แจกความลับ! คำนวณจุดคุ้มทุนที่ร้านอาหาร เครื่องดื่ม จะคุ้มตลอดไป

ปี 2568 ธุรกิจยอดฮิตอย่างร้านอาหารและร้านเครื่องดื่ม แม้ความต้องการของผู้บริโภคยังมีต่อเนื่อง แต่เราก็เห็นชัดๆ ว่าบางคนเปิดแล้วรอด บางคนไม่รอด ถ้าไปดูข้อมูลจะพบว่า

  • 50 % ของร้านอาหารปิดตัวภายในปีแรก โดยช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีร้านอาหารปิดกิจการกว่า 600,000 แห่ง
  • การเปิดร้านอาหารใหม่ มีจำนวนลดลงในครึ่งปีแรกปี 2568 มีจำนวนแค่ 96,000 ร้าน
  • มูลค่าตลาดร้านอาหารและเครื่องดื่มเติบโตเพียง 2.8-4.6% มูลค่าประมาณ 646,000 – 657,000 ล้านบาท
  • ร้านอาหารระดับ Fine Dining บางแห่งมียอดขายลดลง 60-70%
  • ราคาวัตถุดิบเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 18-25% โดยเฉพาะวัตถุดิบนำเข้า. คิดเป็นสัดส่วนต้นทุน 30-40% ของร้านอาหาร
  • ค่าแรงขั้นต่ำที่ปรับขึ้นเป็น 400-470 บาท/วัน ในบางพื้นที่ เพิ่มต้นทุนราว 5%
  • ค่าไฟฟ้าและน้ำเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 12-15%

จากตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นภาพว่าธุรกิจร้านอาหาร / เครื่องดื่ม แม้จะยังน่าสนใจแต่ต้องวางแผนและคิดวิเคราะห์อย่างละเอียดเพื่อสร้างธุรกิจที่มีกำไร โดยต้องไม่ลืมเรื่องการตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีผลต่อยอดขายเช่นกัน

  • 72% ของผู้บริโภคต้องการช่องทางการสั่งซื้อที่หลากหลาย (หน้าร้านและเดลิเวอรี)
  • 66% มองหาร้านที่รองรับการชำระเงินหลายรูปแบบ
  • 60% ให้ความสำคัญกับความรวดเร็วในการให้บริการ

เมื่อมีหลายปัจจัยมาเกี่ยวข้องผู้ประกอบการต้องพยายามควบคุมในส่วนที่ทำได้โดยเฉพาะเรื่องสำคัญคือ “การคำนวณจุดคุ้มทุน (Break-even Point)” ที่จะช่วยให้เจ้าของร้านอาหารหรือร้านเครื่องดื่มรู้ว่าร้านต้องขายสินค้าได้เท่าไหร่ถึงจะไม่ขาดทุนและเริ่มมีกำไร

แจกความลับ! คำนวณจุดคุ้มทุนที่ร้านอาหาร เครื่องดื่ม จะคุ้มตลอดไป

หลายคนอาจจะเข้าใจอยู่แล้วแต่ขออธิบายอีกครั้งว่า จุดคุ้มทุนคือ จำนวนของรายได้ที่ต้องมากพอกับค่าใช้จ่ายของกิจการในแต่ละเดือน ซึ่งหากมีรายได้ที่มากกว่าจุดคุ้มทุน เรียกว่า “กำไร” และในทางตรงข้าม รายได้ที่ต่ำกว่าจุดคุ้มทุนก็คือ ขาดทุน

โดยมีสูตรคำนวณจุดคุ้มทุนที่ใช้กันส่วนใหญ่คือ

จุดคุ้มทุน (บาท) = ต้นทุนคงที่ / (ราคาขายต่อหน่วย – ต้นทุนแปรผันรวม)

ต้นทุนคงที่ (Fixed Costs) : ค่าใช้จ่ายที่ไม่เปลี่ยนแปลงตามยอดขาย เช่น ค่าเช่าร้าน ค่าพนักงานประจำ ค่าสาธารณูปโภค

ต้นทุนผันแปร (Variable Costs) : ค่าใช้จ่ายที่เปลี่ยนแปลงตามปริมาณการขาย เช่น วัตถุดิบ ค่าบรรจุภัณฑ์

ราคาขายต่อหน่วย : ราคาที่ขายสินค้า เช่น ราคาแก้วกาแฟ 1 แก้ว

ยกตัวอย่างเช่นเราเปิดร้านขายไก่ทอด มีต้นทุนคงที่ 5,000 บาทต่อเดือน โดยมีต้นทุนแปรผันชิ้นละ 20 บาท ตั้งราคาขายที่ 30 บาทต่อชิ้น ดังนั้น

แจกความลับ! คำนวณจุดคุ้มทุนที่ร้านอาหาร เครื่องดื่ม จะคุ้มตลอดไป

จุดคุ้มทุน = 5,000/(30-20 ) = 500 ชิ้น ชิ้น หมายความว่า ร้านไก่ทอดต้องขายให้ได้ 500 ชิ้น / เดือน จึงจะคุ้มทุน หรือ ขายได้มากกว่า 500 ชิ้น ถึงจะมีกำไร

จุดคุ้มทุนที่ต่ำลงจะทำให้ธุรกิจสามารถคืนทุน และสร้างกำไรได้เร็วขึ้นด้วยการผลิตและยอดขายที่น้อยลง การลดจุดคุ้มทุน ทำได้หลายวิธี

ไม่ว่าจะเป็นการลดต้นทุนคงที่ ลดต้นทุนแปรผัน หรือเพิ่มราคาขายต่อหน่วย โดยอาจลดต้นทุนคงที่ เช่น เปลี่ยนจากการเช่าหน้าร้าน เป็นการขายออนไลน์

  • สมมุติว่าทำให้ต้นทุนคงที่เหลือ 3,000 บาท ดังนั้น
  • จุดคุ้มทุน = 3,000/(30-20 ) = 300 ชิ้น

ลดต้นทุนแปรผัน เช่น ต่อรองราคาวัตถุดิบได้ในราคาที่ถูกลงเหลือหน่วยละ 15 บาท ดังนั้น

จุดคุ้มทุน = 5,000/(30-15 ) = 333 ชิ้น

ทั้งนี้เราสามารถนำตัวเลขจุดคุ้มทุนนี้ไปเปรียบเทียบกับการคาดการณ์ยอดขายในแต่ละเดือนเพื่อดูความเป็นไปได้ของธุรกิจ เช่น ต้องขายให้ได้มากกว่า 500 ขิ้นต่อเดือน หรือวันละ 17 ชิ้นเพื่อให้เท่าทุน หรืออาจจะตั้งยอดขายไว้วันละ 30 ชิ้นเพื่อให้มีกำไร

ซึ่งจากตัวเลขนี้ เราจะสามารถวิเคราะห์ได้ว่า ด้วยทำเลที่ตั้งของร้านและกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ธุรกิจมีโอกาสที่จะบรรลุยอดขายนี้หรือไม่

จะเห็นได้ว่าเรื่องของ “จุดคุ้มทุน” เป็นคีเวิร์ดสำคัญในการทำร้านอาหาร / เครื่องดื่ม ยิ่งยุคที่ปัจจัยความเสี่ยงมีรอบด้าน การคำนวณหาจุดคุ้มทุนจะเป็นไกด์ไลให้ทำธุรกิจได้อย่างถูกที่ถูกทาง มีความสำคัญต่อการอยู่รอดในหลายด้านคือ

แจกความลับ! คำนวณจุดคุ้มทุนที่ร้านอาหาร เครื่องดื่ม จะคุ้มตลอดไป

1.รู้ว่าเราต้องขายเท่าไหร่ถึงไม่เจ๊ง เช่น ร้านกาแฟมีค่าใช้จ่ายคงที่ 60,000 บาท/เดือน

  • กำไรต่อแก้ว (หลังหักต้นทุนวัตถุดิบ) = 35 บาท
  • จุดคุ้มทุน = 60,000 ÷ 35 = 1,715 แก้ว/เดือน (~57 แก้ว/วัน)
  • ถ้าวันไหนขายได้ไม่ถึง 57 แก้ว = กำลัง “ขาดทุน”

2.ช่วยวางแผนราคาและโปรโมชั่น

  • ถ้าตั้งราคาต่ำเกินไป – ถึงจะขายเยอะแต่ไม่กำไร
  • ถ้าโปรฯ แรงเกินไป – อาจได้ยอดขายแต่ไม่คุ้มค่าใช้จ่าย

แจกความลับ! คำนวณจุดคุ้มทุนที่ร้านอาหาร เครื่องดื่ม จะคุ้มตลอดไป

3. คุมความเสี่ยงตั้งแต่เริ่มลงทุน

หลายร้านปิดกิจการเร็วเพราะ “ไม่เคยคำนวณจุดคุ้มทุน” เปิดร้านไปแบบหวังว่าจะขายได้ แต่จริง ๆ แล้วขายถึงก็ยังไม่พอเลี้ยงค่าใช้จ่าย

4.ใช้วัดการเติบโตและขยายสาขา

เมื่อยอดขาย “เกินจุดคุ้มทุน” ไปมากๆ ร้านเริ่มมีศักยภาพในการขยายสาขา/ลงทุนเพิ่ม

ถ้ายังไม่ถึง จุดคุ้มทุน ต้องรีบแก้เกม (เช่น ลดต้นทุน, เพิ่มยอดขาย, เปลี่ยนเมนู)

ร้านอาหาร / เครื่องดื่มที่เปิดกิจการและไม่คำนวณ จุดคุ้มทุน (Break-even Point) คิดว่าแค่มีลูกค้าเข้าร้านก็พอใจ แต่ไม่เคยรู้เลยว่าในแต่ละวันต้องขายเท่าไหร่ ถึงจะเรียกว่าคุ้มค่า เวลาผ่านไปนานๆ ทุนเริ่มหาย กำไรเริ่มหด ก็เป็นเพราะยังไม่รู้จักจุดคุ้มทุนที่ดีพอ เรื่องนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเพราะเกี่ยวข้องกับความอยู่รอดของธุรกิจได้อย่างชัดเจน

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด