เศรษฐกิจยังทรุด! 9 แบรนด์ดังไทย-เทศ “ปิดกิจการ-ลดพนักงาน”
ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังคงเปราะบางจากปัจจัยลบหลายด้าน ทั้งอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง ความผันผวนของตลาดทุน ต้นทุนพลังงานที่ทรงตัวในระดับสูง และผลกระทบจากการเร่งใช้งานเทคโนโลยีใหม่อย่าง AI และระบบอัตโนมัติในภาคธุรกิจ ส่งผลให้หลายบริษัททั่วโลกต้องเร่งปรับโครงสร้าง ลดต้นทุน และลดพนักงานจำนวนมาก
ข้อมูลจากรายงานในต่างประเทศระบุว่า กลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเป็นหนึ่งในภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด โดยมีการเลิกจ้างพนักงานรวมมากกว่า 100,000 คน ภายในครึ่งปีแรกของ 2568 ขณะเดียวกัน ธุรกิจค้าปลีกและภาคบริการในหลายประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐฯ ยุโรป และเกาหลีใต้ ก็เผชิญกับการปิดกิจการและลดขนาดองค์กรอย่างต่อเนื่อง
ส่วนประเทศไทย แม้ภาครัฐพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านมาตรการต่างๆ แต่ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าชี้ว่า ในเดือนกรกฎาคม 2568 มีธุรกิจจดทะเบียนเลิกกิจการสูงถึง 1,825 ราย เพิ่มขึ้นกว่า 24% จากเดือนก่อนหน้า หากรวมช่วง 7 เดือนแรกของ 2568 ตัวเลขสะสมอยู่ที่ 8,069 ราย รวมถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีทุนจดทะเบียนรวมกันกว่าหมื่นล้านบาทได้ปิดตัวลง คือ บริษัท อินโดรามา ปิโตรเคม จำกัด, บริษัท ทรู ไลฟ์ พลัส จำกัด และ บริษัท ทรู อีโลจิสติกส์ จำกัด
ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ความเปราะบางยังไม่สิ้นสุด
ภายใต้แรงกดดันทางเศรษฐกิจที่ยังไม่คลี่คลายทั้งในประเทศและทั่วโลก ส่งผลให้ธุรกิจจำนวนไม่น้อยต้องเผชิญภาวะยอดขายลดลง ค่าใช้จ่ายสูง และการแข่งขันรุนแรง จนนำไปสู่การตัดสินใจปิดกิจการหรือปรับโครงสร้างองค์กรผ่านการลดพนักงานจำนวนมาก โดยในช่วงเดือนสิงหาคม–กันยายน 2568 ที่ผ่านมา มีธุรกิจหลากหลายประเภททยอยปิดตัวลง ดังนี้
ธุรกิจในประเทศไทยที่ปิดกิจการ
1.ก๋วยเตี๋ยวเรือ มาเด้อ (ขอนแก่น)

ประกาศปิดกิจการตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2568 หลังจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่งผลให้จำนวนลูกค้าลดลงอย่างต่อเนื่อง
2. เหยี่ยน衍 สุกี้หม้อไฟจีน (สาขาภูเก็ต)

ร้านสุกี้หม้อไฟจีนชื่อดัง ซึ่งเปิดให้บริการมากว่า 10 ปีในจังหวัดภูเก็ต ประกาศปิดกิจการตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม 2568 พร้อมขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่สนับสนุนตลอดมา
3. เนื้อวัวใส่ก๋วยเตี๋ยว – อนันศักดิ์ สิงห์สมบุญเจ้าเก่า (กรุงเทพฯ)

ตำนานร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อเก่าแก่กว่า 60 ปี ประกาศปิดตัวลงเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2568 เนื่องจากยอดขายลดลงต่อเนื่อง คาดว่าสาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่ระมัดระวังการใช้จ่าย และลดการรับประทานอาหารนอกบ้าน
4. GREE (เครื่องปรับอากาศ)

บริษัท กรี อิเลคทริค (ไทยแลนด์) จำกัด ตัวแทนจำหน่ายเครื่องปรับอากาศ GREE จากจีน ประกาศยุติบทบาทในไทยตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2568 เนื่องจากการปรับเปลี่ยนนโยบายจากบริษัทแม่ที่ประเทศจีน
5. Overtide (แฟชั่นเสื้อผ้า Unisex)
แบรนด์เสื้อผ้าไทยที่เคยได้รับความนิยมบน TikTok และ Shopee ประกาศปิดกิจการในเดือนกันยายน 2568 หลังเผชิญ การขาดทุนสะสมต่อเนื่อง แม้พยายามปรับตัวผ่านช่องทางออนไลน์
6. Mongni Cafe’ X ขอนแก่น (ร้านชานมไข่มุก)

ร้านชานมไข่มุกชื่อดังซึ่งเปิดมายาวนานกว่า 7 ปี ประกาศยุติการดำเนินกิจการอย่างเป็นทางการตั้งแต่ 29 กันยายน 2568 คาดว่าปัญหาหลักมาจากผลประกอบการที่ขาดทุนต่อเนื่อง
ธุรกิจต่างประเทศที่ลดพนักงาน / ปิดกิจการ
7. Novo Nordisk (บริษัทเวชภัณฑ์จากเดนมาร์ก)

บริษัทเภสัชกรรมยักษ์ใหญ่ ประกาศลดพนักงาน 9,000 ตำแหน่ง คิดเป็นประมาณ 11.5% ของพนักงานทั้งหมด เพื่อปรับโครงสร้างองค์กร ลดค่าใช้จ่ายลงปีละ 1.3 พันล้านดอลลาร์ ท่ามกลางการแข่งขันรุนแรงในตลาดยาสหรัฐฯ
8. Accenture (บริษัทที่ปรึกษาระดับโลก)
ภายในเวลาเพียง 3 เดือน Accenture ได้ลดพนักงานไปแล้ว 11,000 คน จากทั้งหมดกว่า 710,000 คนทั่วโลก เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเข้าสู่ยุค AI ซึ่งจะเข้ามาแทนที่บางบทบาทของที่ปรึกษามนุษย์ในอนาคต
9. Starbucks (แบรนด์กาแฟระดับโลก)

Starbucks ประกาศแผนปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ มูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์ โดยจะปิดร้าน 500 สาขาทั่วอเมริกาเหนือ และเลิกจ้างพนักงานกว่า 900 คน ถือเป็นการลดขนาดองค์กรรอบที่สอง หลังจากก่อนหน้านี้ได้ปลดพนักงานระดับองค์กรไปแล้ว 1,100 คน
สรุป การปิดกิจการและลดพนักงานอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ สะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจกำลังเผชิญแรงกดดันในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และการเข้ามาของ AI ผู้ประกอบการจึงต้องเลือกลดต้นทุน ปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อความอยู่รอด บางรายไม่สามารถปรับตัวได้จึงต้องปิดกิจการ เพราะแบกรับต้นทุนต่อไม่ไหว
ดังนั้น ภาครัฐจึงจำเป็นต้องเร่งปรับทิศทางนโยบายให้เท่าทันความเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมทักษะแรงงานใหม่, การช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดเล็ก และเร่งสร้างความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจ เพื่อให้การฟื้นตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
- อยากสร้างแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Ive14C
- อยากทำเป็นแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3IrrH0k
- รู้เรื่องกฎหมาย สัญญาแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Iu5WNu
- รวมความรู้แฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Pe0m5s
อ้างอิงจาก คลิกที่นี่
สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น
ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี
ลักษณะงาน
- เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
- ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
- มอบหมายงานและติดตามงาน
- อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ
1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้
- ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
- ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
- การปฏิบัติงาน
- เป้าหมายในอนาคต
2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ
- การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
- การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
- การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
- การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)
3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)
- การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
- กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม
4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์
5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
- ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
- ปรับปรุงแก้ไข
- พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง
การปฎิบัติงาน
- สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
- ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา
เงื่อนไขอื่นๆ
- การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์
อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้
สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)