อาชีพเสริมยุคใหม่! ขายกัญชาแห้ง สร้างรายได้ (แบบถูกกฎหมาย)

การปลดล็อกส่วนของกัญชา และกัญชงให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้โดยไม่จัดเป็นยาเสพติด ยกเว้นช่อดอก และเมล็ดกัญชา ทั้งนี้ เนื่องจากตามอนุสัญญายาเสพติดระหว่างประเทศยังควบคุมเป็นยาเสพติด แต่ใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้

อย่างไรก็ตาม หลักๆของการปลดล็อกจากยาเสพติดคือ 1.ใบที่ไม่ติดกับช่อดอก เปลือก ลำต้น เส้นใย กิ่ง ก้าน ราก ไม่เป็นยาเสพติด 2.เมล็ดกัญชง น้ำมัน สารสกัด เมล็ดกัญชง 3.สารสกัด CBD และในส่วนสาร THC ต้องไม่เกิน 2% ส่วนที่เหลือยังถือเป็นยาเสพติด ขอย้ำว่า ช่อดอกกัญชาและกัญชง รวมทั้งเมล็ดกัญชายังไม่ปลดล็อกจากยาเสพติด

 ขายกัญชาแห้ง

ภาพจาก Freepik

สำหรับผู้ที่จะนำส่วนของพืชกัญชา ไปทำเป็นอาหารหรือผลิตภัณฑ์เพื่อการจำหน่ายต้องผ่านการขอเลขจดแจ้งจาก อย. นั้น ในส่วนนี้จะต้องขออนุญาตซึ่ง อย. กำลังทยอยทำประกาศปลดล็อกการนำส่วนของพืชกัญชาไปใส่ในอาหารและผลิตภัณฑ์มากยิ่งขึ้น

ซึ่ง www.ThaiSMEsCenter.com เชื่อว่ามีหลายคนจ้องตาเป็นมันเพื่อจะซื้อขายกัญชาอย่างเสรี โดยในตอนนี้ “การเป็นพ่อค้าคนกลาง” สำหรับซื้อขายกัญชา ต้องติดต่อซื้อจากแหล่งปลูกที่ถูกกฏหมายและได้รับอนุญาติถูกต้อง ซึ่งการจะเป็นตัวแทนจำหน่ายนั้นมีข้อจำกัดหลายอย่าง

การครอบครอง “กัญชา” จำนวนมาก ยังผิดกฏหมาย

62

ภาพจาก Freepik

ตอนนี้กัญชา ซึ่งเป็นยาเสพติดประเภท 5 ยังผิดกฎหมายอยู่ นอกจากจะแจ้งว่ามีอยู่ในความครอบครอง เหมือนสมัยก่อน ที่ต้องแจ้งครอบครองอาวุธปืนจึงจะถือว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง กรณีกัญชาก็เช่นเดียวกัน โดยทาง ป.ป.ส. ยืนยันว่า ต้องใช้กัญชาในการรักษา หรือการบำบัดโรคเท่านั้น และจะต้องชี้แจงเหตุผลการมีครอบครองไว้ รวมถึง ปริมาณจริงๆที่มี

ในกรณีผู้ใดที่ครอบครองกัญชาแต่อ้างไม่อยากไปพบแพทย์นั้น ทำไม่ได้ เพราะอย่างน้อยต้องมีการรับรองหรือใบสั่งแพทย์ หรือรักษาโดยแพทย์แผนปัจจุบันหรือแผนโบราณ ไม่ใช่กระทำได้โดยลำพัง ต้องมีการรับรองปริมาณที่แพทย์สั่ง สำหรับปริมาณที่ต้องใช้ ขอให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมกับการรักษา นอกจากรักษาตัวเองแล้ว

มีอีกกรณีคือเพื่อประโยชน์ในการวิจัยทางการแพทย์ โดยขณะนี้ เจ้าหน้าที่เปิดโอกาสให้ประชาชนแจ้งการครอบครองกัญชาภายใน 90 วัน เพื่อเป็นการรักษาตัวเอง และจะครบกำหนดในวันที่ 19 พ.ค.นี้ ส่วนกรณีปลูกกัญชา อนุญาตให้เฉพาะหน่วยงานของรัฐ สถาบันการศึกษาเอกชน และเกษตรกรในเชิงของรัฐวิสาหกิจชุมชน ส่วนอื่นๆ ยังไม่มีกฎหมายชัดเจนว่าใครบ้างที่สามารถปลูกได้.

พ่อค้าคนกลางกัญชา! อาชีพเสริมที่ยังไม่เปิดเสรี

61

ภาพจาก Freepik

ตอนนี้ราคากัญชาแห้งพุ่งสูงมากตามกระแสนิยมที่เพิ่มขึ้นมหาศาล สำรวจราคาตลาดขณะนี้ใบกัญชาแห้งขึ้นไปกิโลกรัมละเกือบ 50,000 บาท อย่างไรก็ดีมีบางคนที่เห็นโอกาสและติดต่อกับแหล่งเพาะปลูกถูกกฏหมายในการรับเอากัญชามาจำหน่าย คล้ายๆ กับเป็นพ่อค้าคนกลาง แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะสามารถทำอาชีพนี้ได้ โดยพ่อค้าคนกลางรายหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่

พูดถึงการเป็นพ่อค้าคนกลางว่า “แต่เดิมมีงานประจำ แต่อยากมีรายได้เสริม จึงไปต่อคิวทางออนไลน์ ขอรับซื้อส่วนของกัญชาที่ไม่เป็นยาเสพติดจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ครั้งหนึ่งได้มาไม่เกิน 10 กิโลกรัม แล้วโพสต์ผ่านเพจส่วนตัว ตั้งราคาขาย อยู่ที่ ใบแห้งเกรดเอ (ไม่บด) กิโลกรัมละ 48,000 บาท ใบแห้งเกรดบี (บด) กิโลกรัมละ 35,000 บาท ราก กิโลกรัมละ 15,000 บาท ส่วนใบสด เวลานี้ของขาดตลาด”

การเป็นพ่อค้าที่ถูกต้อง แม้จะได้ราคาส่วนต่างจากการขายที่น่าพอใจ แต่สินค้าก็มีจำกัด และต้องใช้เวลาในการจองและรอคิวนานมาก ซึ่งลูกค้าที่มาซื้อ คำนวณแล้วว่าคุ้มค่าเพราะสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าในร้านได้มากขึ้น อย่าง ร้านกาแฟ ร้านน้ำปั่น จากเคยขายแก้วละ 30 บาท พอเติมใบกัญชาลงไป สามารถเพิ่มราคาได้ถึงแก้วละ 80 บาท เป็นต้น

อย่าหลงเชื่อข่าวลือ! ต้องซื้อขายจากแหล่งถูกกฏหมายเท่านั้น

64

ภาพจาก Freepik

สถาบันกัญชาทางการแพทย์ กล่าวถึงความต้องการกัญชาของตลาดในเวลานี้ว่า“กัญชา เป็นเหมือนสินค้าใหม่ ราคาอาจแพง แต่สักพักจะไปสู่ราคาที่เหมาะสม ไปสู่จุดสมดุลโดยอัตโนมัติ ถ้ายิ่งเข้าไปแทรกแซงราคาจะยิ่งเพี้ยนไปกันใหญ่”

อย่างไรก็ดี แนะนำคนที่อยากซื้อขายต้องซื้อขายจากแหล่งที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น และเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้มีใบอนุญาตปลูกกัญชาที่ต้องการออกหลักฐานการซื้อขายส่วนของกัญชาที่ไม่เป็นยาเสพติดให้โทษให้แก่ลูกค้า และสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคว่า ส่วนของกัญชาที่นำมาใช้มาจากแหล่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย

ซึ่งใบรับรองการขายดังกล่าว จะแสดงเลขที่ใบสั่งซื้อ วันที่สั่งซื้อ ข้อมูลผู้ขาย ข้อมูลผู้ซื้อ ชนิดและปริมาณส่วนของกัญชาที่ทำการซื้อขาย และคิวอาร์โค้ด เพื่อให้สามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลผู้ขายและใบรับรองการขาย ป้องกันการปลอมแปลง นอกจากนี้ ระบบดังกล่าวยังเชื่อมต่อกับระบบรายงานกัญชาโดยไม่ต้องกรอกข้อมูลการรายงานซ้ำอีกด้วย

66

ภาพจาก Freepik

เราเชื่อว่ากระแสของกัญชาในอีก 2-3 เดือนต่อจากนี้น่าจะทวีความแรงมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ขอให้อดใจรอสำหรับบางคนที่อยากหารายได้จาก “กัญชา” ในตอนนี้อาจจะมีแค่บางคน บางกลุ่ม ที่สามารถเป็นตัวแทนการขายกัญชาอย่างถูกกฏหมายเพราะติดต่อซื้อขายกับแหล่งเพาะปลูกอย่างถูกต้อง แต่ในอนาคตการซื้อขายกัญชาน่าจะเปิดกว้างมากขึ้น และถึงตอนนั้นน่าจะมีอาชีพใหม่ๆ ที่เกี่ยวกับกัญชาเกิดขึ้นอีกจำนวนมาก

 

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/3eVdTgY , https://bit.ly/3cLB5eZ , https://bit.ly/30W6w0z

 

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


8 ขั้นตอน การพัฒนาระบบแฟรนไชส์

1. การวางแผนธุรกิจ ก่อนทำแฟรนไชส์

  • กำหนดรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ให้มีความชัดเจน โดนใจลูกค้า
  • ชื่อกิจการ (Brand)
  • การสร้างผลการดำเนินธุรกิจที่ดี ได้ผลกำไร มีความมั่นคง (Good ROI)
  • การสร้างแบรนด์ ตราสินค้า ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักผู้บริโภค
  • การพัฒนาสินค้าบริการ ให้มีคุณภาพมาตรฐาน และระบบการจัดการที่เป็นมาตรฐาน
  • การพัฒนาระบบบริการจัดการ จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
  • วางโครงสร้างองค์กรใหม่ รวมถึงการพัฒนาบุคลากร ทีมงาน สนับสนุนระบบแฟรนไชส์
  • การวางแผน และกำหนดเป้าหมายการขยายธุรกิจ การขยายสาขา ทั้งในและต่างประเทศ
  • การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธุรกิจ ทำเลที่ตั้ง และรูปแบบของร้านค้า
  • การเลือกใช้สื่อต่างๆ ช่องทางต่างๆ ในการจัดกิจกรรม เพื่อสร้างแบรนด์แฟรนไชส์

2. การรวบรวมข้อมูลธุรกิจ

  • ระบบการปฏิบัติงาน วิธีการบริหารจัดการธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
  • ระบบการเงิน การบัญชี
  • งบประมาณในการลงทุนธุรกิจ การขยายสาขา
  • รูปแบบของร้านค้า รูปแบบของตราสินค้า ที่เป็นเอกลักษณ์
  • ระบบการสต็อกสินค้า จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
  • แผนงานการตลาด การส่งเสริมการขายต่างๆ
  • กระบวนการพัฒนาบุคลากร ทีมงานด้านต่างๆ

3. การวิเคราะห์ธุรกิจแฟรนไชส์

  • ธุรกิจเปิดมานานหลายปี จำนวนไม่น้อยกว่า 1สาขา
  • แบรนด์มีชื่อเสียงได้รับความนิยม เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในวงกว้าง
  • สินค้าและบริการ มีคุณภาพมาตรฐาน เป็นที่ต้องการของตลาด
  • เป็นธุรกิจที่มีความมั่นคง ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ มีผลกำไร ต่อเนื่อง เป็นที่น่าพอใจ
  • มีระบบการทำงาน การปฏิบัติงาน แผนการทำงานที่ชัดเจน สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นได้
  • มีระบบการพัฒนาบุคลากร และสร้างทีมงานที่แข็งแกร่ง เป็นมาตรฐาน
  • ประสบความสำเร็จทางด้านการตลาด การสร้างแบรนด์ การส่งเสริมการขายต่างๆ
  • แผนกลยุทธ์การขยายสาขา และเติบโตต่อเนื่อง เป็นรายเดือน หรือ รายปี

4. การวางโครงสร้างของระบบแฟรนไชส์

  • กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักของผู้บริโภค
  • การสร้างองค์ความรู้ ระบบปฏิบัติงานต่างๆ ที่พร้อมถ่ายทอดให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • วางระบบการปฏิบัติงานของแต่ละขั้นตอนธุรกิจ ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ง่าย
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย แต่ละแผนกให้ชัดเจน รวมถึงขั้นตอนการอบรม ระบบตรวจสอบ เพื่อสร้างมาตรฐานธุรกิจแฟรนไชส์
  • สร้างระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซี หรือผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • การกำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ ในการขยายสาขาแฟรนไชส์ ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้า (ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์)
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม พร้อมที่จะเป็นพี่เลี้ยงแก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ช่วงเริ่มต้นได้
  • เงื่อนไขการเปิดสาขาในด้านต่างๆ

5. การวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจแฟรนไชส์

  • แผนการขยายแฟรนไชส์
  • ระบบการเงิน
  • ค่าธรรมเนียมต่างๆ
  • ข้อเสนอแฟรนไชส์ซี
  • การจดทะเบียนแฟรนไชส์
  • เรื่องกฎหมาย อายุสัญญาแฟรนไชส์
  • ระบบปฏิบัติงาน รูปแบบการให้สิทธิ
  • การตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์
  • แพ็คเกจต่างๆ ระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซีอย่างต่อเนื่อง
  • การจัดทำคู่มือแฟรนไชส์ หรือโปรแกรมแฟรนไชส์
  • การจัดทำสัญญาแฟรนไชส์ รวมถึงเครื่องหมายการค้า

6. การวางแผนเพื่อขยายสาขาธุรกิจแฟรนไชส์

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ เจ้าของแฟรนไชส์จะบริหารจัดการเองทุกอย่าง เพื่อสร้างความโดดเด่น สร้างความเด่นชัดให้แก่นักลงทุน ได้เห็นภาพของร้านที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การลงทุนเปิดสาขาแฟรนไชส์ในภายหลัง
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟนไชส์ คือ เมื่อสาขาแรกมีความแข็งแกร่ง มั่นคง มีผลกำไรต่อเนื่อง เป็นที่ยอมรับของลูกค้าในพื้นที่นั้นๆ แล้ว ก็ทดลองขยายสาขาเพิ่มอีก เพื่อทดสอบสาขาที่ 2 เป็นอย่างไร โดยนำเอาระบบการปฏิบัติงานทุกอย่างของร้านสาขาแรกมาปฏิบัติ ถ้าประสบความสำเร็จ ก็ค่อยขยายสาขาตัวเองเพิ่มอีก 2-3 สาขา ถ้าประสบความสำเร็จเหมือนสาขาแรก ก็ค่อยคิดขายแฟรนไชส์ให้กับคนอื่น

7. กระบวนการพัฒนาและปรับปรุงระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น (ระบบการบริหารจัดการในร้าน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน)วิเคราะห์ระบบการเงิน การลงทุน ในแต่ละสาขาที่เปิดทดลอง
  • พิจารณาปรับปรุงระบบงาน ระบบการทำงานต่างๆ ให้เหมาะสม
  • ระบบการพัฒนาทีมงานรองรับการขยายงาน ขยายสาขา
  • การวางแผนงานขยายสาขาแฟรนไชส์
  • เก็บข้อมูลรายละเอียดต่างๆ กลุ่มลูกค้า ผลประกอบการ การดำเนินงาน ของสาขาแรก หรือสาขาต้นแบบ เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด ก่อนเปิดสาขาที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และขายแฟรนไชส์
  • จัดวางงบประมาณ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการขยายธุรกิจแฟรนไชส์

8. แผนการตลาดของธุรกิจแฟรนไชส์

  • การจัดทำคู่มือต่างๆ เพื่อแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์
  • กระบวนการขายแฟรนไชส์ การคัดเลือกผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • กระบวนการติดตามลูกค้าเป้าหมาย
  • การนำเสนอธุรกิจแฟรนไชส์ในงานแสดงธุรกิจแฟรนไชส์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
  • การจัดงาน สัมมนาการขายธุรกิจ แฟรนไชส์
  • การเปิดเยี่ยมชมธุรกิจ ร้านต้นแบบแฟรนไชส์
  • กระบวนการคัดเลือกแฟรนไชส์ซีที่เหมาะสม ตามหลักมาตรฐานแฟรนไชส์สากล
  • กระบวนการถ่ายทอดความรู้ การอบรม และให้คำปรึกษาแก่แฟรนไชส์ซี

สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด