มาโนอิ! เปิดตัวแพ็กเกจลงทุนใหม่ พร้อมยกระดับ “ธุรกิจ” ก้าวสู่ระดับประเทศ ด้วยรางวัล Manoi Franchise Award 2025

ตลาดเครื่องดื่มในปี 2568 คาดการณ์ว่ามีมูลค่าประมาณ 3.43 แสนล้านบาท และถ้าโฟกัสลึกลงไปเฉพาะธุรกิจชานมไข่มุกพบว่า ประเทศไทยเป็นตลาดใหญ่อันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และพฤติกรรมผู้บริโภคไม่ได้ดูแค่เรื่องรสชาติแต่ยังคำนึงอีกหลายปัจจัยเช่น

มาโนอิ

  • คุณภาพของวัตถุดิบในการใช้ใบชาจริงในการต้มไม่ใช่เพียงผงชาสำเร็จรูป
  • ใส่ใจกระบวนการต้มและความสดของส่วนผสมต่างๆ เพราะคำนึงถึงสุขภาพของมากขึ้น
  • มองหาร้านชาที่มีตัวเลือกหรือเมนูที่ความหลากหลาย
  • นิยมในเรื่องท็อปปิ้งแปลกใหม่ที่ทำให้การดื่มชานมดูมีสีสัน

ถ้าดูในเรื่องตัวเลขลึกลงไปอีกนิดพบว่าคนไทย 1 ใน 4 กำลังควบคุมอาหารและ 65% ให้ความสำคัญกับส่วนผสมที่ดีต่อสุขภาพ ส่วนอีก 41% ใส่ใจในเรื่องฉลากโภชนาการบนสินค้าที่ต้องดีต่อสุขภาพเท่านั้น

มาโนอิ
ภาพจาก แฟรนไชส์มาโนอิ

ซึ่ง “ มาโนอิ ” แฟรนไชส์เครื่องดื่มที่ได้เครื่องหมายมาตรฐานแฟรนไชส์ จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ (Franchise standard) ถือเป็นสุดยอดแฟรนไชส์ที่คนลงทุนไม่ต้องสร้างแบรนด์เอง ไม่ต้องเริ่มจากศูนย์

มีอุปกรณ์ + วัตถุดิบให้พร้อมเปิดร้าน ไม่ต้องคิดสูตรเอง มาพร้อมการวางระบบบริหารจัดการในร้าน และมีฐานลูกค้าทั่วไประเทศที่พร้อมสร้างรายได้ทันที ที่สำคัญคือ เน้นเมนูเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพใช้ความหวานจากธรรมชาติที่ช่วยเผาผลาญได้จริง มาใช้ทดแทนน้ำตาลไฮฟรุกโตสคอร์นไซรัป

รวมถึงการเลือกใช้วัตถุดิบไม่มีไขมันทรานส์ ไม่ใส่สารกันบูด ส่วนชาและไข่มุกก็ต้มสดใหม่วันต่อวัน โดยมีเมนูรวมทั้งสิ้นมากกว่า 63 เมนู ครบจบทุกความต้องการ มาครบทั้งกลุ่มชานมไต้หวัน&บราวน์ชูการ์ , กลุ่มนมสด กลุ่มชาใสผลไม้ , กลุ่มโซดา , กลุ่มมัทฉะแท้, กลุ่มชาไทย เป็นต้นและยังมีท็อปปิ้งเลือกอีกเยอะมาก ยังไม่นับรวมเมนูที่มาตามเทศกาลต่างๆ ซึ่งล้วนแต่เน้นเรื่องสุขภาพเป็นหลัก

“คุณสู้ เราช่วย” มาโนอิเปิดตัวแพ็กเกจใหม่ “สุดคุ้ม”

มาโนอิ
ภาพจาก แฟรนไชส์มาโนอิ

เครื่องหมายมาตรฐานแฟรนไชส์ จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จากการที่มาโนอิอยู่คู่กับสังคมไทยมานาน มองเห็นความต้องการของคนส่วนใหญ่ที่อยากมีอาชีพ อยากมีรายได้ แต่ติดปัญหาว่าเงินทุนน้อย หรือว่าไม่มีประสบการณ์ จึงได้มีแนวคิดเปิดตัวแคมเปญใหม่ “คุณสู้ เราช่วย” พร้อมเปิดตัวแพ็กเกจ สุดคุ้ม ลงทุนเพียง 69,900 บาท โดยจุดเด่นของแพ็กเกจนี้คือ

  • ลงทุนต่ำ เข้าถึงง่าย คืนทุนเร็ว ลดราคากว่า 50% จากแพ็กเกจปกติ เพื่อเปิดโอกาสให้คนไทยเริ่มต้นธุรกิจได้ง่ายขึ้น
  • ยกเว้นค่าบริหารและค่าการตลาด พร้อมฟรีค่าธรรมเนียมรายเดือน ค่าการตลาด หรือค่าบริหารระบบ ช่วยลดภาระรายจ่ายของผู้ที่สนใจลงทุน
  • มีเมนูสุขภาพ ใช้หญ้าหวานแทนน้ำตาลตอบโจทย์เทรนด์รักสุขภาพ เพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภคในราคาเข้าถึงได้ทุกวัน
  • เริ่มธุรกิจได้ง่าย เปิดร้านได้ทันที จำเป็นต้องมีประสบการณ์ มีทีมงานพร้อมสอนสูตรเครื่องดื่มอย่างเป็นระบบ พร้อมให้คำปรึกษาตลอดเส้นทางธุรกิจ
  • สนับสนุนคนไทยเพื่อคนไทย โดยรับเฉพาะผู้ประกอบการคนไทยเท่านั้น เป็นการสร้างอาชีพและคืนรายได้ให้กับคนในประเทศอย่างแท้จริง

วัตถุประสงค์ของ “คุณสู้ เราช่วย” นี้นอกจากต้องการสนับสนุนให้คนไทยได้มีอาชีพ ได้มีรายได้เพิ่มขึ้น ยังมุ่งหวังในการสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากให้เติบโตมากขึ้น เพื่อเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคม และยังมุ่งหวังให้เป็นต้นแบบของแฟรนไชส์ที่มีความเป็นธรรมและเข้าถึงได้ โดยเน้นการเติบโตไปพร้อมกับชุมชน สามารถนำอาหารและขนมในชุมชนมาขายควบคู่เครื่องดื่มได้อีกด้วย

MANOI Cafe Truck “สร้างรายได้อิสระ ลุยหาลูกค้าได้ทุกพื้นที่”

มาโนอิ
ภาพจาก แฟรนไชส์มาโนอิ

ไม่ใช่เพียงแคมเปญ “คุณสู้ เราช่วย” ที่มีแพ็กเกจราคาสุดคุ้ม แต่สำหรับคนอยากลงทุนที่ต้องการความอิสระในการสร้างรายได้ และวิ่งเข้าหาลูกค้าได้ทุกพื้นที่ มาโนอิ มีอีกหนึ่งรูปแบบลงทุนสุดว้าว คือ MANOI Cafe Truck ซึ่ง มาโนอิ ได้ร่วมกับ Toyota สุวรรณภูมิ เปิดโอกาสให้คนสนใจเลือกลงทุน “Cafe Truck” ได้ง่ายๆ

มีข้อดีคือผู้สนใจลงทุนสามารถซื้อรถจาก Toyota สุวรรณภูมิ รุ่น Hilux Champ ซึ่งเป็นรุ่นที่ถูกออกแบบมาเพื่อเป็น Cafe Truck โดยเฉพาะ มีฟังก์ชั่นการใช้งานครบ แข็งแรงทนทาน สามารถเคลื่อนที่เข้าหาลูกค้าได้ทุกพื้นที่ ไม่ต้องง้อทำเล ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน และยังได้รถยนต์มาเป็นสินทรัพย์ของลูกค้า ที่สำคัญคือสามารถผ่อนชำระได้นานถึง 9 ปี

การลงทุนในรูปแบบนี้เป็นที่ต้องการของลูกค้ามากและในช่วงที่ผ่านมา มาโนอิได้เปิดตัว Cafe Truck เป็นจำนวนมาก ล่าสุดคือการที่มาโนอิได้นำ Cafe Truck ร่วมออกงานฉลองครบรอบ 112 ปีกับธนาคารออมสิน ซึ่งก็ได้รับความสนใจอย่างมากและเป็นโมเดลลงทุนที่สะดวกพร้อมสร้างรายได้ทันที โดยมีทีมงานพร้อมให้คำแนะนำแก่ผู้สนใจลงทุนเป็นอย่างดีให้เริ่มต้นธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Manoi Franchise Award 2025 รางวัลสร้างกำลังใจภายใต้แบรนด์ “ มาโนอิ ”

มาโนอิ
ภาพจาก แฟรนไชส์มาโนอิ

การลงทุนกับมาโนอิ สิ่งที่จะได้รับมีมากกว่าธุรกิจ แต่คือโอกาสที่ทุกคนจะได้เป็น “ครอบครัวเดียวกัน” “เติบโตไปพร้อมกัน” โดยมาโนอิได้จัดโครงการ Manoi Franchise Award 2025 เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ประกอบการสาขา ต่าง ๆ โดยพิจารณาจากผลการดำเนินงานที่ผ่านมา มีเกณฑ์ประเมินดังนี้

  1. ดำเนินธุรกิจต่อเนื่องโดยเป็นแฟรนไชส์ซีกับบริษัท ลูกคิดดี จำกัด มาเป็นระยะเวลาครบ 1 ปีขึ้นไป
  2. ไม่ใช้วัตถุดิบอื่นใดนอกเหนือจากที่ระบุในสัญญา เพื่อแสดงถึงเจตนาในการรักษาคุณภาพและมาตรฐานของแบรนด์
  3. มียอดการสั่งซื้อวัตถุดิบอย่างต่อเนื่อง
  4. มีกระบวนการชงตรงตามสูตร รสชาติไม่เพี้ยน
  5. มีหลักฐานคำชมจากลูกค้า พิจารณาจากรีวิวในเพจ Facebook, ระบบ Food Delivery, Line OA หรือช่องทางอื่น ๆ
  6. มีรูปแบบการตกแต่งร้านที่ตรงตาม Concept ของแบรนด์ และมีความ สะอาด สวยงาม
  7. เจ้าของสาขามีทัศนคติที่ดีต่อการดำเนินธุรกิจภายในแบรนด์ MANOI

โดยสาขาที่ได้รับคัดเลือก 3 ลำดับแรกจะได้รับใบประกาศเกียรติคุณและรับวัตถุดิบมูลค่าสูงสุดกว่า 10,000 บาท พร้อมสิทธิ์ในการออกสื่อต่าง ๆ เพื่อเป็นการแนะนำสาขาของตนเอง ทั้งในรูปแบบ ภาพนิ่งและคลิป VDO

ทั้งนี้สาขาที่ได้รับรางวัล Manoi Franchise Award 2025 ได้แก่

มาโนอิ
สาขา หลังมข (มอดินแดง) จ.ขอนแก่น
  • อันดับที่ 1: Manoi สาขา เมืองประจวบ จ.ประจวบคีรีขันธ์
  • อันดับที่ 2: Manoi สาขา ท็อปแลนด์ พลาซ่า จ.พิษณุโลก
  • อันดับที่ 3: Manoi สาขา หลังมข (มอดินแดง) จ.ขอนแก่น

Manoi Top 10 Plus Selected ยกระดับแบรนด์ให้ลูกค้ามั่นใจยิ่งขึ้น

มาโนอิ
สาขา สุขาภิบาล 2 กรุงเทพฯ
สาขา เหนือคลอง กระบี่
สาขา บ้านนาสาร สุราษฎร์ธานี

และในยุคที่การแข่งขันสูง การวัดกันที่คุณภาพและบริการเป็นสิ่งที่มาโนอิให้ความสำคัญมาโดยตลอด ไม่ใช่แค่ Manoi Franchise Award 2025 ที่การันตีถึงคุณภาพของแบรนด์ แต่ยังมีโครงการพิเศษที่ชื่อว่า Manoi Top 10 Plus Selected จะคัดเลือกสาขาที่มีมาตรฐานโดดเด่น และเป็นต้นแบบแฟรนไชส์ที่สมบูรณ์แบบในทุกมิติ โดยมีเกณฑ์ในการประเมินสาขาทั้งสิ้น 7 ข้อ ดังนี้

  1. การบริหารจัดการและทัศนคติ
  2. มาตรฐานรสชาติ
  3. คุณภาพของพนักงาน
  4. มาตรฐานวัตถุดิบ
  5. ความพร้อมของอุปกรณ์
  6. ความสะอาดของร้าน
  7. การตกแต่งร้านให้ตรงตามคอนเซ็ปต์

สาขาที่ผ่านการประเมิน จะได้รับป้ายสัญลักษณ์ Manoi Top 10 Plus Selected และยังถูกแต่งตั้งให้เป็น จุดชิมพิเศษ สำหรับผู้ที่สนใจซื้อแฟรนไชส์ในพื้นที่ใกล้เคียง โดยไม่ต้องเดินทางไกลถึงกรุงเทพฯ ซึ่งทางแบรนด์ยังให้การสนับสนุนวัตถุดิบ สำหรับกิจกรรมการชิมโดยเฉพาะ ปัจจุบันมี 13 สาขาที่มีสิทธิ์ได้รับรางวัลนี้ได้แก่

สาขา ลำปลายมาศ บุรีรัมย์
สาขา หน้าวิทยาลัยอาชีวศึกษานครราชสีมา
  • Manoi Academy
  • Manoi สาขา สุขาภิบาล 2 กรุงเทพฯ
  • Manoi สาขา ลำปาง
  • Manoi สาขา ท็อปแลนด์ พลาซ่า พิษณุโลก
  • Manoi สาขา หลังมข (มอดินแดง) ขอนแก่น
  • Manoi สาขา ลำปลายมาศ บุรีรัมย์
  • Manoi สาขา หน้าวิทยาลัยอาชีวศึกษานครราชสีมา
  • Manoi สาขา ท่าม่วง กาญจนบุรี
  • Manoi สาขา ศรีราชา ชลบุรี
  • Manoi สาขา เมืองประจวบ ประจวบคีรีขันธ์
  • Manoi สาขา ชุมพร
  • Manoi สาขา บ้านนาสาร สุราษฎร์ธานี
  • Manoi สาขา กระบี่

เตรียมเปิดตัวเมนูกลุ่มใหม่ “Heathy Drink”

มาโนอิ
ภาพจาก แฟรนไชส์มาโนอิ

ด้วยจุดเด่นของ มาโนอิ ที่เน้นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพซึ่งตอนนี้เป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงมาก ล่าสุดเตรียมเปิดตัวเมนูกลุ่มใหม่ “Heathy Drink” ที่ประกอบด้วย 3 กลุ่มเมนูคือ

  1. เมนูมัทฉะฮั่นเลม่อน พร้อมเครื่องหมายทางเลือกสุขภาพ
  2. เมนูกลุ่มศูนย์แคลลอรี่ ใช้หญ้าหวาน 100% ทุกเมนู
  3. คอมบูชา ชาหมักเพื่อสุขภาพ

โดยจะเริ่มเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 มิถุนายน 2568 เฉพาะสาขาที่มีเครื่องหมาย Heathy Drink ถือเป็นอีกหนึ่งการพัฒนาทางธุรกิจที่เอาใจคนรักสุขภาพ และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มีอยู่ทั่วประเทศได้เป็นอย่างดีจึงไม่น่าแปลกใจที่มาโนอิจะเป็นแฟรนไชส์ที่คนไทยให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

พิเศษสุด! สินเชื่อ วงเงิน 1.5 ล้านบาท พร้อมให้เปิดร้านได้ทันที

มาโนอิ
ภาพจาก แฟรนไชส์มาโนอิ

สำหรับใครที่อยากลงทุนแต่ติดปัญหาเรื่องเงินทุน งานนี้มาโนอิจัดดิวสุดพิเศษ ร่วมกับ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) เปิดโอกาสให้ผู้สนใจลงทุนสามารถกู้ขอสินเชื่อวงเงินไม่เกิน 1.5 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 3% คงที่ใน 3 ปีแรก โดยที่ปีแรกไม่ต้องชำระเงินต้น ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด 10 ปี เลือกลงทุนได้ทุกแพ็กเกจของมาโนอิ

ถือเป็นความพิเศษที่มาโนอิแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าไม่ได้เป็นแค่แฟรนไชส์แต่เป็นธุรกิจที่เน้นคุณภาพและให้ความสำคัญกับผู้สนใจลงทุนให้มีโอกาสเติบโตและสร้างรายได้ที่ดี ถือเป็นตัวอย่างของแฟรนไชส์ที่เน้นเรื่องระบบบริหารจัดการเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ ถ้าหากเราติดตามในเพจของมาโนอิร่วมด้วยจะยิ่งเห็นภาพชัดเจนว่ามีการอัพเดท

เทรนด์สินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้ช่วยยกระดับให้แบรนด์มาโนอิเป็นที่รู้จักและเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น สำหรับใครที่สนใจและต้องการลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากทางแฟรนไชส์ได้ มีทีมงานพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลผู้สนใจลงทุนเป็นอย่างดี ให้ทุกคนพร้อมก้าวเป็นครอบครัวมาโนอิที่เติบโตไปพร้อมกันได้

มาโนอิ
สนใจลงทุน คลิก
https://bit.ly/38QqWME
โทร. 063-2361947, 092-4965988, 081-8304151

 

สุดยอดแฟรนไชส์ ปี 2568

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด