10 เรื่องที่คุณไม่เคยรู้เกี่ยวกับ Netflix

Netflix เป็น สตรีมมิ่งออนไลน์ ระดับโลก มีจุดเด่นคือการลงทุนสร้างเนื้อหาของตัวเองเพื่อฉายเฉพาะบน Netflix ซึ่งที่ผ่านมาลงทุนสร้างเนื้อหาไปกว่า 6 พันล้านเหรียญสหรัฐ

และมีเนื้อหาชื่อดังมากมายอย่าง House of Cards, Stranger Things และ Orange in the New Black รวมๆ แล้วมีเนื้อหาที่สร้างเองมากกว่า 400 เรื่อง ยาวรวมกันมากกว่า 1,000 ชั่วโมง

ในปี 2017 รายได้ของ Netflix สูงกว่า 285,836 ล้านบาทและคาดว่าจะมีกำไรเกินกว่า 12,696 ล้านบาท ดูภาพรวมแล้ว Netflix นับเป็นธุรกิจที่เติบโตเร็วและน่าสนใจมากแต่แน่นอนว่าก็มีบางมุมที่เราอาจไม่รู้ วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มี 10 เรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับ Netflix มาฝากกัน

เรื่องที่คุณไม่เคยรู้เกี่ยวกับ

ภาพจาก goo.gl/R1nC8s , goo.gl/zbisoo

1.Netflix ยอดนิยมมากในเยอรมันนี

แม้จุดกำเนิดของ Netflix จะอยู่ในอเมริกาและมีคนติดตามทั่วโลกมากกว่า 100 ล้านคนซึ่งหากไม่นับอเมริกาประเทศเยอรมันนีมีคนติดตามจำนวนมากเช่นกัน แต่ด้วยความที่มีหลากหลายเชื้อชาติปะปนอยู่ในประเทศก็ไม่ฟันธงว่าคนที่ติดตามจำนวนมากจะใช่คนเยอรมันนีทั้งหมดด้วยหรือเปล่า

2.เป็นสตรีมมิ่งอันดับ 1 ในอเมริกา

ตัวเลขยอดสมาชิกแบบเสียค่าบริการรายเดือนของ Netflix พุ่งสูงถึง100 ล้านคน ใน190 ประเทศ เฉพาะในสหรัฐฯ ยอดสมาชิกแบบเสียค่าบริการรายเดือนของ Netflix มีมากกว่า 53 ล้านคน ทะลุแซงหน้ายอดสมาชิกรายเดือนของเคเบิลทีวีอย่างเอชบีโอ (HBO)ด้วย

a2

ภาพจาก goo.gl/tpyaQC

3.จุดเริ่มต้นของ Netflix เกิดจากการคืนแผ่นเช่าดีวีดีไม่ทัน

Netflix ก่อตั้งในปี 1997 เวลานั้น Netflix แจ้งเกิดในฐานะบริษัทเช่าแผ่นดีวีดีภาพยนตร์ทางไปรษณีย์ ตามประวัติบันทึกว่า รีด แฮชติงส์ (Reed Hastings) ผู้ก่อตั้ง Netflix ได้เช่าภาพยนตร์เรื่อง Apollo 13 แต่ถูกปรับเงิน 40 ดอลลาร์เพราะไม่สามารถคืนแผ่นทันกำหนด

4.ทำธุรกิจแค่ 2 ปีมียอดสมาชิกเพิ่มขึ้นกว่า 1 ล้านคน

รีด แฮชติงส์ ลงทุนก่อตั้งบริษัทเช่าแผ่นภาพยนตร์ด้วยเงินทุน 2.5 ล้านดอลลาร์ 2 ปีต่อมา Netflix เพิ่มรูปแบบการเก็บค่าบริการสมาชิกรายเดือน เพื่อให้ลูกค้ายืมภาพยนตร์ได้ไม่จำกัดเรื่อง

และไม่มีกำหนดวันคืน Netflix กลายเป็นที่นิยมของคอหนัง ก่อนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ช่วงปี 2002 ด้วยสถิติยอดการยืมภาพยนตร์ 190,000 แผ่นต่อวัน และจำนวนสมาชิกเหมาจ่ายรายเดือน 1 ล้านคน

a6

ภาพจาก goo.gl/t9gkrJ

5.เริ่มพัฒนาธุรกิจตัวเองในปี 2007

ปี 2007 แนวโน้มการเช่าแผ่นภาพยนตร์ที่ลดลง ทำให้ Netflix เริ่มพัฒนา และให้บริการดูวิดีโอแบบสตรีมมิ่งผ่านอินเทอร์เน็ต ผลจากพัฒนาการก้าวกระโดดของอินเทอร์เน็ตทำให้ธุรกิจวิดีโอสตรีมมิ่งเติบโตรวดเร็ว โดยในปี 2010 บริการเช่าวิดีโออย่าง Netflix ถูกบันทึกว่าเป็นหนึ่งในบริการอินเทอร์เน็ตที่มีทราฟฟิกอินเทอร์เน็ตสูงที่สุดในสหรัฐฯ

6.เป็นสตรีมมิ่งอันดับหนึ่งของโลกในปี 2011

ปี 2011 คือปีที่ธุรกิจหลักของ Netflix เปลี่ยนจากการเช่าแผ่นหนังทางไปรษณีย์มาเป็นวิดีโอสตรีมมิ่งแทน ผู้ใช้ Netflix สามารถชมภาพยนตร์ และซีรีส์ได้ในทุกที่ที่มีอินเทอร์เน็ต

ไม่ว่าจะดูผ่านสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต สมาร์ททีวี แอปเปิลทีวี (AppleTV) กล่องเซ็ตท็อปบ็อกซ์ (Set-top-box) เครื่องเกมคอนโซล หรือแม้แต่เครื่องเล่นบลูเรย์ ทุกอย่างไม่ต้องง้อเสา จาน หรือสายใดๆ ขณะเดียวกัน ผู้ชมไม่ต้องชมวิดีโอตามเวลาที่กำหนดไว้

a5

ภาพจาก goo.gl/e1fBdG

7.Netflix รองรับ 17 ภาษาทั่วโลก

การแข่งขันที่ดุเดือดทำให้ Netflix เปิดกลยุทธ์ปูพรมให้บริการในตลาดใหม่ 190 ประเทศทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยและมีแผนเปิดตลาดอีกหลายประเทศเช่นอินเดีย รัสเซีย ไนจีเรีย ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งสามารถรองรับได้ 17 ภาษาทั่วโลก

8.มีถึง 5 รายการที่ทำโดย Netflix ติดอันดับ 50 รายการที่คนติดตามมากที่สุดในโลก

จากการจัดอันดับของ IMDb’s 50 Top Rated ปรากฏกว่ามี 5 รายการของ Netflix ติดอันดับคือ Stranger Things , House of Cards , Arrested Development , Narcos และ Making a Murderer

a4

ภาพจาก goo.gl/yf7Qdj

9.Netflix เติบโตคล้ายกับ Amazon

Netflix เป็นสตรีมมิ่งระดับโลกที่เติบโตมาจากการเป็นบริษัทเช่าแผ่นหนัง ในขณะที่ Amazon ก่อนจะมาเป็นเว็บต์ออนไลน์ระดับโลกก็เคยผ่านการเป็นร้านขายหนังสือมาก่อน ซึ่งทั้ง 2 ธุรกิจหันมาพัฒนาธุรกิจตัวเองใส่ความเป็นออนไลน์ลงไปและกลายเป็นธุรกิจระดับโลกที่เติบโตใกล้เคียงกันมาก

10.ลูกค้าของ Netflix ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง

ลูกค้าของ Netflix ที่เริ่มติดตามกันมาตั้งแต่ปี 2007 จนมาถึงยุคเปลี่ยนแปลงเป็นสตรีมมิ่งระดับโลกในปี 2011 ส่วนใหญ่จะยึดติดอยู่กับบริการแบบเดิมที่เคยใช้เพราะรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่คุ้นเคย Netflix พยายามที่จะเปลี่ยนแปลงบริการเก่าให้ดีกว่าเดิมปรากฏกว่าลูกค้าส่วนใหญ่ตอบเมลล์กลับมาว่าไม่เห็นด้วยเป็นจำนวนมาก

Netflix มีการเติบโตอย่างเป็นระบบมีการวางแผนการบริหารจัดการและสามารถรองรับจัดการกับปัญหาเฉพาะหน้าต่างๆ ได้ดี ทั้งนี้ Netflix ก็ยังมีแผนในการเจาะตลาดใหญ่อย่างเมืองจีนให้สำเร็จอีกด้วย

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด