มาโนอิ! เครื่องดื่มสุขภาพ “ตัวจริง” ใช้ “ไซรัปหญ้าหวาน” แทนน้ำตาล อร่อย! ปลอดภัย ไม่ต้องกลัวอ้วน
กระแสรักษ์สุขภาพในเมืองไทยตอนนี้มาแรงมาก! ทุกคนต่างต้องการสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีความต้องการในอาหารและเครื่องดื่มที่รสชาติดีร่วมด้วย จึงเป็นโจทย์ให้คนทำธุรกิจต้องพัฒนาเมนูเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการ
ซึ่ง “มาโนอิ” ในฐานะที่เป็นแฟรนไชส์ให้ความสำคัญกับ “สุขภาพ” เป็นหลัก ได้พัฒนาเครื่องดื่มที่เป็นมิตรต่อสุขภาพและทำให้ลูกค้า “อร่อยกับเครื่องดื่มได้โดยไม่รู้สึกผิด” ล่าสุด เปิดตัว “ไซรัปหญ้าหวาน” เป็นวัตถุดิบที่ให้ความหวานแทนน้ำตาล การันตีว่ากินแล้วไม่อ้วน ดีต่อสุขภาพมากๆด้วย
1 ใน 4 ของคนไทยให้ความสำคัญเรื่อง “สุขภาพ”
เทรนด์รักษ์สุขภาพไม่ใช่แค่การอ้างถึง ถ้าดูตัวเลขยิ่งชัดว่า คนไทย 1 ใน 4 กำลังควบคุมอาหาร
- 65% ให้ความสำคัญกับส่วนผสมที่ดีต่อสุขภาพ
- 41% ใส่ใจในเรื่องฉลากโภชนาการบนสินค้าที่ต้องดีต่อสุขภาพเท่านั้น
- 43% มองหาเครื่องดื่มที่รสชาติใหม่และดีต่อสุขภาพ
- 37% ค้นหาเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพผ่านช่องทางโซเชี่ยลต่างๆ
และ “น้ำตาล” คือหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่คนไทยมองว่า “เป็นศัตรูต่อสุขภาพ” มากที่สุด ดูได้จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขที่ระบุว่า คนไทยป่วยด้วยโรคเบาหวานกว่า 6.5 ล้านคนหรือคิดเป็น 1 ใน 10 ของประชากร ที่สำคัญกว่า 40% ไม่รู้ว่าตัวเองป่วยเป็นโรคนี้ การลดความเสี่ยงสู่โรคเบาหวานจึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำทันที
“ไซรัปหญ้าหวาน” คืออะไร? ดีต่อสุขภาพแค่ไหน

มาโนอิ ซึ่งเป็นแฟรนไชส์เครื่องดื่มที่คนไทยรู้จักทั่วประเทศชูจุดเด่นคือการใช้วัตถุดิบไม่มีไขมันทรานส์ ล่าสุดก้าวไปอีกขั้นด้วยการพัฒนา “ไซรัปหญ้าหวาน” มาใช้แทนน้ำตาลในเมนูต่าง ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มชานม ชาผลไม้ และโซดา ให้ผู้บริโภคได้เพลิดเพลินกับรสชาติ โดยไม่เสี่ยงต่อสุขภาพในระยะยาว
ทั้งนี้ “หญ้าหวาน” (Stevia rebaudiana Bertoni) ได้รับความนิยมทั่วโลกในฐานะสารให้ความหวานจากธรรมชาติที่ปลอดภัยและแคลอรีต่ำ มีจุดเด่นที่น่าสนใจคือ
- รับรองความปลอดภัยจาก องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐ (FDA)
- รับรองความปลอดภัยจาก องค์การอาหารแห่งสหประชาชาติ (JECFA)
- ให้ความหวานสูงกว่าน้ำตาลแต่ไม่มีแคลอรี
- ไม่ทำให้ฟันผุ
- ไม่กระตุ้นอินซูลิน
- ใช้ได้กับผู้ป่วยเบาหวาน
- มีงานวิจัยรองรับเช่น Koyama et al. (2003) และงานวิจัยของ Gregersen et al. (2004)
ซึ่งการพัฒนาใช้ “ไซรัปหญ้าหวาน” แทนน้ำตาลในเมนูเครื่องดื่มของมาโนอิคือก้าวสำคัญในการสร้างเสริมสุขภาพที่ดี เพราะถ้าดูข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้บริโภคน้ำตาลไม่เกิน 10% ของพลังงานที่ได้รับต่อวัน แต่รายงานของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ปี 2566 พบว่าคนไทยโดยเฉลี่ยบริโภคน้ำตาลเกินกว่าคำแนะนำถึง 1.5 เท่า
เมนูเครื่องมาโนอิ “มีครบ” ทุกแก้วเพื่อสุขภาพ

ปัจจุบันมาโนอิมีสาขาทั่วประเทศกว่า 210 แห่ง และมีการพัฒนาธุรกิจในทุกด้านเพื่อประโยชน์ต่อลูกค้าและผู้สนใจลงทุนอย่างสูงสุด งบลงทุนของมาโนอิ 150,000 – 350,000 บาท โดยระยะเวลาในการคืนทุนอยู่ประมาณ 8 เดือน – 1.5 ปีขึ้นอยู่กับทำเลเป็นสำคัญ
ซึ่งทางมาโนอิพร้อมสนับสนุนผู้สนใจลงทุนในทุกด้านตั้งแต่การฝึกอบรม การสอนสูตร วางระบบบริหารจัดการร้าน ส่งเสริมด้านการตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ให้อย่างต่อเนื่อง ด้วยจุดเด่นของแบรนด์ที่เน้น “สุขภาพ” จึงเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตที่ขายดีมาก รวมแล้วกว่า 60 เมนู แยกเป็นหมวดหมู่ต่างๆ ที่น่าสนใจเช่น
- กลุ่มเมนูขายดี (Signature) เช่น ชานมไต้หวัน & บราวน์ชูการ์ มีท็อปปิ้งเป็นไข่มุกหวานอร่อยเคี้ยวเพลิน
- กลุ่มนมสดสูตรพิเศษ รสชาติกลมกล่อม ปราศจากไขมันทรานส์
- กลุ่มชาผลไม้หอมหวาน สดชื่น ได้กลิ่นหอมจากทั้งชาและผลไม้
- กลุ่มโซดาเติมเต็มพลังงานให้สดชื่นได้ตลอดวัน
- กลุ่มชาไทยรสชาติเข้มข้น หอมหวาน ครบจบในแก้วเดียว
- กลุ่มมัทฉะ วัตถุดิบส่งตรงจากเมืองนิชิโอะ หอมเข้ม พรีเมียมทุกแก้ว
มาโนอิ “พร้อมยกระดับ” ก้าวสู่ธุรกิจ “ระดับประเทศ”

จากการพัฒนาในทุกมิติของมาโนอิเป็นที่ชัดเจนว่าเน้นการสร้างแบรนด์ที่มีจุดยืนในเรื่อง “สุขภาพ” เป็นอัตลักษณ์เด่นที่ยึดถือเพื่อก้าวสู่ความเป็นสุดยอดแบรนด์เครื่องดื่มระดับประเทศมากขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องสินค้าเท่านั้นแต่มาโนอิยังคงให้ความสำคัญกับเรื่อง ”คุณภาพและบริการ” ทุกสาขาของมาโนอิต้องมีการบริหารจัดการและทัศนคติสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน , มาตรฐานรสชาติต้องเหมือนกันทุกสาขา , มาตรฐานของพนักงานต้องได้รับการฝึกอบรมมีคุณภาพเท่าเทียมกัน นอกจากนี้มาโนอิยังให้ความสำคัญในเรื่องของความสะอาดร้านและความพร้อมของอุปกรณ์ในการเปิดร้าน
ไม่ใช่เพียงเท่านั้นมาโนอิเข้าใจในทุกความต้องการของผู้ลงทุนเป็นอย่างดีสำหรับบางคนต้องการเริ่มธุรกิจแต่ติดปัญหาเรื่อง “เงินทุน” ทางแบรนด์จึงได้ร่วมมือกับสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อเพื่อให้เริ่มธุรกิจได้ง่ายขึ้น อย่างล่าสุดคือการร่วมกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) ที่พร้อมอนุมัติสินเชื่อไม่เกิน 1.5 ล้านบาทอัตราดอกเบี้ย 3% คงที่ใน 3 ปีแรก โดยที่ปีแรกไม่ต้องชำระเงินต้น ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด 10 ปี เลือกลงทุนได้ทุกแพ็กเกจของมาโนอิ
เป็นความพิเศษที่มาโนอิแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าไม่ได้เป็นแค่แฟรนไชส์แต่เป็นธุรกิจที่เน้นคุณภาพและให้ความสำคัญกับผู้สนใจลงทุนให้มีโอกาสเติบโตและสร้างรายได้ที่ดี สำหรับใครที่สนใจและต้องการลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากทางแฟรนไชส์ได้ มีทีมงานพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลผู้สนใจลงทุนเป็นอย่างดี ให้ทุกคนพร้อมก้าวเป็นครอบครัวมาโนอิที่เติบโตไปพร้อมกันได้
มาโนอิ
สนใจลงทุน คลิก
https://bit.ly/38QqWME
โทร. 063-2361947, 092-4965988, 081-8304151
ดาวเด่นแฟรนไชส์ : Star Franchise
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
- อยากสร้างแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Ive14C
- อยากทำเป็นแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3IrrH0k
- รู้เรื่องกฎหมาย สัญญาแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Iu5WNu
- รวมความรู้แฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Pe0m5s
อ้างอิงจาก คลิกที่นี่
สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น
ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี
ลักษณะงาน
- เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
- ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
- มอบหมายงานและติดตามงาน
- อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ
1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้
- ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
- ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
- การปฏิบัติงาน
- เป้าหมายในอนาคต
2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ
- การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
- การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
- การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
- การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)
3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)
- การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
- กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม
4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์
5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
- ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
- ปรับปรุงแก้ไข
- พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง
การปฎิบัติงาน
- สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
- ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา
เงื่อนไขอื่นๆ
- การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์
อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้
สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)