สงครามการค้าไม่กระเทือน! Walmart เตรียมปิดสาขาใหม่ 500 แห่งในจีน 5-7 ปีข้างหน้า

แม้ว่าข่าว Walmart ร้านค้าปลีก สัญชาติอเมริกัน ได้ประกาศปิดสาขาทั่วโลกมาอย่างต่อเนื่อง และปิดเพิ่มอีกอย่างน้อย 17 แห่งใน 11 รัฐของสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ร้านค้าในพื้นที่ใกล้เคียงตลาดในเท็กซัส, หลุยเซียน่า, อินดีแอนา, แอริโซนา, แคลิฟอร์เนีย, แคนซัส, เซาท์แคโรไลนา, นิวแฮมป์เชียร์, เทนเนสซี, เวอร์จิเนียและวอชิงตันภายในต้นปี 2563 

แต่ล่าสุด Walmart ผู้ค้าปลีกในสหรัฐอเมริกา ได้วางแผนที่จะเปิดสาขาใหม่ 500 แห่งในประเทศจีนภายใน 5-7 ปีข้างหน้า แสดงให้เห็นถึงสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของ Wallmart ในประเทศจีน

ร้านค้าปลีก

ภาพจาก bit.ly/35KxZ63

การขยายตัวจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าของบริษัท Walmart ในดินแดนของจีนจะปรากฏตัวขึ้นในปี 2566 ซึ่งถือเป็นช่วงที่หลากฝ่ายคาดการณ์ว่า ร้านขายของชำสัญชาติอเมริการายนี้ จะเผชิญกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ในขณะที่จีนและผู้บริโภคชาวจีนยังคงซื้อของจาก Walmart ซึ่งมีการเติบโต 6.3% ต่อปีในไตรมาส 3 ขณะที่การเติบโตทั่วโลกในช่วงระยะเวลาเพียงร้อยละ 2.5

นอกจากนี้ Walmart เตรียมที่จะปรับปรุงรูปแบบร้านค้าใหม่มากกว่า 200 แห่งในประเทศจีนในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า รวมถึงการติดตั้งเช็คเอาต์แบบบริการตนเอง โดยใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าของจีน

ปัจจุบัน Walmart China เปิดดำเนินการมากว่า 20 ปีในจีน ปัจจุบันมีสาขาราว 430 สาขา แต่ส่วนแบ่งทางการตลาดกลับต่ำเตี้ย อยู่ที่ 1.7% เท่านั้น จากมูลค่าตลาดค้าปลีกที่สูงถึง 692,000 ล้านเหรียญ หรือราว 21.4 ล้านล้านบาท

2

ภาพจาก bit.ly/2pRIHbv

สำหรับบริษัท Walmart การเติบโตเปรียบเสมือนการเข็นครกขึ้นภูเขา ในปี 2018 ยอดขายเติบโตจากปี 2017 เพียง 0.3% เท่านั้น แต่ก็ยังมีการเปิดสาขาเพิ่มอีก 33 สาขาในปีเดียวกัน และในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทางบริษัทก็ประกาศว่าจะลงทุนอีก 1,200 ล้านเหรียญสำหรับการปรับปรุงสาขา พัฒนาระบบการขนส่งรวมไปถึงการเปิดสาขาใหม่ๆ ใน 10 ปีข้างหน้า

ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีเหตุผลมากมายที่ทำให้ผู้ค้าปลีกจากต่างชาติ ไม่สามารถแข่งขันในตลาดจีนได้ เริ่มตั้งแต่การปรับตัวให้เข้ากับความชอบของท้องถิ่น การเพิ่มขึ้นของค่าเช่า และความขัดแย้งกับหุ้นส่วนที่เป็นคนจีน แต่สิ่งที่เป็นประเด็นสำคัญที่สุด น่าจะเป็นเรื่องของสินค้าที่ไม่มีความโดดเด่นเฉพาะตัว

1

ภาพจาก bit.ly/2KShFYU

ดังนั้น ผู้ค้าปลีกต่างประเทศที่ยังหลงเหลืออยู่ในจีน ได้แก่ Walmart, Costco จากอเมริกา และ Aldi จากประเทศเยอรมนีมีแผนที่จะเริ่มใช้กลยุทธ์ในการนำเข้าสินค้า ที่เป็นตราสินค้าหรือยี่ห้อของตัวเอง (House Brand) เข้ามาขายมากขึ้น และจะหาพันธมิตรที่เป็นบริษัทจีน สำหรับการขายผ่านระบบออนไลน์ ต้องติดตามกลยุทธ์ธุรกิจ Walmart ในอีก 5-7 ปีข้างหน้าต่อไป


คุณผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/document
เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี เปิดร้าน www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php

อ้างอิงข้อมูล
https://bit.ly/35KxZ63

แหล่งข้อมูลบทความจาก https://bit.ly/3j6FWMK

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช