สงครามปั๊มน้ำมัน! ยุคคิดใหม่ทำใหม่ให้ดีกว่าเดิม

น่าจะเป็นข่าวร้อนแรงประจำสัปดาห์ในกรณีที่มีข่าวออกมาว่าสถานีบริการน้ำมันยักษ์ใหญ่อย่าง ปตท. มีแนวโน้มที่จะแยกทางกับ 7-11 ที่นับเป็นธุรกิจร้านสะดวกซื้ออันดับหนึ่งของประเทศไทยเช่นกัน

มีการวิเคราะห์วิจารณ์กันไปต่างๆนาๆถึงผลกระทบที่ใครจะได้หรือใครจะเสียหากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นจริงๆ ผู้สันทัดกรณีในแวดวงการลงทุนเองก็ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับความน่าจะเป็นของเรื่องนี้ทั้งที่คิดว่าน่าจะเป็นแค่กระแสข่าวธรรมดา อย่างไรก็ตาม

www.ThaiSMEsCenter.com ก็ได้ตามติดเรื่องนี้อยู่เช่นกันเพราะความเป็นค่ายยักษ์ใหญ่ของทั้งคู่เมื่อเกิดการเคลื่อนไหวแต่ละทีงานนี้ก็ต้องมีแรงกระเพื่อมเป็นธรรมดา

อย่างไรก็ตามกับกระแสข่าวที่ออกไปนั้นทาง เฟชบุ๊กเพจ PTT News https://www.facebook.com/PTTNews เองก็ได้ออกมายืนยันในเรื่องนี้ว่า ทาง ปตท.ยังคงเป็นพันธมิตรที่ดีกับเซเว่นอีเลฟเว่นเช่นเดิม คำถามต่อมาคือ ถ้าอย่างงั้นมันเกิดอะไรกันขึ้นถึงได้มีข่าวทำนองนี้เล็ดลอดออกมาให้เราได้ฮือฮากัน วิเคราะห์กันถึงเกมส์การตลาดว่าปัจจุบันธุรกิจสถานีบริการน้ำมันนั้นจะอาศัยการขายน้ำมันอย่างเดียวคงไม่ได้

กระแสของ Non-oil กำลังมาแรงมาก เพราะขนาดยักษ์ใหญ่อย่าง ปตท.เอง รายได้จากการขายน้ำมันหดตัวลงอยู่ที่ 36% (ลดลงไป 1% จากครึ่งปีแรก) จึงต้องมีการเร่งบูรณาการรายได้ในส่วนอื่นมาทดแทน ก็วิจารณ์กันไปอีกว่า เรื่องนี้เหมือนกับเป็นการโยนหินถามทาง เพื่อนำไปสู่การเจรจาต่อรองระหว่างสองธุรกิจยักษ์ใหญ่หรือไม่

ปตท.

ภาพจาก goo.gl/uUMHTr, goo.gl/TMbmyH

ลองมาดูตัวเลขและความสอดคล้องในคำว่าพันธมิตรของ ปตท.และ เซเว่นอีเลฟเว่นที่ปัจจุบันสาขาของ 7-11 ในปั๊มปตท. คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10% กว่าๆ เมื่อเทียบกับจำนวนสาขา 7-11 ทั้งหมดราว 10,000 สาขาโดยปัจจุบันมีร้านเซเว่นอีเลฟเว่นเปิดให้บริการแล้วในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. กว่า 1,400 แห่งทั่วประเทศนอกจากนี้ทั้งคู่ก็ยังมีแผนงานที่จะขยายสาขาร่วมกันให้ถึง 1,700 แห่งภายใน 4-5 ปีต่อจากนี้ด้วย

หากเกิดการแยกทางจริงๆ ซีพีออลล์ก็คงได้รับผลกระทบอยู่บ้างกับการตั้งเป้าตัวเองที่จะขยายสาขาให้ได้ถึง 13,000 สาขาภายในปี 2564 ในส่วนของปตท.ก็เช่นกันแม้จะมีร้านสะดวกซื้ออย่าง Jiffy แต่โดยภาพรวมแล้วลูกค้าทั่วไปก็ยังติดใจการให้บริการของ เซเว่นอีเลฟเว่นมากกว่า แต่หากในอนาคต ปตท.มีการปรับปรุงรูปแบบบริการของ Jiffy ให้ดีกว่าเดิมถึงตอนนั้นก็คงเป็นอีกเรื่องหนึ่งว่าจะซื้อใจลูกค้าได้มากน้อยอย่างไร

3

ภาพจาก goo.gl/8MyuGa

แต่ก็อย่างที่กล่าวไปว่านี่ไม่ใช่แค่เรื่องของ ปตท.กับ เซเว่นอีเลฟเว่นเท่านั้น ในแง่การตลาดนี่คือบริบทหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นความสำคัญของธุรกิจแบบ None-Oil มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันสถานีบริการในลำดับรองๆลงไปก็มีการขยับตัวเพื่อสู้ในเรื่องนี้มากขึ้นที่มีตัวอย่างให้เห็นอย่างชัดเจนก็คือ ปั๊มบางจากที่ได้มีการนำเข้าแฟรนไชส์ร้านสะดวกซื้ออย่าง SPAR ของเนเธอร์แลนด์ เชนร้านสะดวกซื้ออย่าง SPAR นั้นแม้ชื่อชั้นจะไม่คุ้นหูเหมือน 7-ELEVEN, Family Mart หรือ 108 Shop

แต่นี่ก็คือธุรกิจที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1932 และปัจจุบันได้กระจายสาขาไปกว่า 12,500 แห่งใน 45 ประเทศทั่วโลกภายใต้คอนเซปต์ของร้านที่เน้นมาตรฐานอาหารสด คัดสรรแบบคุณภาพ คุ้มค่าคุ้มราคาที่ซื้อ โดยบางจากลงทุนในเรื่องนี้ไปกว่า 3,000 ล้านบาทและตั้งเป้าที่จะเปิดให้ครบ 300 สาขาภายในปี 2563 ซึ่งนับถึงตอนนี้ร้าน SPAR ในปั๊มบางจากมีเปิดให้บริการไปแล้วทั้งหมด 7 สาขา

4

ภาพจาก goo.gl/5xrSMi

ข้ามมาดูอีกหนึ่งแบรนด์ปั๊มน้ำมันที่เราคุ้นเคยกันดีอย่าง ปั๊มเชลล์ที่มองการเติบโตว่าอัตราส่วนยอดขายน้ำมันใน5เดือนแรกของปี 2017 ที่โตประมาณ 1.3% รายได้ของ shell นั้นโตเหนือภาพรวมตลาดได้เล็กน้อย ก็นับว่าเป็นสัญญาณที่ต้องเร่งปรับตัว

เพื่อสร้างรายได้ให้มากขึ้นโดยนับแต่นี้ shell ก็มีแผนที่จะบูรณาการใหม่เช่นกันเริ่มด้วยการปรับภูมิทัศน์ภายในปั๊มใหม่ให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น เป็นการยกระดับการให้บริการทั้งหัวจ่ายน้ำมัน , ร้านค้า , ห้องน้ำ ให้มีความโมเดิร์นกว่าที่เป็นอยู่ ปัจจุบันปั๊มshell นั้นมีสาขา 517 แห่งทั่วประเทศ และมีร้านสะดวกซื้ออย่าง Select จำนวน 80 สาขา

5

ภาพจาก goo.gl/8R7LWj

รวมถึงร้านเบเกอรี่อย่าง Deli Café อีก 51 สาขาซึ่งทั้งหมดนี้ก็อยู่ในข่ายที่จะได้รับการปรับปรุงใหม่หมดด้วยเช่นกัน นอกจากนั้น shell ยังตั้งเป้าในการขยายสาขาเพิ่มอีก 40 แห่งภายในปี 2560 ซึ่งมีทั้งที่บริษัทจะลงทุนเองและการร่วมมือเป็นพาร์ทเนอร์กับผู้ลงทุนรายต่างๆ

6

ภาพจาก goo.gl/NL1e4C

มองมาถึงตรงนี้เมื่ออันดับ 1 อย่างปตท.ก็ขยับ อันดับสองอย่าง บางจากก็มีการเคลื่อนไหว การตลาดอันดับ3 อย่าง shell ก็ไม่ยอมให้คู่แข่งทิ้งห่าง ที่เหลือก็คงเป็นหน้าที่ของสถานีบริการลำดับรองๆลงไปที่จะต้องคิดวิเคราะห์กันให้ดีว่าต่อจากนี้จะงัดกลยุทธ์ไหนออกมาสู้ เพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดของตัวเองเอาไว้ให้เหนียวแน่น

เพราะอย่างที่กล่าวว่าเดี๋ยวนี้สถานีบริการน้ำมันเป็นเหมือนจุดพักผ่อนที่ลูกค้ามุ่งหวังในบริการด้านอื่นๆที่ไม่ใช่แค่การขายน้ำมันอย่างเดียวเท่านั้น การวางแผนในงานบริการของปั๊มน้ำมันเป็นเรื่องสำคัญมาก การชี้วัดความอยู่รอดของธุรกิจขึ้นอยู่กับสิ่งเหล่านี้อย่างแท้จริง

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด