มาตรฐาน มอก คืออะไร? ทำไมต้องรู้ก่อนเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า
การเลือกซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้าในปัจจุบันมีมากมายหลายแบบในท้องตลาด แต่จะมีสักกี่คนที่ใส่ใจเรื่องความปลอดภัยจากการใช้งานบ้าง เนื่องจากอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐานอาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงได้ ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้าลัดวงจร ไฟไหม้ซึ่งอาจนำสู่ความสูญเสียได้ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมมาตรฐาน มอก. จึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณต้องรู้ก่อนตัดสินใจเลือกซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดนั่นเอง ดังนั้น ในบทความนี้ เราจะพาคุณได้ทำความรู้จักกันว่า มาตรฐาน มอก คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไรบ้าง
ทำความรู้จัก มอก. คืออะไร
มอก. ย่อมาจาก มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เป็นเครื่องหมายที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม กำหนดขึ้นเพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่าสินค้าหรือผลิตภัณฑ์นั้น ๆ มีคุณภาพตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ มีความปลอดภัยในการใช้งานและมีประสิทธิภาพเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการผลิตไปจนถึงตัวผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปนั่นเอง
มาตรฐาน มอก. สำคัญต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างไร
สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าแล้ว มอก. มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการคุ้มครองผู้บริโภค เพราะอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มี มอก. จะผ่านการทดสอบและตรวจสอบคุณภาพอย่างละเอียด ทำให้มั่นใจได้ว่าตัวนำไฟฟ้า ฉนวนหุ้มหรือส่วนประกอบอื่น ๆ มีคุณสมบัติเหมาะสม ทนทานต่อการใช้งานและที่สำคัญ คือลดความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายจากไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็น ท่อเดินสายไฟ รางเดินสายไฟ สายไฟ ปลั๊กพ่วงหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ล้วนจำเป็นต้องได้รับมาตรฐาน มอก. เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้ใช้งาน
วิธีตรวจสอบว่าอุปกรณ์ไฟฟ้ามี มอก. หรือไม่
- สังเกตเครื่องหมาย มอก. บนผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับ มอก. จะมีเครื่องหมายปรากฏอยู่บนฉลาก บรรจุภัณฑ์ หรือตัวผลิตภัณฑ์ โดยมีทั้งแบบที่ระบุมาตรฐานบังคับและมาตรฐานทั่วไป
- ตรวจสอบเลขที่ มอก. เครื่องหมาย มอก. จะมีเลขที่ มอก. ระบุไว้ เช่น มอก. 11-2553 ซึ่งสามารถนำเลขที่นี้ไปตรวจสอบกับเว็บไซต์ของ สมอ. ได้ เพื่อยืนยันความถูกต้อง
- สอบถามจากผู้ขาย หากไม่แน่ใจ ควรสอบถามข้อมูลจากผู้ขายหรือพนักงานโดยตรง เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าได้รับมาตรฐานจริง
สินค้าไฟฟ้าประเภทไหนต้องมี มอก. ตามกฎหมาย
สินค้าไฟฟ้าบางประเภทถูกจัดอยู่ในกลุ่มมาตรฐานบังคับ ซึ่งหมายความว่าผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าจำเป็นต้องผลิตหรือนำเข้าสินค้าให้เป็นไปตามมาตรฐาน มอก. เท่านั้น มิฉะนั้นจะไม่ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายในท้องตลาดตัวอย่างเช่น
- สายไฟฟ้าและสายเคเบิล
- ปลั๊กและเต้ารับ
- สวิตช์ไฟฟ้า
- หลอดไฟบางชนิด
- เครื่องใช้ไฟฟ้าบางประเภท เช่น พัดลม หม้อหุงข้าว เตารีด เป็นต้น
ขั้นตอนเลือกซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้ามาตรฐาน มอก. ให้คุ้มค่าและปลอดภัย
- เลือกซื้อจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือ ควรเลือกซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้าจากร้านค้าที่มีชื่อเสียง ตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งหรือร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและบริการหลังการขาย
- ตรวจสอบเครื่องหมาย มอก. ทุกครั้ง ก่อนตัดสินใจซื้อ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ไฟฟ้านั้นมีเครื่องหมาย มอก. และเลขที่ มอก. ชัดเจน ไม่ใช่แค่การมีฉลากแปะไว้เท่านั้นซึ่งสามารถตรวจสอบข้อมูลผู้ผลิตที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน มอก. ได้ที่ https://appdb.tisi.go.th/tis_dev/bu
- ศึกษาข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ อ่านข้อมูลบนฉลากผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด เช่น แรงดันไฟฟ้า กำลังไฟฟ้า และคำแนะนำการใช้งาน เพื่อให้เลือกใช้ได้ตรงกับความต้องการและปลอดภัย
- พิจารณารับประกันสินค้า สินค้าที่มีการรับประกันจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้งาน และสามารถเคลมได้หากเกิดปัญหาจากการผลิต
สรุปบทความ
การเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีมาตรฐาน มอก. ไม่ใช่แค่เรื่องของคุณภาพ แต่เป็นเรื่องของความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินอย่างแท้จริง เพราะอุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐานอาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรง เช่น ไฟฟ้าลัดวงจรหรือไฟไหม้ได้ การตรวจสอบว่าอุปกรณ์นั้นมีเครื่องหมาย มอก. หรือไม่จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะสินค้าไฟฟ้าหลายประเภทที่กฎหมายกำหนดให้ต้องมี มอก. บังคับ การเลือกซื้อจากร้านค้าที่เชื่อถือได้ ตรวจสอบฉลากและเลขที่ มอก. รวมถึงศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนใช้งาน ล้วนเป็นขั้นตอนง่าย ๆ ที่ช่วยให้คุณใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัยและคุ้มค่าในระยะยาวอย่างแน่นอน
