ส่องวิธีสมัคร Grab Car หารายได้ แบบได้ผลจริง!

Grab เป็นธุรกิจที่เริ่มก่อตั้งในมาเลเซียเมื่อปี 2012 ใช้ชื่อแรกว่า My Teki ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็น Grab ในปี 2016 นับเป็นแอพพลิเคชั่นที่ตอบโจทย์และแก้ปัญหาการเดินทางของผู้คนได้เป็นอย่างดี

ปัจจุบัน Grab ให้บริการในเมืองต่างๆ กว่า 168 แห่งใน 8 ประเทศ มียอดการเดินทางผ่านแอพถึง 3.5 ล้านเที่ยว/วัน มีสมาชิกผู้ขับขี่กว่า 2.3 ล้านคน ในประเทศไทย Grab เริ่มเปิดตัวเมื่อปี 2013 ปัจจุบันให้บริการใน 13 จังหวัดทั่วประเทศ

ซึ่งบรรดาคนรุ่นใหม่ไม่น้อยก็สนใจใช้ Grab ในการหารายได้เพิ่มเติมซึ่ง www.ThaiSMEsCenter.com มองว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางสร้างรายได้ในยุคออนไลน์ที่น่าสนใจแต่ก่อนที่ใครจะตัดสินใจสมัคร Grab ควรศึกษารายละเอียดในสิ่งที่ควรรู้ให้ชัดเจนก่อน

1.รถยนต์ที่ใช้ต้องมีอายุไม่เกิน 10 ปี

ส่องวิธีสมัคร

ภาพจาก goo.gl/5ES1zq ,  goo.gl/images/uQzuDJ

เนื่องจากเป็นบริการที่เน้นเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นสำคัญ รถยนต์ที่จะใช้ในการหารายได้จาก Grab Car จึงต้องได้มาตรฐานเช่นกัน โดยข้อกำหนดสำคัญของ Grab Car ระบุว่า รถที่จะนำมาใช้ต้องมีอายุไม่เกิน 10 ปี หรือผลิตตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นไป

ในกรณีที่เป็นรถกระบะต้องประเภท 4 ประตูเท่านั้น และมีอายุไม่เกิน 5 ปี หรือผลิตตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นไป ทั้งนี้หากเรามีรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่ผลิตตั้งแต่ปี 2013 เช่น Toyota Harrier, Camry, Fortuner, CHR หรือเป็น Honda Accord, CRV, HRV รวมถึงรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ของ Nissan, Mazda, BMW ฯลฯ สามารถสมัครเข้าร่วมGrabCar Plus หรือ GrabCar Luxe ที่มีค่าตอบแทนสูงขึ้นได้

2.สามารถเลือกสมัครได้ 4 ช่องทาง

i4

ภาพจาก goo.gl/images/RrP2BK

ผู้ที่สนใจสมัครหารายได้กับ GrabCar ต้องเตรียมเอกสารให้ครบคือ บัตรประจำตัวประชาชน, ใบขับขี่รถยนต์, เล่มจดทะเบียนรถยนต์, พรบ.รถยนต์, สมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทยหรือไทยพาณิชย์

ในกรณีที่ไม่ได้ใช้รถยนต์ตัวเองในการทำงาน จำเป็นต้องมีหนังสือยินยอมให้ใช้รถยนต์ด้วย และหากผู้สมัครมีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป จะต้องมีการตรวจสุขภาพเพื่อนำใบรับรองแพทย์มาเป็นเอกสารยืนยันเพิ่มเติมได้ ทั้งนี้เราสามารถเลือกสมัคร GrabCar ได้ 4 ช่องทางคือ

  1. สมัครขับ GrabCar กรุงเทพฯ ออนไลน์ โดยคลิ๊กไปที่ www.grab.com/th/driver จากนั้นทำตามขั้นตอนจนเสร็จสิ้น
  2. สมัครขับ ณ Grab สำนักงานใหญ่ ที่อาคารธนภูมิ ชั้น 30 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี ในเวลาทำการตั้งแต่วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00-18.00 น.
  3. สมัครขับ ณ ตัวแทนรับสมัคร (GrabNetwork)
  4. สมัครขับ ณ สถานีให้บริการ NGV ซึ่งสามารถตรวจสอบวันและเวลาของสถานีบริการล่วงหน้าได้

3.มีหลายรูปแบบบริการให้เราเลือกหารายได้

i5

ภาพจาก www.grab.com/th/driver

  • GrabCar นับเป็นแอพพลิเคชั่นที่ให้บริการหลากหลายมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริการจึงครอบคลุมทั้งรถแท็กซี่ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ผู้ที่สนใจสมัครGrabCar จึงสามาถเลือกรูปแบบต้องการได้ซึ่งมีหลายอย่างเช่น
  • GrabCar Plus เหมาะกับคนที่มีรถยนต์รุ่นใหม่
  • GrabCar Luxe สำหรับคนที่มีรถยนต์แบบพรีเมี่ยม
  • GrabRent เป็นบริการให้รถเช่าสำหรับลูกค้าที่อยากขับรถเอง ซึ่งมีกำหนดชัดเจนว่ารถที่จะเข้าร่วมต้องยี่ห้อไหน รุ่นไหน
  • GrabTaxi สำหรับคนที่ขับแท็กซี่และต้องการมีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น
  • GrabBike Win สำหรับคนขับขี่มอเตอร์ไซด์ใช้หารายได้เพิ่มเติม

นอกจากนี้ยังมีบริการอย่าง แกร็บต่างจังหวัด, GrabFood, GrabExpress, GrabGoldX ซึ่งคนที่สนใจสมัครสามารถคลิ๊กดูรายละเอียดของแต่ละบริการ เพื่อกำหนดแนวทางในการสมัครให้กับตัวเองได้

4.มีแคมเปญและกิจกรรมที่ดีต่อเนื่อง

i6

ภาพจาก goo.gl/XNt3KX

เพียงแค่เป็นพาร์ทเนอร์กับ GrabCar นอกจากรายได้ที่มากขึ้นยังมีสิทธิประโยชน์และส่วนลดร้านค้าต่างๆ อีกมากมาย รวมถึงการให้ผู้ขับ GrabCar ได้มีโอกาสพบเจอประสบการณ์ใหม่ๆ ผ่านกิจกรรมที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งการพักผ่อน ชมวิว ทานอาหารมื้อหรู กิจกรรมเพื่อสังคม

i7

ภาพจาก goo.gl/YGQXUU

รวมถึงการสร้างแรงจูงใจในการทำงานต่างๆ เช่น โครงการ Grab your Dream “มุ่งสู่เส้นชัยไปกับแกร็บ ที่สนับสนุนให้ผู้ขับแกร็บทำเป้าหมายในชีวิตให้เป็นจริง โดยมีการมอบรางวัลให้ผู้ชนะในโครงการนี้ถึง 30,000 บาท

5.แนะนำเพื่อนมาขับกับรับเงินได้

i1

ภาพจาก goo.gl/RoHrMT

เพื่อเป็นการขยายฐานบริการให้มากขึ้น GrabCar จึงได้จัดโปรโมชั่นแนะนำเพื่อนสำหรับคนที่เป็นสมาชิกอยู่แล้วหากแนะนำเพื่อนไม่ว่าจะมีรถหรือไม่มีรถก็สมัครได้ เพียงแค่เริ่มชวนเพื่อนจะได้รับโบนัส 1,500 บาท ต่อ 1คน (ขับ 7 รอบใน 7 วัน) และจะได้รับโบนัสเป็น 5,000 บาท ต่อการแนะนำทุกๆ 5 คน (ขับ 7 รอบใน 7 วัน)

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพคือ หากเราแนะนำเพื่อนรวม 3 คนและทุกคนผ่านเงื่อนไขจะได้โบนัสรวม 4,500 บาท และถ้าสามารถแนะนำครบ 5 คนได้ภายใน 6 เดือน จะมีโบนัสบวกเพิ่มให้อีก 5,000 บาทด้วย

ค่าบริการของ GrabCar เริ่มต้นที่ 65 บาท แต่ถ้าเป็น GrabPlus จะเริ่มที่ 150 บาท รายได้ของคนขับ Grab จะมาจากการหักส่วนต่างที่ Grab จะคิด 25% ต่อรอบ เทคนิคการขับ Grab ให้มีรายได้ดีๆ ให้เลือกเวลารับงานในช่วงเวลาที่การจราจรติดขัดน้อย โดยเฉพาะช่วง 4-5 ทุ่ม พยายามตีรถเปล่าให้น้อยที่สุด และควรขับรถให้สุภาพ

เคารพกฎจราจร ไม่ขับเร็ว ไม่เล่นมือถือขณะรถติดไฟแดง รถต้องสะอาด เพื่อเป็นการรักษาดาวของตัวเองให้อยู่สูงๆ ไว้จะได้มีงานป้อนเข้ามาตลอด คนที่ทำGrab จริงจังจะมีรายได้เฉลี่ยหลังหักค่าน้ำมันต่อวันเฉลี่ย 1,000-1,200 บาท แต่ก็ต้องแลกกับความขยันและอดทนมากขึ้นแต่จะมีเงินใช้อย่างสบายใจแน่นอน


SMEs Tips

  1. รถยนต์ที่ใช้ต้องมีอายุไม่เกิน 10 ปี
  2. สามารถเลือกสมัครได้ 4 ช่องทาง
  3. มีหลายรูปแบบบริการให้เราเลือกหารายได้
  4. มีแคมเปญและกิจกรรมที่ดีต่อเนื่อง
  5. แนะนำเพื่อนมาขับกับรับเงินได้

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

อ้างอิงจาก https://bit.ly/356eB6e

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด