7 สิ่งที่ต้องคิด! ก่อนลงมือ เช่าพื้นที่ ขายของ

การที่จะเป็นพ่อค้าแม่ค้ามืออาชีพนั้นในกรณีที่ไม่ได้มีเงินทุนจำนวนมากไม่สามารถสร้างธุรกิจในแบบฉบับของตัวเองได้ การเริ่มต้นที่ดีที่สุดก็คือการขอ เช่าพื้นที่ จากตลาดนัด เพื่อสะสมประสบการณ์และเงินทุนก่อนที่จะขยายโอกาสทางธุรกิจตัวเองต่อไปในอนาคต

แต่ทว่าการเช่าพื้นที่ขายสินค้าในตลาดนัดแม้จะฟังดูเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ที่จริงก็เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่สำคัญ โดยจะยึดเอาความถูกใจเป็นหลักเพียงอย่างเดียวไม่ได้ www.ThaiSMEsCenter.com จึงเอาหลักเกณฑ์และวิธีพิจารณาในการเลือกสถานที่ขายสินค้าเพื่อให้เหมาะสมกับผู้ประกอบการมากที่สุด

1.สถานที่ขายสินค้า

เช่าพื้นที่

ภาพจาก goo.gl/8xdIlW

สถานที่ขายสินค้าเป็นสิ่งแรกที่ผู้ประกอบการจะต้องทำการพิจารณาตรวจสอบดูก่อนเป็นอันดับแรก อันเนื่องมาจากสถานที่ที่แตกต่างกันกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและสินค้าที่จะนำมาวางจำหน่ายก็ย่อมแตกต่างกันออกไปด้วย เช่น ถ้าผู้ประกอบการเลือกที่จะเช่าพื้นที่ขายสินค้าภายในห้างสรรพสินค้าแน่นอนว่ากลุ่มเป้าหมายก็ย่อมจะมีกำลังซื้อมากกว่าเป็นธรรมดา

แต่ในทางกลับกันถ้าเลือกที่จะเช่าพื้นที่ขายตามตลาดนัดหรือตลาดเปิดท้ายแน่นอนว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคก็ลดลงตามไปด้วย ดังนั้นผู้ประกอบการจะต้องเลือกสถานที่ให้เหมาะสมที่สุดกับรูปแบบลักษณะการค้าขายสินค้าของตนเองเป็นหลัก จึงจะเป็นแนวทางการเริ่มต้นที่ถูกต้องที่สุดนั่นเอง

2.ทำเลพื้นที่ขายสินค้าที่ได้

คำว่าทำเลคือตัวกำหนดความสำเร็จที่ดีที่สุดแม้เป็นแบรนด์ดังแต่ถ้าอยู่ในทำเลไม่ดีโอกาสเสี่ยงทางธุรกิจก็มีสูงมากในทางกลับกันสินค้าที่คนไม่รู้จักแต่ได้อยู่ในทำเลคนพลุกพล่านโอกาสแห่งการทำกำไรก็จะมากตามไปด้วย

และถ้าโอกาสอำนวยผู้ประกอบการควรเลือกทำเลที่มีกลุ่มคนเดินผ่านหน้าร้านจำนวนมากและควรเป็นตำแหน่งที่ลูกค้าสามารถมองเห็นได้โดยง่าย ไม่ควรเลือกพื้นที่ที่เป็นมุมอับหรืออยู่ตามหน้าห้องน้ำเป็นอันขาด

3.กฏระเบียบของสถานที่

rt9

ภาพจาก goo.gl/62SQVl

ผู้ประกอบการควรที่จะต้องพิจารณาในเรื่องของกฎระเบียบการใช้สถานที่เอาไว้ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกทำสัญญาเช่าพื้นที่ขายสินค้า เพราะในแต่ละสถานที่ได้กำหนดขอบเขตข้อบังคับที่ค่อนข้างจะมีความแตกต่างกันมาก

อาทิเช่น ในห้างสรรพสินค้ามักมีข้อกำหนดที่ชัดเจนว่าห้ามมิให้ผู้ประกอบการใช้แก๊สและทำพื้นเปียกน้ำเป็นอันขาดมิเช่นนั้นจะถูกปรับและยึดเงินประกัน เท่ากับว่าการศึกษากฎระเบียบที่ไม่ชัดเจนจะทำให้ผู้ประกอบการกลืนไม่เข้าคายไม่ออกในภายหลัง

รวมถึงสิ่งที่ต้องพิจารณาอีกอย่างคือเรื่องของสาธารณูปโภคพื้นฐานที่ควรเทียบเป็นราคาต่อหน่วยเพราะส่วนนี้ก็ถือเป็นต้นทุนอีกอย่างของการเช่าพื้นที่ขายของเช่นกัน

4.ขนาดพื้นที่กำหนดรูปแบบการจัดร้านหรือไม่

เป็นหนึ่งในหัวข้อหลักที่ผู้ประกอบการจำต้องนึกถึง เพราะจำนวนพื้นที่ที่ได้มาจะมีส่วนสำคัญที่ส่งผลต่อรูปแบบการจัดร้านเราควรใช้หน่วยวัดเป็นตารางเมตรเท่านั้นเพราะมีความละเอียดและเป็นมาตรฐานสากลที่สามารถใช้เปรียบเทียบกับพื้นที่ขายสินค้าที่อื่นๆได้

ซึ่งบางพื้นที่ที่น้อยกว่าแต่กลับมีราคาแพงหรือเทียบเท่ากับพื้นที่ที่มีเนื้อที่ใช้สอยมากสิ่งเหล่านี้เราต้องมาคิดคำนวนหาจุดคุ้มทุน รวมถึงต้องป้องกันไม่ให้ร้านค้าใกล้เคียงรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่เช่าของเราซึ่งถือเป็นปัญหาหนึ่งที่เจอมากในการเช่าล็อคขายสินค้าต่างๆ

5.วัน เวลา และจุดพีคสุด คือตัวบ่งบอกรายได้

rt10

ภาพจาก goo.gl/oek91s

เป็นปัญหาที่เกิดกับการเช่าพื้นที่ขายสินค้าตามตลาดนัดมากกว่าในห้างสรรพสินค้า เนื่องจากมีเวลาในการเปิด-ปิด ที่ไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับว่าใครตั้งร้านค้าเสร็จก่อนก็เริ่มขายได้เป็นสำคัญ

ลูกค้าส่วนมากจึงมักเป็นขาจรเสียเป็นส่วนใหญ่ทำให้คาดคะเนในเรื่องของช่วงเวลาที่พีคที่สุดในการขายสินค้าค่อนข้างยาก จึงจำเป็นที่ผู้ประกอบการจะต้องพิจารณาและวางแผนเพื่อหาช่วงเวลาในการตั้งร้านที่เหมาะสมกับเวลาที่คนจะมาเดินเยอะที่สุด เพื่อผลกำไรที่จะตามมาในอนาคต

6.ประเมินกลุ่มลูกค้าเพื่อกำหนดรูปแบบการขาย

“เศรษฐีมักไม่เดินในที่แออัด ยาจกมักไม่เดินในที่สบาย” เป็นคำที่อธิบายที่บ่งบอกถึงสถานที่และกลุ่มลูกค้าที่มาเดินซื้อของซึ่งมีความเกี่ยวเนื่องกันได้เป็นอย่างดี เพราะแน่นอนว่าในสถานที่แห่งหนึ่งไม่ได้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าทุกประเภท เช่น ในห้างสรรพสินค้ามักจะเป็นแหล่งรวบรวมของผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อเสียเป็นส่วนใหญ่

จึงเหมาะสมที่จะขายสินค้าที่มีคุณภาพดีและราคาในระดับพอประมาณสมเหตุสมผล แต่ถ้าเป็นในตลาดนัดเกือบจะมากกว่า 50% ของผู้ที่เดินมักจะเป็นผู้ที่มีรายได้ไม่สูงนักและเน้นเชิงปริมาณเป็นสิ่งสำคัญ

ดังนั้นผู้ประกอบการจึงต้องเลือกเช่าสถานที่ขายสินค้าโดยประเมินจากกลุ่มคนที่มาเดินในพื้นที่ดังกล่าวให้มีความเหมาะสมกับสินค้าที่ตนเองจะวางจำหน่ายเป็นสำคัญด้วย เพราะแน่นอนว่าสินค้าคุณภาพดีแต่ราคาแพงมักจะขายไม่ออกในตลาดนัดอย่างแน่นอน

7.ราคาค่าเช่าและเงินประกัน

rt11

ภาพจาก goo.gl/AIXdII

การที่จะดูว่าราคาค่าเช่าในพื้นที่ไหนมีความเหมาะสมมากที่สุดเป็นสิ่งที่ทำได้ค่อนข้างลำบากนอกจากจะต้องทดลองขายสินค้าในพื้นที่จริงเสียก่อนประมาณสัก 1-3 เดือน จึงจะสามารถวิเคราะห์ได้ แต่หากมีเงินทุนที่จำกัดไม่สามารถยืนระยะได้ถึงขนาดนั้น

ขอแนะนำให้ใช้รูปแบบวิธีการประเมินอย่างคร่าวๆ เช่น ใน 1 วันจะสามารถขายสินค้าได้เป็นจำนวนเท่าไหร่ตามยอด แล้วจึงนำมาหักด้วยต้นทุนทุกประเภท ค่าจ้างแรงงาน (ถ้ามี)

เมื่อได้จำนวนเงินสุทธิแล้วให้นำมาลบด้วยค่าเช่าในแต่ละวัน (ถ้าค่าเช่าเป็นรายเดือนให้นำมาหารด้วยจำนวนวันที่ขายในแต่ละเดือน) ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ออกมาคือกำไรในแต่ละเดือน ให้พิจารณาดูว่าจำนวนเงินเท่านี้ผู้ประกอบการสามารถอยู่ได้หรือไม่ แต่ถ้าผลลัพธ์ออกมาติดลบขอแนะนำให้ลองเลือกสถานที่อื่นๆในการขายสินค้าน่าจะดีที่สุด

ทั้งนี้แม้จะมองว่าการวิเคราะห์ในเชิงการค้าเป็นเรื่องที่น่าเบื่อแต่นั่นคือความสำคัญที่เราไม่อาจละเลยได้เนื่องจากความพร้อมที่รอบด้านจะนำพาให้ธุรกิจเราเติบโตได้เร็วที่สุด และสำหรับคนที่มองหาทำเลดีๆเพื่อการค้าเรามีรวบรวมไว้มากมายสนใจเข้ามาดูเพิ่มเติมได้ที่ goo.gl/UraBZ4

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด