิด “ไม่เปิดสาขาในเมืองใหญ่” เช่น เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง

Time Line การเติบโตของแฟรนไชส์ชานม Good me

ภาพจาก www.gumingnc.com

ปี 2010
ร้าน Gu Ming แห่งแรกเปิดในเมืองต้าซี อำเภอเหวินหลิ่ง มณฑลเจ้อเจียง ถือเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ชานมจากเมืองเล็กๆ ก่อนขยายระดับประเทศ

ปี 2011
เปิดร้านแฟรนไชส์สาขาแรก จุดเริ่มต้นขยายสาขาแบบแฟรนไชส์ และยกระดับแบรนด์เข้าสู่ยุค 2.0

ปี 2012
เริ่มขยายสาขาจากเมืองไถโจวไปสู่พื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ มีจำนวน 27 สาขา และยกระดับแบรนด์สู่เวอร์ชัน 3.0 รวมถึงมียอดขายเฉลี่ยต่อสาขามากกว่า 1,500 แก้วต่อวัน

ปี 2013
สร้างระบบซัพพลายเชนของตัวเอง เริ่มการจัดส่งแบบภายใน (In-house logistics) เพื่อลดต้นทุนในระยะยาว เพิ่มความยืดหยุ่นในการดำเนินงาน มีจำนวน 100 สาขา

ปี 2014
เริ่มพัฒนาระบบอัตลักษณ์องค์กร (MI, VI, SI) ยกระดับแบรนด์สู่ “ร้านเวอร์ชัน 4.0” ถือเป็นการวางระบบแบรนด์แบบมืออาชีพ เพิ่มมูลค่าแบรนด์

ปี 2016
ตั้งศูนย์ฝึกอบรมการบริหารจัดการร้านแบบมาตรฐาน และเปิด “โครงการมะนาว” ที่สิบสองปันนา (คุมคุณภาพวัตถุดิบตั้งแต่ต้นน้ำ)

ปี 2017
เริ่มใช้ระบบ โซ่ความเย็น (Cold Chain) เพื่อรักษาความสดใหม่ของวัตถุดิบ มีจำนวน 1,000 สาขา

ปี 2018
เริ่มใช้กลยุทธ์ “สำนักงานใหญ่คู่” (ตั้งที่หางโจวและต้าซี) รีแบรนด์ภาพลักษณ์ใหม่ สู่เวอร์ชันร้านแบบ 5.0

ปี 2019
สร้างยอดขายประจำปีประมาณ 280 ล้านแก้ว และได้รับรางวัล “10 แบรนด์ชานมชั้นนำของจีน” รวมถึง “แบรนด์อาหารและเครื่องดื่มยอดเยี่ยมของจีน”

ปี 2020
เปิดตัว Mini Program “古茗茶饮点单” ทั่วประเทศ โดยมีสมาชิก Mini Program เพิ่มเป็น 13 ล้านคน เป็นการลงทุนด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน สร้างระบบอีคอมเมิร์ซในตัวเอง มีจำนวน 4,000 สาขา

ปี 2021
เปิดตัวร้านคอนเซ็ปต์ใหม่ “古茗·GOOTTT” ในหางโจว และมีจำนวนสาขาทั่วประเทศทะลุ 5,500 สาขา ครอบคลุม 18 มณฑล 140 เมืองทั่วประเทศจีน

ปี 2022
สมาชิกในระบบ Mini Program (แอปใน WeChat) ทะลุ 50 ล้านคน และมียอดขายรวมทั้งปีมากกว่า 850 ล้านแก้ว ถือเป็นแบรนด์ชานมที่มีฐานลูกค้าออนไลน์แข็งแกร่ง มีการเติบโตต่อเนื่อง ทำยอดขายอยู่ในระดับผู้นำตลาด

ปี 2024
ขยายสาขามากถึง 9,778 สาขาทั่วประเทศ มีมูลค่ายอดขายรวม 166 พันล้านหยวน กำไรกว่า 11.49 พันล้านหยวน

โดยรายได้ทั้งหมดของ Good Me ส่วนใหญ่มาจากสาขาแฟรนไชส์ที่มากกว่า 99% โดยในปี 2024 ไตรมาส 1-3 มีรายได้จากสาขาแฟรนไชส์ 64 พันล้านหยวน เป็นรายได้จากการขายวัตถุดิบและบริการต่างๆ 75% และค่าบริหารจัดการ 19.8% ส่วนค่าแฟรนไชส์มีรายได้เพียง 10.86 ล้านหยวนเท่านั้น

ภาพจาก www.gumingnc.com

สร้างระบบซัพพลายเชนและรักษาคุณภาพ

Good Me ลงทุนกว่า 40 ล้านหยวน เพื่อสร้างระบบคลังสินค้าและโลจิสติกส์เย็น (cold‑chain) ครอบคลุมภาคตะวันออก กลาง และภาคใต้ของจีน รวมถึงสวนชาคุณภาพในยูนนานและไทย

โดยระบบขนส่งของ Good Me มีการควบคุมอุณหภูมิ ทำให้สามารถส่งวัตถุดิบไปแต่ละสาขาได้ภายใน 1–2 วัน ลดต้นทุนขนส่งในระยะไกล อีกทั้งยังมีโรงงานและคลังกระจายอยู่ภายในรัศมีไม่น้อยกว่า 150 กม. จากสาขาในเจ้อเจียง คิดเป็นต้นทุนโลจิสติกส์ต่อมูลค่ายอดขายเพียง 0.9% ต่ำกว่าแบรนด์อื่นๆ ราว 2%

การบริหารแฟรนไชส์อย่างเข้มงวด

การคัดเลือกผู้ซื้อแฟรนไชส์ของ Good Me มีกระบวนการอย่างละเอียด โดยมีการสัมภาษณ์ถึง 3 รอบ เอาเฉพาะผู้ลงทุนที่มีอายุ 25–40 ปี ต้องพร้อมทำงานเต็มเวลาในร้าน

มีการควบคุมคุณภาพมาตรฐานสาขาอย่างเข้มงวด ใช้ระบบมอนิเตอร์กล้อง เช่น การแต่งกาย การทำงานตามมาตรฐาน ฯลฯ หากฝ่าฝืน อาจมีการหักคะแนนหรือยกเลิกสัญญากลางคัน

กรณีที่เกิดการรีพอร์ตเรื่อง การเลี่ยงภาษี ทางแบรนด์ออกสื่อแจ้งว่าได้ปิดสาขาที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบทุกสาขา และจะเพิ่มความถี่การตรวจเช็คแบบไม่แจ้งล่วงหน้า และพัฒนาระบบเทคโนโลยีตรวจสอบมาตรฐานให้เข้มกว่าเดิม

ภาพจาก www.gumingnc.com

พัฒนาแบรนด์และเมนูต่อเนื่อง

Gu Ming หรือ Good Me ได้เปิดตัวเครื่องดื่มใหม่เฉลี่ยทุก 0.65 สัปดาห์ มีเมนูยอดนิยมอย่าง “ชานมลุง”, “นมพุดดิ้งเผือก” และ “Passion Fragrance Jasmine” และเคยจับมือกับ Haagen-Dazs ออกเมนูพิเศษ รวมถึงการเปิดตัวร้านคอนเซปต์ใหม่อย่าง “Zero Oxidation · Live Young” และ “Gu Ming · GOOTTT” เพื่อเจาะตลาดเมืองใหญ่

ความท้าทายของ Good Me

กรณีปัญหาการละเมิดเครื่องหมายการค้า – แฟรนไชส์ปลอม

Gu Ming เคยเผชิญปัญหาข้อพิพาทกับแบรนด์ที่ชื่อคล้ายกัน “Zuo Ming” หลังจากนั้นทาง Good Me ยื่นฟ้องในทางกฎหมาย และศาลตัดสินให้หยุดใช้ชื่อดังกล่าว

และยังมีกรณีนักลงทุนถูกแฟรนไชส์ปลอมใช้ชื่อ Gu Ming ชวนเข้าร่วมลงทุนแฟรนไชส์ แต่ปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับ Zhejiang HQ และถือเป็นการฉ้อโกง สร้างความเสียหายให้ผู้ลงทุนนับแสนหยวน นอกจากนี้ยังมีรายงานว่ามี ร้านลอกเลียนแบบ Good Me กว่า 600 แห่ง ในพื้นที่เดียว เช่น YuGan county และมีเพียงส่วนน้อยคือสาขาแฟรนไชส์แท้ๆ

ภาพจาก www.gumingnc.com

กรณีประเด็นเลี่ยงภาษีและความปลอดภัยของอาหาร

ช่วงปี 2021-2022 Good Me เคยถูกปรับเงินกว่า 11.6 ล้านหยวน ฐานเลี่ยงภาษีกว่า 23.22 ล้านหยวน และยังมีกรณีร้องเรียนเกี่ยวกับความสะอาดและความปลอดภัยของอาหารในบางสาขา เคยมีรายงานว่าลูกค้าพบจิ้งจกในเครื่องดื่ม

และมีกรณีตรวจพบเชื้อแบคทีเรียในภาชนะ การปรับวันหมดอายุของวัตถุดิบ และอื่นๆ ในหลายเมือง เช่น Guangdong, Jiangsu, Hubei แม้จะไม่ได้แพร่หลายในวงกว้าง แต่เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์

สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการควบคุมมาตรฐานร้านสาขาแฟรนไชส์จำนวนมาก

ปัจจุบัน Good me เป็นแบรนด์ชารูปแบบใหม่ที่ใหญ่อันดับ 2 ในบรรดากลุ่มผู้ผลิตชานมไข่มุก โดยพิจารณาจากยอดขายรวม และจำนวนสาขาทั้งหมดในปี 2023 โดย Good Me มีส่วนแบ่งทางการตลาดราวๆ 9.1% เป็นรอง Mixue เพียง 20%

ภาพจาก www.gumingnc.com

งบลงทุนแฟรนไชส์ Good Me

  • งบลงทุนรวม 269,000 – 289,000 หยวน
  • ยังไม่รวม ค่าเช่าร้าน, ค่ามัดจำค่าเช่า, ค่าโอนร้าน หรือ ค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่น ๆ
  • ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ 98,800 หยวน สามารถผ่อนจ่ายเริ่มในปีที่ 2

สุดท้าย Good Me ถือเป็นกรณีศึกษาของธุรกิจแฟรนไชส์ชานมที่น่าสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะกลยุทธ์สร้างธุรกิจให้เติบโตจากเมืองรองๆ ที่ยังไม่ได้รับการพัฒนาทางเศรษฐกิจมากนักสู่ระดับชาติ จนสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงได้เป็นผลสำเร็จ

และมีการพัฒนาเมนูและแบรนด์อย่างต่อเนื่อง แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องต่อสู้กับปัญหาการลอกเลียนแบบ ทำให้ผู้บริโภคเกิดความสับสนในเรื่องเครื่องหมายการค้า รวมถึงปัญหาคุณภาพมาตรฐานที่มากับการขยายสาขาอย่างรวดเร็ว

สำหรับผู้ประกอบการหรือผู้ที่สนใจซื้อแฟรนไชส์ในไทย การติดตามเส้นทางของ Good Me อาจช่วยให้เห็นทั้ง “โอกาส” และ “กับดัก” ของการทำธุรกิจแฟรนไชส์ในยุคที่การแข่งขันสูง และการควบคุมคุณภาพแบรนด์ไม่แพ้กับการเติบโต

อ้างอิงข้อมูล

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช