เมื่อ Digital Live มาแรง สื่อหลักอย่างทีวี ต้องระวังให้ดี!

เหตุการณ์สำคัญ ที่สุดของเมืองไทยตอนนี้คงไม่มีอะไรจะใหญ่ไปกว่าเรื่องน้ำท่วมภาคใต้ที่กินพื้นที่หลายจังหวัด หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนต่างก็ร่วมแรงร่วมใจในการเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่

แน่นอนว่าข่าวใหญ่ระดับประเทศนี้ย่อมต้องมีการนำเสนอในทีวีช่องต่างๆ กันต่อเนื่อง แต่ถ้าหากย้อนหลังไปเมื่อสัก 1-2 ปีที่ผ่านมากับทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย แนวทางการนำเสนอแบบเกาะติดข่าวที่นำโดย สรยุทธ สุทัศนะจินดา ดูจะเรียกความสนใจชนิดที่กระชากเรตติ้งให้กับช่อง 3 ได้อย่างถล่มทลาย แต่จากปัญหาที่เราทราบๆกัน ทำให้บทบาทนี้ในฐานะกรรมกรข่าวต้องยุติไปแบบไม่มีกำหนดเวลา

www.ThaiSMEsCenter.com มองว่าช่องว่างที่เกิดขึ้นนี้เองทำให้สื่อทีวีช่องอื่นสามารถยึดเรตติ้งของรายการข่าวกลับมาได้มากขึ้นตรงกันข้ามกับเรตติ้งของช่อง 3 เองที่ต้องยอมรับว่ามีผลกระทบโดยตรงกับจำนวนผู้ชมที่ลดน้อยลงไปจำนวนหนึ่ง

เหตุการณ์สำคัญ

ภาพจาก goo.gl/e2MohO

อย่างไรก็ดีสิ่งที่เราจะนำเสนอในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องคดีความที่เกิดขึ้นหรือแนวทางการสร้างเรตติ้งของสื่อทีวีแต่สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือการมาของ Digital Live ที่ตอนนี้มีการใช้แพร่หลายมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้น Facebook Live

และการโหมกระแสที่บอกว่าสื่อหลักอย่างทีวีต้องระวังคลื่นลูกหลังนี้ไว้ก็เพราะคนมีชื่อเสียงในแวดวงหลายคนเริ่มหันมาใช้สื่อดิจิตอลกันมากขึ้นในการนำเสนอเรื่องราวซึ่งก็มีหลายท่านหนึ่งในนั้นคือการหวนกลับมาอีกครั้งของสรยุทธ กับการเล่าข่าวผ่านทาง Facebook Live

ข้อดีที่บอกว่าทำไมสื่อดิจิตอลถึงได้รับความนิยมมากขึ้น

pp31

ภาพจาก goo.gl/hmrgZq

1.ในครั้งแรกๆเราอาจมองไม่เห็นภาพว่าการตอบรับของ Digital Live เหล่านี้จะดีแค่ไหนจนกระทั่งการลงพื้นที่ทำข่าวของสรยุทธที่ลงพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้และรายงานสดผ่าน Facebook Live ทำให้เกิดยอด Like ในแฟนเพจ รวมถึงมีการแชร์คลิปนี้ออกไปอย่างรวดเร็วนั้นคือกระแสความนิยมที่ไม่ใช่แค่เรื่องตัวบุคคลแต่คือคุณสมบัติสำคัญของสื่อดิจิตอล

2.สื่ออย่างดิจิตอลไม่จำเป็นต้องอยู่ในระบบแบบองค์กรการสื่อสาร สามารถทำได้อิสระผ่านทาง Facebook ได้โดยตรง ไม่ว่าที่ไหนเมื่อไหร่ ก็ทำข่าวสำคัญที่พบเจอได้

3.รูปแบบดิจิตอลผ่าน Facebook มีความยืดหยุ่นสูง ทำข่าวได้หลากหลาย เช่น ข่าวไลฟ์สไตล์ ข่าวรายงานสถานการณ์ ข่าวสัมภาษณ์ ซึ่งทั้งหมดไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา ทำสั้น ทำยาว หรือทำออกตอนไหนก็ได้ ดูย้อนหลังได้ มีผู้บริโภคช่วยกันแชร์ และมีความ real มากกว่าข่าวทีวี คนดูสามารถสัมผัสบรรยากาศ ความรู้สึกได้มากกว่า

4.เทียบกับข่าวทีวีที่คนต้องรอคนดูอยู่หน้าจอ มีช่วงเวลาในการออกอากาศที่จำกัด ดูย้อนหลังได้ลำบาก และยังต้องแข่งขันกับช่องทีวีอีกหลายช่อง รวมถึงต้องแย่งเวลากับผู้บริโภคที่หันไปอยู่กับโลกโซเชียลและอินเทอร์เน็ตมากกว่าหน้าทีวีอีกด้วย

pp32

ภาพจาก goo.gl/8GDKtr

อีกตัวอย่างหนึ่งของคนดัง (Influencer) ที่หันมาเอาดีทาง Digital Live คือ วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา ที่ได้ประกาศเลิกทำรายการวู้ดดี้เกิดมาคุยที่เป็นรายการตอนกลางคืน

ซึ่งเทปสุดท้ายจะออกอากาศประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2560 จากนั้นจะเป็นการเริ่มต้นทำรายการผ่านทางดิจิตอลทั้ง ทั้ง Facebook Live และ Youtube เพราะมีความคล่องตัว อิสระ และสร้างสรรค์รูปแบบ การนำเสนอได้มากกว่า

ภาคธุรกิจมีแนวโน้มกระจายงบประมาณโฆษณามาสู่แพลตฟอร์มวิดีโอออนไลน์ และโฆษณารูปแบบวิดีโอออนไลน์น่าจะมีบทบาทแข่งขันกับโฆษณาทางโทรทัศน์มากขึ้น โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในปี 2560 เม็ดเงินโฆษณาผ่านแพลตฟอร์มวิดีโอออนไลน์หลัก น่าจะเพิ่มขึ้นได้ถึงเกือบสามเท่าตัวในระยะเวลาสามปี ในขณะที่เม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ในปี 2560 น่าจะมีแนวโน้มลดลง

pp33

ภาพจาก goo.gl/fR9pze

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า เม็ดเงินโฆษณาออนไลน์ในปี 2560 น่าจะคิดเป็นมูลค่า 12,000-12,500 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 21-26 จากในปี 2559 โดยแนวโน้มการดำเนินชีวิตของผู้คนในหลากหลายด้านที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตมากขึ้น หรือยุค Internet of Things น่าจะส่งผลให้สื่อโฆษณาสามารถเข้าถึงข้อมูลเฉพาะบุคคลในเชิงลึกได้อย่างแม่นยำ

สามารถนำข้อมูลมารวบรวมเป็น Big Data เพื่อวิเคราะห์และประมวลผล แล้วนำเสนอโฆษณาในจังหวะเวลาที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคลอย่างเฉพาะเจาะจง ซึ่งสะท้อนถึงโอกาสในการยกระดับการโฆษณาออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นนั่นเอง


SMEs Tips (ทำไม Digital Live ถึงมาแรง)

  1. คนยุคใหม่ทำงานมากขึ้นอยู่กับโทรศัพท์มากขึ้นช่องทางของDigital จึงใกล้ชิดอย่างไม่รู้ตัว
  2. เข้าถึงง่ายกว่าทีวีเพียงแค่มีสัญญาณอินเทอร์เนตที่แรงพอ
  3. เลือกดูย้อนหลังหรือติดตามเหตุการณ์ที่ผ่านไปแล้วได้
  4. สามารถเลือกเฉพาะรายการที่ตัวเองชอบและเลือกเวลาดูได้อย่างอิสระ

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด