อยากกินต้องรอคิว Hakugintei 白銀亭 ข้าวแกงกะหรี่ในตำนานแห่งโอซาก้า
ถ้าพูดถึงร้านข้าวแกงกะหรี่ในญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียง จนคนยอมต่อแถวยาวเหยียดในช่วงพักกลางวัน หลายคนคงนึกถึงร้านระดับตำนานที่ผุดขึ้นทั่วโตเกียวและโอซาก้า แต่หนึ่งในชื่อที่ถูกเอ่ยถึงบ่อยครั้งในหมู่บบรดานักชิมตัวจริง
โดยเฉพาะในโอซาก้า ก็คือ “Hakugintei (白銀亭)” (ฮาคุกินเท) ร้านข้าวแกงกะหรี่ขนาดเล็กที่ปัจจุบันมีเพียง 2 สาขาในเมืองโอซาก้าเท่านั้น แต่กลับสามารถสร้างฐานแฟนคลับเหนียวแน่นด้วยเอกลักษณ์ที่ไม่มีใครเหมือน ความพิเศษของแกงกะหรี่ของร้าน Hakugintei คือรสชาติที่มีความหวานแบบญี่ปุ่นกลมกล่อม
ก่อนจะค่อยๆ ไล่ระดับความเผ็ดขึ้นมาอย่างมีชั้นเชิง เป็นจังหวะรสชาติที่ไม่ได้เร่งรีบ แต่ทรงพลังและมีมิติ ที่นี่ไม่มีระบบ “เลือกระดับความเผ็ด” เหมือนร้านแกงกะหรี่ทั่วไป เพราะ Ōshiro Ryūichirō เชฟและผู้ก่อตั้ง เชื่อว่า “จานเดียว ถ้าทำได้ดีที่สุด ก็ไม่จำเป็นต้องปรับแต่งอะไรอีก”
รสชาติที่มี “จังหวะ” หวานนำ เผ็ดตาม

แกงกะหรี่ของ Hakugintei มีเอกลักษณ์ชัดเจนไม่เหมือนใคร ด้วยซอสที่เริ่มต้นด้วยรสหวานละมุนแบบญี่ปุ่น ก่อนจะค่อยๆ ปล่อยความเผ็ดร้อนออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่แพ้เครื่องเทศ แม้เพียงน้อยก็จะรู้สึกถึงความจัดจ้านได้แบบไม่ต้องปรุงเพิ่ม ต่างจากร้านแกงกะหรี่ส่วนใหญ่ในญี่ปุ่น ที่ลูกค้าสามารถเลือกระดับความเผ็ดได้ตามชอบ แต่ที่ร้าน Hakugintei ลูกค้าไม่สามารถเลือกความเผ็ดได้เลย เพราะทางร้านเสิร์ฟรสชาติเดียวที่ผ่านการคิดมาแล้วอย่างพิถีพิถัน ในบางครั้งการไม่ต้องกังวลกับตัวเลือกมากมาย และเลือกปล่อยใจไปกับสิ่งที่เชฟตั้งใจเสิร์ฟ ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีกว่าที่คิด
ราคาจับต้องได้ รสชาติจับใจ

เมนูของร้านราคาอยู่ที่ประมาณ 800–1,400 เยน เท่านั้น ซึ่งถือว่าเข้าถึงง่ายมากเมื่อเทียบกับคุณภาพของซอสที่เข้มข้น และปริมาณที่อิ่มพอดี แค่ข้าวกับซอสก็อร่อยเต็มคำแล้ว แต่หากอยากยกระดับความฟินขึ้นไปอีก แนะนำให้ลองเพิ่มท็อปปิ้ง เช่น
- ไข่ดิบ – เพิ่มความกลมกล่อมแบบญี่ปุ่นชีส – เติมความครีมมี่ ตัดเผ็ดได้ดี
- ผักโขม – เพิ่มความสดชื่น
- หมูทอดทงคัตสึ หรือ กุ้งทอด – กรอบนอกนุ่มใน เข้ากับซอสสุดๆ
- โดยเฉพาะทงคัตสึ ที่หลายคนยกให้เป็นตัวเลือก “ข้าวแกงกะหรี่จานหรู” ที่จะทำให้แม่ชาวใต้ของคุณภูมิใจ
ร้านเล็ก แต่คุณภาพใหญ่ อย่ามาเป็นกลุ่มใหญ่

Hakugintei เปิดเฉพาะช่วงมื้อกลางวันเท่านั้น และจะปิดร้านทันทีเมื่อของหมด (ซึ่งเกิดขึ้นเกือบทุกวัน) ตัวร้านมีที่นั่งเพียงไม่กี่ที่ และเป็นแบบเคาน์เตอร์ทั้งหมด ไม่มีโต๊ะใหญ่ จึงไม่เหมาะสำหรับกลุ่มใหญ่ที่ต้องการนั่งพร้อมกัน หากคุณอยากสัมผัสประสบการณ์ข้าวแกงกะหรี่ระดับตำนานที่แท้จริง ควรมาแต่เช้า เตรียมใจรอคิว และบางครั้ง อาจต้องยอมทานคนละเวลากับเพื่อนร่วมทริป แต่เชื่อเถอะว่ามันคุ้มค่ากับทุกนาทีที่รอ
ปัจจุบันมีเพียง 2 สาขาในโอซาก้า
แม้จะเป็นที่รู้จักทั่วประเทศ แต่ Hakugintei ยังคงยึดแนวทางควบคุมคุณภาพเหนือการขยายสาขา โดยเปิดให้บริการเพียง 2 สาขาเท่านั้นในโอซาก้า
- สาขาหลัก ใกล้สถานี Honmachi เดินทางสะดวก ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจ
- สาขา Itubiru (本町駅店) ตั้งอยู่ใต้ดินของอาคาร Itubiru บรรยากาศคล้ายคลึงกัน
ทั้งสองสาขาเสิร์ฟซอสที่ผลิตจากครัวกลางเดียวกัน เพื่อรักษามาตรฐานรสชาติให้เหมือนกัน 100% หลายคนที่เคยไปลิ้มลองรสชาติข้าวแกงกะรี่ที่ร้าน Hakugintei จะเห็นได้ว่าไม่ใช่ร้านหรู ไม่ใช่ร้านใหญ่ และไม่ได้ทำการตลาดหวือหวา แต่ด้วยความเข้าใจในรสชาติ ความต้องการของลูกค้า และการยืนหยัดในคุณภาพ ร้านเล็กๆ แห่งนี้จึงกลายเป็นร้านข้าวแกงกะหรี่ในดวงใจของทั้งคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
- อยากสร้างแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Ive14C
- อยากทำเป็นแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3IrrH0k
- รู้เรื่องกฎหมาย สัญญาแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Iu5WNu
- รวมความรู้แฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Pe0m5s
อ้างอิงจาก คลิกที่นี่
สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น
ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี
ลักษณะงาน
- เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
- ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
- มอบหมายงานและติดตามงาน
- อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ
1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้
- ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
- ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
- การปฏิบัติงาน
- เป้าหมายในอนาคต
2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ
- การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
- การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
- การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
- การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)
3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)
- การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
- กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม
4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์
5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
- ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
- ปรับปรุงแก้ไข
- พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง
การปฎิบัติงาน
- สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
- ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา
เงื่อนไขอื่นๆ
- การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์
อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้
สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)