รวม 25 เสื้อผ้าน่าขาย! ยอดนิยมในตลาดนัด

ในตลาดนัดทุกที่เราจะเห็นร้านขายเสื้อผ้าจำนวนมาก บางทีมากมายจนเรารู้สึกว่าแบบนี้เขาจะขายกันหมดเหรอ? แต่เราก็รู้อีกว่าจุดดีของร้านขายเสื้อผ้าไม่เหมือนกับร้านขายอาหารเพราะว่าเป็นสินค้าไม่มีอายุจัดเก็บหมายถึงวันนี้ขายไม่หมด

พรุ่งนี้ มะรืนนี้ก็ยังเอามาขายได้ และหากถามว่าอยากลงทุนเปิดร้านขายเสื้อผ้าบ้างจะต้องมีทุนเท่าไหร่ เบื้องต้นแนะนำสัก 5,000 – 8,000 บาท สำหรับการเปิดร้านเล็กๆ โดยอาจจะเริ่มไปรับเสื้อยืดมาขาย ไปรับเสื้อผ้าจากประตูน้ำ

หรือแหล่งเสื้อผ้าราคาถูก ต้นทุนแล้วแต่ชนิดของเสื้อผ้า อาจจะ 50-100 บาท ราคาขายอาจจะเริ่มที่ 150-180บาท แล้วแต่ชนิดเสื้อผ้าเช่นกัน บางคนที่ยึดอาชีพเปิดร้านขายเสื้อผ้าตามตลาดนัดทำจนชำนาญมีรายได้เดือนละหลายหมื่นบาท ยอดขายก็ตามภาวะเศรษฐกิจ ทั้งนี้ถ้ายังไม่รู้ว่าจะเลือกขายเสื้อผ้าแบบไหน

อย่างไรดี www.ThaiSMEsCenter.com ได้รวบรวมเอา 25 ชนิดเสื้อผ้าน่าขายมาฝากเป็นแนวทางสำหรับคนอยากลงทุนในธุรกิจนี้

1. เสื้อยีนส์-กางเกงยีนส์

ยอดนิยมในตลาดนัด

ถือว่าฮิตสุดและมีให้เห็นมากที่สุดในทุกตลาดนัดมีทั้งแบบแฟชั่นตามสมัย และยีนส์ดีไซน์แบบวินเทจรุ่นปู่รุ่นพ่อตอบโจทย์กับผู้สวมใส่ในวงกว้างตั้งแต่วัยเด็ก – วัยผู้ใหญ่ เป็นข้อดีที่ทำให้เสื้อผ้าสไตล์นี้ขายได้ตลอด นอกจากนี้ยังสามารถสร้าง
แบรนด์ด้วยการเจาะกลุ่มเป้าหมายให้ลึกลงไปเพื่อเพิ่มมูลค่าให้สินค้าได้อีกด้วย

2. เสื้อเปล่า

10

เป็นเสื้อยืดยอดฮิตที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าทุกฤดูกาล โดยถ้าเป็นทรงชิลล์ๆ ใส่รับลมอยู่บ้าน อย่างคอกลม คอวี ที่ขายตัวละประมาณ 100 บาท ตามตลาดนัดส่วนใหญ่ จะทำกำไรที่ตัวละประมาณ 40 – 50 บาท แต่ถ้าเป็นทรงอินเทรนด์แบบครอป ทรงไหล่ตก (Oversize) ที่ขายตัวละ 120 – 200 เมื่อหักต้นทุนแล้วจะได้กำไรสูงสุดอยู่ที่ประมาณตัวละ 150 บาท ซึ่งสีพื้นฐาน เช่น สีม่วง สีส้ม สีเหลือง สีชมพู และสีเอิร์ธโทนต่างๆ

3. เสื้อลายดอก

3

เสื้อผ้าลายดอกมักจะขายดีตามเทศกาลเช่นปีใหม่ หรือสงกรานต์แต่ความจริงเสื้อลายดอกหรือเสื้อฮาวายได้รับความสนใจตลอดปีในตลาดเมืองไทยเสื้อฮาวายและเสื้อลายดอกมักจะวางไว้บนแผงเดียวกัน และมักจะมีแหล่งขายส่งอยู่ที่เดียวกันด้วย โดยมีทั้งแบบสั่งตัด หรือขายเหมากระสอบ ที่มีต้นทุนตกอยู่ตัวละประมาณ 70 – 100 บาท ซึ่งส่วนใหญ่จะขายดีเป็นพิเศษในช่วงฤดูร้อนที่ใครๆ ก็ต่างมาซื้อไปสวมใส่ มีกลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติ

4. สปอร์ตแวร์

12

สปอร์ตแวร์ก็คือชุดชั้นในสำหรับการออกกำลังกาย ยิ่งขายดีเมื่อคนสนใจเรื่องสุขภาพและหันมาออกกำลังกายมากขึ้น มีตั้งแต่สปอร์ตแวร์แบบเข้าโรงยิม ที่เป็นลักษณะคล้ายๆเสื้อชั้นในแบบครึ่งตัว เป็นผ้าที่มีเส้นใยยืดหยุ่นได้ดีและหดกลับได้ หรือจะเป็นสปอร์ตบรา จ็อกเกอร์แพรส์ หรือเสื้อคลุมออกกำลังกาย แต่สินค้านี้ต้องยอมรับก่อนว่าต้นทุนค่อนข้างสูงประมาณ 100 – 250 บาท ราคาขายโดยส่วนใหญ่จึงไม่ต่ำกว่าตัวละ 300 ขึ้นไป หรือบางทีต้นทุนอาจจะต่ำกว่านี้ได้ก็ขึ้นอยู่กับกรรมวิธีในการผลิตและคุณภาพสินค้า

5. เสื้อลูกไม้

4

เสื้อผ้าลูกไม้สามารถขายได้ตลอดปี และจะยิ่งขายดีมากขึ้นถ้าได้ทำเลร้านในตลาดวินเทจ โดยราคาส่งของเสื้อ – เดรสลูกไม้แฟชั่นจะอยู่ที่ราวๆ 70 – 150 บาทขึ้นอยู่กับดีไซน์และปริมาณผ้าที่ใช้ตัดเย็บ สามารถทำกำไรได้ประมาณ 80 – 150 บาท ต่อหนึ่งตัว ซึ่งเสื้อผ้าลายลูกไม้นี้อาจจะเป็นจากงานฝีมือของเราเองที่ใช้การถักทอผสมผสานกับเนื้อผ้าหรือจะผสมผสานกับเนื้อผ้าอื่นๆ ให้ดูแตกต่างจะช่วยเพิ่มมูลค่าขายได้ราคามากขึ้น

6. เสื้อผ้าลายปัก

11

จากเสื้อผ้าธรรมดามาเพิ่มเสน่ห์ให้ดูน่าสนใจด้วยการปักลายเข้าไปก็ทำให้เป็นสินค้าน่าสนใจมากขึ้น สามารถปักลายได้ตั้ง่แต่เสื้อยืดไปจนถึงกางเกงยีนส์แล้วแต่เราจะดีไซน์ สามารถใส่ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าสามารถทำได้ทั้งร้านขายเสื้อผ้าลายปักที่เราดีไซน์เอง หรือจะไปคัดเลือกเอาเสื้อผ้าลายปักอินเทรนด์ เช่น ดอกไม้ สัตว์ แพทเทิร์น ฯลฯ มาขายต่อก็ได้เช่นกัน

7. แฟชั่นกลิตเตอร์

16

ภาพจาก bit.ly/3eO7z7a

แฟชั่นกลิตเตอร์เป็นเสื้อผ้าสไตล์ระยิบระยับที่ขายดีทั้งหน้าร้าน หน้าเฟซฯ และในโซเชี่ยล โดยสินค้าจำพวกชุดเดรสปักเลื่อม เสื้อกากเพชร กระโปรงกลิตเตอร์ ฯลฯ จะมีต้นทุนประมาณตัวละ 100 – 200 บาท ซึ่งเมื่อนับมาหักลบกับราคาขายในท้องตลาดที่อยู่ราวๆ 250 – 400 ก็เรียกว่าได้กำไรครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว

8. เดรสยาว

9

สำหรับคุณผู้หญิงทั้งหลายอาจนิยมเดรสแบบยาวๆ ซึ่งเดรสยาวๆ แบบนี้ถือว่าอินเทรนด์ในทุกยุคราคาต้นทุนประมาณตัวละ 200 บาท และมีราคาขายตามท้องตลาดอยู่ราวๆ 300 – 500 บาท เป็นอีกหนึ่งสินค้าที่น่าขาย ยิ่งถ้าได้ลายยอดฮิตอย่างโบฮีเมียน ดอกไม้ หรือลายแพทเทิร์นแบบเสื้อฮาวายมาวางขายจะยิ่งขายดีมากขึ้น

9. เสื้อคลุม

7

อย่าคิดว่าอยู่เมืองไทยแล้วเสื้อคลุมเหล่านี้จะขายไม่ออก เพราะว่าส่วนใหญ่จะใส่เป็นแฟชั่นโดยเฉพาะกับสุภาพสตรี นักเรียน นักศึกษา คนวัยทำงานต่างๆ เป็นสินค้ายอดฮิตที่ทำกำไรให้พ่อค้าแม่ค้าได้ตลอดทั้งปี มีดีไซน์ที่หลากหลาย เช่น ทรงปีกค้างคาว ทรงกิโมโน ทรงสูท ให้ผู้สวมใส่ได้เลือกใช้ตามสถานการณ์ต่างๆ และที่น่าสนใจกว่าก็คือราคาต้นทุนที่ตกอยู่ตัวละประมาณ 100 – 200 บาท ที่ขายในราคาตลาดได้ 300 – 500 บาท

10. เสื้อยืดวินเทจ / เสื้อยืดสกรีน

6

เสื้อยืดลายวินเทจ หรือเสื้อยืดสกรีนลาย ข้อความ รวมถึง โลโก้แบรนด์ต่างๆ คำคม ภาพวาด บันทึกการทัวร์คอนเสิร์ตของวงดนตรี ที่ต่างมีความหมายล้ำลึกตามมุมมองของคนซื้อจนทำให้เสื้อยืดเหล่านี้ขายดีอยู่เสมอ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมีราคาทุนอยู่ที่ตัวละ 80 – 100 บาท และมีราคาขายประมาณตัวละ 150 – 200 บาท หรือแพงขึ้นไปตามความหายากและความซับซ้อนของการสกรีน

11. ชุดชั้นในสุภาพบุรุษ-สุภาพสตรี

6

ขายดีไม่แพ้เสื้อผ้าทั่วไปก็บรรดาชุดชั้นในทั้งของสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี ที่มีตั้งแต่ยกทรงแบบต่างๆ กางเกงชั้นในแบบต่างๆ มีหลายรุ่น หลายยี่ห้อ หลายรูปแบบให้เลือกได้ตามต้องการ นี่คือสินค้าที่พ่อค้าแม่ค้าสามารถไปรับมาขายจากแหล่งสินค้าราคาถูกหรือเลือกรับมาจากโรงงานมาจำหน่ายขายต่อ ราคาก็ตามแต่ต้นทุนที่ได้รับมา จะขายดีแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับการตลาดของตัวเองและปริมาณคนในตลาดนั้นๆ เป็นสำคัญ

12. เสื้อกีฬา

15

ภาพจาก bit.ly/3fNgLub

ถ้าไปเดินตลาดนัดเราจะได้เจอกับเสื้อกีฬาโดยเฉพาะเสื้อฟุตบอลทีมต่างๆ ที่มีทั้งสกรีนชื่อนักฟุตบอลในดวงใจ และก็หมายเลข หรือบางทีอาจจะมีโลโก้ของทีมฟุตบอลที่รัก (แต่ระวังเรื่องลิขสิทธิ์ต้องตรวจสอบให้ดี) ซึ่งเสื้อกีฬาเหล่านี้จะขายดีมากและส่วนใหญ่ราคาจับต้องได้เนื่องด้วยไม่ใช่ของแท้ แต่เป็นเสื้อกีฬาทั่วไปที่เนื้อผ้าอาจจะไม่ได้มีคุณภาพเทียบเท่าเสื้อกีฬาของจริง แต่สำหรับคนทั่วไปแล้วแค่ได้ใส่เสื้อกีฬาเหล่านี้ก็มีความสุขมากขึ้น

13. เสื้อเชิ้ต-เสื้อทำงานแขนยาว

ๅภ

สำหรับคนทำงานออฟฟิศ หรือคนที่อยากแต่งตัวดูดีมักจะออกมาหาซื้อเสื้อผ้าจำพวกเสื้อเชิ้ต เสื้อทำงานแขนยาว ซึ่งมีหลายสี หลายแบบให้เลือก ราคาก็จะแตกต่างกันไปตามแต่ชนิดของผ้า คุณภาพในการตัดเย็บ และยี่ห้อ ส่วนใหญ่จะใส่เพื่อสมัครงาน หรือคนที่ได้งานทำใหม่ๆ อยากแต่งตัวให้ดูดี ในราคาที่เบาๆ เพราะถ้าไปซื้อเสื้อผ้าเหล่านี้จากห้างสรรพสินค้าราคาจะแพงกว่าในตลาดนัดมาก

14. เสื้อผ้ามือสอง

42

นอกจากเสื้อผ้ามือหนึ่งเสื้อผ้าทั่วไป ในตลาดนัดเราจะเห็นเสื้อผ้ามือสองวางขายจำนวนมาก มีทั้งที่แขวนราวหรือบางทีก็กองสุมๆไว้ให้เราเลือกได้ตามต้องการ ส่วนใหญ่จะคละแบบ คละไซซ์ คละยี่ห้อไม่ซ้ำกัน มีตั้งแต่เสื้อกันหนาว ชุดแซ็ก กางเกง กระโปรง เสื้อยืด เสื้อโค้ต ทั้งของผู้หญิงและของผู้ชาย ส่วนมากไปรับจากแหล่งสินค้ามือสอง ที่กำไรในการขายค่อนข้างดี พ่อค้าแม่ค้าบางคนรับในปริมาณมาก ต้นทุนก็ยิ่งถูกลง เช่น เสื้อผ้า 1,000 ตัว ต้นทุนตัวละ 35 บาท = 35,000 บาท หากรับไปขายต่อตัวละ 100 บาท จะมีรายได้ 100,000 บาท หักทุน 35,000 เหลือกำไร 65,000 บาท (ถ้าขายหมด)

15. เสื้อกันหนาว

17

ภาพจาก bit.ly/2DWzsNI

แม้เมืองไทยจะอากาศร้อนเป็นส่วนใหญ่แต่เสื้อหนาวที่ส่วนใหญ่จะใส่เป็นแฟชั่นก็ยังได้รับความสนใจและขายดี และมักจะไม่เน้นที่ความหนาของเสื้อมากนักแต่เน้นที่รูปทรงและดีไซน์ สีสันสวยงาม บางคนนำมาใส่แทนเสื้อคลุมสำหรับออกไปทำงาน ไปเรียนหนังสือ ราคาต้นทุนก็แล้วแต่แหล่งที่รับสินค้ามา ราคาขายก็จะผันแปรไปตามต้นทุน โดยปกติราคาตามตลาดจะขายอยู่ที่ตัวละ 150-300 บาท ขึ้นอยู่กับรูปทรง และดีไซน์

16. เสื้อผ้าเด็ก

17

นอกจากเสื้อผ้าผู้ใหญ่ที่ขายดี ก็มีเสื้อผ้าเด็กทั้งเด็กทารก เด็กเล็ก ที่ขายดีไม่แพ้กัน เช่นผ้าอ้อม ชุดนอน ชุดทารก ชุดเด็กเล็ก โดยเฉพาะเด็กผู้หญิงจะมีเสื้อผ้าให้เลือกซื้อมากไม่ว่าจะเป็นกระโปรงเด็ก เสื้อเด็กผู้หญิงแบบต่างๆ กางเกงเด็กผู้หญิง ซึ่งราคาตลาดนัดจะไม่แพงเป็นราคาที่คนส่วนใหญ่เอื้อมถึง แตกต่างกับการไปซื้อในห้างสรรพสินค้าที่ราคาจะสูงกว่าและคนส่วนใหญ่มาเลือกซื้อในตลาดนัดเพราะง่ายและสะดวกกว่า

17. ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน

12

อาจจะไม่ใช้เสื้อผ้าเพื่อนุ่งห่มแต่ก็ถือเป็นผ้าที่ขายดีและมีคนนิยมมากในตลาดนัด สังเกตให้ดีเราจะเห็นว่าตลาดนัดหลายแห่งมีผ้าห่มลายสวยๆ ลายการ์ตูน ลายทีมฟุตบอล หรือแม้แต่ผ้าปูที่นอนลวดลายสำหรับเด็กๆ ราคาก็แตกต่างกันไปตามแต่เนื้อผ้า ลวดลาย และการตัดเย็บ ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่รับมาจากโรงงานเพื่อจำหน่ายต่อ

18. ผ้าคลุม / ผ้าพันคอ

18

ภาพจาก bit.ly/2OLhnV5

สำหรับคุณผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะมาตลาดนัดเพื่อเลือกซื้อผ้าคลุม ผ้าพันคอสวยๆ เอาไว้ติดตัวสำหรับไปเที่ยว หรือทำงาน ซึ่งผ้าพันคอ ผ้าคลุมเหล่านี้ ก็มีหลากหลายรูปแบบแตกต่างกันไป ส่วนใหญ่เป็นผ้าเบา สีสันสวยงาม หรือบางทีอาจจะเป็นผ้าไหมพรมที่ถักทอขึ้นมาเอง ก็จะเพิ่มราคาขายได้เนื่องจากเป็นงานแฮนเมดด์

19. เสื้อห่านคู่

19

ภาพจาก bit.ly/2CAyial

เสื้อยืดห่านคู่ฮอตฮิตมากในสมัยของ จอมพล ป. พิบูลสงคราม นับอายุถึงตอนนี้ก็มากกว่า 60 ปีไปแล้ว จากเดิมที่สีของเสื้อตราห่านคู่มีเพียงสีขาว และมีแบบให้เลือกคือ เสื้อยืดคอกลม เสื้อยืดคอกว้าง และกล้ามเท่านั้น ปัจจุบันเสื้อยืดตราห่านคู่มี มากกว่า 12 สี เช่นสีเหลือง ส้ม ฟ้า น้ำเงิน กรมท่า เขียว น้ำตาล เทา ชมพู และอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มดีไซน์และเพิ่มขนาดเสื้อขนาดใหม่ๆ เข้ามา เช่นเสื้อยืดผ่าอกติดกระดุม เสื้อไร้ตะเข็บข้าง เสื้อไซส์คอวี เสื้อไซส์เล็กสำหรับผู้หญิง และเสื้อเด็ก เพื่อขยายตลาดไปยังลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ

20. เสื้อผ้าบิ๊กไซด์

13

ปัจจุบันมีพ่อค้าแม่ค้าหลายคนที่หันมาจับกลุ่มลูกค้าบิ๊กไซด์ และหาเสื้อผ้าบิ๊กไซด์มาขาย ซึ่งก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งราคาของเสื้อผ้าบิ๊กไซด์เหล่านี้ก็จะสูงกว่าเสื้อผ้าปกติ ตามแต่ขนาด รูปแบบเสื้อผ้า คุณภาพของผ้า และการตัดเย็บ สำหรับคนอ้วนทั้งหลาย ร้านเสื้อผ้าบิ๊กไซด์ในตลาดนัดถือเป็นแหล่งเสื้อผ้าที่เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก

21. กางเกงวอร์ม

20

ภาพจาก bit.ly/2WM8bUR

ในยุคที่คนสนใจเรื่องสุขภาพกางเกงวอร์มจึงขายดีและเป็นที่ต้องการของคนส่วนใหญ่โดยเฉพาะคุณผู้หญิงทั้งหลาย และไม่ใช่แค่คนที่ออกกำลังเท่านั้น กลุ่มลูกค้ายังมีจากคนทั่วไปที่อยากใส่กางเกงวอร์มเพราะใส่แล้วสบาย ไม่เกะกะ สามารถใส่ทำงาน เดินเล่น ไปเที่ยวก็ได้ ราคาของกางเกงวอร์มก็จะแตกต่างกันไปตามคุณภาพของสินค้า

22. กางเกงสแล็ค

21

ภาพจาก bit.ly/2DVsjx9

ในกลุ่มเสื้อผ้าสำหรับการทำงานนอกจากเสื้อแขนยาว เสื้อเชิ้ต บางร้านขายกางเกงสแล็คร่วมด้วย ซึ่งก็มีหลายขนาด หลายราคาแตกต่างกันไป ส่วนใหญ่จะจับกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ชายในวัยทำงาน นักเรียนนักศึกษา และหากเป็นตลาดในทำเลใกล้มหาวิทยาลัยจะยิ่งขายดีมากเป็นพิเศษด้วย

23. กางเกงขาสั้น / บ็อกเซอร์

2

กางเกงบ็อกเซอร์เป็นที่นิยมกันมานานและเราก็จะเห็นวางขายในตลาดนัดเป็นส่วนมาก ราคาของกางเกงบ็อกเซอร์ก็จะแตกต่างกันไปตามคุณภาพสินค้า ส่วนใหญ่พ่อค้าแม่ค้าจะไปรับมาจากแหล่งขายส่งหรือโรงงาน เอามาจำหน่ายขายต่อ ถือเป็นสินค้าที่ขายง่าย ขายดี และเป็นที่ต้องการของคุณผู้ชายส่วนใหญ่

24. เสื้อมัดย้อม

22

ภาพจาก bit.ly/2WHtHtV

ความแตกต่างของเสื้อมัดย้อมกับเสื้อยืดทั่วไปคือเนื้อผ้า ที่เบาสบายกว่า สีสันของเสื้อมัดย้อมจะฉูดฉาดสดใสและมีเอกลักษณ์ของตัวเองมากกว่า กรรมวิธีในการผลิตก็จะแตกต่างจากเสื้อยืดสกรีนลาย กลุ่มลูกค้าที่เลือกซื้อเสื้อมัดย้อมส่วนใหญ่เป็นคนง่ายๆ สบายๆ รักการใช้ชีวิตแบบธรรมชาติ ราคาของเสื้อมัดย้อมก็แตกต่างกันไปตามแต่กระบวนการผลิตและคุณภาพของเนื้อผ้า มีทั้งที่ทำเองและรับมาจากตัวแทนจำหน่ายอีกที

25. เสื้อสายเดี่ยว/เสื้อกล้าม

8

สำหรับคุณผู้หญิงทั้งหลาย มาตลาดนัดทั้งทีเสื้อผ้าทั่วไปอาจจะไม่โดนใจ แต่จะมองหาร้านเสื้อสายเดี่ยวที่มีจุดเด่นของสินค้า หรือบรรดาเสื้อกล้ามที่ใส่แล้วทำให้ตัวเองดูเซ็กซี่มากขึ้น ส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อตามแฟชั่น ราคาของสายเดี่ยวหรือเสื้อกล้ามก็แล้วแต่ดีไซน์และคุณภาพของเนื้อผ้า ซึ่งหากไปหาซื้อในห้างสรรพสินค้าราคาจะสูงกว่าการซื้อตามตลาดนัด

ร้านเสื้อผ้าในตลาดนัดส่วนใหญ่มักจะมีเสื้อผ้าขายมากกว่า 1 ชนิด ไม่ได้เจาะจงว่าจะขายแบบใดแบบหนึ่งอย่างเดียว ส่วนใหญ่อยากให้ลูกค้ามาที่ร้านและได้เสื้อผ้าทุกชนิดที่ตัวเองต้องการ แต่การจะเปิดร้านใหญ่ก็ต้องใช้ต้นทุนสูง พ่อค้าแม่ค้าบางคนจึงโฟกัสแค่เสื้อผ้าในบางรายการและจับกลุ่มลูกค้าโดยเฉพาะทำให้ประหยัดต้นทุนได้มากกว่า


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/3iYvMv9 , https://bit.ly/3fAV4gR , https://bit.ly/2AW4X9G

อ่านบทความเพิ่มเติม https://bit.ly/3eNWhjp

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด