ฮิปสเตอร์ สเต็ก “ร้านสเต็กสุดฮิป” ลงทุนหลักหมื่น! สร้างรายได้หลักแสน คืนทุนตั้งแต่เริ่ม
โค้งสุดท้ายปลายปี! เป็นช่วงเวลาที่หลายคนมีแผนในการสร้างอาชีพ อยากมีรายได้เพิ่ม ยิ่งในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ที่รายจ่ายทุกอย่างเพิ่มสูง หากไม่มีรายได้ที่ 2 มารองรับอาจทำให้เกิดภาวะวิกฤติด้านการเงิน

อย่างไรก็ดีปัจจัยสำคัญในการเลือกลงทุนใดๆ ก็ตามต้องเน้นที่ “ลงทุนน้อย ความเสี่ยงต่ำ คืนทุนไว” และต้องเป็นสินค้าที่ขายง่าย ขายดี มีความต้องการของลูกค้าในทุกพื้นที่ ซึ่ง “สเต็ก” คือเมนูที่ตอบโจทย์ แต่หลายคนก็ติดปัญหาว่าไม่มีประสบการณ์ ไม่รู้จะเริ่มต้นอาชีพนี้ได้อย่างไร ด้วยเหตุนี้ “ฮิปสเตอร์ สเต็ก” จึงเป็นทางเลือกในการลงทุนที่การันตีว่ารายได้สุดคุ้ม คืนทุนตั้งแต่เริ่มต้น
ฮิปสเตอร์ สเต็ก รสชาติยืนหนึ่ง! ลงทุนง่าย เปิดร้านได้ทันที

ฮิปสเตอร์สเต็กไม่ใช่แค่ร้านสเต๊กธรรมดา แต่เป็นแบรนด์ที่เน้นสไตล์ “ฮิปสเตอร์” ซึ่งหมายถึงความเท่ ความสร้างสรรค์ และความเป็นตัวของตัวเอง มีเมนูหลากหลายที่ผสมผสานรสชาติแบบตะวันตกเข้ากับเครื่องเทศไทย ทำให้ได้รสชาติที่ “ยืนหนึ่ง” และเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร การเลือกลงทุนกับฮิปสเตอร์สเต็กคือก้าวแรกสู่ความสำเร็จที่จับต้องได้ชัดเจน โดยมี จุดเด่นน่าสนใจคือ
- ใช้งบลงทุนไม่สูง
- รสชาติยืนหนึ่ง ทุกเมนอร่อยมาก
- โอกาสคืนทุนตั้งแต่วัตถุดิบเซ็ตแรกขายหมด
- มีการสอนสูตรสอนเทคนิคการขาย
- เป็นแบรนด์ที่คนรู้จักทำการตลาดได้ง่าย
- ไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ต่อยอดสร้างรายได้ทันที
- มีอุปกรณ์ + วัตถุดิบให้พร้อมเปิดร้าน
วิเคราะห์ “ฮิปสเตอร์สเต็ก” รายได้ดีแค่ไหน? ทำไมน่าลงทุน

เมนูของฮิปสเตอร์สเต็กยังมีความหลากหลาย เช่น สเต็กไก่พริกไทยดำ , สเต็กสะโพกไก่สไปซี่ , สเต็กเนื้อสันนอก , สเต็กเนื้อทีโบน , สเต็กเนื้อริปอาย เป็นต้น ไม่ว่าลูกค้ามาคนเดียวหรือมาเป็นคู่ หรือจะเลือกทานเป็นหมู่คณะ ฮิปสเตอร์สเต็กก็มีทุกเมนูที่ลูกค้าต้องการ ที่สำคัญราคาไม่แพงเริ่มต้นแค่ 59 บาท

งบลงทุนสำหรับเปิดร้าน 9,900 – 17,900 (มี 3 แพ็กเกจให้เลือก) ทุกรูปแบบมีอุปกรณ์ครบ +วัตถุดิบ ไม่เคยทำธุรกิจมาก่อนก็เริ่มได้ มือใหม่หัดขายก็รวยได้ปังได้ เพราะมีทีมงานมืออาชีพให้คำปรึกษา ดูแลคนลงทุนเป็นอย่างดี กำไรมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการ + ทำเลที่เปิดร้าน ถ้าลองคำนวณรายได้เบื้องต้นจะเห็นตัวเลขชัดเจน
- กำไรรายวัน: 30 จาน × 59 บาท = 1,770 บาท
- กำไรรายเดือน (26 วัน): 1,770 บาท × 26 = 46,020 บาท
- กำไรสุทธิรายเดือน (หักค่าใช้จ่ายคงที่): 46,020 – 3,000 = 43,020 บาท
ระยะเวลาคืนทุน
ถ้าลงทุนเริ่มต้น 9,900 บาท ÷ กำไรสุทธิรายเดือน 43,020 บาท โอกาสคืนทุนประมาณ 7 วัน
รายได้รวมปีแรก (หลังคืนทุน) : กำไรสุทธิรายเดือน 43,020 × 12 = 516,240 บาท
เราจะเห็นตัวเลขรายได้ที่ชัดเจนที่ตอกย้ำว่าทำไม “ฮิปสเตอร์ สเต็ก” ถึงเป็นแบรนด์ที่เหมาะสมกับการเลือกลงทุน ยิ่งภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ที่คนมีรายได้น้อย รายจ่ายเยอะ สินค้าราคาไม่แพงจะเป็นที่ต้องการของลูกค้ามาก และฮิปสเตอร์ สเต็กยังเป็นแฟรนไชส์ที่ขยายสาขาได้ง่าย บางคนที่ลงทุนเริ่มต้นจากสาขาแรกและขยายไปอีก 2-3 สาขา หรือบางคนเริ่มต้นจากทำคู่งานประจำ แต่รายได้ดีกว่าก็หันมาทำเป็นธุรกิจเต็มตัว
“ฮิปสเตอร์ สเต็ก” ธุรกิจอาหารสตรีทฟู้ด! เปิดที่ไหนก็ขายได้

ไม่ว่ายุคไหนสมัยไหนเชื่อได้ว่า “สเต็ก” ยังครองใจผู้บริโภคได้ ด้วยภาพลักษณ์ของสเต็กที่เป็นเมนูดูมีความพรีเมี่ยม แต่ฮิปสเตอร์สเต็ก ขายในราคาเริ่มต้นแค่ 59 บาท วิธีการตั้งราคาที่เหมาะกับกำลังซื้อคนไทยเช่นนี้ทำให้เจาะกลุ่มลูกค้าวัยเรียน วัยทำงาน ที่มีงบจำกัด มีผลทำให้สร้างยอดขายได้มากขึ้น และยังมีอีกหลายปัจจัยที่สนับสนุนว่าทำไมสเต็กถึงขายดีและจะไม่มีวันตกเทรนด์
ความหลากหลายและรสชาติที่ถูกปาก โดยฮิปสเตอร์สเต็กมีเมนูที่หลากหลายเช่น สเต๊กหมู ไก่ หรือเนื้อวัว รวมถึงเครื่องเคียงอย่างมันบดและสลัด ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่อยากได้ทั้งความอร่อยและความหลากหลายในจานเดียว
- สั่งแบบเดลิเวอรี่ได้ ในปี 2025 การสั่งอาหารผ่านเดลิเวอรี่กำลังมาแรง และปสเตอร์สเต็กมีแพ็คเกจจิ้งที่ทันสมัยและเมนูที่เหมาะกับการสั่งออนไลน์ ทำให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ายุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความสะดวกสบาย
- อาหารที่รวดเร็วและมีคุณภาพ สเต๊กใช้เวลาเตรียมไม่นานเฉลี่ย 5-10 นาทีต่อจานจึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมในหมู่คนเมืองที่ใช้ชีวิตเร่งรีบ
- สไตล์ร้านเรียบง่าย มีความเป็นกันเอง จุดเด่นของร้านที่เน้นความสบายๆ และการจัดจานที่สวยงามสอดคล้องกับพฤติกรรมลูกค้าที่มักโพสต์รูปอาหารพร้อมแคปชั่นเกี่ยวกับรสชาติและความคุ้มค่า ถือเป็นจุดขายได้อย่างดี

จากปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมด ผสมผสานกับรูปแบบการลงทุนที่ใช้เงินทุนเริ่มต้นน้อยมาก แต่โอกาสประสบความสำเร็จสูง จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม “ฮิปสเตอร์ สเต็ก” จึงเป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์พร้อมสร้างอาชีพได้ทั่วประเทศอย่างไรก็ดีการลงทุนกับฮิปสเตอร์สเต็กหากใครสนใจขอแนะนำว่าให้ลองไปชิมเมนูที่ร้านในสาขาที่เราอยู่ใกล้เพื่อดูรูปแบบร้าน ดูการให้บริการ
ซึ่งถ้าเรามั่นใจพอใจ จากนั้นสามารถติดต่อไปยังแฟรนไชส์เพื่อคุยรายละเอียดเชิงลึก ทั้งรูปแบบการฝึกอบรม การสอนเทคนิค สิ่งที่เราจะได้รับ โอกาสคืนทุนต่างๆ เป็นต้น เมื่อได้ข้อมูลครบถ้วนในทุกด้าน จากนั้นก็มองหาทำเลที่ดีที่สุดสำหรับการเปิดร้าน เพียงเท่านี้การสร้างอาชีพสร้างธุรกิจให้ประสบความสำเร็จก็จะเริ่มต้นได้ทันที
ฮิปสเตอร์ สเต็ก
สนใจลงทุน แฟรนไชส์ คลิก
https://bit.ly/3GIq8bU
โทร. 094-6789869 , 061-2969887
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
- อยากสร้างแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Ive14C
- อยากทำเป็นแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3IrrH0k
- รู้เรื่องกฎหมาย สัญญาแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Iu5WNu
- รวมความรู้แฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Pe0m5s
อ้างอิงจาก คลิกที่นี่
สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น
ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี
ลักษณะงาน
- เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
- ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
- มอบหมายงานและติดตามงาน
- อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ
1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้
- ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
- ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
- การปฏิบัติงาน
- เป้าหมายในอนาคต
2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ
- การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
- การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
- การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
- การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)
3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)
- การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
- กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม
4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์
5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
- ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
- ปรับปรุงแก้ไข
- พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง
การปฎิบัติงาน
- สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
- ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา
เงื่อนไขอื่นๆ
- การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์
อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้
สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)





