KOI The’ (โคอิเตะ) ไม่ได้ขายแฟรนไชส์ในปัจจุบัน

หากพูดถึงแบรนด์ชานมไข่มุกจาก “ไต้หวัน” ในเมืองไทย ที่ได้รับความนิยมและมีการพูดถึงกันมาก หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้น KOI Thé (โค-อิ-เตะ) ร้านชานมรสชาติต้นตำรับจากไต้หวัน เน้นการเสิร์ฟชานมคุณภาพ ผ่านกรรมวิธีการผลิตอย่างดี ตั้งแต่การคัดสรรใบชาชั้นดี การต้มชาและการต้มไข่มุกเนื้อเหนียวหนึบ ปัจจุบันมีสาขามากมายใน 12 ประเทศ

โดยเฉพาะในประเทศไทยมีสาขามากกว่า 49 แห่ง และด้วยการเป็นแบรนด์ร้านชานมคุณภาพ ผู้บริโภคชาวไทยให้การตอบรับ จึงมีคนถามเข้ามาว่า KOI Thé (โค-อิ-เตะ) ขายแฟรนไชส์หรือเปล่า วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มีข้อมูลจากการสอบถามไปยังแบรนด์ KOI Thé (โค-อิ-เตะ) มานำเสนอให้ทราบครับ

จุดกำเนิด KOI THE’ (โคอิเตะ)

โคอิเตะ

ภาพจาก facebook.com/koithethailand

โคอิ เตะ (KOI Thé) เป็นแบรนด์ชานมไข่มุกจากไต้หวัน เริ่มต้นจากธุรกิจชาของครอบครัว “มิสหม่า” ในชื่อ ‘อู่สือหลาน’ (50 Lan) เริ่มต้นกิจการครั้งแรกเมื่อปี 1994 จากความต้องการขยายแบรนด์ให้เจาะตลาดผู้บริโภคในกลุ่มที่กว้างกว่าเดิม หรืออาจจะไม่ได้อินวัฒนธรรมชามาก่อน พร้อมกับเปิดสาขาต้นแบบเป็นแห่งแรกในไต้หวันเมื่อปี 2006

จนปัจจุบันมีสาขามากกว่า 400 แห่งอยู่ใน 12 ประเทศ อาทิ ไต้หวัน ซึ่งมีอยู่เพียง 2 แห่ง เพื่อทำเป็นสาขาต้นแบบเท่านั้น ก่อนจะขยายมาที่สิงคโปร์ จีน ญี่ปุ่น เวียดนาม กัมพูชา ไทย มาเลเซีย และพม่า เป็นต้น

สำหรับประเทศไทยเป็นประเทศที่ 10 ที่โคอิ เตะ เลือกเข้ามาทำตลาด และเป็นหนึ่งประเทศที่มิสหม่ามองว่าเป็น Strategic Location ที่ต้องขยายเข้ามา เพราะเป็น Destination ของธุรกิจท่องเที่ยวในภูมิภาคที่คนทั่วโลกอยากเดินทางเข้ามา ประกอบกับแบรนด์อาหารดังๆ หลายแบรนด์ก็เลือกที่จะขยายสาขามาเปิดในประเทศไทย

เปิดตัวครั้งแรก ดังไม่เปรี้ยงป้าง!

5

ภาพจาก facebook.com/koithethailand

การเปิดตัวครั้งแรกในเมืองไทย “โคอิ เตะ” ไม่ได้ประสบความสำเร็จตามการคาดหมายของหลายๆ คน แม้แบรนด์จะมีชื่อเสียงและได้รับความนิยมในต่างประเทศ แม้จะมีคนไทยบางส่วนที่เดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ รู้จักแบรนด์มาก่อน โดยสาขาแรกเปิดบริการในเดือนกรกฎาคม 2016 ที่เซ็นทรัล บางนา กลับมีผลตอบรับไม่ค่อยดีนัก อาจเป็นเพราะการเป็นแบรนด์ใหม่ที่คนทั่วๆ ไปยังไม่ค่อยรู้จัก ประกอบกับที่ตั้งสาขาอยู่ในโซนที่ค่อนข้างไกล

ประกอบกับ โคอิ เตะ ประเทศไทย ยังไม่ได้เน้นทำการตลาดมากนัก เนื่องจากจำนวนสาขาที่ยังมีน้อย จึงเน้นที่การพัฒนาธุรกิจและเตรียมบุคลากร เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคตเป็นหลักก่อน หลังจากนั้น 3 เดือนต่อมา โคอิ เตะ สาขาที่ 2 เปิดบริการในสยามสแควร์วัน แหล่งรวมวัยรุ่นและเป็นพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากด้วย

แต่เนื่องจากในขณะนั้นประเทศไทยอยู่ในช่วงของความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ Mood & Tone ของคนทั่วทั้งประเทศ จึงไม่พร้อมที่จะเปิดรับหรือสนใจเรื่องอื่นๆ มากนัก เรียกว่าอยู่ในช่วงที่ทุกอย่างแทบจะหยุดชะงักลงโดยอัตโนมัติ

เดินเกมการตลาดด้วยการรีวิว

4

ภาพจาก facebook.com/koithethailand

โคอิ เตะ ให้บริการลูกค้าไปอย่างเงียบๆ โดยในเดือนต่อมาก็ได้ขยายสาขาที่ 3 เพิ่มอีกหนึ่งแห่งที่ เซ็นทรัล พระราม 9 ทำให้เริ่มมีสาขากระจายอยู่ในพื้นที่แต่ละจุดของ กทม. เพิ่มมากขึ้น ขณะที่ยอดขายในช่วงเวลานั้นก็ยังคงไม่ค่อยดีเช่นเดิม

โดยเวลานั้นโคอิ เตะ เลือกใช้วิธีทำตลาดอย่างเงียบๆ เชิญสื่อที่อยู่ในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มมาทำการรีวิวร้าน ทำให้เริ่มเห็นผลตอบรับที่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เรียกว่า จากที่เคยต้มชาแล้วต้องทิ้งมากกว่าได้ขาย ก็สามารถขายได้มากขึ้น ไปจนถึงในบางช่วงที่ต้มกันแทบไม่ทันเลยก็มี

ชูจุดเด่น Handmade Tea

3

ภาพจาก facebook.com/koithethailand

ความแตกต่างของโคอิ เตะ ยังอยู่ที่การเป็น Handmade Tea เพราะวัตถุดิบที่ใช้ทุกอย่างจะทำใหม่หมดแบบ On Site เพื่อให้แต่ละแก้วที่ลูกค้าได้ดื่มนั้น คงความเป็นชาไข่มุกแบบไต้หวันอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการต้มชา ที่การต้มแต่ละครั้งจะเก็บไว้แค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น

เช่นเดียวกับการต้มไข่มุกหรือ Golden Bubble ซึ่งต้องถือเป็น Signature ของโคอิเตะ เพราะเม็ดไข่มุกจะมีขนาดเล็กว่าทั่วไปและมีสีทอง ทำให้บางคนเปรียบเทียบเม็ดไข่มุกของโคอิ เตะ ว่าเหมือนกับไข่ปลาแซลมอน

รายได้ของบริษัท โคอิ เตะ (ประเทศไทย) จำกัด

2

ภาพจาก facebook.com/koithethailand

  • ปี 59 รายได้ 3.5 ล้านบาท ขาดทุน 2 ล้านบาท
  • ปี 60 รายได้ 62 ล้านบาท กำไร 8 ล้านบาท
  • ปี 61 รายได้ 304 ล้านบาท กำไร 81 ล้านบาท
  • ปี 62 รายได้ 519 ล้านบาท กำไร 107 ล้านบาท
  • ปี 63 รายได้ 386 ล้านบาท กำไร 36 ล้านบาท

KOI Thé ขายแฟรนไชส์หรือไม่

1

ภาพจาก facebook.com/koithethailand

มีหลายคนสนใจอยากลงทุนเปิดร้านแฟรนไชส์ชานมไข่มุก KOI Thé และถามเข้ามาเป็นจำนวนมากว่า KOI Thé ขายแฟรนไชส์หรือไม่ ทางทีมงานไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ จึงได้ติดต่อสอบถามไปยังบริษัท โคอิ เตะ (ประเทศไทย) จำกัด ได้คำตอบชัดเจนว่า “ตอนนี้ทางเราไม่มีขายแฟรนไชส์ค่ะ”

ซึ่งอาจเป็นเพราะทางบริษัทเป็นตัวแทน KOI Thé จากไต้หวันอยู่แล้ว หากขายแฟรนไชส์ออกไป อาจไม่สามารถควบคุมคุณภาพมาตรฐานได้ อีกทั้งร้าน KOI Thé ส่วนใหญ่เปิดให้ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าชั้นนำของเมืองไทย อาจทำให้มีค่าใช้จ่ายในการลงทุนสูง

สรุปก็คือ แบรนด์ร้านชานมไข่มุก KOI Thé (โคอิ เตะ) ไม่ได้ขายแฟรนไชส์ บริษัทบริหารธุรกิจเองทั้งหมด


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3CV2BBD

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช