ส่อง! 9 แบรนด์ร้านอาหารหลัก ในเครือ ZEN

ZEN Corporation Group หรือกลุ่ม ในเครือ ZEN เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นรายใหญ่ ทำตลาดมาเกือบ 30 ปีแล้ว เริ่มต้นจากร้านอาหารญี่ปุ่น ZEN เรียกว่าเป็นธุรกิจ Full Restaurant จากนั้นก็ได้เพิ่มแบรนด์ใหม่ๆ ให้มีความหลากหลาย

กระทั่งขยายกิจการร้านอาหารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งสร้างแบรนด์ร้านเอง และซื้อแฟรนไชส์ โดยก่อนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ กลุ่ม ZEN มีร้านอาหารอยู่ในอยู่มือกว่า 14-15 แบรนด์ แบ่งเป็นร้านอาหารไทย 6 แบรนด์ ได้แก่ ตำมั่ว, ลาวญวน, เฝอ, แจ่วฮ้อน, De Tummour และ เขียง ส่วนร้านอาหารญี่ปุ่นมี 8 แบรนด์ ประกอบด้วย ZEN, Zen Box, Musha by ZEN, Sushi Cyu Carnival by Yakiniku, AKA, Tetsu, On the table Tokyo café FOO Flavor, Din’s

แต่ในปัจจุบันพอเกิดการระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทย ทำให้บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN จำเป็นต้องปรับแผนการดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลัง 2563 โดยไปมุ่งเน้นเดลิเวอรี่อย่างเต็มที่ เพื่อช่วยพยุงกระแสเงินสดเอาไว้ในช่วงที่เปิดร้านอาหารบนห้างสรรพสินค้าไม่ได้

ZEN ปรับกลยุทธ์ 7+2 ฝ่าวิกฤติ

ในเครือ ZEN

ภาพจาก facebook.com/Zenjapaneserestaurant

ขณะที่กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจร้านอาหารต่อจากนี้ จะทำการยุบ 3 แบรนด์รอง แต่มามุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับ 7+2 แบรนด์หลัก โดยสิ่งที่บริษัทฯ จะปรับจากนี้ คือ การยุบแบรนด์รอง 3 แบรนด์ ได้แก่ แจ่วฮ้อน (4 สาขา) FOO Flavor (2 สาขา) และ Musha by ZEN (3 สาขา) เพื่อมาเน้นการลงทุนสาขาและการตลาดกับแบรนด์หลักในพอร์ตเท่านั้น

โดยสาขาเดิมของแบรนด์ร้านอาหารดังกล่าว จะถูกปรับไปเป็นร้านอาหารแบรนด์หลักในพอร์ตแทน เช่น FOO Flavor สาขาเอ็มควอเทียร์ถูกปรับเป็นร้าน On the table และสาขาลาดพร้าวได้ถูกปรับเป็นร้าน Din’s ในเดือนสิงหาคม 2563 ขณะที่แบรนด์ร้านอาหารอื่นๆ ในเครือ ZEN ก็จะถูกเปลี่ยนเป็นแบรนด์อื่นเช่นกัน

ส่วน 7+2 แบรนด์หลักนั้น จะแยกออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มร้านอาหารตลาด Mass จำนวน 7 แบรนด์ ได้แก่ ร้านอาหารญี่ปุ่น ZEN, ร้านปิ้งย่าง AKA, ร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่น On the table, ร้านอาหารอีสาน ตำมั่ว, ร้านอาหารตามสั่ง เขียง, ร้านอาหารจีน Din’s และร้านอาหารเวียดนาม ลาวญวน โดยเมนูร้าน On the table ถือว่าแข็งแรงในพอร์ต

สำหรับอีก 2 แบรนด์ในเครือ ZEN ที่จะให้ความสำคัญต่อจากนี้ เป็นกลุ่มร้านอาหารระดับพรีเมียม ได้แก่ Sushi CYU (ซูชิชู) ร้านซูชิแบบโอมากาเสะ และร้าน Tetsu ร้านเนื้อย่างระดับพรีเมียม

กลุ่มร้านอาหารดังกล่า คือ ร้านที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก และช่วยบาลานซ์พอร์ตของ ZEN ให้เหมาะสม เพราะมีร้านอาหารครบทุกสัญชาติ และมีทั้งร้านที่ทำเมนูเดลิเวอรีได้ดี เช่น ตำมั่ว เขียง และร้านที่ดึงลูกค้ารับประทานในร้านได้ดี เช่น AKA

สำหรับแผนการลงทุนของบริษัทฯ ได้ตัดงบที่เคยแจ้งไว้เมื่อเดือนมีนาคม 2563 คือ ลดจาก 200 ล้านบาทเหลือประมาณ 100 ล้านบาท โดยแบรนด์ที่ยังมีการเปิดสาขาใหม่ คือ AKA และ On the table นอกจากนั้นเป็นการรีโนเวตสาขาเดิม และเน้นผลักดันการขายแฟรนไชส์ร้าน “เขียง” รูปแบบไซส์เล็กแทน ซึ่งคาดว่าปี 2563 จะเพิ่มร้านไปแตะ 100 สาขา

1. ZEN Restaurant (44 สาขา)

28

ภาพจาก bit.ly/3sTrvNL

Zen Restaurant เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นในสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ที่ได้รับความนิยมจากลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง เน้นคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพชั้นเลิศในรูปแบบญี่ปุ่นร่วมสมัย ให้บริการหลากหลายเมนูอาหารญี่ปุ่นคุณภาพ เมนูสดอร่อยตำรับญี่ปุ่น ทั้งแซลมอนคุณภาพ ข้าวปั้น ปลาดิบ ซูชิชั้นเลิศ หลากหน้าหลายแบบให้เลือกอร่อย ทั้งยังมีสลัด และข้าวหน้าต่างๆ ให้เลือกอิ่มคุ้มอีกด้วย นอกจากนี้ เซ็นยังมีของหวาน และเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่น พร้อมให้บริการท่านในทุกสาขา

ด้วยประสบการณ์กว่า 28 ปี ที่ส่งผ่านด้วยความพิถีพิถันและใส่ใจ ทั้งเรื่องการสร้างสรรค์อาหารคุณภาพ ด้วยความรู้และความเชี่ยวชาญ การคัดเลือกวัตถุดิบคุณภาพที่เหมาะสมสำหรับทุกเมนู โดยเฉพาะเรื่อง “ปลา” ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของอาหารญี่ปุ่นที่พร้อมส่งมอบ “เรื่องราวดีๆ” ให้แก่ลูกค้าทุกๆ คน

2. AKA (25 สาขา) ขายแฟรนไชส์

27

ภาพจาก bit.ly/2NYEgrn

ร้านอาหารญี่ปุ่น “AKA” (อากะ) เริ่มกิจการในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2550 โดยมีสาขาแรกตั้งอยู่ที่ ห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัลเวิลด์พลาซา โดยชื่อของราน “อากะ” ในภาษาญี่ปุ่นแปลวา “สีแดง” ซึ่งให้ความรู้สึกร้อนแรงและเป็นสัญลักษณ์ของเปลวไฟจากเตาถ่านที่ใช้การปิ้ง-ย่างอาหาร

รูปแบบของร้านเป็นร้านปิ้ง-ย่างยากินิกุ (YAKINIKU) ให้บริการทั้งในรูปแบบ A LA CARTE และ BUFFET ที่ให้ความสำคัญกับรายละเอียด และการคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ และชื่อเสียงจากทั่วทุกมุมโลก มารวมกับวิธีการปรุงรสอาหารตามแบบฉบับของอากะ เพื่อตอบสนองความอร่อยและส่งต่อประสบการณ์มื้อปิ้งย่างที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าต่อไป

3. Din’s (2 สาขา)

26

ภาพจาก bit.ly/389uYzx

ดินส์ (Din’s) ร้านอาหารนีโอไต้หวัน เป็นร้านอาหารที่ได้กลิ่นอายความเป็นจีนดั้งเดิม ผสมผสานแรงบันดาลใจจากประเทศญี่ปุ่น โดยมีเมนูแนะนำที่รับประทานได้เฉพาะที่ ดินส์ คือเมนู “ เสี่ยวหลงเปาทอด ซึ่งความพิเศษของเมนูนี้ถูกพัฒนาสูตร เสี่ยวหลงเปาแบบดั้งเดิม ผสมผสานความเป็นญี่ปุ่นที่คนส่วนใหญ่ชอบทานเกี๊ยวซ่า จึงได้พัฒนาแป้งมาวางใต้เสี่ยวหลงเปาจนมีรูปลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร คล้ายเสี่ยวหลงเปาติดปีก

นอกจากเมนูเสี่ยวหลงเปา ดินส์ยังพร้อมให้บริการอาหารประเภทข้าว ราเมน ติ่มซำ เกี๊ยวซ่า อาหารทานเล่นต่างๆ ที่มีรสชาติที่หลากหลาย คุ้มค่าด้วยราคา ตอบสนองลูกค้าที่ต้องการอิ่มครบจบใน 1 เซ็ทเมนู ดินส์จะเข้ามาแทรกตัวในตลาดร้านอาหารจีน ด้วยเมนูที่มีราคาเริ่มต้น 95 บาท ซึ่งเป็นราคาที่เข้าถึงได้ กลุ่มนักศึกษาจ่ายได้โดยไม่ต้องคิดมาก สาขาแรกเปิดที่ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ ชั้น G ใช้งบลงทุน 6 ล้านบาท ส่วนสาขาสองเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว ชั้น 4

4. On the Table, Tokyo Café (25 สาขา)

25

ภาพจาก bit.ly/3rhvQts

On the Table, Tokyo Café ร้านอาหารสไตล์โตเกียวคาเฟ่ ปัจจุบันมี 25 สาขาในห้างสรรพสินค้า บรรยากาศร้านแสนอบอุ่นและต้อนรับลูกค้าด้วยความสดใสอันเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ แรงบันดาลใจในวันดีๆ

คือ ส่วนผสมที่ลงตัวของอาหารแนวโฮมเมดคงความอร่อยแบบญี่ปุ่นและตะวันตก ผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างพอเหมาะ ทุกเมนูล้วนดูน่าสนใจจนต้องลองสักครั้ง วัตถุดิบที่ถูกคัดสรรด้วยความเอาใจใส่อย่างเต็มที่ การปรุงด้วยจินตนาการและความพิถีพิถัน พร้อมกับบรรยากาศและการบริการใส่ใจในทุกรายละเอียดที่จะทำให้คุณอิ่มเอมในวันดีๆ เสมือนนั่งอยู่คาเฟ่ในโตเกียว

5. TETSU (1 สาขา)

24

ภาพจาก bit.ly/3e6vWAs

เทสสึ (Tetsu) ร้านอาหารปิ้งย่าง เน้นคัดสรรเนื้อจากต่างประเทศ มีสาขาบริการ 1 แห่งที่เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ความอร่อยและรสสัมผัสแห่งเนื้อคุณภาพสูง ได้ถูกนำมาเสิร์ฟให้กับผู้รักเนื้อทุกคนได้ลิ้มลองกันที่ Central Embassy เพียงแห่งเดียว ด้วยฝีมือของเชฟมากประสบการณ์ ผู้รู้ดีที่สุดว่าเนื้อมาตรฐานสูงเช่นนี้มีวิธีการปรุงอย่างไร

เพื่อให้ยังคงเป็นเนื้อชั้นเลิศที่ไม่สูญเสียคุณค่า TETSU คือที่ ๆ คุณจะได้พบกับที่สุดของประสบการณ์การรับประทานยากินิกุภายใต้บรรยากาศอินดัสเทรียลร่วมสมัยที่แฝงไปด้วยกลิ่นอายของการรับประทานยากินิกุแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมพร้อมกับการให้บริการที่แสนประทับใจและความทุ่มเทของเหล่าผู้รู้จริงเรื่องเนื้อ

6. Sushi Cyu & Carnival Yakiniku (4 สาขา)

23

ภาพจาก bit.ly/3e8AYfF

ซูชิชู (Sushi Cyu) ร้านอาหารปิ้งย่างและปลาดิบสไตล์โอมากาเสะ ค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 2,000-5,000 บาทต่อหัว ปัจจุบันเปิดบริการ 4 สาขา เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมี่ยมที่มีเมนูหลากหลายประเภทให้เลือกทั้ง

ซูชิ โอมากาเสะ และยากินิกุผสานการรังสรรค์สุนทรียะแห่งอาหารญี่ปุ่น ด้วยเชฟมากฝีมือ เพื่อให้ลูกค้าได้ลิ้มลองรสชาติญี่ปุ่นต้นตำรับที่เข้าถึงเนื้อแท้ของธรรมชาติ ภายใต้บรรยากาศที่อบอุ่น แฝงไว้ด้วยความเรียบง่าย สงบและเป็นส่วนตัว เสมือนนั่งรับประทานที่ญี่ปุ่น

7. ตำมั่ว (120 สาขา) ขายแฟรนไชส์

22

ภาพจาก bit.ly/3uU4a08

ตำมั่ว เปิดให้บริการมายาวนานกว่า 30 ปี และตอกย้ำความอร่อยกว่า 120 สาขาทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นร้านส้มตำพันล้านจากประสบการณ์ผู้นำด้านอาหารไทย – อีสาน

เจ้าของสโลแกน “อาหารรสจัด ถนัดเรื่องตำ” อาหารรสชาติจัดจ้านเข้มข้นที่คนไทยตามหา หยิบยกทุกเมนูรสชาติแซ่บจัดจ้านอีสานแท้ และไทยแท้สูตรคุณแม่น้อยตำนานความอร่อยกว่า 30 ปี สู่มาตรฐานแห่งรสชาติความอร่อยรสจัดจ้านไม่ออมมือ เพื่อลูกค้าที่รักในรสชาติจัดจ้าน

8. ลาว-ญวน (10 สาขา) ขายแฟรนไชส์

21

ภาพจาก bit.ly/3kPVuTN

“ลาวญวน บาย ตำมั่ว” อาหารอีสานรสเด็ดกับอาหารเวียดนามหลากหลายชนิด ที่ถูกนำมาผสมผสานเข้ากันอย่างลงตัว เพื่อตอบโจทย์คนไทยที่หันมาใส่ใจสุขภาพมากยิ่งขึ้น และการทานผักมากขึ้น จึงเป็นที่มาของร้าน “ลาวญวน บาย ตำมั่ว” ที่ผสมผสานระหว่างอาหารอีสานรสเด็ด สูตรเด็ดของร้าน ตำมั่ว ที่มีตำนานความอร่อยมากกว่า 23 ปี

ด้วยสโลแกน “ อาหารรสจัด ถนัดเรื่องตำ” บวกอาหารเวียดนามรสเด็ดหลากหลายชนิดผสมผสานเข้ากันอย่างลงตัว มีเมนูเด่น แหนมเนือง กุ้งพันอ้อย ตำยกถาด ปลากะพงโบราณ ผัดหมี่มั่วถาด หมูยอทอดผักชีลาว ขาหมูตำมั่ว ตำมั่ว เป็นต้น

9. เขียง (100 สาขา) ขายแฟรนไชส์

20

ภาพจาก bit.ly/2NQpqTT

ร้านอาหาร “เขียง” อาหารตามสั่ง เน้นโมเดลแฟรนไชส์ ที่ผ่านมาแทบจะไม่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดโควิด -19 และยังเป็นการสร้างโอกาสแก่ผู้ที่ต้องการสร้างอาชีพ ลงทุนต่ำ คืนทุนเร็ว ภายใน 2-3 ปี ซึ่งช่วง 5 เดือนแรกปี 2563 “เขียง” เปิดสาขาเพิ่มขึ้นกว่า 20 แห่ง แต่ช่วงต้นไตรมาสสุดท้ายปี 2563 มีสาขารวม 72 แห่ง คากว่าในสิ้นปี 2563 จะเพิ่มเป็น 100 สาขา

แผนขยายสาขาเขียงในปี 2564 วางเป้าหมายเปิดบริการอีก 100 สาขา โดยบริษัทฯ จะรุกขยาย 2 รูปแบบ ได้แก่ รูปแบบสแตนดาร์ด จำนวน 40 สาขา และรูปแบบโลว์คอสต์ จำนวน 60 สาขา และโมเดลล่าสุดรูปแบบรถเข็น ส่งผลให้เขียงเป็นแบรนด์สตรีทฟู้ดที่มีโมเดลแฟรนไชส์ครอบคลุมถึง 9 โมเดล และมีสาขาให้บริการมากที่สุดในเชนสตรีทฟู้ดของประเทศไทย

ทั้งหมดเป็นแบรนด์ร้านอาหารหลักของกลุ่ม ZEN ที่จะเข่ามาแชร์ส่วนแบ่งในตลาด ที่คาดว่าในปี 2564 ธุรกิจร้านอาหารจะมีมูลค่ารวม 4.10-4.15 แสนล้านบาท หรือขยายตัว 1.4-2.6% ซึ่งเป็นการขยายตัวบนความเปราะบาง

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

อ้างอิงจาก https://bit.ly/30r1hWF


8 ขั้นตอน การพัฒนาระบบแฟรนไชส์

1. การวางแผนธุรกิจ ก่อนทำแฟรนไชส์

  • กำหนดรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ให้มีความชัดเจน โดนใจลูกค้า
  • ชื่อกิจการ (Brand)
  • การสร้างผลการดำเนินธุรกิจที่ดี ได้ผลกำไร มีความมั่นคง (Good ROI)
  • การสร้างแบรนด์ ตราสินค้า ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักผู้บริโภค
  • การพัฒนาสินค้าบริการ ให้มีคุณภาพมาตรฐาน และระบบการจัดการที่เป็นมาตรฐาน
  • การพัฒนาระบบบริการจัดการ จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
  • วางโครงสร้างองค์กรใหม่ รวมถึงการพัฒนาบุคลากร ทีมงาน สนับสนุนระบบแฟรนไชส์
  • การวางแผน และกำหนดเป้าหมายการขยายธุรกิจ การขยายสาขา ทั้งในและต่างประเทศ
  • การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธุรกิจ ทำเลที่ตั้ง และรูปแบบของร้านค้า
  • การเลือกใช้สื่อต่างๆ ช่องทางต่างๆ ในการจัดกิจกรรม เพื่อสร้างแบรนด์แฟรนไชส์

2. การรวบรวมข้อมูลธุรกิจ

  • ระบบการปฏิบัติงาน วิธีการบริหารจัดการธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
  • ระบบการเงิน การบัญชี
  • งบประมาณในการลงทุนธุรกิจ การขยายสาขา
  • รูปแบบของร้านค้า รูปแบบของตราสินค้า ที่เป็นเอกลักษณ์
  • ระบบการสต็อกสินค้า จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
  • แผนงานการตลาด การส่งเสริมการขายต่างๆ
  • กระบวนการพัฒนาบุคลากร ทีมงานด้านต่างๆ

3. การวิเคราะห์ธุรกิจแฟรนไชส์

  • ธุรกิจเปิดมานานหลายปี จำนวนไม่น้อยกว่า 1สาขา
  • แบรนด์มีชื่อเสียงได้รับความนิยม เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในวงกว้าง
  • สินค้าและบริการ มีคุณภาพมาตรฐาน เป็นที่ต้องการของตลาด
  • เป็นธุรกิจที่มีความมั่นคง ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ มีผลกำไร ต่อเนื่อง เป็นที่น่าพอใจ
  • มีระบบการทำงาน การปฏิบัติงาน แผนการทำงานที่ชัดเจน สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นได้
  • มีระบบการพัฒนาบุคลากร และสร้างทีมงานที่แข็งแกร่ง เป็นมาตรฐาน
  • ประสบความสำเร็จทางด้านการตลาด การสร้างแบรนด์ การส่งเสริมการขายต่างๆ
  • แผนกลยุทธ์การขยายสาขา และเติบโตต่อเนื่อง เป็นรายเดือน หรือ รายปี

4. การวางโครงสร้างของระบบแฟรนไชส์

  • กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักของผู้บริโภค
  • การสร้างองค์ความรู้ ระบบปฏิบัติงานต่างๆ ที่พร้อมถ่ายทอดให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • วางระบบการปฏิบัติงานของแต่ละขั้นตอนธุรกิจ ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ง่าย
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย แต่ละแผนกให้ชัดเจน รวมถึงขั้นตอนการอบรม ระบบตรวจสอบ เพื่อสร้างมาตรฐานธุรกิจแฟรนไชส์
  • สร้างระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซี หรือผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • การกำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ ในการขยายสาขาแฟรนไชส์ ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้า (ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์)
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม พร้อมที่จะเป็นพี่เลี้ยงแก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ช่วงเริ่มต้นได้
  • เงื่อนไขการเปิดสาขาในด้านต่างๆ

5. การวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจแฟรนไชส์

  • แผนการขยายแฟรนไชส์
  • ระบบการเงิน
  • ค่าธรรมเนียมต่างๆ
  • ข้อเสนอแฟรนไชส์ซี
  • การจดทะเบียนแฟรนไชส์
  • เรื่องกฎหมาย อายุสัญญาแฟรนไชส์
  • ระบบปฏิบัติงาน รูปแบบการให้สิทธิ
  • การตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์
  • แพ็คเกจต่างๆ ระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซีอย่างต่อเนื่อง
  • การจัดทำคู่มือแฟรนไชส์ หรือโปรแกรมแฟรนไชส์
  • การจัดทำสัญญาแฟรนไชส์ รวมถึงเครื่องหมายการค้า

6. การวางแผนเพื่อขยายสาขาธุรกิจแฟรนไชส์

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ เจ้าของแฟรนไชส์จะบริหารจัดการเองทุกอย่าง เพื่อสร้างความโดดเด่น สร้างความเด่นชัดให้แก่นักลงทุน ได้เห็นภาพของร้านที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การลงทุนเปิดสาขาแฟรนไชส์ในภายหลัง
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟนไชส์ คือ เมื่อสาขาแรกมีความแข็งแกร่ง มั่นคง มีผลกำไรต่อเนื่อง เป็นที่ยอมรับของลูกค้าในพื้นที่นั้นๆ แล้ว ก็ทดลองขยายสาขาเพิ่มอีก เพื่อทดสอบสาขาที่ 2 เป็นอย่างไร โดยนำเอาระบบการปฏิบัติงานทุกอย่างของร้านสาขาแรกมาปฏิบัติ ถ้าประสบความสำเร็จ ก็ค่อยขยายสาขาตัวเองเพิ่มอีก 2-3 สาขา ถ้าประสบความสำเร็จเหมือนสาขาแรก ก็ค่อยคิดขายแฟรนไชส์ให้กับคนอื่น

7. กระบวนการพัฒนาและปรับปรุงระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น (ระบบการบริหารจัดการในร้าน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน)วิเคราะห์ระบบการเงิน การลงทุน ในแต่ละสาขาที่เปิดทดลอง
  • พิจารณาปรับปรุงระบบงาน ระบบการทำงานต่างๆ ให้เหมาะสม
  • ระบบการพัฒนาทีมงานรองรับการขยายงาน ขยายสาขา
  • การวางแผนงานขยายสาขาแฟรนไชส์
  • เก็บข้อมูลรายละเอียดต่างๆ กลุ่มลูกค้า ผลประกอบการ การดำเนินงาน ของสาขาแรก หรือสาขาต้นแบบ เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด ก่อนเปิดสาขาที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และขายแฟรนไชส์
  • จัดวางงบประมาณ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการขยายธุรกิจแฟรนไชส์

8. แผนการตลาดของธุรกิจแฟรนไชส์

  • การจัดทำคู่มือต่างๆ เพื่อแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์
  • กระบวนการขายแฟรนไชส์ การคัดเลือกผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • กระบวนการติดตามลูกค้าเป้าหมาย
  • การนำเสนอธุรกิจแฟรนไชส์ในงานแสดงธุรกิจแฟรนไชส์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
  • การจัดงาน สัมมนาการขายธุรกิจ แฟรนไชส์
  • การเปิดเยี่ยมชมธุรกิจ ร้านต้นแบบแฟรนไชส์
  • กระบวนการคัดเลือกแฟรนไชส์ซีที่เหมาะสม ตามหลักมาตรฐานแฟรนไชส์สากล
  • กระบวนการถ่ายทอดความรู้ การอบรม และให้คำปรึกษาแก่แฟรนไชส์ซี

สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช