รุมกินโต๊ะ “ค้าปลีก-ค้าส่ง” ท้องถิ่น ท้าชน 7-11 มูลค่า 8 แสนล้าน

เมื่อพูดถึงธุรกิจค้าปลีกในไทย ภาพแรกที่หลายคนนึกถึงมักจะเป็นห้างสรรพสินค้าชื่อดังหรือร้านสะดวกซื้อที่เปิด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็น 7-Eleven, Lotus’s, CJ หรือ Big C แบรนด์เหล่านี้มีสาขาครอบคลุมทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล เดินไปทางไหนก็เจอ

แต่ถ้าเราลองถอยออกจากเมืองหลวง แล้วมองลึกเข้าไปในชุมชนต่างจังหวัด ภาพที่ปรากฏจะต่างออกไปโดยสิ้นเชิง

ในพื้นที่เหล่านั้น ร้านค้าปลีก-ค้าส่ง ที่ผู้คนใช้บริการทุกวัน อาจไม่ใช่แบรนด์ระดับชาติที่เราคุ้นเคย แต่กลับเป็นชื่อแบรนด์ค้าปลีกที่คนในเมืองกรุงแทบไม่เคยได้ยินมาก่อน เช่น

  • ริมปิง ที่เชียงใหม่
  • ธนพิริยะ ในเชียงราย
  • แจ่มฟ้า ในเชียงใหม่และลำพูน
  • ตั้งงี่สุน ในอุดรธานี
  • เคแอนด์เค ในภาคใต้
  • ซุปเปอร์ชีป ที่ภูเก็ต
  • ยงสงวน ในอุบลราชธานี
  • ทวีกิจ อยู่บุรีรัมย์

หรือแม้แต่ อัศวรรณ ช้อปปิ้ง คอมเพล็กซ์ ห้างชื่อดังในหนองคาย แม้จะไม่ปรากฏอยู่บนโฆษณาทีวีหรือแอปพลิเคชันระดับประเทศ แต่ห้างค้าปลีกท้องถิ่นเหล่านี้กลับสามารถสร้างรายได้ระดับพันล้านบาทต่อปี และกลายเป็นเสาหลักของระบบค้าปลีกในพื้นที่จังหวัดของตัวเอง

คำถามคือ…พวกเขาทำได้อย่างไร?

รุมกินโต๊ะ “ค้าปลีก-ค้าส่ง” ท้องถิ่น ท้าชน 7-11 มูลค่า 8 แสนล้าน

ในวันที่ห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ รวมถึงร้านสะดวกซื้อ 7-11 เร่งขยายสาขาไปทั่วประเทศ อะไรทำให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นเหล่านี้ยังคง “อยู่รอด” และ “เติบโต” ได้ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด?

คำตอบนั้นไม่ใช่เพียงเรื่องของราคาหรือทำเลที่ตั้ง แต่เกี่ยวพันกับความเข้าใจในลูกค้าระดับรากหญ้า ความยืดหยุ่นในการบริหาร และความใกล้ชิดกับชุมชนที่เจ้าตลาดระดับชาติอาจยังเข้าไม่ถึง

อยากรู้หรือไม่ว่า ปัจจุบันมีแบรนด์ค้าปลีก-ค้าส่งท้องถิ่นอะไรบ้าง ที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมในต่างจังหวัด ไม่แพ้แบรนด์ดังในเมืองกรุง มาดูกัน

ภาพรวมตลาดค้าปลีก-ค้าส่งไทย

รุมกินโต๊ะ “ค้าปลีก-ค้าส่ง” ท้องถิ่น ท้าชน 7-11 มูลค่า 8 แสนล้าน

รายงานข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย สัดส่วน GPP (มูลค่าเศรษฐกิจท้องถิ่น) ของค้าปลีก-ค้าส่งในต่างจังหวัดมีแนวโน้มเพิ่มเป็น 42% ในปี 2568 นับว่าเป็นดัชนีชี้ให้เห็นว่าธุรกิจค้าปลีกในต่างจังหวัดกำลังมีบทบาทเพิ่มในระบบเศรษฐกิจไทย โดยภาพรวมตลาดค้าปลีก-ค้าส่งไทย มีมูลค่ากว่า 4.3 ล้านล้านบาท จากข้อมูลของสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ได้แบ่งโครงสร้างของอุตสาหกรรมค้าปลีก-ค้าส่งไทยออกเป็น 3 กลุ่มหลัก หรือที่เรียกว่า 3 แถว ตามลักษณะของผู้เล่นในตลาด ดังต่อนี้

แถวที่ 1 Modern Chain Store (ค้าปลีกสมัยใหม่รายใหญ่)

เป็นเชนค้าปลีกรายใหญ่ที่มีศูนย์กลางการบริหารอยู่ในกรุงเทพฯ ครองส่วนแบ่งตลาดประมาณ 32% หรือประมาณ 1.376 ล้านล้านบาท ของมูลค่าตลาดค้าปลีก-ค้าส่งทั้งหมด

แถวที่ 2 Provincial Modernized Chain Store (ค้าปลีกภูธรสมัยใหม่)

คือเชนค้าปลีก-ค้าส่งระดับจังหวัด ที่กำลังเติบโตในต่างจังหวัด ส่วนใหญ่เป็นผู้นำในแต่ละพื้นที่ มีสัดส่วนตลาดประมาณ 20% หรือประมาณ 0.86 ล้านล้านบาท ค้าปลีก-ค้าส่งกลุ่มนี้ยังถูกเรียกว่า Local Modern Trade (LMT) และถูกมองว่าเป็นกลุ่มที่จะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดภายในประเทศในอนาคต เนื่องจากเชนค้าปลีกรายใหญ่เริ่มขยายตัวไปต่างประเทศมากขึ้น

แถวที่ 3 ค้าปลีก-ค้าส่งขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)

ประกอบด้วยผู้ประกอบการรายย่อยประมาณ 450,000 ร้านค้า คิดเป็นสัดส่วนตลาดรวมกันประมาณ 48% หรือประมาณ 2.064 ล้านล้านบาท ยังเป็นกลุ่มที่มีจำนวนมากที่สุดในอุตสาหกรรมนี้

รวมแบรนด์ “ค้าปลีก-ค้าส่ง” ท้องถิ่นได้รับความในต่างจังหวัด

1.ริมปิง ซูเปอร์มาร์เก็ต

รุมกินโต๊ะ “ค้าปลีก-ค้าส่ง” ท้องถิ่น ท้าชน 7-11 มูลค่า 8 แสนล้าน
ภาพจาก www.rimping.com
  • ครอบคลุมพื้นที่ เชียงใหม่
  • บริษัท ตันตราภัณฑ์ซุปเปอร์มาร์เก็ต (1994) จำกัด
  • เปิดให้บริการในปี 2531
  • ปัจจุบันมีจำนวน 9 สาขา ในจังหวัดเชียงใหม่

ผลประกอบการ

  • ปี 2565 รายได้ 1,341 ล้านบาท กำไร 41.8 ล้านบาท
  • ปี 2566 รายได้ 1,413 ล้านบาท กำไร 70 ล้านบาท
  • ปี 2567 รายได้ 1,487 ล้านบาท กำไร 62 ล้านบาท

2. แจ่มฟ้าเซฟมาร์ท

รุมกินโต๊ะ “ค้าปลีก-ค้าส่ง” ท้องถิ่น ท้าชน 7-11 มูลค่า 8 แสนล้าน
ภาพจาก www.facebook.com/jamphapage
  • ครอบคลุมพื้นที่ ลำพูน เชียงใหม่
  • บริษัท แจ่มฟ้า เซฟมาร์ท จำกัด
  • เปิดบริการในปี 2510
  • ปัจจุบันมีจำนวน 23 สาขา เชียงใหม่ 16 ลำพูน 7

ผลประกอบการ

  • ปี 2565 รายได้ 1,750 ล้านบาท กำไร 50 ล้านบาท
  • ปี 2566 รายได้ 1,905 ล้านบาท กำไร 43.8 ล้านบาท
  • ปี 2567 รายได้ 2,181 ล้านบาท กำไร 52 ล้านบาท

3. ธนพิริยะ

รุมกินโต๊ะ “ค้าปลีก-ค้าส่ง” ท้องถิ่น ท้าชน 7-11 มูลค่า 8 แสนล้าน
ภาพจาก www.facebook.com/tanapiriyachiangrai
  • ครอบคลุมพื้นที่ เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา
  • บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน)
  • เปิดให้บริการในปี 2508

ปัจจุบันมีจำนวน 53 สาขา เป็นห้างค้าปลีกที่ได้รับความนิยมอย่างมากใน 3 จังหวัดภาคเหนือ

ผลประกอบการ

  • ปี 2565 รายได้ 2,429 ล้านบาท กำไร 154 ล้านบาท
  • ปี 2566 รายได้ 2,600 ล้านบาท กำไร 157 ล้านบาท
  • ปี 2567 รายได้ 2,803 ล้านบาท กำไร 178 ล้านบาท

4. สหแสงชัย ซุปเปอร์สโตร์

รุมกินโต๊ะ “ค้าปลีก-ค้าส่ง” ท้องถิ่น ท้าชน 7-11 มูลค่า 8 แสนล้าน
ภาพจาก www.facebook.com/sahasangchai
  • ครอบคลุมพื้นที่ พิจิตร พิษณุโลก
  • บริษัท สหแสงชัย มาร์เก็ตติ้ง จำกัด
  • เปิดให้บริการในปี 2540
  • ปัจจุบันมีจำนวน 7 สาขา พิจิตร 4 สาขา พิษณุโลก 3 สาขา

ผลประกอบการ

  • ปี 2565 รายได้ 788 ล้านบาท กำไร 11.9 ล้านบาท
  • ปี 2566 รายได้ 811 ล้านบาท กำไร 14.7 ล้านบาท
  • ปี 2567 รายได้ 977 ล้านบาท กำไร 18.8 ล้านบาท

5. ส.ล. โฮลเซลล์

รุมกินโต๊ะ “ค้าปลีก-ค้าส่ง” ท้องถิ่น ท้าชน 7-11 มูลค่า 8 แสนล้าน
ภาพจาก www.facebook.com/slwholesalecoltd
  • ครอบคลุมพื้นที่ นครสวรรค์
  • บริษัท ส.ล.โฮลเซลล์ จำกัด
  • เปิดให้บริการในปี 2538
  • ปัจจุบันมีจำนวน 1 สาขา

ผลประกอบการ

  • ปี 2565 รายได้ 617 ล้านบาท กำไร 2 ล้านบาท
  • ปี 2566 รายได้ 605 ล้านบาท กำไร 2 ล้านบาท
  • ปี 2567 รายได้ 540 ล้านบาท กำไร 1.3 ล้านบาท

6. ไชยแสงดีพาร์ทเม้นท์สโตร์

รุมกินโต๊ะ “ค้าปลีก-ค้าส่ง” ท้องถิ่น ท้าชน 7-11 มูลค่า 8 แสนล้าน
ภาพจาก www.facebook.com/chaisaeng.singburi
  • ครอบคลุมพื้นที่ สิงห์บุรี
  • บริษัท ซีเอส พาร์ค จำกัด
  • เปิดให้บริการในปี 2533
  • ปัจจุบันมีจำนวนจำนวน 1 สาขา

ผลประกอบการ

  • ปี 2565 รายได้ 850 ล้านบาท กำไร 11 ล้านบาท
  • ปี 2566 รายได้ 811 ล้านบาท กำไร 7 ล้านบาท
  • ปี 2567 รายได้ 883 ล้านบาท กำไร 7.9 ล้านบาท

7. ยงสงวน

รุมกินโต๊ะ “ค้าปลีก-ค้าส่ง” ท้องถิ่น ท้าชน 7-11 มูลค่า 8 แสนล้าน
ภาพจาก www.facebook.com/saveland2000
  • ครอบคลุมพื้นที่ อุบลราชธานี
  • บริษัท ยงสงวนกรุ๊ป จำกัด
  • เปิดให้บริการในปี 2498
  • ปัจจุบันมี่จำนวน 23 สาขา

ผลประกอบการ

  • ปี 2565 รายได้ 2,541 ล้านบาท กำไร 54 ล้านบาท
  • ปี 2566 รายได้ 2,582 ล้านบาท กำไร 75 ล้านบาท
  • ปี 2567 รายได้ 2,653 ล้านบาท กำไร 76 ล้านบาท

8. อัศวรรณ ช้อปปิ้ง คอมเพล็กซ์

รุมกินโต๊ะ “ค้าปลีก-ค้าส่ง” ท้องถิ่น ท้าชน 7-11 มูลค่า 8 แสนล้าน
ภาพจาก www.facebook.com/AsawannPhonphisai
  • คลอบคลุมพื้นที่ หนองคาย
  • บริษัท เจียงอินเตอร์ เนชั่นแนล จำกัด
  • เปิดบริการในปี 2539

ปัจจุบันมีจำนวน 2 สาขา เป็นลักษณะห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่ได้รับความนิยมในหนองคาย

ผลประกอบการ

  • ปี 2565 รายได้ 29 ล้านบาท กำไร 3.6 ล้านบาท
  • ปี 2566 รายได้ 42 ล้านบาท กำไร 5.8 ล้านบาท
  • ปี 2567 รายได้ 30 ล้านบาท กำไร 4 ล้านบาท

9. ใหม่ ซุปเปอร์มาร์เก็ต

ภาพจาก www.facebook.com/maisuper.official
  • คลุมพื้นที่ นครพนม
  • บริษัท ใหม่ ซุปเปอร์มาร์เก็ต จำกัด
  • เปิดให้บริการในปี 2559

ปัจจุบันใหม่ ซุปเปอร์มาร์เก็ตมีสาขาทั้งในนครพนม และสกลนคร

ผลประกอบการ

  • ปี 2565 รายได้ 339.9 ล้านบาท กำไร 1.6 ล้านบาท
  • ปี 2566 รายได้ 398.9 ล้านบาท กำไร 1.9 ล้านบาท
  • ปี 2567 รายได้ 393.8 ล้านบาท กำไร 2.8 ล้านบาท

10. เล้งเส็ง

ภาพจาก https://citly.me/FLVWc
  • คลุมพื้นที่ สกลนคร
  • บริษัท เล้งเส็ง จำกัด
  • เปิดให้บริการในปี 2500

ปัจจุบันมีจำนวนร้านค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต “เล้งเส็ง” จำนวน 1 แห่ง, ร้านโชห่วย “ แอลเอส ทเวนทีวัน” (LS21) จำนวน 3 สาขk c]tสามารถครอบคลุมให้บริการแก่ลูกค้าใน14 จังหวัด

ผลประกอบการ

  • ปี 2565 รายได้ 1,489 ล้านบาท กำไร 6 ล้านบาท
  • ปี 2566 รายได้ 1,673 ล้านบาท กำไร 7 ล้านบาท
  • ปี 2567 รายได้ 1,898 ล้านบาท กำไร 8.5 ล้านบาท

11. เซ็นโทซ่า

ภาพจาก www.facebook.com/KhonkaenSentosa
  • คลุมพื้นที่ ขอนแก่น
  • บริษัท เซ็นโทซ่า จำกัด
  • เปิดให้บริการในปี 2525

ปัจจุบันมีทั้งหมด 4 สาขาในขอนแก่น ได้แก่ สาขากลางเมือง, สาขามะลิวัลย์, สาขาศรีจันทร์ และสาขาล่าสุดคือสาขาศิลา โดยมีทายาทรุ่นที่ 3 เข้ามาสานต่อ ปรับตัวทันยุค ด้วยบริการ “Drive-Thru” ที่ลูกค้าแค่จอดรถ ก็ได้ของครบโดยไม่ต้องลงจากรถ

ผลประกอบการ

  • ปี 2565 รายได้ 292 ล้านบาท กำไร 3 ล้านบาท
  • ปี 2566 รายได้ 281 ล้านบาท กำไร 3.6 ล้านบาท
  • ปี 2567 รายได้ 277 ล้านบาท กำไร 3.8 ล้านบาท

12. ตั้งงี่สุน

ภาพจาก https://citly.me/OsTyR
  • คลุมพื้นที่ อุดรธานี
  • บริษัท ตั้งงี่สุนซูเปอร์สโตร์ จำกัด
  • เปิดให้บริการในปี 2543

ปัจจุบันมีจำนวน 2 สาขาเท่านั้น แต่สามารถทำรายได้สูงถึง 2,000 ล้านบาท คนจังหวัดอุดรธานี จะต้องคุ้นเคยกับชื่อห้าง ตั้งงี่สุน เพราะนี่คือห้างค้าปลีก ค้าส่ง ที่อยู่คู่กับจังหวัดนี้มายาวนาน

ผลประกอบการ

  • ปี 2565 รายได้ 3,461 ล้านบาท กำไร 48 ล้านบาท
  • ปี 2566 รายได้ 2,521 ล้านบาท กำไร 28.7 ล้านบาท
  • ปี 2567 รายได้ 2,179 ล้านบาท กำไร 33.9 ล้านบาท

13. เสริมไทย พลาซ่า

ภาพจาก https://citly.me/9qM8t
  • คลุมพื้นที่ มหาสารคาม
  • บริษัท เสริมไทยคอมเพล็กซ์ จำกัด
  • เปิดให้บริการในปี 2546

ปัจจุบันมีจำนวน 1 สาขาในตัวเมืองสารคาม

ผลประกอบการ

  • ปี 2565 รายได้ 413 ล้านบาท ขาดทุน -15 ล้านบาท
  • ปี 2566 รายได้ 440 ล้านบาท ขาดทุน -2.8 ล้านบาท
  • ปี 2567 รายได้ 404 ล้านบาท ขาดทุน -5.68 แสนบาท

14. ทวีกิจ

ภาพจาก www.facebook.com/TaweekitSupercenterBuriram
  • คลุมพื้นที่ บุรีรัมย์ สุรินทร์ นครราชสีมา
  • บริษัท ทวีกิจซุปเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด
  • เปิดให้บริการในปี 2517

ปัจจุบันมีประมาณ 222 สาขาใน 3 จังหวัดอีสาน

ผลประกอบการ

  • ปี 2565 รายได้ 672 ล้านบาท กำไร 16 ล้านบาท
  • ปี 2566 รายได้ 674 ล้านบาท กำไร 16 ล้านบาท
  • ปี 2567 รายได้ 696 ล้านบาท กำไร 15 ล้านบาท

15. วิชโก้ โฮลเซล

ภาพจาก www.facebook.com/wishcowholesale
  • คลุมพื้นที่ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์
  • บริษัท สยามวิชโก้ จำกัด
  • เปิดให้บริการในปี 2561

วิชโก้ โฮลเซลมีสาขาทั่วประเทศรวม มากกว่า 100 สาขา โดยมีสาขาหลักในจังหวัดนครราชสีมาและมีสาขา “WishCo Express” ซึ่งเป็นสาขารูปแบบใหม่ที่กำลังขยายจำนวนสาขาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากโคราชแล้ว ยังมีสาขาในชัยภูมิ 1 แห่ง บุรีรัมย์ 4 แห่ง

ผลประกอบการ

  • ปี 2565 รายได้ 2,637 ล้านลาท กำไร 36.7 ล้านบาท
  • ปี 2566 รายได้ 2,849 ล้านบาท กำไร 66.6 ล้านบาท
  • ปี 2567 รายได้ 4,475 ล้านบาท กำไร 40.7 ล้านบาท

16. ทวีเจริญ ซุปเปอร์สโตร์ (นนทบุรี)

ภาพจาก https://citly.me/CjRmH
  • ครอบคลุมพื้นที่ นนทบุรี
  • บริษัท โชคชัย ซุปเปอร์สโตร์ จำกัด
  • เปิดให้บริการในปี 2564
  • ปัจจุบันมีจำนวน 1 สาขาในนนทบุรี

ผลประกอบการ

  • ปี 2565 รายได้ 1,262 บาท ขาดทุน -7 หมื่นบาท
  • ปี 2566 รายได้ 95 ล้านบาท กำไร 9.56 แสนบาท
  • ปี 2567 รายได้ 182 ล้านบาท กำไร 1.9 ล้านบาท

17. เอกภาพ ซุปเปอร์

ภาพจาก www.facebook.com/EkapabSuper
  • ครอบคลุมพื้นที่ ปราจีนบุรี สระบุรี นครนายก
  • บริษัท เอกภาพซุปเปอร์ซัพพลาย จำกัด
  • เปิดให้บริการในปี 2496

ปัจจุบันมีจำนวน 41 สาขา มีเครือข่ายร้านร้านมากกว่า 700 ร้านค้าใน 3 จังหวัด

ผลประกอบการ

  • ปี 2565 รายได้ 1,978 ล้านบาท กำไร 10.7 ล้านบาท
  • ปี 2566 รายได้ 2,107 ล้านบาท กำไร 10.8 ล้านบาท
  • ปี 2567 รายได้ 2,137 ล้านบาท กำไร 10.7 ล้านบาท

18. พวงทองสรรพสินค้า

ภาพจาก www.facebook.com/puangthongeasybuycheapsale
  • ห้างสรรพสินค้าหนึ่งเดียวที่ครองใจคน ฉะเชิงเทรา
  • บริษัท พวงทองสรรพสินค้า จำกัด
  • เปิดบริการในปี 2532
  • ปัจจุบันมีจำนวน 5 สาขา

ผลประกอบการ

  • ปี 2565 รายได้ 13.9 ล้านบาท กำไร 4.3 แสนบาท
  • ปี 2566 รายได้ 10 ล้านบาท กำไร 4.09 แสนบาท
  • ปี 2567 รายได้ 8.7 ล้านบาท กำไร 3.4 แสนบาท

19. ทวีเจริญ ซุปเปอร์สโตร์ (จันทบุรี)

ภาพจาก www.facebook.com/TWC2maharaj
  • ครอบคลุมพื้นที่ จันทบุรี ตราด
  • บริษัท ทวีเจริญ 2502 จำกัด
  • เปิดบริการในปี 2502

ปัจจุบันมีจำนวนราวๆ 4-5 สาขาใน 2 จังหวัดภาคตะวันออก

ผลประกอบการ

  • ปี 2565 รายได้ 1,357 ล้านบาท กำไร 11 ล้านบาท
  • ปี 2566 รายได้ 1,392 ล้านบาท กำไร 11 ล้านบาท
  • ปี 2567 รายได้ 1,611 ล้านบาท กำไร 11.8 ล้านบาท

20. แสงทองซูเปอร์เซ็นเตอร์

ภาพจาก www.facebook.com/sangthongrayong
  • ครอบคลุมพื้นที่ ระยอง
  • บริษัท เอกวรนันท์ จำกัด
  • เปิดให้บริการในปี 2539
  • ปัจจุบันมีจำนวน 5 สาขาในระยอง

ผลประกอบการ

  • ปี 2565 รายได้ 1,303 ล้านบาท กำไร 7 ล้านบาท
  • ปี 2566 รายได้ 1,276 ล้านบาท กำไร 6.9 ล้านบาท
  • ปี 2567 รายได้ 1,209 ล้านบาท กำไร 6.3 ล้านบาท

21. TMK ซูเปอร์มาร์เก็ต

ภาพจาก www.facebook.com/TMKSUPERMARKET
  • ครอบคลุมพื้นที่ กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม
  • บริษัท ทีเอ็มเค กาญจนบุรี เทรดดิ้ง จำกัด
  • เปิดให้บริการในปี 2530

ปัจจุบันมีสาขาทั้งสิ้น 11 แห่ง ในกาญจนบุรี 8 แห่ง ราชบุรี 2 แห่ง และนครปฐม 1 แห่ง

ผลประกอบการ

  • ปี 2565 รายได้ 1,286 ล้านบาท กำไร 6 ล้านบาท
  • ปี 2566 รายได้ 1,440 ล้านบาท กำไร 8.5 ล้านบาท
  • ปี 2567 รายได้ 1,401 ล้านบาท กำไร ท8.8 ล้านบาท

22. ซุปเปอร์ชีป

ภาพจาก https://citly.me/RxAd
  • ครอบคลุมพื้นที่ ภูเก็ต สุราษธานี กระบี่ พังงา
  • บริษัท ซุปเปอร์ชีป จำกัด
  • เปิดให้บริการในปี 2538
  • ปัจจุบันมีจำนวน 93 สาขาใน 5 จังหวัดภาคใต้

ผลประกอบการ

  • ปี 2565 รายได้ 10,463 ล้านบาท กำไร 59 ล้านบาท
  • ปี 2566 รายได้ 13,238 ล้านบาท กำไร 69 ล้านบาท
  • ปี 2567 รายได้ 15,255 ล้านบาท กำไร 81 ล้านบาท

23. Mother

ภาพจาก www.facebook.com/mothersupermarketkrabi
  • ครอบคลุมพื้นที่ กระบี่
  • บริษัท มาเธอร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน)
  • เปิดให้บริการในปี 2524

ปัจจุบัน Mother Supermarket และ Mother Marché มีจำนวน 22 สาขา ทั้งในกระบี่ สุราษฎร์ธานี พังงา

ผลประกอบการ

  • ปี 2566 รายได้ 1,252 ล้านบาท กำไร 15.9 ล้านบาท
  • ปี 2567 รายได้ 1,324 ล้านบาท กำไร 22.7 ล้านบาท

24. สหไทย การ์เด้น พลาซ่า

ภาพจาก www.facebook.com/Sahathai.Surat
  • ครอบคลุมพื้นที่ สุราษฎร์ธานี
  • บริษัท สุราษฎร์ธานี ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
  • เปิดให้บริการในปี 2558

ปัจจุบันมีจำนวน 3 สาชา ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นศูนย์การค้าสหไทย การ์เด้น พลาซ่า 1 แห่งและซูเปอร์มาร์เก็ตสแตนด์อโลน 2 สาขา ภายใต้ชื่อ สหไทย ซูเปอร์มาร์เก็ต

ผลประกอบการ

  • ปี 2565 รายได้ 320 ล้านบาท ขาดทุน -98 ล้านบาท
  • ปี 2566 รายได้ 332 ล้านบาท ขาดทุน -76 ล้านบาท
  • ปี 2567 รายได้ 354 ล้านบาท ขาดทุน -73 ล้านบาท

25. เคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์

ภาพจาก www.facebook.com/kandksuper
  • ครอบคลุมพื้นที่ สงขลา พัทลุง สตูล
  • บริษัท เคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์ เซาท์เทิร์น จำกัด (มหาชน)
  • เปิดให้บริการในปี 2536

ปัจจุบันมีจำนวน 37 สาขา ใน จังหวัดภาคใต้

ผลประกอบการ

  • ปี 2565 รายได้ 972 ล้านบาท กำไร 8.9 ล้านบาท
  • ปี 2566 รายได้ 1,072 ล้านบาท ขาดทุน -4 ล้านบาท
  • ปี 2567 รายได้ 1,145 ล้านบาท กำไร 11 ล้านบาท

26. ศรีสมัยค้าส่ง

  • ครอบคลุมพื้นที่ ยะลา
  • บริษัท ศรีสมัยค้าส่ง จำกัด
  • เปิดให้บริการในปี 2546
  • ปัจจุบันมีจำนวน 4 สาขา

ผลประกอบการ

  • ปี 2565 รายได้ 1,310 ล้านบาท กำไร 36 ล้านบาท
  • ปี 2566 รายได้ 1,485 ล้านบาท กำไร 47 ล้านบาท
  • ปี 2567 รายได้ 1,323 ล้านบาท กำไร 34 ล้านบาท

กลยุทธ์ค้าปลีก-ค้าส่งท้องถิ่น ท้าชนยักษ์ใหญ่

รู้ทำเล รู้พื้นที่ ดีกว่าคนกรุง

ธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่งท้องถิ่น มีความเข้าใจในพื้นที่อย่างลึกซึ้ง จากประสบการณ์ที่ทำธุรกิจมายาวนานในชุมชน รู้ว่าทำเลไหนมีกำลังซื้อสูง ลูกค้าคุ้นชินกับร้านไหน ทำให้การเปิดสาขาแต่ละจุด “ตรงจุด” และสร้างยอดขายได้จริง

เข้าใจผู้บริโภคในท้องถิ่น

ธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่งท้องถิ่น รู้ว่าลูกค้าในพื้นที่ต้องการสินค้าราคาประหยัด หรือสินค้าระดับพรีเมียม เช่น กรณีของริมปิงที่เน้นจับกลุ่มมีกำลังซื้อสูง ปรับสินค้าตามความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ ไม่แข่งราคาอย่างเดียว แต่แข่งด้วย “ความเข้าใจ”

โปรโมชันที่เข้าถึงใจคนในพื้นที่

ธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่งท้องถิ่น มีการจัดโปรอยู่บ่อยครั้ง ทั้งลด แลก แจก แถม ของใช้ในชีวิตประจำวันที่คนซื้อซ้ำ มีระบบสมาชิกสะสมแต้ม แลกของหรือส่วนลด เหมือน Loyalty Program ของห้างใหญ่ แต่สามารถผูกใจลูกค้าในท้องถิ่นได้แนบแน่นกว่า

ภาพลักษณ์แบรนด์ที่คนพื้นที่รู้สึกใกล้ชิด

ร้านค้าท้องถิ่นมักมีบรรยากาศเรียบง่าย สบายๆ ไม่ต้องหรูหรา พนักงานพูดภาษาถิ่น ใช้สื่อสารแบบกันเอง ทำให้ลูกค้ารู้สึกเหมือนไปซื้อของ “ร้านคนรู้จัก” มากกว่าแค่ห้างทั่วไป ได้ใจลูกค้าด้วยความเป็น “คนบ้านเดียวกัน”

ธุรกิจค้าปลีกท้องถิ่นอาจไม่มีทุนหนา หรือสาขาครอบคลุมเหมือนเจ้าใหญ่ แต่ความได้เปรียบจากการรู้พื้นที่ เข้าใจลูกค้า ใกล้ชิดชุมชน และปรับตัวได้เร็ว คือหัวใจที่ทำให้พวกเขา “อยู่ได้” และ “เติบโตต่อ” แม้ต้องแข่งกับยักษ์ใหญ่ระดับประเทศ

อ้างอิง

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

กองบรรณาธิการเว็บไซต์

ยินดีสนับสนุน SMEs ไทยทุกแบรนด์ ที่ต้องการสร้างความเข้มแข็ง อยากเรียนรู้ พัฒนาธุรกิจ ส่งเสริมความเข้าใจในการตลาด มีความคิดสร้างสรรค์ แบ่งปันเพื่อสังคม ต่อยอดธุรกิจ ให้ประสบความสำเร็จในอนาคต