Kona Ice แฟรนไชส์ร้านน้ำแข็งไสเคลื่อนที่ สาขา 2,200 แห่ง รายได้กว่า 200 ล้านดอลลาร์

ไม่ใช่แค่ในเมืองไทยที่บิงซูหรือน้ำแข็งไสเป็นสินค้ายอดฮิต ในอเมริกาเองก็มีธุรกิจแฟรนไชส์ดังกล่าวแม้จะดูว่าเป็นสินค้าเรียบง่าย แต่กลับสร้างรายได้มากกว่า 200 ล้านดอลลาร์ แถมยังขยายสาขาได้กว่า 2,200 แห่งอีกด้วย

นี่คือเรื่องราวของ Kona Ice แฟรนไชส์ร้านน้ำแข็งไสเคลื่อนที่ สุดยอดธุรกิจที่กลายมาเป็นดาวเด่นแฟรนไชส์ที่หลายคนน่าจะไม่รู้จักและอยากรู้ว่าธุรกิจนี้น่าสนใจอย่างไรและถ้านำมาลงทุนในเมืองไทยจะเหมาะสมไหม จะได้กำไรดีเหมือนในอเมริกาหรือเปล่า

Kona Ice เป็นแฟรนไชส์อันดับที่ 30 ในการจัดอันดับ Franchise 500 ประจำปี 2025 ก่อตั้งขึ้นในปี 2007

Kona Ice แฟรนไชส์ร้านน้ำแข็งไสเคลื่อนที่
ภาพจาก www.facebook.com/konaiceexperience

โดย Tony Lamb ที่เมือง Florence รัฐ Kentucky ประเทศอเมริกา ใช้ประสบการณ์จากที่เคยทำงานบริหารสำนักงาน 6 แห่งมีพนักงานที่ต้องดูแลกว่า 300 คน จึงมีความรู้ในด้านการบริหารลูกค้า , การบริหารคน , การจัดหาสินค้า , การสร้างทีมงาน และมีความรู้ในด้านกลยุทธ์การตลาดร่วมด้วย

อย่างไรก็ดีด้วยความที่ต้องการก้าวหน้าจึงคิดโอกาสสร้างธุรกิจของตัวเอง และใช้ความทรงจำในวัยเด็กมาเป็นจุดเริ่มต้น เปลี่ยนเอาประสบการณ์ไม่ค่อยดี ทั้งบริการไม่เป็นมิตร และความสะอาดไม่น่าประทับใจ Tony เลยคิดใหม่ กลายเป็น “รถขายน้ำแข็งไส” ที่สดใส สนุก และเป็นมิตรกับทุกคน

Kona Ice แฟรนไชส์ร้านน้ำแข็งไสเคลื่อนที่
ภาพจาก www.facebook.com/konaiceexperience

แต่ธุรกิจนี้ก็ใช่ว่าจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ ในครั้งที่โควิดระบาดอย่างหนัก Kona Ice จำเป็นต้องปรับตัวและเมื่อสถานการณ์คลี่คลายยอดขายและรายได้ก็ไม่เหมือนเดิมจึงนำไปสู่การพัฒนาธุรกิจ มีการเปิดตัว Curbside Kona

ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์สำหรับการจองจุดขายสินค้าแบบออนไลน์ ทำให้กำหนดเส้นทางในการจำหน่ายสินค้าไปจนถึงพัฒนาด้านการตลาดให้ดียิ่งกว่าเดิม เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น

Kona Ice แฟรนไชส์ร้านน้ำแข็งไสเคลื่อนที่
ภาพจาก www.facebook.com/konaiceexperience

และเมื่อ Kona Ice กลายเป็นแบรนด์ที่คนรู้จัก ผสมผสานกับความเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ที่เรียบง่าย แต่ขายดีก็ทำให้แบรนด์นี้เติบโตได้เร็วแบบก้าวกระโดดโดยมีจุดเด่นและความน่าสนใจ ได้แก่

  1. รถขายน้ำแข็งไสสุดคูล ใช้รถตู้ดัดแปลง ตกแต่งสีสันสดใส สไตล์ฮาวาย มีเสียงเพลงและบรรยากาศชวนสนุกเหมือนงานปาร์ตี้
  2. มีตู้กดน้ำเชื่อมได้เอง (Flavorwave) เป็นการออกแบบให้ธุรกิจมีไอเดียและความแตกต่าง ลูกค้าสามารถ “กดน้ำเชื่อมเอง” จากตู้ที่ติดอยู่ข้างรถซึ่งก็มีหลากหลายรสชาติให้เลือก
  3. เมนูที่ตอบโจทย์สุขภาพ ใช้น้ำเชื่อมที่ มีน้ำตาลต่ำ และบางเมนูเป็น “Vita-Blend” ที่มีวิตามิน C และ D รวมถึงมีตัวเลือก ไร้น้ำตาล (sugar-free) สำหรับผู้รักสุขภาพ
  4. ค่าแฟรนไชส์แค่ 3,000 ดอลลาร์ ทำให้เป็นธุรกิจที่ลงทุนได้ง่าย สร้างธุรกิจได้ทันที และคอนเซปต์สินค้ามีเอกลักษณ์ชัดเจนทำให้ขยายสาขาทั่วอเมริกาได้อย่างรวดเร็ว
  5. เป็นธุรกิจเพื่อชุมชน นั่นเพราะส่วนหนึ่งของรายได้มักถูกนำไปสนับสนุนโรงเรียน มูลนิธิ หรือกิจกรรมท้องถิ่นทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ถูกมองว่า ไม่ใช่แค่ขายของ แต่ยังคืนกำไรสู่สังคมอีกด้วย

และเมื่อเป็นน้ำแข็งไสหรือบิงซูที่ดูจะเข้ากับสภาพอากาศในเมืองไทย นักลงทุนหลายคนอาจสนใจและคิดว่าน่าจะเป็นการเลือกลงทุนทีสร้างรายได้ดีแน่ แต่ถ้าวิเคราะห์ด้วย SWOT Analysis พบว่า

Kona Ice แฟรนไชส์ร้านน้ำแข็งไสเคลื่อนที่
ภาพจาก www.facebook.com/konaiceexperience

Strengths (จุดแข็ง)

  • คอนเซปต์รถขายน้ำแข็งไสเคลื่อนที่ ดึงดูดสายตา สร้างความแตกต่างจากร้านทั่วไป
  • แบรนด์ดังจากอเมริกา มีภาพลักษณ์อินเตอร์ ทำให้ลูกค้ารู้สึก “เก๋” และอยากลอง
  • มีส่วนร่วมกับชุมชน เป๋ยโมเดลธุรกิจที่เน้นการคืนกำไรสู่สังคม (เช่น สนับสนุนโรงเรียน, งานอีเวนต์) ตรงใจคนไทยที่ชอบแบรนด์มีคุณค่า
  • ตู้กดน้ำเชื่อมได้เอง(Flavorwave) กว่า 10+ รส ลูกค้าเลือกเอง เพิ่มความสนุก
ภาพจาก www.facebook.com/konaiceexperience

Weaknesses (จุดอ่อน)

  • ราคาลงทุนสูง เมื่อเทียบแบบรถเข็นหรือ FoodTruck ในเมืองไทย รวมงบลงทุนแล้วคิดเป็นเงินไทยก็หลักล้านบาท
  • รสชาติอเมริกัน อาจหวานเกินไปสำหรับคนไทย ต้องปรับสูตรใหม่
  • คนไทยชอบง่ายและเบื่อง่าย รวมถึงคนไทยอาจผูกพันกับน้ำแข็งใสแบบบ้านๆ ที่ถูกกว่า

การวิเคราะห์ในส่วนของ Opportunities (โอกาส) ความที่เมืองไทยอากาศร้อน น้ำแข็งไสก็น่าจะขายดีและมีแหล่งท่องเที่ยวในเมืองไทยเยอะรวมถึงอาจขายดีตามงานเทศกาลทั่วไปเช่น คอร์นเสิร์ต , งานวัด , งานอีเว้นท์ ต่างๆ เป็นต้น

แต่ในมุมของ Threats (ความเสี่ยง) ก็ต้องระวังเช่นกันเพราะนี่คือธุรกิจซึ่งมีคู่แข่งเยอะทั้งน้ำแข็งไสโบราณ (20-30 บาท) และบิงซูเกาหลี (premium)

Kona Ice แฟรนไชส์ร้านน้ำแข็งไสเคลื่อนที่
ภาพจาก www.facebook.com/konaiceexperience

รวมถึงเศรษฐกิจและกำลังซื้อ ถ้าขายในราคาสูง (50-100 บาท/แก้ว) อาจไม่ดึงดูดลูกค้าทุกกลุ่ม ซึ่งถ้าสนใจนำแฟรนไชส์นี้มาลงทุนในเมืองไทยก็อาจต้องปรับรสชาติ + กลยุทธ์ราคา + ทำการตลาดในเชิงประสบการณ์ (Experience Marketing) เพื่อให้เข้ากับคนไทยได้มากขึ้นด้วย

ภาพจาก www.facebook.com/konaiceexperience

อย่างไรก็ตาม Kona Ice ก็ได้ชื่อว่าเป็นแฟรนไชส์ที่ใช้ไอเดียในการสร้างธุรกิจ และTony Lamb ยังมีอีกธุรกิจติดไอเดียที่คล้ายกันนั่นคือ Travelin’ Tom’s Coffee ธุรกิจร้านกาแฟเคลื่อนที่ ซึ่งติดอันดับ 217 ใน Franchise 500

แสดงให้เห็นถึงความเป็นคนคิดสร้างสรรค์และเชื่อว่าทุกอย่างเป็นจริงได้ ในฐานะคนไทยเองถ้าอยากสร้างธุรกิจให้ประสบความสำเร็จอาจเริ่มต้นจากไอเดียใกล้ๆ ตัวแล้วพัฒนาให้เป็นธุรกิจในวันหนึ่งก็อาจจะกลายเป็นแฟรนไชส์ที่มีสาขาและรายได้ทั่วประเทศเหมือนกับ Kona Ice ได้


ที่มา : https://citly.me/q35PC

ดาวเด่นแฟรนไชส์ : Star Franchise

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด