เปิดสูตรคิดต้นทุน “ร้านผัดไท” ตั้งราคาแค่ไหน ไม่ให้เจ๊ง!

“รวยด้วยการขายผัดไท” คุณคิดว่าเรื่องนี้จะเป็นจริงได้หรือไม่? หลายคนบอกเป็นไปไม่ได้ หลายคนบอกเป็นไปได้ คำตอบของเรื่องนี้เราก็เชื่อว่า “เป็นไปได้” เพียงแต่ต้องเลือกวิธีการให้ถูกต้องเท่านั้น ผู้ประกอบการบางรายเขาเริ่มต้นเปิดร้านผัดไทด้วยเงินติดตัวแค่ 500 บาท ซื้ออุปกรณ์และวัตถุดิบง่ายๆ ก็ยังกลายเป็นร้านค้าใหญ่โตได้

www.ThaiSMEsCenter.com มองว่าปัจจุบัน “ร้านผัดไท” มีตัวเลือกการลงทุนจำนวนมากใครที่ไม่อยากเริ่มต้นเอง แนะนำให้ไปซื้อ “แฟรนไชส์” ที่จะได้ทั้งอุปกรณ์เบื้องต้น สูตรการทำผัดไท และกลยุทธ์การทำตลาด โดยเฉพาะสูตรของผัดไท ถือเป็น “หัวใจ” ของอาชีพนี้ ร้านที่คนฮิตติดใจก็เพราะ “รสชาติ”ที่อร่อยไม่เหมือนใครนี่แหละ

เทคนิคเปิดร้านผัดไทแบบไหนไม่ให้เจ๊ง!!!

ร้านผัดไท

สำหรับคนที่ไม่คิดซื้อแฟรนไชส์แต่อยากลงทุนเอง แม้เงิน 500 บาทจะพอเปิดร้านผัดไทแบบย่อมๆ ได้ แต่ถ้าคาดหวังในเรื่องการสร้างรายได้ที่ดี เงินลงทุนในธุรกิจนี้ขั้นต่ำ 40,000 บาท เพื่อเป็นค่าอุปกรณ์ ตกแต่งร้าน วัตถุดิบ บางร้านมีค่าเช่าสถานที่มาเกี่ยวก็ต้องเอามคิดรวมเป็นต้นทุนต่อจานด้วย

หลักการตั้งราคา “ผัดไท” ส่วนใหญ่ร้านจะใช้วิธี “ซื้อวัตถุดิบจำนวนมาก” ซึ่งจะทำให้ได้ราคาที่ถูกกว่าการซื้อในปริมาณน้อยๆ และเราต้องรู้ว่า วัตุดิบชนิดไหนที่จะเก็บไว้ได้นานยิ่งซื้อมามากก็จะทำให้ต้นทุนเราน้อยลง เช่น พริกป่น ถั่ว เครื่องปรุงต่างๆ สิ่งที่ต้องซื้อใหม่ทุกวันก็เช่น เส้นผัดไท ผัก เครื่องเคียง เป็นต้น ดังนั้นต้นทุนต่อจานจะอยู่ที่ประมาณ

12-15 บาท ซึ่งการตั้งราคาขายต่อจานให้มากกว่าต้นทุนประมาณ 50% เผื่อเฉลี่ยสำหรับยอดขายที่ไม่เท่ากันในแต่ละวันและต้นทุนผันแปรในแต่ละเดือน ราคาของผัดไทที่เหมาะสมจึงอยู่ระหว่าง 35-40 บาท

คำนวณว่าต้องขายกี่จาน ถึงจะมีกำไร?

w5

ลองคิดตามตรรกะเหตุผลว่า 1 วันขายได้ 30 จาน ราคาจานละ 35 บาท คือ 30 x 35 = 1,050 บาท ถ้ารักษายอดนี้ไปตลอดเดือนคือ 30 วัน รายได้คือ 1,050 x -30 (วัน) = 31,500 บาท

หมายความว่าร้านผัดไทที่คือหนึ่งในการลงทุนที่มีโอกาสคืนทุนไวมาก เฉลี่ยไม่เกิน 2-3 เดือน แต่หลายคนก็แย้งทันทีว่า นี่มันคือราคาสมมุติ รายได้ที่ว่านี้ยังต้องไปหักค่าใช้จ่ายอื่นๆ

ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแรงงาน บางร้านมีค่าเช่าเข้ามาเกี่ยวข้อง และไหนจะตัวแปรของลูกค้าในแต่ละวันที่อาจไม่เท่ากัน ฝนตกฟ้าร้องบางทีก็มีผลให้ลูกค้าน้อยลง และคู่แข่งที่มีอยู่รอบด้าน ถึงขนาดที่บางคนบอกว่า คำนวณแบบนี้ “เพ้อเจ้อสิ้นดี”

w4

ยอมรับว่าเราอาจ “เพ้อเจ้อ” แต่นี่คือแนวทางในการคิดเบื้องต้น สิ่งที่ต้องมีคู่กับหลักการนี้คือ “กลยุทธ์การตลาด” ที่ไม่ใช่คิดราคาต้นทุนต่อจานได้แล้วจะบอกว่ามี “กำไร” ทันที เรื่องของเทคนิคการขายก็สำคัญแม้จะเป็นแค่ร้านผัดไท ก็ตาม

โดยกลยุทธ์การขายที่จะมาช่วยเสริมเพิ่มรายได้ให้การเปิดร้านผัดไทได้ผลดีมีกำไรมากขึ้นคือ

1.ความหลากหลายของเมนู

w3

เมนูที่ขายหน้าร้านต้องมีหลากหลายเมนูไม่ใช่แค่ผัดไทยอย่างเดียว เช่น ผัดไทยธรรมดา ผัดไทยกุ้งสด ผัดไทยทะเล หอยทอด สปาเกตตี้ มักกะโรนี และเมนูเสริมตระกูลเส้นที่หากินยาก คือ ผัดหมี่ซั่ว ตบท้ายด้วยของหวานอย่างขนมถ้วย เต้าส่วน เป็นต้น ให้เป็นเมนูที่สอดคล้องกับเมนูไทยๆ

2.โปรโมชั่นและบริการ

w2

แนะนำว่าในร้านควรมีพนักงานเสิร์ฟอย่างน้อย 1 คนนอกเหนือจากคนที่เป็นพ่อครัว เพื่อให้การต้อนรับลูกค้าและคอยดูแลลูกค้าอย่างทั่วถึง รวมถึงเรื่องโปรโมชั่นที่จะเรียกลูกค้าได้มากขึ้นเช่นมา 5 จ่าย 4 หรือทาน 5 จาน ลด 20% เป็นต้น ที่สำคัญบริการที่ดี รสชาติที่ดีจะช่วยให้ลูกค้าบอกต่อปากต่อปากแบบเราไม่ต้องเสียค่าประชาสัมพันธ์ ซึ่งเรื่องนี้สำคัญมาก

โดยเฉพาะเมนูที่อยู่คู่ร้านผัดไทอย่าง “หอยทอด” จะขาดไม่ได้เด็ดขาด เพราะลูกค้าบางคนมาร้านผัดไทก็ต้องการกินหอยทอด ถ้าเราไม่มีลูกค้าก็จะหนีหายไป ในทางตรงข้ามถ้าเรามีเมนูที่ต้องการ ลูกค้าก็จะพอใจ และยิ่งถ้าอร่อยก็จะยิ่งบอกต่อ

ตัวอย่างของร้านค้าผัดไทที่ประสบความสำเร็จมียอดขายเฉลี่ยต่อวันกว่า 170-180 จาน มีรายได้ต่อวัน กว่า 5,000 บาท หักลบต้นทุนรายจ่ายต่างๆ มีกำไรไม่ต่ำกว่า 1,500-2,000 ต่อวัน เท่ากับมีกำไรต่อเดือนไม่น้อยกว่า 30,000 – 40,000 บาท

w1

แน่นอนว่าหากเป็นร้านเปิดใหม่ กำไรและยอดขายต่อวันจะไม่ได้เท่านี้แน่ สิ่งสำคัญคือต้องพยายามและพัฒนาฝีมือในการทำเมนูผัดไท หอยทอดให้อร่อยยิ่งขึ้นเรื่อยๆ และก้าวตามเทรนด์ของคนรุ่นใหม่ให้ทัน ไม่สำคัญว่ามาก่อนหรือหลัง

สำคัญว่าหากคิดเปิดร้านแล้วตั้งใจทำจริงแค่ไหน หากเจอปัญหาแล้วเลิกแล้วท้อ ไปเปิดร้านไหนขายอะไรมันก็เจอปัญหาไม่ต่างกัน ถ้าเลือกที่จะสู้สักวันหนึ่งกำไรและรายได้ที่คาดหวังก็จะเป็นจริงอย่างที่เราตั้งใจได้

*** สูตรการคิดคำนวณราคาดังกล่าวนี้ มีตัวแปรที่ต้องเอามาคิดรวมกันอีกหลายอย่างทั้งค่าการตลาด ค่าเช่าพื้นที่ ต้นทุนผันแปรของแต่ละบุคคล ราคาเบื้องต้นจึงเป็นค่าประมาณการณ์ให้พอมองเห็นภาพและแนวทางในการคิดเบื้องต้น***


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน

ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

01

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/2ZvO0u6

ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.facebook.com/thipsamaipadthai/

อ้างอิงจาก https://bit.ly/33PR0oh

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด