ทำความเข้าใจ! Bitcoin เกี่ยวข้องกับ Blockchain อย่างไร

เชื่อว่าหลายๆ คนที่เพิ่งเริ่มทำ ธุรกรรมการเงิน ออนไลน์ หรือเริ่มสนใจศึกษาเกี่ยวกับเงินสกุลบนโลกดิจิตอลอย่าง Bitcoin (บิตคอยน์) อาจกำลังสับสนกับคำสองคำ ที่เรามักจะได้ยิน หรืออ่านผ่านได้บ่อยๆ

คำสองคำนั้น ก็คือ Bitcoin (บิตคอยน์) กับ Blockchain (บล็อกเชน) วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จะพาไปทำความเข้าใจว่า Bitcoin กับ Blockchain มีความสัมพันธ์และเกี่ยวข้องกันอย่างไร รวมถึงมีหลักการทำงานอย่างไร

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า สกุลเงิน Bitcoin (บิตคอยน์) คือ สกุลเงินดิจิตอลที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบัน แต่เพื่อนๆหลายคนอาจจะยังไม่แน่ใจว่า Blockchain (บล็อกเชน) นั้นคืออะไร

ธุรกรรมการเงิน

ซึ่ง Blockchain (บล็อกเชน) ก็คือ เทคโนโลยีที่ใช้ในการทำธุรกรรม โดยไม่ต้องผ่านบุคคลที่ 3 มุ่งหวังเพื่อจะเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรมบนโลกออนไลน์

เห็นได้ว่า Bitcoin (บิตคอยน์) กับ Blockchain (บล็อกเชน) ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน แต่ก็มีความสัมพันธ์กันเป็นอย่างยิ่ง เพราะเทคโนโลยี Blockchain (บล็อกเชน) ได้ถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยกับการจัดการสกุลเงิน Bitcoin (บิตคอยน์)

ตัวอย่างความเกี่ยวข้อง Bitcoin กับ Blockchain

kk3

สมมติว่า คุณขายเครื่องดื่ม และ ได้รับเงิน 1,000 บาท คุณไปที่ธนาคารและเปิดบัญชีเงินฝาก โดยหลังจากคุณฝากเงิน 1,000 บาท ธนาคารทำการบันทึกลงในระบบของธนาคารและในสมุดบัญชีว่า คุณมีเงิน 1,000 บาท ในสมุดบัญชีของคุณ แต่ Bitcoin ทำงานต่างจากระบบสกุลเงินธนบัตรข้างต้น

ถ้าคุณดาวน์โหลดโปรแกรมชื่อ Bitcoin wallet ซึ่งโปรแกรมจะสร้าง address หรือเรียกง่ายว่า สร้างเลขที่บัญชีของคุณ โดยเป็นของคุณโดยเฉพาะ และเวลาคุณขายเครื่องดื่มได้ ผู้ซื้อจ่าย Bitcoin มาให้ยัง Bitcoin address ของคุณ

  • ถ้าจะเทียบเคียง Bitcoin wallet คือ สมุดบัญชี
  • Address คือ เลขที่บัญชีธนาคาร
  • Block chain คือ ไฟล์ ที่ใช้ในการบันทึกข้อมูลการฝากถอนเงินของทุกๆคน
  • Bitcoin คือ ธนบัตร

หากเป็นธนาคาร ธนาคารจะบันทึกข้อมูลคุณไว้ในระบบของธนาคาร แต่ว่าระบบของ Bitcoin จะถูกบันทึกไว้ในระบบชื่อว่า “Block Chain” ซึ่ง Block Chain จะมีข้อมูลของทุกรายการธุรกรรม ที่เคยเกิดขึ้นทั้งหมด

kk4

สำหรับธนบัตรโดยปกติแล้ว จะถูกกำหนดโดยรัฐบาล และแจกจ่ายโดยธนาคาร  แต่ Bitcoin เกิดแตกต่างกัน, Bitcoin เกิดจากการคำนวณ และ แจกจ่ายให้กับ “Miners” (นักขุดทองสมัยก่อน) ซึ่ง “Miners” คือ บุคคลที่ run Bitcoin mining software บนคอมพิวเตอร์ของ Miners

โดย Mining software จะทำงานและนำรายการธุรกรรมที่เกิดขึ้นผ่าน Network และใส่เข้าไปใน Block chain โดยบุคคลที่ run Bitcoin mining software จะทำให้คุณได้รับ Bitcoin

ถ้าพูดไปแล้วเหมือนเป็นสิ่งที่ง่ายในการได้รับ Bitcoin แค่เพียง run mining software บนคอมพิวเตอร์คุณตลอดเวลา แต่ว่าจำนวนของ Miners (นักขุดทอง) ก็มีมากขึ้นตามลำดับ ทำให้โอกาสในการได้รับ Bitcoin ก็ยากขึ้น

เราจะเห็นได้ว่า คงไม่มีใครที่จะครอบครอง Bitcoin จำนวนมากได้ง่ายๆ แต่เพียงผู้เดียว การที่จะได้ Bitcoin ใหม่ จะต้องมีการลงทุนและแข่งขันกัน ดังนั้น อย่างน้อย Bitcoin ควรมีมูลค่าเท่ากับต้นทุน ในการซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์และค่าไฟฟ้าเพื่อมาเป็น Miners

ปัจจุบันแหล่งที่สามารถซื้อคอมพิวเตอร์และมีค่าไฟฟ้าที่ถูกที่สุด คือ จีน จึงทำให้ประมาณ 70% ของ Miners ทั้งหมดบนโลก มีการติดตั้งโรงคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ในประเทศจีน

kk5

มูลค่าของ Bitcoin มาจากไหน

ทุกคนคงเข้าใจคร่าวๆ แล้วว่า Bitcoin มันเป็นระบบการเงินที่แทรกแซงไม่ได้ รวมถึงมีความน่าเชื่อถือสูงมาก และแทบไม่มีความผิดพลาด โดยพื้นฐานและ Bitcoin ไม่ได้มีมูลค่าในตัวมันเอง หากเปรียบเทียบให้ง่ายที่สุด คือ มันมีลักษณะเหมือน Commodity เช่น

ทองคำ ที่ไม่ได้มีคุณค่าในตัวเอง แต่เกิดจากการให้มูลค่าของผู้ใช้งาน หรือก็คือ Demand และ Supply แต่คำถามที่น่าสนใจ คือ ด้วยมูลค่าตอนนี้มันเหมาะสมหรือเปล่ากับแค่ระบบๆ หนึ่งมีอะไรบ้างที่ทำให้มันก่อเกิดมูลค่า

หา Bitcoin ได้ที่ไหน

ในต้นปี 2018 มีตลาดแลกเปลี่ยน Bitcoin และเงินดิจิตอลสกุลอื่นๆ กว่า 9,200 แห่งทั่วโลกและยังมีตู้ kiosks ในบางพื้นที่ ตลาดแลกเปลี่ยนที่มีชื่อเสียงในระดับโลกมีหลายแห่งเช่น Coinbase ใน USA ที่เป็น Wallet สำหรับ Bitcoin และมีกระดานเทรดเช่น Bittrex Bitstamp หรือ Binance ที่จะเป็นการแลกเปลี่ยนแบบการเปิดออเดอร์

kk6

สำหรับในไทยนั้นมีผู้ให้บริการในการซื้อขาย Bitcoin ดังนี้

  1. bx.in.th กระดานแลกเปลี่ยนแห่งแรกที่เปิดตัวในไทยตั้งแต่ปี 2013
  2. tdax.com กระดานแลกเปลี่ยนที่สร้างโดยคนไทยที่เปิดตัวในปี 2017
  3. coins.co.th เป็น Wallet ที่สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยน Bitcoin ในอัตราคงที่คล้าย SuperRich
  4. satang.in.th เป็น Wallet ที่สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยน Bitcoin อีกแห่งหนึ่ง
  5. localbitcoins.co.th เป็นแพลทฟอร์มที่จับคู่ผู้ซื้อกับผู้ขายให้มาพบปะและแลกเปลี่ยน Bitcoin กันได้โดยไม่ต้องอาศัยตัวกลาง

ตลาดแลกเปลี่ยนในไทยหรือประเทศอื่นๆ ที่สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนด้วยสกุลเงินท้องถิ่น เช่น USD หรือ THB ได้นั้นจะต้องมีการเก็บข้อมูลผู้ซื้อที่เรียกว่า KYC เพื่อปฏิบัติตามหลักการต่อต้านการฟอกเงิน หรือ AML

แต่สำหรับการแลกเปลี่ยนเงินดิจิตอลด้วยกันเอง เช่น Bitcoin กับ Ethereum ไม่จำเป็นต้องทำ KYC แต่มักจะมีข้อจำกัดในการใช้งานเช่นปริมาณ Bitcoin ที่สามารถโอนออกได้ต่อวัน

kk7

คงจะได้เห็นแล้วว่า Bitcoin คืออะไร ทำงานอย่างไร ทำไมถึงมีมูลค่ามหาศาลขนาดนี้ และเทคโนโลยีอย่าง Blockchain ได้สร้างความเป็นไปได้อย่างมหาศาลแก่โลก และ Bitcoin เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเล็กๆ จุดหนึ่งเท่านั้น ในอนาคตไม่มีใครรู้ได้เราอาจจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอีกมหาศาลด้วยเทคโนโลยีนี้

ดูได้จากการยอมรับในต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ที่มีกฎหมายพร้อมที่สุด แม้ว่าในหลายๆ ประเทศ ยังคงไม่มีกฎหมายยอมรับที่ชัดเจน แต่ดูเหมือนแนวโน้มจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น เป็นที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งครับ

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com
เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี เริ่มต้นธุรกิจ goo.gl/WN2gQ9

แหล่งข้อมูล
https://goo.gl/37TjiM
https://goo.gl/YVYVx4
https://goo.gl/K1Urq7

ภาพจาก pixabay.com

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช