ไอศกรีมกะทิสด เมนูขายดีหน้าร้อน สุดยอดกำไรจากภัทรินทร์ไอศกรีม

หลังจากที่ประเทศไทยได้เข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการ อันที่จริงอากาศเมืองไทยก็ร้อนเป็นปกติอยู่แล้ว แต่ฤดูร้อนแบบนี้ก็อาจจะร้อนมากขึ้น แต่ที่สำคัญกว่าอากาศร้อนคือ “การหาอาชีพสร้างรายได้” หลายคนอยากรู้ว่าช่วงเวลาแบบนี้จะขายอะไร แบบไหน อย่างไร สินค้าประเภทไหนที่คนจะสนใจและขายดีมาก แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องลงทุนไม่แพง

ไอศกรีมกะทิสด

ด้วยเหตุนี้ www.ThaiSMEsCenter.com ในฐานะที่รวบรวมแฟรนไชส์ไว้มากที่สุดในประเทศ ขอแนะนำให้คนที่อยากลงทุน อยากมีอาชีพ ลองมาขาย “ไอศกรีมกะทิสด” ที่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่เรื่องยาก ไม่ต้องวุ่นวายวิ่งหาสินค้าเอง เพราะมีแฟรนไชส์ที่เป็นศูนย์รวมไอศกรีมครบวงจรอย่างภัทรินทร์ฟู้ดส์จัดการให้ แค่เลือกแพคเกจลงทุนให้เหมาะสมกับตัวเอง ขยัน และตั้งใจทำจริง ไม่ใช่แค่จะมีรายได้หมุนเวียนเลี้ยงครอบครัวแต่จะมีกำไรถึงขั้นเหลือกินเหลือเก็บได้เลยทีเดียว

“ ไอศกรีมกะทิสด ” จากภัทรินทร์ไอศกรีม สินค้ายอดฮิตเมืองไทย ขายดีทุกยุคสมัย

ไอศกรีมกะทิสด

ถ้ามีใครบอกว่าเกิดมาไม่เคยทานไอศกรีมคนนั้นน่าจะโกหก โดยเฉพาะประเทศไทยที่อยู่ในเขตร้อน สิ่งที่จะช่วยดับกระหายคลายร้อนได้ดีที่สุดคือ “ไอศกรีม” ข้อมูลการตลาดพบว่าในปี 2563 ตลาดไอศกรีมมีมุลค่า 17,648 ล้านบาท

และคาดว่าในปีจะมีมูลค่า 18,694 ล้านบาท คาดหมายว่าตลาดไอศกรีมในประเทศไทยยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก เนื่องจากอัตราการบริโภคยังต่ำ โดยเฉลี่ยกว่า 2 ลิตร/คน/ปี เมื่อเทียบกับคนอเมริกันอัตราการบริโภคมากกว่าถึง 10 เท่า

ไอศกรีมกะทิสด

แน่นอนว่าต้องมีหลายแบรนด์ที่แข่งขันกันในตลาดนี้ แต่ถ้าเราโฟกัสกลยุทธ์การขายให้ถูกจุด จับกลุ่มลูกค้าให้ถูกต้อง ไม่จำเป็นต้องไปลงทุนกับไอศกรีมราคาแพงๆ แต่หันมาขาย ไอศกรีมราคาบ้านๆ ที่คนส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงได้ เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีจำนวนมาก โดยเฉพาะ “ไอศกรีมกะทิสด” ที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อย

เสน่ห์ของไอศกรีมกะทิสดไม่ใช่แค่ความเย็น แต่กลิ่นและรสชาติที่ละมุนลิ้น ช่วยทำให้ลูกค้ารู้สึกดับร้อน ผ่อนคลายได้อย่างดี จึงไม่น่าแปลกใจหากมีการจัดอันดับไอศกรีมยอดฮิต จะต้องมี “ไอศกรีมกะทิสด” อยู่ในลำดับต้นๆที่คนส่วนใหญ่ต้องนึกถึง โดยเฉพาะไอศกรีมกะทิสดของภัทรินทร์ไอศกรีมที่เป็นแฟรนไชส์ขายดีและมีคนสนใจลงทุนจำนวนมาก

ภัทรินทร์ไอศกรีมจัดให้! ไอศกรีมกะทิสด ขายง่าย กำไรดี

ไอศกรีมกะทิสด

ใครอยากรวย ใครอยากมีรายได้ เชิญทางนี้ ยุคนี้หลายคนตกงาน ขาดรายได้ มีเงินไม่พอใช้จ่าย ภัทรินทร์ไอศกรีมจัดให้กับสินค้าขายง่ายขายดี “ไอศกรีมกะทิสด” ที่มีจุดเด่นคือเป็นไอศกรีมกะทิล้วนไม่ผสมนม พร้อมผสมเนื้อมะพร้าวอ่อน สูตรลับเฉพาะของภัทรินทร์ไอศกรีมเท่านั้น อร่อย และ ขายดีมาก

ไอศกรีมกะทิสด

ค่าแฟรนไชส์ในการลงทุน ครอบคลุมทุกรูปแบบ 11,900 – 49,900 บาท สามารถเลือกรูปแบบการขายได้ตามต้องการ เช่นนำไปเป็นสินค้าเสริมในร้านอาหาร , เปิดร้านขายในห้างสรรพสินค้า หรือ ขายตลาดนัดถนนคนเดิน เป็นสินค้ายอดฮิตที่ลงทุนแล้วไม่ผิดหวังการันตีด้วยการขยายสาขารวดเร็วกว่า 30 แห่งภายในเวลา 2 ปี และมีแนวโน้มที่จะขยายสาขาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

7

โดยสิ่งที่ผู้ลงทุนจะได้รับคือไอศกรีมกะทิสดพร้อมขาย (แบบกล่องขนาด 5 กก.) สามารถตักใส่ถ้วยหรือโคนขายในราคา 12-30 บาท กำไรจากการลงทุน 100% และทำให้คนขายมีรายได้หมุนเวียนมีเงินเหลือกินเหลือเก็บ คำนวนว่าแต่ละวันหากมีลูกค้า 50 คนจะมีรายได้ประมาณ 600 – 1,500 บาท และรายได้จะมากกว่านี้หากมีลูกค้ามากขึ้น หักลบต้นทุนต่างๆ เหลือกำไรต่อวันไม่ต่ำกว่าวันละ 500 – 1,000 ขึ้นอยู่กับทำเลที่ขายและความขยัน ตั้งใจจริงของผู้ลงทุนด้วย

5 เทคนิคขาย “ไอศกรีมกะทิสด” จากภัทรินทร์ไอศกรีม เพื่อสร้างรายได้

หากมีสินค้าดีกลยุท์การขายก็เป็นสิ่งสำคัญ ภัทรินทร์ไอศกรีมพร้อมสนับสนุนผู้ลงทุนทุกคนในเรื่องเทคนิคการขาย , บริการจัดส่งสินค้าให้ผู้ลงทุนทุกคนทั่วประเทศ รวมถึงสนับสนุนด้านอุปกรณ์พร้อมเปิดร้าน และนี่คือ 5 เทคนิคที่ขอแนะนำสำหรับคนขายไอศกรีมกะทิสดหากนำไปใช้ ยอดขายรัวๆ ปังๆ กำไรดีทุกคน

1.ขายคู่กับเมนูอื่นๆ สร้างรายได้เพิ่มขึ้น

6

หากมีร้านเครื่องดื่ม ร้านอาหารอยู่แล้วยิ่งได้เปรียบมาก การนำไอศกรีมกะทิสดมาขาย เท่ากับเพิ่มสินค้าให้ลูกค้าเลือกมากขึ้น ในฤดูร้อนแบบนี้ทานอาหารเสร็จใครๆ ก็อยากทานของหวาน และไอศกรีมกะทิสดจะตอบโจทย์ลูกค้าได้มาก

2.เลือกทำเลที่เหมาะสม

5

หากไม่มีหน้าร้านของตัวเอง ขอแนะนำให้เลือกทำเลที่เหมาะสมกับการขายไอศกรีม โดยเฉพาะหน้าโรงเรียน โรงงาน สถานศึกษา ย่านชุมชน ใกล้สนามเด็กเล่น ซึ่งในพื้นที่เหล่านี้มีฐานลูกค้าอยู่จำนวนมาก โอกาสสร้างรายได้จากการขายก็มากขึ้นด้วย

3.จัดโปรโมชั่นเอาใจลูกค้า

3

เป็นกลยุทธ์การขายที่แต่ละคนมีไม่เหมือนกัน บางร้านอาจจัดโปรซื้อ 1 แถม 1 หรือซื้อครบ 10 ครั้งแถมฟรี 1 อัน หรือจะเป็นโปรโมชั่นตามเทศกาลต่าง ๆจะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าอยากติดตาม อยากเป็นลูกค้ามากขึ้น แต่ทั้งนี้การจะใช้โปรโมชั่นใดๆ ก็ควรใช้ให้ถูกที่ถูกเวลาจะเพิ่มยอดขายให้เราได้มากขึ้น

4.เข้าหาลูกค้าในทุกพื้นที่

4

สำหรับคนที่ไม่อยากขายเฉพาะที่ใดที่หนึ่ง ขอแนะนำว่าให้ขายแบบเคลื่อนที่เช่นเป็นรถเข็น หรือมอเตอร์ไซด์พ่วงข้าง โดยประโยชน์ของการขายแบบเคลื่อนที่คือไม่ต้องหาทำเล แต่ต้องรู้จังหวะว่าช่วงเวลานี้มีลูกค้าอยู่ที่ไหน และควรเข้าไปให้ถูกช่วงเวลาจะเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น

5.ใช้ตลาดออนไลน์เพิ่มยอดขายได้มากขึ้น

2

ยุคนี้สินค้าต้องมีตลาดออนไลน์ ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นร้านใหญ่เท่านั้นที่จะทำได้ ต่อให้เป็นร้านไอศกรีมแบบรถเข็นก็เน้นตลาดออนไลน์ได้ไม่ว่าจะเป็นการไลฟ์สดขาย , การทำคลิปลง TikTok , ทำคลิปใน Youtube , การใช้ Facebook ให้เกิดประโยชน์ การทำคอนเทนต์ลงโซเชี่ยลเหล่านี้ ยิ่งมีไอเดียที่ดีผสมผสานอาจกลายเป็นไวรัล ที่ทำให้คนรู้จักร้านไอศกรีมกะทิสดของเรามากขึ้นได้

ไอศกรีมกะทิสดของภัทรินทร์ไอศกรีม เป็นสินค้าที่ทุกคนรู้จัก ไม่จำเป็นต้องอธิบายกันมาก และเป็นสินค้าที่ขายง่าย ขายดี เคล็ดลับสำคัญของการขายให้ได้กำไรดีต้องอาศัยความขยัน ตั้งใจ และอดทน สำหรับคนที่ไม่มีร้านค้าร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่มของตัวเอง อาจต้องมีทำเลในการขาย ต้องขยันเปิดร้าน ไปขายตามหน้าโรงเรียน ตามตลาดนัดต่างๆ

บางคนที่ยังเริ่มไม่ได้เพราะอายที่จะขาย แต่หากเราก้าวข้ามความรู้สึกเหล่านี้ไปได้ กำไรแต่ละวันไม่ต่ำกว่าวันละ 500 – 700 บาท ถือเป็นรายได้ที่ดี ไม่อายทำกิน ไม่หมิ่นเงินน้อย ไม่คอยวาสนา ขายไอศกรีมกะทิสดจากภัทรินทร์ไอศกรีม รวยได้ทุกคนแน่นอน

สนใจลงทุนแฟรนไชส์ภัทรินทร์ฟู้ดส์ ศูนย์รวมแฟรนไชส์ไอศกรีม โทร.087-5447770

คลิกดูข้อมูลแฟรนไชส์

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3eiZXxa

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise


8 ขั้นตอน การพัฒนาระบบแฟรนไชส์

1. การวางแผนธุรกิจ ก่อนทำแฟรนไชส์

  • กำหนดรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ให้มีความชัดเจน โดนใจลูกค้า
  • ชื่อกิจการ (Brand)
  • การสร้างผลการดำเนินธุรกิจที่ดี ได้ผลกำไร มีความมั่นคง (Good ROI)
  • การสร้างแบรนด์ ตราสินค้า ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักผู้บริโภค
  • การพัฒนาสินค้าบริการ ให้มีคุณภาพมาตรฐาน และระบบการจัดการที่เป็นมาตรฐาน
  • การพัฒนาระบบบริการจัดการ จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
  • วางโครงสร้างองค์กรใหม่ รวมถึงการพัฒนาบุคลากร ทีมงาน สนับสนุนระบบแฟรนไชส์
  • การวางแผน และกำหนดเป้าหมายการขยายธุรกิจ การขยายสาขา ทั้งในและต่างประเทศ
  • การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธุรกิจ ทำเลที่ตั้ง และรูปแบบของร้านค้า
  • การเลือกใช้สื่อต่างๆ ช่องทางต่างๆ ในการจัดกิจกรรม เพื่อสร้างแบรนด์แฟรนไชส์

2. การรวบรวมข้อมูลธุรกิจ

  • ระบบการปฏิบัติงาน วิธีการบริหารจัดการธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
  • ระบบการเงิน การบัญชี
  • งบประมาณในการลงทุนธุรกิจ การขยายสาขา
  • รูปแบบของร้านค้า รูปแบบของตราสินค้า ที่เป็นเอกลักษณ์
  • ระบบการสต็อกสินค้า จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
  • แผนงานการตลาด การส่งเสริมการขายต่างๆ
  • กระบวนการพัฒนาบุคลากร ทีมงานด้านต่างๆ

3. การวิเคราะห์ธุรกิจแฟรนไชส์

  • ธุรกิจเปิดมานานหลายปี จำนวนไม่น้อยกว่า 1สาขา
  • แบรนด์มีชื่อเสียงได้รับความนิยม เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในวงกว้าง
  • สินค้าและบริการ มีคุณภาพมาตรฐาน เป็นที่ต้องการของตลาด
  • เป็นธุรกิจที่มีความมั่นคง ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ มีผลกำไร ต่อเนื่อง เป็นที่น่าพอใจ
  • มีระบบการทำงาน การปฏิบัติงาน แผนการทำงานที่ชัดเจน สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นได้
  • มีระบบการพัฒนาบุคลากร และสร้างทีมงานที่แข็งแกร่ง เป็นมาตรฐาน
  • ประสบความสำเร็จทางด้านการตลาด การสร้างแบรนด์ การส่งเสริมการขายต่างๆ
  • แผนกลยุทธ์การขยายสาขา และเติบโตต่อเนื่อง เป็นรายเดือน หรือ รายปี

4. การวางโครงสร้างของระบบแฟรนไชส์

  • กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักของผู้บริโภค
  • การสร้างองค์ความรู้ ระบบปฏิบัติงานต่างๆ ที่พร้อมถ่ายทอดให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • วางระบบการปฏิบัติงานของแต่ละขั้นตอนธุรกิจ ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ง่าย
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย แต่ละแผนกให้ชัดเจน รวมถึงขั้นตอนการอบรม ระบบตรวจสอบ เพื่อสร้างมาตรฐานธุรกิจแฟรนไชส์
  • สร้างระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซี หรือผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • การกำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ ในการขยายสาขาแฟรนไชส์ ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้า (ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์)
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม พร้อมที่จะเป็นพี่เลี้ยงแก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ช่วงเริ่มต้นได้
  • เงื่อนไขการเปิดสาขาในด้านต่างๆ

5. การวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจแฟรนไชส์

  • แผนการขยายแฟรนไชส์
  • ระบบการเงิน
  • ค่าธรรมเนียมต่างๆ
  • ข้อเสนอแฟรนไชส์ซี
  • การจดทะเบียนแฟรนไชส์
  • เรื่องกฎหมาย อายุสัญญาแฟรนไชส์
  • ระบบปฏิบัติงาน รูปแบบการให้สิทธิ
  • การตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์
  • แพ็คเกจต่างๆ ระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซีอย่างต่อเนื่อง
  • การจัดทำคู่มือแฟรนไชส์ หรือโปรแกรมแฟรนไชส์
  • การจัดทำสัญญาแฟรนไชส์ รวมถึงเครื่องหมายการค้า

6. การวางแผนเพื่อขยายสาขาธุรกิจแฟรนไชส์

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ เจ้าของแฟรนไชส์จะบริหารจัดการเองทุกอย่าง เพื่อสร้างความโดดเด่น สร้างความเด่นชัดให้แก่นักลงทุน ได้เห็นภาพของร้านที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การลงทุนเปิดสาขาแฟรนไชส์ในภายหลัง
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟนไชส์ คือ เมื่อสาขาแรกมีความแข็งแกร่ง มั่นคง มีผลกำไรต่อเนื่อง เป็นที่ยอมรับของลูกค้าในพื้นที่นั้นๆ แล้ว ก็ทดลองขยายสาขาเพิ่มอีก เพื่อทดสอบสาขาที่ 2 เป็นอย่างไร โดยนำเอาระบบการปฏิบัติงานทุกอย่างของร้านสาขาแรกมาปฏิบัติ ถ้าประสบความสำเร็จ ก็ค่อยขยายสาขาตัวเองเพิ่มอีก 2-3 สาขา ถ้าประสบความสำเร็จเหมือนสาขาแรก ก็ค่อยคิดขายแฟรนไชส์ให้กับคนอื่น

7. กระบวนการพัฒนาและปรับปรุงระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น (ระบบการบริหารจัดการในร้าน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน)วิเคราะห์ระบบการเงิน การลงทุน ในแต่ละสาขาที่เปิดทดลอง
  • พิจารณาปรับปรุงระบบงาน ระบบการทำงานต่างๆ ให้เหมาะสม
  • ระบบการพัฒนาทีมงานรองรับการขยายงาน ขยายสาขา
  • การวางแผนงานขยายสาขาแฟรนไชส์
  • เก็บข้อมูลรายละเอียดต่างๆ กลุ่มลูกค้า ผลประกอบการ การดำเนินงาน ของสาขาแรก หรือสาขาต้นแบบ เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด ก่อนเปิดสาขาที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และขายแฟรนไชส์
  • จัดวางงบประมาณ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการขยายธุรกิจแฟรนไชส์

8. แผนการตลาดของธุรกิจแฟรนไชส์

  • การจัดทำคู่มือต่างๆ เพื่อแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์
  • กระบวนการขายแฟรนไชส์ การคัดเลือกผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • กระบวนการติดตามลูกค้าเป้าหมาย
  • การนำเสนอธุรกิจแฟรนไชส์ในงานแสดงธุรกิจแฟรนไชส์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
  • การจัดงาน สัมมนาการขายธุรกิจ แฟรนไชส์
  • การเปิดเยี่ยมชมธุรกิจ ร้านต้นแบบแฟรนไชส์
  • กระบวนการคัดเลือกแฟรนไชส์ซีที่เหมาะสม ตามหลักมาตรฐานแฟรนไชส์สากล
  • กระบวนการถ่ายทอดความรู้ การอบรม และให้คำปรึกษาแก่แฟรนไชส์ซี

สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด