โมเดลออกกำลังกาย HYROX มาแรง! 4.5 พันล้าน ใน 8 ปี

ในยุคสมัยที่การดูแลสุขภาพกลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ผู้คนทั่วโลก เราได้เห็นเทรนด์การออกกำลังกายใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง ปั่นจักรยาน พิลาทิส หรือการปรับสมดุลร่างกายแบบไคโรแพรคติก แต่หนึ่งในกระแสที่กำลังมาแรงในหมู่คนรักฟิตเนส และขยายความนิยมไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว คือ HYROX

ล่าสุด HYROX ได้เข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทยเป็นครั้งแรก โดยจัดการแข่งขันเมื่อวันที่ 24–25 พฤษภาคม 2025 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของวงการฟิตเนสไทย

HYROX คืออะไร

ภาพจาก www.facebook.com/hyroxtha

HYROX คือการแข่งขันฟิตเนสระดับโลกที่ออกแบบมาให้ทุกคนสามารถเข้าร่วมได้ ไม่ใช่แค่ยิมหรือคลาสออกกำลังกายทั่วไป แต่เป็นการผสมผสานระหว่างการวิ่ง เวทเทรนนิ่ง และการออกกำลังกายแบบ CrossFit เข้าด้วยกัน

เป้าหมายของ HYROX คือคนทั่วไปที่รักสุขภาพและการออกกำลังกาย รวมถึงผู้ที่อยากท้าทายขีดจำกัดของตัวเอง โดยเป็นโมเดลที่รวมไลฟ์สไตล์เข้ากับความมุ่งมั่นแบบนักกีฬาอย่างลงตัว

HYROX ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในปี 2017 ที่ประเทศเยอรมนี โดย Christian Toetzke และ Moritz Fürste ผู้มีวิสัยทัศน์ในการสร้างการแข่งขันฟิตเนสที่ทุกคนสามารถเข้าร่วมได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้เริ่มต้นหรือระดับมืออาชีพ ด้วยแนวคิดที่เน้นความเข้าถึงง่ายและท้าทาย จึงทำให้ HYROX มีการเติบโตอย่างรวดเร็วและได้รับความนิยมไปทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง

ลักษณะของการแข่งขันประกอบด้วย

  • วิ่ง 8 รอบ รอบละ 1 กิโลเมตร

ระหว่างวิ่งแต่ละรอบจะมีฐานออกกำลังกาย 8 ฐาน หรือ Functional Fitness ได้แก่

  1. SkiErg – ใช้เครื่องสกี
  2. Sled Push – ดันเลื่อนน้ำหนัก
  3. Sled Pull – ลากเลื่อนน้ำหนัก
  4. Burpee Broad Jumps – ท่ากระโดดไกลเบอร์พี่
  5. Rowing – เครื่องกรรเชียง
  6. Farmer’s Carry – หิ้วน้ำหนักสองข้าง
  7. Sandbag Lunges – เดินย่อลงพร้อมถุงทราย
  8. Wall Balls – ปาบอลเข้ากำแพง

HYROX แตกต่างจากการแข่งขันฟิตเนสอื่นๆ อย่างไร?

ภาพจาก www.facebook.com/hyroxtha
1. มาตรฐานเดียวทั่วโลก

HYROX ถูกออกแบบให้มีรูปแบบการแข่งขันที่เหมือนกันทุกประเทศ ไม่ว่าจะแข่งขันที่กรุงเทพฯ, ลอนดอน หรือนิวยอร์ก ทุกสนามจะใช้กติกาและอุปกรณ์แบบเดียวกัน ทำให้สามารถเปรียบเทียบผลงานกับนักกีฬาทั่วโลกได้อย่างยุติธรรม

2. ผสมระหว่างการวิ่งกับฟังก์ชันนัลเทรนนิ่ง

การแข่งขันประกอบด้วยการวิ่งระยะทางรวม 8 กิโลเมตร สลับกับ 8 ฐานออกกำลังกาย ถือเป็นการผสมผสานระหว่างคาร์ดิโอ (การออกกำลังกายแบบใช้ความอดทน เช่น วิ่ง ปั่นจักรยาน) และเวทเทรนนิ่งได้อย่างลงตัว

3. ทุกคนแข่งขันได้ ไม่ใช่แค่นักกีฬาอาชีพ

HYROX เปิดโอกาสให้คนทั่วไปเข้าร่วมได้ ไม่ว่าจะเป็นมือสมัครเล่น มืออาชีพ หรือสายฟิตเนสตัวจริง มีการแข่งขันหลากหลายประเภทให้เลือก เช่น ประเภทเดี่ยว (Singles) ประเภทเดี่ยวโปร (Singles Pro) ประเภทคู่ (Doubles) ประเภทคู่โปร (Doubles Pro) และ ประเภททีมผลัด (Team Relays) ช่วยให้ทุกคนสามารถมีประสบการณ์ในการแข่งขันแบบมืออาชีพได้

4. การแข่งขันที่วัดผลได้จริง

ทุกคนจะได้รับการจับเวลาอย่างเป็นทางการ พร้อมตารางจัดอันดับทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้สามารถติดตามพัฒนาการของตัวเอง หรือเทียบฟอร์มผู้เข้าแข่งขันเพื่อไต่อันดับไปสู่ระดับนานาชาติได้

5. บรรยากาศการแข่งขันระดับโลก

แม้จะเป็นการแข่งขันฟิตเนสแต่ HYROX ถูกจัดในรูปแบบอีเวนต์ใหญ่ ภายในงานจะมีเสียงเชียร์จากผู้เข้าชม เสียงดนตรี และแรงบันดาลใจจากผู้เข้าแข่งขันที่ทำให้ทุกคนรู้สึกสนุกสนาน และมีแรงฮึดไปพร้อมกัน
โครงสร้างธุรกิจ HYROX

ภาพจาก www.facebook.com/hyroxtha

รายได้มาจากไหน?

  • ค่าสมัครแข่งขัน (Ticket per Event)
  • ค่าสปอนเซอร์แบรนด์กีฬา เช่น Puma (พาร์ทเนอร์หลัก)
  • HYROX Licensed Gym และ Training Program
  • สินค้าภายใต้แบรนด์ เช่น เสื้อผ้า, อุปกรณ์ต่างๆ
  • งาน HYROX World Championship จัดปีละครั้ง สามารถดึงนักแข่งได้จากทั่วโลก

โมเดลธุรกิจ HYROX

  • ใช้ระบบแฟรนไชส์ ลิขสิทธิ์ กับผู้จัดงานในแต่ละประเทศ
  • ทำให้ HYROX ขยายตัวได้รวดเร็ว โดยไม่ต้องลงทุนเองทั้งหมด
ภาพจาก www.facebook.com/hyroxtha

HYROX ขยายตัวรวดเร็วทั่วโลก

HYROX กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีเมืองและประเทศใหม่ๆ ถูกเพิ่มเข้าไปในปฏิทินการแข่งขันอยู่ตลอดเวลา การแข่งขันแต่ละสนามจะจัดขึ้นในพื้นที่ในร่มขนาดใหญ่ เช่น ศูนย์แสดงสินค้าหรือศูนย์การประชุม เพื่อให้สามารถรองรับนักกีฬาจำนวนมากได้อย่างสะดวกสบาย

โดยทั่วไปการจัดงาน HYROX ต้องใช้พื้นที่ฟิตเนสขนาดใหญ่กว่า 12,000 ตารางเมตร หรือประมาณ 3 สนามฟุตบอล เพื่อรองรับทั้งสนามแข่งขัน ฐานออกกำลังกาย และพื้นที่สำหรับผู้เข้าชมและทีมงาน

ภาพจาก www.facebook.com/hyroxtha

ปัจจุบัน HYROX ขยายไปกี่ประเทศแล้ว

จนถึงตอนนี้ HYROX ได้จัดการแข่งขันในกว่า 30 ประเทศทั่วโลก อาทิ เยอรมนี อังกฤษ สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส สเปน อิตาลี เม็กซิโก ฯลฯ

ส่วนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก การแข่งขัน HYROX ได้ขยายตลาดมาในหลายประเทศแล้ว อาทิ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่นฮ่องกง สิงคโปร์ และล่าสุดประเทศไทย

เป็นรายการ BYD HYROX Bangkok จัดขึ้นเมื่อวันที่ 24-25 พฤษภาคม 2568 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนา

งานนี้สร้างความประหลาดใจให้กับผู้จัดงานเป็นอย่างมาก เนื่องจากได้รับกระแสตอบรับล้นหลาม มีผู้สมัครเข้าแข่งขันมากกว่า 9,000 คน ซึ่งสูงเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ และมีผู้เข้าชมตลอดงานรวมกว่า 15,000 คน ในระยะเวลาเพียง 2 วัน

ที่สำคัญก็คือบัตรเข้าร่วมการแข่งขันในรอบแรกขายหมดภายใน 18 ชั่วโมง หลังจากเปิดจำหน่าย ส่งผลให้ต้องเพิ่มรอบการแข่งขันในวันที่ 2 เพื่อรองรับความต้องการจำนวนมาก ซึ่งยอดขายบัตรในรอบที่ 2 ก็เกือบเต็มจำนวนเช่นกัน

BYD HYROX Bangkok มีรูปแบบการแข่งขันที่หลากหลาย ได้แก่

ภาพจาก www.facebook.com/hyroxtha

1.ประเภทเดี่ยว (Singles)

  • การแข่งขัน HYROX มาตรฐานสำหรับผู้ที่ต้องการท้าทายตัวเองแบบฉายเดี่ยว

2.ประเภทเดี่ยวโปร (Singles Pro)

  • สำหรับนักกีฬามากประสบการณ์ ที่ต้องการเพิ่มระดับความท้าทายด้วยน้ำหนักที่หนักขึ้น

3.ประเภทคู่ (Doubles)

  • จับคู่กับเพื่อนหรือคนรู้ใจ แบ่งงานกันออกกำลังกาย

4.ประเภทคู่โปร (Doubles Pro)

  • ทีมสองคนเหมือนเดิม แต่ยกระดับความเข้มข้นด้วยน้ำหนักที่มากกว่า

5.ประเภททีมผลัด (Team Relays)

  • เหมาะสำหรับยิม กลุ่มเพื่อน หรือองค์กร ทีมละ 4 คน ช่วยกันพิชิตภารกิจแบบผลัดกันเล่น

6.ประเภท Adaptive (Adaptive Category)

  • หมวดหมู่ใหม่สำหรับนักกีฬาที่มีความพิการ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าร่วมและสนุกไปกับการแข่งขันได้อย่างเท่าเทียม
ภาพจาก www.facebook.com/hyroxtha

สถิติและรายได้ HYROX

ในปี 2023 เพียงปีเดียว มีผู้เข้าร่วมแข่งขันทั่วโลกมากกว่า 150,000 คน ผู้ชมรวมมากถึง 70,000 คน และพาร์ตเนอร์ยิมมากกว่า 1,700 แห่งทั่วโลก

ปี 2024 HYROX สร้างรายได้กว่า 4,500 ล้านบาท โดยไม่มีการพึ่งพาโฆษณา

HYROX ตั้งเป้าว่าจะเพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมแข่งขันเป็น 1 ล้านคนต่อปี ภายในไม่กี่ปีข้างหน้า ซึ่งสะท้อนถึงความนิยมที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

ภาพจาก www.facebook.com/hyroxtha

โอกาสใหม่ของแบรนด์ฟิตเนสและกีฬา

การเติบโตอย่างรวดเร็วของ HYROX ไม่ได้เป็นเพียงกระแสในวงการออกกำลังกายและฟิตเนสเท่านั้น แต่ยังเป็น “สมรภูมิใหม่” ที่เปิดโอกาสให้แบรนด์สายฟิตเนสและกีฬาเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด

โดยเฉพาะกลุ่มคนที่รักสุขภาพและชื่นชอบการแข่งขัน ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อและจงรักภักดีต่อแบรนด์สูง

แบรนด์ที่สามารถเข้าร่วมได้ เช่น เสื้อผ้าและรองเท้าออกกำลังกาย, อุปกรณ์ฟิตเนส, อาหารเสริม / เครื่องดื่มเกลือแร่ ตลอดจนเทคโนโลยีด้านสุขภาพ เช่น สมาร์ทวอช หรืออุปกรณ์ติดตามการออกกำลังกาย

ภาพจาก https://citly.me/vizWx

ตัวอย่างความร่วมมือ Puma

Puma เป็นหนึ่งในแบรนด์แรกๆ ที่ร่วมมือกับ HYROX อย่างจริงจัง โดยล่าสุดได้เปิดตัวคอลเลกชันพิเศษที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับนักกีฬา HYROX ใช้เทคโนโลยีใหม่ เช่น

  • Cloudspun ผ้านุ่มพิเศษ ระบายอากาศดี
  • dryCELL เทคโนโลยีช่วยดูดซับเหงื่อ
  • Velocity NITRO™ 3 รองเท้ารุ่นใหม่ที่ออกแบบให้รองรับแรงกระแทกและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการวิ่ง

นอกจากนี้ Puma ยังให้การสนับสนุนนักกีฬาระดับโลกในรายการ HYROX Elite 15 อย่างเป็นทางการอีกด้วย

สุดท้าย HYROX กำลังเปลี่ยน “ฟิตเนส” ให้กลายเป็น “มหกรรม” การแข่งขัน HYROX ที่ผ่านมาได้เปลี่ยนมุมมองของผู้คนทั่วโลกที่มีต่อการออกกำลังกาย จากเดิมที่มองว่าเป็นแค่ “การดูแลสุขภาพ” สู่การเป็น “ความภาคภูมิใจ” ในการพิชิตเป้าหมายของตัวเอง อีกทั้งยังเป็นเรื่องของการเอาชนะตัวเอง และสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรอบข้าง

จะเห็นได้ว่า การจัดการแข่งขัน HYROX ครั้งแรกในไทย ไม่ได้เป็นเพียงข่าวดีของคนรักการออกกำลังกายเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณของโอกาสทางธุรกิจครั้งใหม่ ที่กำลังเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมฟิตเนสอย่างเต็มรูปแบบ

อ้างอิง

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช