ไขความลับ ร้านแบบ “Kiosk” ลงทุนน้อย กำไรดี รวยเร็ว จริงไหม?

ปัญหาหนักใจของคนส่วนใหญ่ในตอนนี้คือ “รายได้ที่ไม่พอกับรายจ่าย” คนไทยมีรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนประมาณ 18,802 บาท และถ้าดูให้ลึกถึงโครงสร้างของรายได้คนไทยจะพบว่า

  • 41.14% ของคนไทยมีรายได้ต่อเดือน ต่ำกว่า 15,000 บาท
  • 30.99% มีรายได้ 15,001-30,000 บาท
  • 16.80% มีรายได้ 30,001-60,000 บาท
  • 6.22% มีรายได้ มากกว่า 100,000 บาท

และค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อครัวเรือน ตัวเลขในปี 2567 อยู่ที่ 19,319 และในปี 2568 คาดว่าจะเพิ่มเป็น 20,982-21,069 บาทต่อเดือน จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมหลายคนถึงอยากมีธุรกิจเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ แต่ก็มีปัญหาอีกว่าเงินทุนที่มีแค่เล็กน้อยหรือแทบจะไม่มีเลยจะไปลงทุนร้านใหญ่ๆ ก็คงยาก สิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดก็คือร้านขนาดเล็ก เอาสะดวกเอาเร็วที่สุดก็คือ “Kiosk” ที่เป็นเหมือนธุรกิจสำเร็จรูปแบบรับจบครบในที่เดียว หลายๆ แฟรนไชส์ก็มีแพ็กเกจนี้ให้เลือก

ไขความลับ ร้านแบบ "Kiosk"
ภาพจาก ไจแอ้นลูกชิ้นปลาระเบิด

ยกตัวอย่าง ไจแอ้นลูกชิ้นปลาระเบิด ที่มีทั้งชุดทดลองขาย , ชุดเคาน์เตอร์ตลาดนัดพกพา , ชุดเคาน์เตอร์มืออาชีพ เป็นต้น งบลงทุนก็แค่หลักพันประมาณ 3,000 – 12,000 บาท ก็ลงทุนแบบ Kiosk ได้ หรือ ชีสซี่ฟรายสแน็ค ก็มี Kiosk ชุดเริ่มต้น ราคา 28,000 บาท และอีกหลายๆแบรนด์ที่น่าสนใจก็เช่น ธงไชยผัดไทย , ฮิปสเตอร์ สเต็ก , สเต็กเด็กแนว , แซ่บเศรษฐี

จุดเด่นของ Kiosk คือมีร้าน + อุปกรณ์ + วัตถุดิบ พร้อมสอนเทคนิคการขาย คนลงทุนขอแค่มีทำเลมีที่ตั้งร้าน บางคนก็ดีหน่อยมีหน้าบ้านอยู่ย่านชุมชนคนพลุกพล่าน ก็เปิดขายได้เลยไม่ต้องเสียค่าเช่า แต่สิ่งที่น่าสนใจมันมากกว่านั้น Kiosk ลงทุนน้อยก็จริงแต่คำถามคือ “จะขายดีจริงหรือเปล่า” ในเมื่อยุคนี้คู่แข่งก็เยอะร้านเด่นๆ หรูๆ ก็มีมาก เปิดร้านแบบ Kiosk อาจจะขายได้ก็จริงแต่รายได้จะคุ้มค่าหรือจะมีเหลือมากพอให้เราเอามาเป็นเงินหมุนเวียนใช้ในชีวิตประจำวันได้ไหม

ไขความลับ ร้านแบบ "Kiosk"
ภาพจาก เจปัง

ลองมาดูแนวทางการวิเคราะห์ที่น่าสนใจเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินก่อนเลือกลงทุน

  • ประเภทสินค้าที่เหมาะกับการขายในรูปแบบร้าน Kiosk ควรเน้นกลุ่มสินค้าที่มีความต้องการสูง เช่น เครื่องดื่ม (ชา กาแฟ นม) อาหารว่าง (ลูกชิ้น ไส้กรอก) หรือขนม มักสร้างรายได้ดีกว่า เพราะเป็นสินค้า Grab-and-Go ที่ลูกค้าซื้อสะดวก
  • ทำเล: ควรเลือกพื้นที่ขายที่มีคนสัญจรหนาแน่น เช่น ในห้างสรรพสินค้า ตลาดนัด หรือใกล้สถานที่ทำงาน จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขาย

สมมุติว่าลองเลือก Kiosk ขายกาแฟ การบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบ + ค่าเช่าก็คือตัวแปรสำคัญของการเปิดร้านว่าจะมีกำไรแค่ไหน ในกรณีของร้านกาแฟ มีต้นทุนวัตถุดิบต่อแก้ว (เช่น เมล็ดกาแฟ นม แก้ว หลอด) ประมาณ 40% ของราคาขาย = 20 บาทต่อแก้ว

ไขความลับ ร้านแบบ "Kiosk"
ภาพจาก มาจิเมะ ชานมไข่มุก

ค่าใช้จ่ายคงที่อื่นๆ ก็เช่น

  • ค่าเช่าคีออส: 10,000-20,000 บาทต่อเดือน (ขึ้นอยู่กับทำเล)
  • ค่าพนักงาน: 10,000 บาทต่อเดือน (สมมติจ้าง 1 คน)
  • ค่าน้ำ-ไฟและอื่นๆ: 3,000 บาทต่อเดือน
  • ค่าซ่อมบำรุง/อุปกรณ์: 2,000 บาทต่อเดือน

คำนวณรายได้ต่อเดือนถ้าเราขายแก้วละ 50 บาท

  • หากขายได้ 100 แก้ว/วัน x 30 = 150,000 บาท
  • หากขายได้ 80 แก้ว/วัน x 30 = 120,000 บาท

ต้นทุนผันแปรต่อเดือน:

  • 100 แก้ว/วัน x 20 บาท x 30 วัน = 60,000 บาท
  • 80 แก้ว/วัน x 20 บาท x 30 วัน = 48,000 บาท

ค่าใช้จ่ายคงที่ต่อเดือน ประมาณ 30,000 บาท (ค่าเช่า , ค่าพนักงาน , ค่าน้ำ ค่าไฟ และอื่นๆ)

กำไรสุทธิต่อเดือน กรณีขายได้ 100 แก้ว/วัน หักลบค่าใช้จ่ายเหลือประมาณ 60,000 บาท เป็นต้น

ภาพจาก เดอะ แบล็ค ดราก้อน

แต่ตัวเลขนี้ยังไม่ใช่ตัวเลขการคืนทุน ก็ขึ้นอยู่กับว่าลงทุนในเบื้องต้นไปเท่าไหร่ สมมุติลงทุนไปในครั้งแรก 100,000 บาท จุดคุ้มทุนประมาณ 1.7 เดือน แต่หากลงทุนน้อยกว่านี้ มีรายได้น้อยกว่านี้ตัวเลขก็ต้องมาคำนวณกันใหม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยในการลงทุนของแต่ละคนที่อาจแตกต่างกัน

โดยสรุปแล้ว การลงทุนเปิดร้านแบบ Kiosk ยังมีโอกาสเติบโตและสร้างรายได้ดีคีเวิร์ดสำคัญที่อาจช่วยเพิ่มรายได้ให้กับ Kiosk คือ การเลือกทำเลที่ดี , การออกแบบคีออสให้สะดุดตา , การควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ , การเพิ่มช่องทางการขาย รวมถึงการใช้ตลาดออนไลน์ร่วมด้วย

จากข้อมูลที่เราเคยสอบถามบางร้านเช่น ร้านกาแฟเล็กๆ ที่เปิดในตลาดเจ้าของธุรกิจบอกว่าหลังจากหักค่าเช่า + ค่าน้ำค่าไฟ + ค่าวัตถุดิบ + ต้นทุนทุกอย่าง ก็มีเงินเหลือมากกว่าทำงานประจำคือขั้นต่ำก็เหลือไม่ต่ำกว่า 10,000 – 15,000 แต่รายได้นี้ก็ไม่ได้สม่ำเสมอในทุกเดือน

ขึ้นอยู่กับจำนวนลูกค้า สภาพอากาศ และปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ที่สำคัญต้องขยันเปิดร้านทุกวัน อย่าเปิดๆ ปิด การเปิดร้านเล็กๆ ลงทุนอาจไม่มาก แต่ต้องขยันให้มาก รายได้แม้อาจไม่ได้ทำให้รวยในทันที แต่ก็พอมีเงินให้ไปหมุนเวียนใช้ได้มากขึ้น

ตัวอย่างแฟรนไชส์ ร้านแบบ “Kiosk”

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด