สังคมสูงวัย เติบโตแรง! แฮปปี้โฮม ซีเนียร์ เนิร์สซิ่ง โฮม พร้อมขยายสาขา “แฟรนไชส์” ทั่วประเทศ

ผู้สูงวัยในประเทศไทยจากปี 2567 ที่ผ่านมามีจำนวน 13.2 ล้านคนคิดเป็น 20% ของประชากรทั้งหมด และคาดว่าในปี 2568 จะมีประชากรสูงวัยถึง 28% ของประชากรทั้งหมด และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงวัย จะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท

และหากมองดูเฉพาะในเขตกรุงเทพฯและเมืองใหญ่ๆ มีสัดส่วนผู้สูงอายุที่มากกว่า 60 ปีขึ้นไปประมาณ 1 ล้านคน และมีประมาณกว่า 500,000 คนที่ต้องการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยทีมพยาบาล โดยผู้สูงวัยที่มีอาการเจ็บป่วยไม่สามารถดูแลได้เองมีอยู่ประมาณ 3 – 5 % ของประชากรผู้สูงวัย หรือคิดเป็นตัวเลขประมาณ 30,000 – 50,000 คนทั่วกรุงเทพฯ

ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนชัดเจนว่า ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ (เนอร์สซิ่งโฮม) เป็นที่ต้องการอย่างมากสอดคล้องกับสังคมผู้สูงวัยที่นับวันจะมีตัวเลขมากขึ้น อย่างไรก็ดีสิ่งที่หลายคนยังกังวลแม้อยากลงทุนธุรกิจนี้แค่ไหน แต่ติดว่าไม่มีประสบการณ์ ไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไร รวมถึงไม่มีความชำนาญในด้านการบริหารจัดการ ไม่รู้ว่าจะหาบุคลากรที่มีคุณภาพได้จากที่ไหน

แฮปปี้โฮม ซีเนียร์ เนิร์สซิ่ง โฮม ธุรกิจดูแลผู้สูงวัย ครบวงจร

แฮปปี้โฮม ซีเนียร์ เนิร์สซิ่ง โฮม ก่อตั้งโดย คุณธนพล ชุติมาแสงตระกูล (หมอโอ๋) ที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจ ที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตผู้สูงวัยทั่วประเทศให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยมีแนวคิดอยากเห็นภาพของผู้สูงอายุได้รับการดูแลที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพชีวิตที่ดีและสร้างความอุ่นใจให้กับสมาชิกในครอบครัว มุ่งเน้นการดูแลแบบ Holistic Care คือการดูแลรักษาผู้ป่วยแบบองค์รวม ที่ไม่ใช่รักษาอย่างเดียว แต่ดูแลทั้งกาย จิตใจ โดยมีหลากหลายบริการที่น่าสนใจเช่น

1. บริการฟื้นฟูทางกายภาพ เช่น การนวด, การฝึกการเคลื่อนไหว, และการฝึกความแข็งแรง เพื่อเพิ่มความสามารถในการเคลื่อนไหวและลดความเจ็บปวด รวมถึง โปรแกรมช่วยเสริมสร้างการทรงตัวและประสาทสัมผัสเพื่อลดความเสี่ยงของการหกล้มและเพิ่มความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวัน
2. บริการฟื้นฟูทางจิตใจ เช่น บริการให้คำปรึกษา, การบำบัดด้วยศิลปะ, และกิจกรรมกลุ่ม เพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถจัดการกับความเครียด, ความวิตกกังวล, และปัญหาด้านอารมณ์ รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพจิตที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสุข สร้างความมั่นใจ และส่งเสริมสัมพันธภาพที่ดีกับผู้อื่น
3. บริการฟื้นฟูทางสังคม เช่น งานอดิเรก กิจกรรมกลุ่ม ซึ่งช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์และความรู้สึกของการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน รวมถึงการสนับสนุนและการสร้างเครือข่ายสังคม การติดต่อกับญาติและเพื่อนเพื่อส่งเสริมการสื่อสารและการมีส่วนร่วมทางสังคม

เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการให้ดูแลผ่านการทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ร่างกายและสมองทำงานได้ดีขึ้น หรือผู้สูงอายุที่จำเป็นต้องพักฟื้นหลังผ่าตัด รวมถึงผู้ป่วยติดเตียง ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้และต้องการดูแลอย่างใกล้ชิด เช่น ให้อาหารทางสายยาง มีแผลกดทับ เจาะคอ เป็นต้น

พัฒนาแอพพลิเคชั่น ให้ใกล้ชิดกับครอบครัวผู้สูงวัยมากขึ้น

แฮปปี้โฮม ซีเนียร์ เนิร์สซิ่ง โฮม มุ่งเน้นที่คุณภาพและบริการเป็นสำคัญ มีบุคลากรทางการแพทย์และพยาบาลผู้เชี่ยวชาญ (NA) ที่ผ่านการฝึกอบรม คอยดูแลผู้สูงอายุ ตลอด 24 ชม. ภายใต้บรรยากาศที่ร่มรื่น พร้อมระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวในทุกห้องเพื่อเฝ้าระวังอุบัติเหตุของผู้สูงวัย

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมบำบัดต่างๆ ที่พร้อมส่งเสริมคุณภาพชีวิตได้ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจเพื่อมอบความสุขและรอยยิ้มได้อย่างเต็มที่ ซึ่งทางศูนย์มีการดูแลผู้สูงวัยแตกต่างกันไปตามประเภทของความเจ็บป่วย และอาการของผู้สูงวัยแต่ละคน พร้อมการพัฒนาแอพพิเคชั่นเพื่อใช้สำหรับการสื่อสารระหว่างผู้ดูแล, ผู้เข้ารับบริการ, และครอบครัวของผู้สูงอายุ

โดยให้บริการการสื่อสารหลายรูปแบบ เช่น วิดีโอคอล, ข้อความ, และการแชร์รูปภาพหรือวิดีโอ รวมถึงข้อมูลการรับบริการในแต่ละวัน,ข้อมูลสุขภาพเบื้องต้นขณะอยู่ที่ศูนย์ดูแลตลอดจนการติดตามผลซึ่งจะช่วยให้การดูแลผู้สูงอายุเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและตรงเป้าหมายมากขึ้น

ลงทุนกับ แฮปปี้โฮม ซีเนียร์ เนิร์สซิ่ง โฮม เริ่มต้นอย่างไร?

จำนวนผู้สูงวัยที่มีแต่นับวันจะเพิ่มขึ้น การลงทุนกับ แฮปปี้โฮม ซีเนียร์ เนิร์สซิ่ง โฮม นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าพร้อมสร้างธุรกิจที่ดีในระยะยาว โดยมีค่าแฟรนไชส์และงบในการงทุนดังนี้

ค่าแฟรนไชส์ 550,000 บาท งบในการลงทุน 2.7 – 4 ล้านบาท

สิ่งที่ผู้ลงทุนจะได้รับคือ

• สิทธิ์การใช้เครื่องหมายการค้า แฮปปี้ โฮม ซีเนียร์ (
• อุปกรณ์การแพทย์ภายในศูนย์
• การสนับสนุนค่าเวชภัณฑ์รายเดือนทั้งหมด
• หลักสูตรการฝึกอบรมบุคลากรทั้งภาคทฤษฏีและปฏิบัติ
• แอพพลิเคชั่นศูนย์ดูแลผู้สูงอายุเพื่อช่วยในการบริหารจัดการธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• การสนับสนุนและส่งเสริมด้านการตลาด
• การให้คำปรึกษาพร้อมดูแลโดยทีมงานมืออาชีพ

ขั้นตอนในการลงทุนเริ่มจากการกรอกรายละเอียดในใบสมัคร จากนั้นบริษัทฯ จะดำเนินการพิจารณาภายใน 7-14 วัน หลังผ่านการคัดเลือกจะมีการสอบสัมภาษณ์และทำสัญญา โดยทางแฟรนไชส์จะเป็นผู้ก่อสร้างหรือรีโนเวทรวมถึงลงอุปกรณ์ให้ทั้งหมด ทั้งนี้หากต้องการลงทุน แต่ไม่มีทำเลสามารถแจ้งความประสงค์ได้ มีทีมงานในการหาทำเลเพื่อดำเนินธุรกิจได้ตามที่ต้องการ

อนาคตของการลงทุนกับ แฮปปี้โฮม ซีเนียร์ เนิร์สซิ่ง โฮม นั้นพร้อมเติบโตได้สดใสโดยคาดว่าในทุกปีจะมีคนไทยอายุเกิน 60 เฉลี่ยปีละ 1 ล้านคน และการลงทุนดังกล่าวมีระบบบริหารจัดการให้พร้อม เน้นคุณภาพและบริการเป็นสำคัญ มีเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงวัย และที่สำคัญมีความต้องการของเนิร์สซิ่ง โฮม ในอีกหลายพื้นที่ทั่วประเทศ จึงเหมาะสมกับการเลือกลงทุนในยุคนี้มาก

แฮปปี้โฮม ซีเนียร์ เนิร์สซิ่ง โฮม
สนใจลงทุน คลิก
https://bit.ly/4fUbLDk
โทร. 083-7177177

 

สุดยอดแฟรนไชส์ ปี 2568

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

• อยากสร้างแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Ive14C
• อยากทำเป็นแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3IrrH0k
• รู้เรื่องกฎหมาย สัญญาแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Iu5WNu
• รวมความรู้แฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Pe0m5s

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่

---

สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

• เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
• ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
• มอบหมายงานและติดตามงาน
• อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

• ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
• ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
• การปฏิบัติงาน
• เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

• การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
• การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
• การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
• การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

• การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
• สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
• กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
• มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

• แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
• แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

• รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
• ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
• ปรับปรุงแก้ไข
• พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

• การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)