รวมอาชีพสาบสูญของคนไทย! หายไปไหนหมด
เทคโนโลยีและความทันสมัยที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในหลายด้าน โดยเฉพาะด้านตลาดแรงงาน หลายอาชีพที่เคยรุ่งเรืองกำลังค่อยๆ หายไปหรือลดจำนวนลงอย่างชัดเจน บางอาชีพถึงขนาดที่เรียกว่าสาบสูญไปอย่างสิ้นเชิงด้วย
1.ร้านขายเทปคาสเซ็ท

ช่วงปี 2523 – 2533 เทปคาสเซ็ทเคยเฟื่องฟูในเมืองไทยมาก คนไทยนิยมซื้อเทปจากร้านในตลาดที่มีจำนวนมาก แต่หลังการเข้ามาของ MP3 ในช่วงปี 2543 หรือการที่สามารถสตรีมมิงเพลงผ่านแอปอย่าง Spotify และ Joox ในปี 2553 ทำให้เทปคาสเซ็ทรวมถึงเครื่องเล่นเทปเริ่มเลือนหายไป จากข้อมูลย้อนหลังในปี 2543 มีร้านขายเทปคาสเซ็ทในกรุงเทพมากกว่า 2,500 ร้านและในปัจจุบันเทปคาสเซ็ทก็แทบจะไม่มีเหลือให้เห็น มีขายแต่ในร้านของเก่าของที่ระลึกหรือตามร้านวินเทจต่างๆ ซึ่งคาดว่าในปี 2573 ร้านเทปคาสเซ็ทเหล่านี้อาจจะสูญหายไปอย่างสิ้นเชิงด้วย
2.ร้านเช่าวีดีโอ

สมัยก่อนมีร้านชื่อวีดีโอชื่อดังมากอย่าง Video Ezy และ KPS Video Express ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีสาขารวมกันมากกว่าร้อยแห่ง ซึ่งนอกจากนี้ยังมีอีกหลายร้านที่ยุคนั้นมองไปทางไหนก็เห็น ธุรกิจนี้เฟื่องฟูมากในช่วงปี 2533- 2543 แต่ก็เลือนหายไปเกือบหมดภายในปี 2553 แน่นอนว่าก็ถูกแทนที่ด้วยสตรีมมิ่งทำให้ร้านเช่าวีดีโอในไทยลดลงจากกว่า 1,000 แห่งในปี 2543 เหลือไม่ถึงร้อยแห่งในปี 2556 และมาถึงในปี 2568 นี้ร้านเช่าวีดีโอก็ไม่มีเหลือให้เห็นอีกต่อไป
3.ร้านเกมส์

เด็กๆในยุคเก่าต้องเคยโดดเรียนไปนั่งเล่นเกมที่มีเปิดเยอะมาก ยุคทองของร้านเกมคือปี 2533 – 2543 โดยเฉพาะในห้างอย่างพันธุ์ทิพย์พลาซ่า ร้านเหล่านี้เคยเป็นแหล่งรวมตัวของเกมเมอร์ไทย สาเหตุที่ทำให้ร้านเกมส์หายไปคือการมาของเกมมือถือและแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Steam และ Roblox ซึ่งเข้าถึงง่ายผ่านสมาร์ทโฟน ปัจจุบันในปี 2568 เราไม่จำเป็นต้องเข้าร้านเกมส์อีกต่อไปแค่มีสมาร์ทโฟนเครื่องเดียวก็โหลดเกมส์ต่างๆ ได้จำนวนมาก จึงทำให้ธุรกิจนี้สาบสูญไปอย่างสิ้นเชิง
4.ร้านขายแผ่น CD/DVD

เป็นกรณีที่คล้ายกับร้านเทปคาสเซ็ท เฟื่องฟูในปี 2543 แต่หายไปจากการเข้ามาของเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยยอดขายแผ่นเพลง/หนังในไทยลดลงกว่า 80% ตั้งแต่ปี 2553 เนื่องจาก Spotify และ Netflix จำนวนร้านลดจากพันแห่งเหลือไม่ถึง 200 ในปี 2568 แม้ในตอนนี้อาจจะยังพอเห็นร้านขายแผ่น CD/DVD อยู่บ้างตามตลาดคลองถม หรือตามร้านของเก่าต่างๆ แต่ก็มีจำนวนที่น้อยและรอวันที่จะสูญหายไปในอนาคต
5.ร้านถ่ายรูปฟิล์มและล้างรูป

ยุคทองของธุรกิจนี้ประมาณปี 2523 – 2543 ร้านเหล่านี้ไม่เพียงรับล้างฟิล์มและพิมพ์ภาพ แต่ยังให้บริการถ่ายภาพ เช่น ภาพรับปริญญา ภาพแต่งงาน มักมีสตูดิโอขนาดเล็กที่มีฉากหลังผ้าและแสงไฟครบครัน นอกจากนี้ ยังขายฟิล์มกล้อง เช่น Kodak, Fuji, และ Agfa รวมถึงอุปกรณ์เสริม เช่น กรอบรูปและอัลบั้ม เป็นธุรกิจที่เติบโตกระจายไปทั่วประเทศ แต่หลังปี 2543 เป็นต้นมา ยอดขายฟิล์มถ่ายภาพในไทยลดลงกว่า 90% และร้านล้างฟิล์มในกรุงเทพฯ ลดจาก 1,500 เหลือไม่ถึง 500 แห่งในปี 2553 สาเหตุก็เช่นเดียวกับกรณีอื่นๆ คือเป็นผลมาจากการเติบโตของสมาร์ทโฟนที่มีฟังก์ชั่นถ่ายภาพในตัว และการมาขอแพลตฟอร์มโซเชี่ยลที่สามารถเก็บรวบรวมภาพ แต่งภาพ และแชร์ให้เพื่อนได้ซึ่งสะดวกและใช้งานง่ายกว่า
6.ร้านขายหนังสือ / สื่อสิ่งพิมพ์

ยุคทองของสื่อสิ่งพิมพ์ / หนังสือคือระหว่าง 2523 – 2543 มีร้านขนาดใหญ่และขนาดเล็กให้บริการจำนวนมาก แม้ในปัจจุบันร้านหนังสือจะยังมีให้เห็นบ้างแต่ก็น้อยมากตัวเลขโดยประมาณคาดว่าจะมีร้านหนังสือในปี 2568 อยู่ประมาณ 800 แห่งหดตัวลงกว่า 68% จากจุดสูงสุด ในด้านหนังสือพิมพ์ก็ยิ่งชัดเจนจากยอดขายกว่า 63 ล้านฉบับในปี 2533 ลดลงเหลือแค่ 20 ล้านฉบับในปี 2563 และคาดว่าจะลดลงอีกเรื่อยๆ สอดคล้องกับรายได้หนังสือพิมพ์ที่ลดลงต่อเนื่องจาก 15,400 ล้านในปี 2549 หรือ 8,890 ล้านบาทในปี 2566
7.เซลล์แมน

ยุคเฟื่องฟูของอาชีพนี้คือ 2503- 2533 เซลล์แมนเป็นสัญลักษณ์ของการค้าปลีกแบบบ้าน ๆ ขายสินค้าหลากหลาย เช่น ยาสีฟัน Colgate, สบู่ Lux, ครีมกันแดด Avon, หนังสือพิมพ์และนิตยสาร, หรือแม้กระทั่งเครื่องครัวและเสื้อผ้า คาดว่าในปี 2523 มีอาชีพเซลล์แมนอยู่ประมาณ 50,000-100,000 คนทั่วประเทศสร้างรายได้รวมให้ภาคค้าปลีกแบบนี้ราว 5-10% ของ GDP การค้าปลีกทั้งหมด แต่หลังจากปี 2543 มาถึงปัจจุบันเซลล์แมนแทบจะสูญหายหรือลดลงไปกว่า 90% อันเป็นผลมาจากการเติบโตของอีคอมเมิร์ซอย่าง Shopee, Lazada ซึ่งสะดวก รวดเร็ว และราคาถูกกว่า
และไม่ใช่แค่อาชีพหรือธุรกิจที่ยกตัวอย่างมาให้เห็นเท่านี้ อันที่จริงมีอีกหลายอาชีพที่จำนวนเริ่มลดลงและเสี่ยงต่อการสาบสูญในอนาคต เช่น เกษตกรที่แม้จะเป็นอาชีพหลักของคนไทยแต่ทุกวันนี้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาท การทำเกษตรแบบดั้งเดิมเริ่มหายไปสอดคล้องกับแรงงานในภาคการเกษตรลดลงเหลือเพียง 30.11% ในปี 2566 หรืออาชีพพนักงานแคชเชียร์ / พนักงานธนาคารที่เคยได้รับความนิยมมาก แต่การพัฒนาของเทคโนโลยีที่นำเครื่องชำระเงินอัตโนมัติ และโมบาย แบงกิ้งมาใช้ ธุรกิจค้าปลีกและธนาคารหลายแห่งก็มีนโยบายในการลดจำนวนพนักงาน โดยอาชีพแคชเชียร์มีความเสี่ยงถูกแทนที่ 81% และพนักงานธนาคารลดลง 20% ตั้งแต่ปี 2563
หรือแม้แต่ร้านโชห่วยเอง ที่กำลังถูกบุกหนักจากร้านสะดวกซื้อและไฮเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ ทำให้ส่วนแบ่งตลาดของร้านโชห่วยลดจาก 44.1% ในปี 2562 เหลือ 32.4% รวมถึงการเติบโตของ e-commerce ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ร้านโชห่วยจะสูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาดได้มากขึ้น แม้ปัจจุบันจะยังไม่ถูกจัดในกลุ่มอาชีพที่สาบสูญแต่หากไม่มีการพัฒนาให้สู้กับคู่แข่งได้ในอนาคตข้างหน้าก็อาจจะเหลือเพียงแค่ความทรงจำได้เช่นกัน
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
- อยากสร้างแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Ive14C
- อยากทำเป็นแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3IrrH0k
- รู้เรื่องกฎหมาย สัญญาแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Iu5WNu
- รวมความรู้แฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Pe0m5s
อ้างอิงจาก คลิกที่นี่
สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น
ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี
ลักษณะงาน
- เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
- ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
- มอบหมายงานและติดตามงาน
- อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ
1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้
- ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
- ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
- การปฏิบัติงาน
- เป้าหมายในอนาคต
2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ
- การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
- การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
- การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
- การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)
3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)
- การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
- กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม
4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์
5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
- ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
- ปรับปรุงแก้ไข
- พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง
การปฎิบัติงาน
- สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
- ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา
เงื่อนไขอื่นๆ
- การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์
อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้
สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)