เปิดกรุเทปแรก Okusno ก่อนดังเป็นพลุแตก

คนไทยถ้าตั้งใจ รับรองว่าทำอะไรไม่แพ้ใครในโลก ดูจะเป็นคำกล่าวที่หลายคนเคยได้ยินแต่บางครั้งก็ไม่เชื่อว่าจะเป็นตามนั้น หลายครั้งที่หยิบเอาประโยคนี้มาทำเป็นเรื่องตลกขบขันกันเป็นเรื่องเป็นราว

แต่สำหรับคนที่มีความใฝ่ฝัน จิตใจทะเยอะทะยานเพื่อมุ่งไปสู่ความสำเร็จคำกล่าวนี้ดูจะเป็นแรงขับดันชั้นดีที่ทำให้นักธุรกิจคนไทยก้าวไปสู่การทำสินค้าที่เรียกเสียงฮือฮาได้อย่างน่าชื่นชมเช่นกัน

เปิดกรุเทปแรก

ในฐานะที่ www.ThaiSMEsCenter.com คลุกคลีอยู่ในแวดวงคนทำธุรกิจมานานหลายสิบปีได้มองเห็นผู้ประกอบการจำนวนมากที่ผัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาในแวดวงของการลงทุนบางคนทีมงานเราเคยได้คุยได้สัมภาษณ์ตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นแค่ธุรกิจเล็กๆ จนปัจจุบันกลายเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ที่ใครๆต่างก็รู้จักกันดี

แน่นอนว่าบุคคลเหล่านี้ถือเป็นแรงบันดาลใจชั้นยอดให้กับคนรุ่นหลังที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองแต่ยังมองหาเส้นทางไม่เจอการได้พบกับคนรุ่นเดียวกันที่กล้าเดินตามความฝันและทำให้เป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้

jk2

จึงเป็นการจุดประกายความคิด จุดไฟในตัวให้ติดและพร้อมเดินหน้าท้าชนเพื่อหวังให้ประสบความสำเร็จมีธุรกิจที่ต้องการและสามารถเป็นนายตัวเองได้อย่างแท้จริง

และหนึ่งในผู้ประกอบการที่ทีมงานเราเคยได้พูดคุยก่อนโด่งดังเป็นพลุแตกในเวลาต่อมาคือ Okusno ผลิตภัณฑ์คางกุ้งทอดกรอบ ที่ตอนนี้โด่งดังทั่วประเทศไทยและวางแผนขยายตลาดไปสู่ภูมิภาคอาเซียนรวมถึงตลาดระดับโลกในอนาคตอันใกล้ด้วย

Okusno คุยกับทีมงาน ThaiFranchiseCenter ในงานมหกรรมสร้างอาชีพ ปี 2558

jk3

บริษัท โอคุสโน่ ฟู้ด จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2556 จากจุดเริ่มต้นของผลิตภัณฑ์ที่มาจากการการชอบทำครัวและมองเห็นว่าส่วนที่เหลือจากการแกะกุ้งคือส่วนหัวที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร จึงเป็นโจทย์ให้คุณพิมพ์มาดา พัฒนปรัชญาพงศ์ (แพร) และน้องชาย ช่วยกันคิดหาวิธีการแปรรูปซึ่งใช้เวลากว่า 3 เดือนจนมาสรุปที่ “คางกุ้งทอดกรอบ” และหลังจากที่มีผลิตภัณฑ์เป็นของตัวเองขึ้นมา

สิ่งที่ทำต่อคือการตลาดเพื่อโปรโมทสินค้าให้คนรู้จัก คุณแพรเล่าให้เราฟังในขณะนั้นว่าตอนแรกก็นำไปแจกด้วยการออกบูธแทบทุกเดือนให้ทุกคนได้รับประทานกันฟรีตามสถานีรถไฟฟ้า ห้างสรรพสินค้า และตลาดนัดต่างๆ เพื่อต้องการให้ทุกคนได้ทดลองชิม รวมถึงการไปขออนุญาตจากทาง อย. ซึ่งก็พอดีกับมีคนสนใจจะนำสินค้าไปจำหน่ายที่ประเทศจีน

jk6

คุณแพรเองที่ลงทุนในเบื้องต้นกับน้องชายเพียงแค่ 3 หมื่นบาทก็ต้องลงทุนเพิ่มเติมอีกกว่า 2 ล้านในการนำเข้าเครื่องจักรและสถานที่ผลิตเพื่อให้ได้ตรงตามมาตรฐานและเพื่อให้มีสินค้าตามออร์เดอร์ที่ต้องการ

แต่ปรากฏว่าผู้ที่มาติดต่อกลับเงียบหาย เลยต้องเร่งหาตลาดใหม่มาทดแทนซึ่งก็ได้ห้างสรรพสินค้าในเครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป เป็นเจ้าแรกในการนำสินค้า Okusno ไปวางจำหน่าย

jk8

ซึ่งคุณแพรได้กล่าวต่อว่าในงานมหกรรมสร้างอาชีพนี้เป็นการเปิดตัวสินค้าในระดับออร์แกไนต์ที่ใหญ่ที่สุดครั้งแรกสินค้าในวันนั้นที่ทีมงานได้พูดคุยกันมีด้วยกัน 3 รสชาติคือ คางกุ้ง รสดั้งเดิม (Original) , คางกุ้ง รสต้มยำ (Tom Yum Flavor) และคางกุ้ง รสแกงเขียวหวาน (Green Curry Flavor)

แต่ที่คนรู้เริ่มรู้จักและขายดีมากจะเป็น รสดั้งเดิม นอกจากนี้ในงานนั้นทางทีมงานยังได้พูดถึงแนวคิดและที่มาของการทำธุรกิจซึ่งมีหลายแง่มุมที่น่าสนใจและใครจะคาดคิดว่าหลังจากการสัมภาษณ์นี้ผ่านไปไม่นาน Okusno ได้เข้าร่วมรายการ SMEs ตีแตก และนั่นก็กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ Okusno กลายเป็นสินค้าชื่อดังในระยะเวลาไม่นาน

Okusno แชมป์ประจำปี 2558 ของรายการ SME ตีแตก

jk7

ในปี 2558 Okusno ได้ออกรายการ SME ตีแตก สิ่งแรกที่เราได้เห็นจากรายการคือการที่เจ้าของธุรกิจ ซึ่งเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆแต่สามารถตอบคำถามฉะฉาน จนกรรมการทั้ง 7 ท่าน โหวตให้ขนมคางกุ้ง Okusno เป็นผู้ชนะในรายการจากผู้เข้าแข่งขันที่มีกว่า 100 แบรนด์ซึ่งรางวัลในรายการนี้ที่สูงกว่า 1ล้านบาทก็มีส่วนสำคัญในการต่อยอดธุรกิจ

กระทั่งขยายกิจการมาเป็นที่ยอมรับของท้องตลาดและมีการส่งออกทั้งในและต่างประเทศ และนอกจากแชมป์รายการ SME ตีแตก ในปี 2558 แล้ว ในปี 2559 Okusno ยังได้รับรางวัลชนะเลิศ Thailand Green Design Awards 2016 ด้านการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์อีกด้วย

jk5

ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าในระยะเวลาเพียงประมาณ 1 ปี Okusno สามารถเติบโตได้ดีอย่างยิ่ง จากกำลังการผลิตในช่วงแรกที่มีแค่ 100-200 ห่อและมีให้เลือกแค่ 3 รสชาติให้เลือกคือ รสดั้งเดิม, ต้มยำ และแกงเขียวหวาน สามารถกลายมาเป็นสินค้าที่ลูกค้าต้องการมากถึง 50,000 ห่อ หรือประมาณ 1,300 ลังต่อเดือน

และมีการเพิ่มสินค้าขึ้นมาอีกถึง 2 รสชาติคือ รสผัดไทย (Pad Thai Flavor) และ รสแกงกะหรี่ญี่ปุ่น (Japanese Curry Flavor) ปัจจุบัน Okusno จึงมีให้เลือกซื้อได้ถึง 5 รสชาติในราคาซองละ 25 บาท วางขายในโมเดิร์นเทรดสำคัญๆหลายแห่งและมีแผนการตลาดในการเจาะตลาดต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

สูตรสำเร็จคือ มุ่งมั่น และตั้งใจ ไม่ต้องกลัวความล้มเหลว

jk10

หลายคนที่มองเห็นความสำเร็จนี้ต่างถามถึงแรงบันดาลใจของการทำธุรกิจว่าใช้แนวคิดอย่างไรถึงประสบความสำเร็จได้รวดเร็ว ถ้ามองจากการสัมภาษณ์ในเทปที่ได้พูดคุยกับเราจะพบว่าสิ่งที่คุณแพรเน้นมากคือ ความตั้งใจที่จะมีธุรกิจเป็นของตัวเองและไม่ต้องการเป็นลูกน้องใคร แม้ตัวเองจะยังไม่มีประสบการณ์แต่ก็กล้าจะลุย กล้าจะเดินหน้า

และไม่กลัวที่จะเจอกับปัญหาต่างๆ คุณแพรกล่าวว่าปัญหายิ่งเจอก็ยิ่งทำให้เราแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะทำธุรกิจแบบไหนสิ่งที่ต้องเจอคือปัญหาแต่ปัญหาไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ท้อตรงกันข้ามปัญหาคือบทเรียนราคาแพงที่จะทำให้ธุรกิจแข็งแกร่งขึ้นได้

jk11

นอกจากนี้การเริ่มต้นทำธุรกิจใดๆก็ตามให้มองถึงความเป็นไปได้และเอาสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวมาพัฒนายิ่งเป็นสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็นค่าแต่ถ้าเราเอามาพัฒนาจริงจังให้เกิดมูลค่านั้นแหละคือสินค้าแห่งอนาคตที่พร้อมทำให้ผู้ลงทุนมีโอกาสประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดีทีเดียว

ก้าวต่อไปของ Okusno จึงไม่ได้หยุดยั้งแค่ตลาดภายในประเทศแต่แผนการตลาดมีวางไว้รองรับตลาดต่างประเทศพร้อมกับการพัฒนาสินค้าให้เป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้นและเพิ่มความหลากหลายในตัวสินค้าให้มากขึ้นกว่าเดิมจากที่ได้เคยคุยกันในครั้งแรกโปรเจคของ Okusno คือการทำผงโรยข้าวจากขากุ้งที่เอามาผสมสาหร่ายและวัตถุดิบอื่นๆ

jk9

ก็ดูจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกน่าสนใจที่ทำให้ผู้บริโภคเองมีสินค้าใหม่และเป็นการแสดงจุดยืนที่ชัดเจนของ Okusno ว่ามุ่งมั่นกับการพัฒนาสินค้าและพร้อมจะเติบโตได้มากยิ่งขึ้นให้สมกับเป็นไอเดียสินค้าคนไทยที่ตั้งใจทำแล้วไม่มีวันแพ้ชาติใดในโลก

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S

และสำหรับใครที่อยากติดตามบทสัมภาษณ์ของ Okusno กับไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ก่อนที่จะโด่งดังเป็นพลุแตกสามารถดูเพิ่มเติมได้ที่

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด